“ปาณี!”
นภดลพุ่งเข้าไปอย่างกับคนบ้าคลั่ง
เธอเป็นชีวิตใหม่ของเขา เธอเป็นคนให้เรี่ยวแรงที่จะมีชีวิตต่อไปกับเขา
พอนึกถึงท่าทางที่ปาณีไม่คิดชีวิตเพื่อเขา แล้วนึกถึงความกลัวที่เลือดอุ่นร้อนนั่นไหลออกมาจากตัวปาณี นภดลก็รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว
เขาไม่สามารถหยุดยั้งการตายของฉัตรยาได้ หนำซ้ำแม้แต่โอกาสบอกเลิกก็ยังไม่มี เขาไม่อยากจะให้ทางด้านปาณีก็ต้องมาเสียใจแบบนี้ด้วยเหมือนกัน
เขากลัวว่าจะไม่มีเวลาได้บอกคำว่าชอบกับปาณี
ตอนที่นภดลวิ่งไปถึงหน้าประตูห้องไอซียูนั้น หมอก็ได้มาถึงแล้ว
ปาณีสีหน้าขาวซีด หายใจเข้าออกอย่างรวดเร็ว แล้วก็โดนส่งตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว
นภดลอยากจะฝ่าเข้าไปอย่างกับคนบ้า แต่กลับโดนหมอและพยาบาลขวางไว้ด้านนอก พอมองเห็นท่าทางที่ไม่สนใจอะไรแล้วในวินาทีนี้ของนภดล ก็ทำให้ดวงตาของนรมนรู้สึกเจ็บแสบขึ้นมาทันที
เธอกุมมือของบุริศร์ไว้แน่น และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเทาว่า “ถ้าหากปาณีเป็นอะไรไป ครั้งนี้นภดลอาจจะผ่านมันไปไม่ได้แล้ว”
“ปาณีไม่เป็นอะไรหรอก อย่างกังวลไปเลย”
บุริศร์กุมมือของนรมนเอาไว้อย่างแน่น
มือของเธอเย็นมา และหนาวมาก แล้วก็แฝงไว้ด้วยความเปียกชื้นเพราะว่าตื่นเต้น
นรมนกลับไม่ได้ฟังเข้าไปเลย
“ไหนบอกว่าไม่เป็นอะไรแล้วไง? ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้หายใจไม่สะดวกล่ะ?”
บุริศร์เห็นภรรยาเป็นกังวลแบบนี้ ก็เลยก้มลงพูดกระซิบที่หูเธอเบา ๆ ประโยคหนึ่ง
สีหน้าของนรมนเปลี่ยนจากเป็นกังวลไปเป็นตกใจ จากนั้นก็เป็นโกรธเคือง จนสุดท้ายก็ต่อยบุริศร์ไปแรง ๆ หมุดหนึ่ง แล้วก็พูดเสียงเบาขึ้นอย่างพยายามสะกดกลั้นความโกรธเอาไว้ว่า “บุริศร์ คุณทำเกินไปแล้วนะ! นี่คุณกล้าสร้างเรื่องขึ้นมาเลยเหรอ! คุณดูซิทำให้นภดลตกใจขนาดไหนแล้ว”
“คนอย่างเขาก็ควรจะทำให้ตกใจบ้าง ถ้าไม่ทำให้เขามีภาพฝังใจสักหน่อย จะมามองเห็นความรู้สึกของตัวเองได้ยังไง? แล้วถึงแม้ว่าจะมองเห็นแล้ว คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็ยังเป็นอันตรายที่ซ่อนอยู่อันหนึ่ง หรือว่าคุณหวังว่าถ้าปาณีหายแล้วต้องตามนภดลไปดูแลรับใช้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์เหรอ? คุณคิดว่าคุณนายตระกูลจันทรวงศ์จะอนุญาตให้นภดลอยู่กับปาณีเหรอ?”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนอึ้งไปเล็กน้อย
คำตอบก็คือไม่มีทางแน่นอน!
ที่คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ปฏิบัติกับนภดลนั้นถึงขั้นโรคจิตแล้ว และแทบอยากจะให้นภดลมีชีวิตอยู่ในความเจ็บปวดตลอดชีวิตเพื่อระลึกถึงลูกสาวของเธอ แล้วจะมายอมให้นภดลมีความสุขได้ยังไง?
อยู่ ๆ นรมนก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าตอนนี้นภดลและปาณีจะมีความรู้สึกที่ดีต่อกันแล้ว แต่คาดว่าก็คงน่าจะแยกทางกันไปภายใต้การทำลายของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ละมั้ง?
