แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 1188

ตอนที่ 1188

นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ดูหน้าจอโทรศัพท์ที่แสดงชื่อสายเรียกเข้า แต่กลับเป็นนงลักษณ์โทรเข้ามา

เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะให้อารมณ์แบบไหนไปรับโทรศัพท์สายนี้

เมื่อก่อนหน้านี้ เธอเคยระแวงนงลักษณ์มาก่อน แต่ว่าการช่วยเหลือสองครั้งติด ๆ ของนงลักษณ์ก็ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นคนชั่วร้าย

เพื่อคุณท่านตนุวร และเพื่อแม่ นรมนอยากจะยอมรับเธอ แต่ว่าการไปบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาในครั้งนี้ ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีต่อนงลักษณ์จนถึงขีดสุดแล้ว

ไม่ว่านงลักษณ์จะมีเจตนายังไง แต่ว่าเรื่องที่เธอเคยหลอกใช้ให้อารองมากระทำต่อพ่อและแม่นั้น ไม่ว่ายังไงในใจของนรมนก็ผ่านมันไปไม่ได้

เธอกดวางสายโทรศัพท์ไปโดนตรง และก็ไม่สนใจว่าในใจของนงลักษณ์จะคิดยังไง แล้วก็เดินไปหาบุริศร์เลย

“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

บุริศร์จ้องมองดูรอบข้าง แล้วเห็นคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ที่ยังคงแสร้งทำเป็นน่าเวทนาอยู่บนพื้น แล้วมองนรมนอย่างเป็นห่วงขึ้นมาทีหนึ่ง

ในมือของเขาถือน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋อยู่ ดูท่าคงจะไปซื้ออาหารเช้ามา

นรมนรับอาหารเช้าที่อยู่ในมือเขามา และยิ้มแล้วก็พูดว่า “ไม่มีอะไรแล้ว จัดการหมดแล้วค่ะ”

“งั้นกลับห้องไปกินอาหารเช้าเถอะ”

บุริศร์ดูยังไม่ดูคุณนายตระกูลจันทรวงศ์สักครั้งเลย

“ได้ค่ะ”

นรมนอารมณ์ดีไม่น้อย แล้วคล้องแขนบุริศร์ไว้แล้วก็กลับห้องพักผู้ป่วยไปเลย

พอคุณนายตระกูลจันทรวงศ์เห็นว่าไม่มีใครสนใจตัวเอง ชั่วขณะหนึ่งก็นิ่งอึ้งไปเลย

ในเวลานี้เธอถึงเพิ่งจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง

ไม่!

เธอไม่อยากติดคุก!

นภดลเองก็ไม่กล้าให้เธอติดคุกหรอก!

แต่ว่าครั้งนี้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์กลับไม่แน่ใจแล้ว

เธอนึกถึงดวงตาที่เย็นเฉียบคู่นั้นของนภดล คิดถึงความเด็ดขาดที่อยู่ในดวงตาของนภดล แล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกกลัวขึ้นมา

คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหาศาสตราจารย์ฐานทัตอย่างรวดเร็ว

“ฐานทัต เจ้าชั่วนภดลนั่นมันกล้าแจ้งตำรวจจับฉัน! ฐานทัต คุณต้องช่วยฉันนะ! คุณต้องช่วยฉันนะ!”

คุณนายตระกูลจันทรวงศ์พูดจบก็ร้องไห้ขึ้นมา ร้องอย่างเสียงโอดครวญ

หัวสมองของศาสตราจารย์ฐานทัตรู้สึกหมุนไม่ทัน

ทำไมนภดลถึงแจ้งตำรวจจับคุณนายตระกูลจันทรวงศ์?

หมายความว่าไง?

เกิดอะไรขึ้น?