นรมนจ้องมองบุริศร์ นี่ผู้ชายคนนี้บอกกับเธอว่าเขาให้คนตั้งใจปรับเครื่องช่วยหายใจของปาณี เพื่อสร้างสถานการณ์ปลอมที่น่าตื่นเต้นแบบนี้ออกมาหลอกให้นภดลตกใจกลัวเหรอ
เรื่องแบบนี้เอามาหลอกกันได้ด้วยเหรอ?
จะทำให้ตกใจจนเป็นโรคหัวใจได้นะ?
และอีกอย่างเมื่อกี้เขาก็อยู่กับตัวเองชัด ๆ แล้วไปติดต่อกับพยาบาลที่อยู่ข้างในได้ยังไงล่ะ?
เหมือนกับว่าจะรู้ว่านรมนคิดอะไรอยู่ แล้วบุริศร์ก็เอาโทรศัพท์ออกมาแล้วยื่นไปให้ดู
บนโทรศัพท์ของเขายังเปิดหน้าWeChatอยู่ บนหน้าแชทของผู้ติดต่อคนล่าสุด เห็นได้ชัดว่าเป็นWeChatของพยาบาลพิเศษคนหนึ่ง
นรมนรู้ว่าตั้งแต่ที่ปาณีเข้าโรงพยาบาล บุริศร์ก็จัดการทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว พยาบาลพิเศษก็น่าจะเป็นคนที่บุริศร์หามา จึงอดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่เขาทีหนึ่ง
ผู้ชายคนนี้ชั่วร้ายเกินไปแล้ว!
แต่ยังดีที่ความร้ายกาจของเขาล้วนใช้อยู่บนตัวคนอื่น ถ้าหากมาใช้อยู่บนตัวเธอ นรมนคิดว่าจะต้องโมโหจนตายแน่
ระดับของตัวเองไม่มีทางเทียบกับเจ้าปีศาจพันปีคนนี้ได้แน่นอน
พอรู้ว่าปาณีไม่เป็นไรแล้ว นรมนก็รู้สึกสงสารนภดลขึ้นมาบ้าง
จ้องมองดูนภดลที่โดนพยาบาลขัดขวางอยู่แต่ก็ยังพยายามจะเข้าไปให้ได้ นรมนก็ถอนหายใจทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ทั้ง ๆ ที่ต่างก็มีความรู้สึกต่อกันแต่กลับต้องมีชะตาพลิกผันไปต่าง ๆ นานา คนที่มีความรักจะอยู่ด้วยกันทำไมมันยากขนาดนี้นะ?”
“เรื่องบางอย่างนภดลจำเป็นจะต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ในจุดนี้ใครก็ช่วยเขาไม่ได้”
น้ำเสียงของบุริศร์เย็นมาก แต่นรมนก็รู้ว่าที่เขาพูดมานั้นเป็นความจริง
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์นั้นเป็นคนที่ฉัตรยาฝากฝังไว้ก่อนตาย นภดลไม่อยากจะทำผิดต่อฉัตรยา ก็เลยจำเป็นจะต้องทำให้ปาณีลำบากใจ
แต่ว่าเพื่อนภดลแล้วปาณีไม่คิดชีวิตเลย ถ้าต้องมาทนโดนคุณนายตระกูลจันทรวงศ์รังแกไปพร้อมกับนภดลด้วย นี่มันก็ช่างไม่ยุติธรรมต่อปาณีเลย
ในเมื่อคนที่เธอรักคือนภดล สามารถช่วยเลี้ยงดูพ่อแม่ตระกูลจันทรวงศ์กับนภดลด้วย ก็ถือว่าเป็นความใจดีที่สุดของปาณีแล้ว ถ้ายังจะต้องให้ปาณีมาโดนคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ดุด่ารังแกอีก นี่มันไม่มีทางเป็นไปได้แน่
เพราะฉะนั้นนภดลจำเป็นจะต้องให้คำตอบหนึ่งกับปาณี ถ้าจะอยู่กับปาณี ก็จะต้องให้สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยและผ่อนคลายอันหนึ่งกับปาณี ในเมื่อปาณีไม่ได้ติดค้างอะไรต่อตระกูลจันทรวงศ์
นรมนในฐานะที่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ก็ยังรู้สึกว่าปัญหานี้มันอีนุงตุงนังมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวนภดลเอง
เธอถอนหายใจหนึ่งที แล้วพูดกับบุริศร์ว่า “เลิกทรมานเขาเถอะ นภดลเองก็ไม่ใช่ง่าย ๆ เลย ให้จิตใจของเขาได้สงบลงสักครู่หนึ่งเถอะ ทรมานปาณีแบบนี้ ตัวปาณีเองก็รับไม่ไหวไม่ใช่เหรอ?”
“นี่เป็นเจตนาของปาณีเอง”
บุริศร์พูดขึ้นเรียบ ๆ แต่กลับทำให้นรมนอึ้งไปทันทีเลย
“เจตนาของใครนะ?”
บุริศร์เห็นภรรยารู้สึกสงสัยเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปแตะจมูกของเธอเล็กน้อยและพูดขึ้นว่า “ปาณีไม่ได้อ่อนแออย่างที่คุณคิด เธอชอบนภดล แน่นอนว่าจะต้องอยากอยู่กับนภดลด้วยตลอดทั้งชีวิต แต่ว่าคุณนายตระกูลจันทรวงศ์นั้นทำเกินไปแล้วจริง ๆ หลังจากที่ปาณีรู้ว่าคุณนายตระกูลจันทรวงศ์มีท่าทียังไงกับนภดล ก็ตัดสินใจว่าไม่ว่ายังไงก็จะต้องทำให้นภดลหลุดพ้นจากการควบคุมของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ให้ได้ เพียงแต่ว่าเธอยังคิดวิธีไม่ได้เท่านั้น ก็เกิดเรื่องโดนจู่โจมขึ้นซะก่อน ตอนที่ปาณีเข้าโรงพยาบาลนั้นผมเป็นคนทำเรื่องให้ ต่อมาป้องก็มาตรวจเช็กร่างกายให้ ตอนนั้นปาณียังรู้สึกอยู่ เธอบอกว่าจะบีบคั้นนภดลสักหน่อย ถ้าหากว่านภดลยังคงไม่มีทางปล่อยวางพ่อแม่ตระกูลจันทรวงศ์ลงได้ละก็ เธอก็จะเลือกปล่อยนภดลไปเอง ในเมื่อเส้นทางชีวิตของคนเรานั้นยังยาวไกล เธอไม่มีทางที่จะเอาชีวิตทั้งชีวิตของตัวเองไปจมอยู่ในมือคนอย่างคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ได้หรอก แต่ว่าถ้านภดลเลือกเธอ ปาณีก็บอกว่าถึงแม้ชีวิตนี้จะต้องไปลงนรก เธอก็จะฝ่าฟันไปพร้อมกับนภดล สิ่งที่เธอต้องการก็แค่การท่าทีอย่างหนึ่งของนภดลเท่านั้น ท่าทีที่ได้เอาเธอไปเก็บไว้ในหัวใจจริงหรือเปล่า”
ตัวนรมนทั้งตัวอึ้งไปเลย
ในหัวสมองเธอปรากฏภาพปาณีที่มีท่าทางอ่อนโยนออกมา รอยยิ้มของเธอแรงผลักดันมาก และอีกอย่างเธอก็ปฏิบัติตามคำสั่งของเธอได้เรียบร้อยมาตลอด สำหรับทางด้านชื่นชอบนภดลนั้น ก็เหมือนกับว่าจะเป็นฝ่ายที่อ่อนไหวมาตลอด จึงทำให้นรมนรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่ง
เป็นผู้หญิงที่ต้องการการปกป้อง ต้องการคนดูแลมาตลอด เป็นผู้หญิงที่ถ้าหากว่าโดนคนทอดทิ้งแล้วก็คงจะร้องไห้เป็นอย่างเดียว
แต่ว่าวินาทีนี้ นรมนถึงพบว่าตัวเองดูผิดพลาดไปมากขนาดไหน
ปาณีมีความคิดเป็นของตัวเอง และมีขีดจำกัดและการยึดถือของตัวเอง
เธอสามารถที่จะรักคนคนหนึ่งได้โดยไม่สนใจอะไรเลย แต่ว่าตอนที่เธอรู้ว่าคนคนนี้ไม่คู่ควรให้เธอต้องเสียสละแล้ว ถึงแม้ว่าจะรักมากแค่ไหน ถึงแม้ว่าจะต้องเจ็บจนสุดหัวใจ เธอก็ยังคงจะหันหลังให้อย่างเด็ดเดี่ยว
วินาทีนี้นรมนเหมือนกับว่าถึงเพิ่งจะรู้จักปาณีอย่างแท้จริง
นภดลสามารถพบเจอกับปาณีได้ ก็เป็นความโชคดีของเขา
บุริศร์เห็นนรมนค่อย ๆ คิดวิเคราะห์ข้อมูลอยู่ จึงไม่ได้เร่งอะไรเธอ
จนถึงตอนที่เห็นแววตกใจในดวงตานรมนหายไป และสีหน้าสงบนิ่งลงมา นภดลเองก็เป็นลมไปแล้วเพราะว่าเป็นห่วงมากเกินไป
บุริศร์ให้คนมายกตัวนภดลไปพักผ่อนที่ห้องข้าง ๆ
ทางด้านปาณีก็ถูกส่งตัวจากห้องฉุกเฉินไปห้องผู้ป่วยVIP
ถึงแม้ว่าปาณีจะหมดสติอยู่ แต่ว่าสำหรับเรื่องทุกอย่างนี้ ที่จริงแล้วเธอเองรู้เรื่องดีอยู่
บุริศร์เห็นนรมนยังคงเหม่อลอยอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นอย่างเป็นห่วงว่า “คุณเป็นอะไรไป? รู้สึกว่าปาณีเจ้าเล่ห์ ก็เลยทุกข์ใจเหรอ?”
“ไม่ใช่ค่ะ”
นรมนส่ายหัวเล็กน้อย
เธอจ้องมองบุริศร์ แล้วอยู่ ๆ ก็พูดขึ้นว่า “บุริศร์ คุณว่าตอนนั้นทำไมฉันถึงได้โง่ขนาดนั้น? ตกหลงรักคุณแล้วก็เหมือนกับโดนของ จะต้องแต่งงานกับคุณให้ได้ ถึงแม่จะไม่มีใครอวยพรก็ตาม ถึงแม้จะต้องทำให้ตัวเองลำบากใจ ฉันก็เหมือนกับแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟอย่างไม่กังวลอะไรเลย ถ้าหากว่าตอนนั้นฉันสามารถมีความกล้าหาญอย่างปาณีได้ ในตอนที่คุณไม่ชอบฉัน ในตอนที่แต่งงานกันตอนสามปีแรก ถ้าฉันเองก็สามารถหันหลังไปอย่างเด็ดเดี่ยวได้ มันก็จะเป็นจุดจบอย่างอื่นไหมแล้วใช่ไหม?”
“พูดจาอะไรไปเรื่อย?”
ใจของบุริศร์กระตุกขึ้นอย่างแรงทีหนึ่ง แล้วก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที
“ผมไม่ชอบคุณตอนไหน? ถ้าผมไม่ชอบคุณจะแต่งงานกับคุณเหรอ? ถ้าผมไม่ชอบคุณ หลังแต่งงานผมจะเอาคุณตั้งสามปีเหรอ? คิดอะไรเต็มสมองไปหมดเนี่ย?”
บุริศร์รวบตัวนรมนเข้ามาไว้ในอกอย่างรวดเร็ว หัวใจดวงเล็ก ๆ เต้นตุ๊บ ๆ ยุ่งเหยิงไปหมด
ปาณีคนนี้นี่ไม่ดีเลย
ทำไมถึงได้นำพานรมนเข้าไปสู่ความคิดแบบนี้ได้นะ?
แค่คิดว่าถ้านรมนเป็นอย่างปาณีที่ยอมละทิ้งตัวเองไปตั้งแต่แรก หัวใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะเจ็บจี๊ดขึ้นมา
แต่นรมนกลับพูดอย่างน้อยใจเล็กน้อยขึ้นว่า “ตอนนั้นคุณชอบฉันยังไงกัน? ทำไมฉันไม่เห็นรู้สึกสักนิดเลย? และอีกอย่างหลังแต่งงานกันสามปี คุณก็แค่เอาฉันตอนกลางคืน นอกจากนั้นแล้วคุณดีกับฉันเมื่อไหร่กัน? เอาฉันไปเก็บไว้ในใจตอนไหน? ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าไฟไหม้ใหญ่เมื่อห้าปีก่อนครั้งนั้น ไม่แน่คุณอาจจะเฉยเมยกับฉันทั้งชีวิตเลยก็ได้? อยู่ ๆ ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบมากเกินไปแล้ว บุริศร์ ความรักในครั้งนี้ฉันทุ่ทเทไปทั้งหมด ฉันไม่เหลือทางรอดไว้ให้กับตัวเองเลย ทำไมฉันถึงไม่คิดถึงการปล่อยมือแบบปาณีบ้างเลยนะ? ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ฉันนี่มันโง่มากจริง ๆ เลย อู้ว์……”
คำพูดของเธอยังพูดไม่หมด ก็โดนบุริศร์ใช้ริมฝีปากอุดปากไว้แล้ว
ล้อเล่นซิ!
ถ้าให้นรมนพูดต่อไป บุริศร์รู้สึกว่าตัวเองจะต้องโดนเธอว่าจนกลายเป็นคนชั่วช้าที่สุดแน่
พอถึงตอนนั้นถ้าผู้หญิงคนนี้เลียนแบบปาณีพูดคำพูดว่าจะปล่อยมืออะไรอีก เขาจะร้องไห้ก็ยังไม่มีที่ให้ร้องเลย
อยู่ ๆ บุริศร์ก็รู้สึกเสียใจที่พานรมนมาเยี่ยมปาณี ยิ่งเสียใจที่ตัวเองบอกกับนรมนไปมากขนาดนี้
ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้น้อยใจขึ้นมาแล้ว
จะให้เธอน้อยใจต่อไปอีกไม่ได้แล้ว
ไม่งั้นละก็……
บุริศร์ตัวสั่นทีหนึ่งขึ้นมาทันที
เขาไม่อยากจะใช้ชีวิตอย่างกับเป็นซากศพเดินได้อีกห้าปีหรอกนะ
มีภรรยาคอยอุ่นเตียงให้ทุกวันไม่หอมหวานเหรอ?
มีความรักให้ชุ่มฉ่ำทุกวันไม่หอมหวานเหรอ?
พอบุริศร์คิดมาถึงตรงนี้ ก็ช้อนตัวนรมนอุ้มขึ้นมาทันที แล้วเดินไปที่ห้องพักผู้ป่วยVIPห้องหนึ่ง แล้วใช้เท้าเตะประตูปิดลง แถมยังล็อกประตูห้องด้วย จากนั้นก็โยนตัวนรมนลงบนเตียง
นรมนโดนจูบจนมึน ๆ งง ๆ ยังไม่ทันได้ตั้งสติกลับมา บุริศร์ก็ข่มเหงรังแกเข้ามาแล้ว จูบที่อ่อนโยนและไม่ทิ้งความบ้าอำนาจนั่นได้ดึงความรู้สึกในโสตประสาททุกอย่างของเธอไป
แล้วเธอก็โดนบุริศร์กินไปอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากที่เสร็จเรื่องแล้ว นรมนก็เหนื่อยจนปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว
คืนหนึ่งสองครั้ง เขานึกว่าร่างกายของตัวเองยังเป็นเหมือนเมื่อก่อนจริง ๆ เหรอ?
ความเหนื่อยล้าทำให้นรมนไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะตำหนิบุริศร์เลย
เธอพิงอยู่ในแผงอกของบุริศร์ และฟังเสียงจังหวะหัวใจเต้นราวกับกลองรบของเขา แล้วก็อดไม่ได้ที่จะก่นด่าอยู่ในใจ
ผู้ชายที่น่ารังเกียจคนนี้ มาใช้วิธีนี้หันเหความคิดวิเคราะห์ของเธออีกแล้ว นี่มันน่ารังเกียจมากจริง ๆ!
คิดไป คิดไป นรมนก็เหนื่อยจนนอนหลับไป
บุริศร์จ้องมองใบหน้าที่งดงามของภรรยา ทั้งตัวแผ่ซ่านไปด้วยความอิ่มเอม
จากไปเหรอ?
จะเป็นไปได้ยังไง?
ชาตินี้เขาจะไม่มีทางปล่อยมือแน่
ไม่ว่าเมื่อก่อนใครจะทำผิดต่อใครไว้ แต่ต่อไปชีวิตของเขาจำเป็นจะต้องมีนรมนเดินเคียงข้างไปเท่านั้น
นภดลสามารถโดนปาณีบีบคั้นได้ นั่นเป็นเรื่องของนภดล แต่เขาบุริศร์ไม่อยากติดร่างแหไปด้วยหรอกนะ แต่ว่าพอนึกถึงคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ สีหน้าของบุริศร์ก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้ว
ในเวลาแบบนี้ คุณนายตระกูลจันทรวงศ์คงจะรู้เรื่องที่ปาณีช่วยบังกระสุนแทนนภดลแล้ว คาดว่าเธอคงจะเริ่มแผลงฤทธิ์ขึ้นมาอีกแล้วแน่ ๆ