เขารู้ว่าอะไรนิดอะไรหน่อยคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็ทุบตีนภดล แต่ว่าเขาพูดไปแล้วคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็ไม่ฟัง แถมยังมักจะทะเลาะกับเขา แล้วยังมาทำการทดลองของเขาพัง ทำให้เขาไม่มีทางที่จะทำการวิจัยต่อได้

เพื่อให้ตัวเองสามารถที่จะทำการวิจัยได้อย่างสบายใจ เขาก็เลยปล่อยให้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ไปรังแกนภดลต่อไป

ในเมื่อเขารู้จักสภาพร่างกายของนภดลดี คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ทุบตีเขาก็ไม่สามารถทำให้ถึงแก่ชีวิตได้

ศาสตราจารย์ฐานทัตคิดไปแบบนี้ แล้วก็ไปทำการทดลองอย่างสบายใจแล้ว บวกกับที่หลายปีมานี้นภดลมักจะอดทนแบกรับไปศาสตราจารย์ฐานทัตก็เลยเคยชินกับวิธีจัดการแบบนี้แล้ว

พอมาวันนี้อยู่ดี ๆ ก็ได้ยินคุณนายตระกูลจันทรวงศ์พูดว่านภดลจะแจ้งตำรวจจับเธอ ศาสตราจารย์ฐานทัตก็เลยคิดไม่ตกเล็กน้อยว่าเพราะอะไร

ทำไมจะต้องแจ้งตำรวจจับคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ด้วย?

ทั้งสองคนนี้เป็นอะไรกันอีกแล้ว?

ศาสตราจารย์ฐานทัตพูดขึ้นอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า “จะดื้อด้านอะไรนักหนา? คุณไม่สามารถมีวันที่สงบสุขให้ผมได้สักวันเลยเหรอ?”

ศาสตราจารย์ฐานทัตพูดจบก็วางวายไปเลย

นภดลจะไปมีความกล้าแจ้งตำรวจจับคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ได้ยังไง?

นี่มันพูดไปเรื่อยชัด ๆ!

ศาสตราจารย์ฐานทัตนึกว่าภรรยาแกล้งสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อที่อยากจะให้ตัวเองไปโกรธเกลียดและต่อกรกับนภดลด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย

และเพื่อไม่ให้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์โทรศัพท์มารบกวนตัวเองอีก เขาจึงปิดเครื่องโทรศัพท์ไปเลย

ไม่ว่ายังไงคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็ไม่กล้าเชื่อว่าตัวเองจะมาถึงขั้นนี้ได้ นี่ศาสตราจารย์ฐานทัตไม่สนใจตัวเองแล้วเหรอ?

เธอโทรหาศาสตราจารย์ฐานทัตอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่ว่าครั้งนี้ในโทรศัพท์กลับมีเสียงอ่อนหวานลอยมา แจ้งเตือนว่าศาสตราจารย์ฐานทัตได้ปิดเครื่องไปแล้ว

คุณนายตระกูลจันทรวงศ์โกรธจนปาโทรศัพท์ทิ้งไปเลย

“เจ้าชั่ว! แม้แต่คุณก็ไม่สนใจฉันแล้วเหรอ?”

แต่ว่ากลับไม่มีคนให้คำตอบกับเธอสักอัน

ตำรวจมาถึงอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เข้าใจสถานการณ์แล้ว นรมนก็เอาคลิปวิดีโอส่งให้กับตำรวจ แล้วคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็โดนพาตัวไป

เธอร้องไห้โวยวาย ล้มลุกคลุกคลาน แต่ว่าอยู่ต่อหน้าตำรวจก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น

นภดลอยู่ในห้องฉุกเฉิน นรมนและบุริศร์กินอาหารเช้าอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วย ไม่มีใครมาสนใจเรื่องของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์เลยสักนิด

หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว นรมนก็จ้องมองบุริศร์แล้วพูดขึ้นว่า “ตอนนี้นภดลเองก็บาดเจ็บอยู่ ปาณีก็ยังไม่หายดี คู่รักชายหญิงที่เผชิญความลำบากมานี้ ย้ายให้พวกเขามาอยู่ห้องเดียวกันไปเลยดีกว่า”

“ได้”

บุริศร์เองก็ไม่ห้ามปราม

เสียงโทรศัพท์ของนรมนดังขึ้นมาอีกครั้ง หัวคิ้วของเธอขมวดกันแน่น

สีหน้าของบุริศร์เองก็ไม่ดีนัก แล้วก็กวาดตาดูหน้าจอโทรศัพท์ทีหนึ่ง ก็เห็นว่าเป็นสายโทรเข้ามาของนงลักษณ์ ก็รู้เลยว่าทำไมนรมนถึงได้ไม่รับสายโทรศัพท์

“ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร มีความคิดและเป้าหมายอะไร ยังไงก็จะต้องเผชิญหน้าอยู่ดี และอีกอย่างทางด้านคุณตานั้นเธอก็ได้ไปสร้างความรู้สึกดีและการมีตัวตนไว้แล้ว ถ้าเราไม่เผชิญหน้า ก็จะต้องเป็นคุณตาที่เผชิญหน้ากับเธอ คุณคิดว่าคุณตาจะไม่เห็นแก่ความรู้สึกเหรอ?”

พอได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ นรมนก็อยากจะสับนงลักษณ์ไปซะเลย

ใช่ซิ เธอยังมีคุณตา

ดูจากระดับความรู้สึกผิดที่คุณท่านตนุวรมีต่อนงลักษณ์ในตอนนี้ ไม่ว่านงลักษณ์จะทำอะไรคุณท่านตนุวร คาดว่าคุณท่านตนุวรก็คงจะไม่โกรธเธอหรอก

พอคิดมาถึงตรงนี้ นรมนก็รู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก

เธอเกลียดความรู้สึกและสถานะแบบนี้ แต่กลับต้องมาเผชิญหน้า

นรมนเอาโทรศัพท์ออกมา แล้วก็รูดหน้าจอรับสายเลย

“มีเรื่องอะไร?”

ทั้งน้ำเสียงและคำพูดของเธอต่างก็ฟังดูห้วนทั้งทั้งนั้น

ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองเป็นแบบนี้ดูไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ แต่เธอก็ควบคุมไว้ไม่อยู่

ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่านงลักษณ์ พ่อแม่ของเธอคงจะไม่ต้องพลัดพรากจากกันทั้งชีวิตหรอก?

แล้วแม่เธอก็คงจะไม่ต้องมาทนทุกข์อยู่ทั้งชีวิตหรอก?

เห็นได้ชัดว่านงลักษณ์ดูจะคิดไม่ถึงว่านรมนจะเสียงห้วนขนาดนี้ จึงอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วก็ถามขึ้นว่า “นรมน เธอเป็นอะไรไป?”

“มีเรื่องอะไรก็ว่ามา ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันก็จะวางแล้วนะ”

ตอนนี้นรมนรู้สึกว่าพอได้ยินเสียงเธอแล้วก็รู้สึกไม่ชอบใจและสะอิดสะเอียน

นงลักษณ์อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ฉันก็แค่อยากถามว่า มีข่าวมิลินบ้างหรือเปล่า?”

นรมนนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “นงลักษณ์ มิลินเป็นคนของคุณ แล้วก็ได้รับบาดเจ็บที่ประเทศF ถึงแม้ว่าคุณจะโดนคนหักหลังไป แต่ว่ากำลังที่ตัวเองสะสมไว้ยังคงมีอยู่มั้ง? ถ้าอยากรู้ว่ามิลินเป็นยังไงบ้าง คุณแค่โทรศัพท์ไปสายเดียวก็พอแล้ว ทำไมจะต้องให้พวกเรายื่นมือเข้าไปแทรกด้วย? แล้วยังใช้มิลินมาเป็นเหยื่อล่อพวกเราไปประเทศF ตกลงคุณมีเป้าหมายอะไรกันแน่? จะให้พวกเราช่วยราเชนแย่งอำนาจเหรอ? หรือว่ามีเป้าหมายอย่างอื่นอีก? คุณพูดมาตรง ๆ ได้เลย มัวแต่แอบซ่อนมีเล่ห์เหลี่ยมอยู่อย่างนี้ คุณไม่รู้สึกเหนื่อยเหรอ?”

นงลักษณ์คิดไม่ถึงว่านรมนจะพูดตรงขนาดนี้ หนำซ้ำแม้แต่ป้าใหญ่สักคำก็ยังไม่เรียกเลย

นี่คือเธอจะเตะตัวเองออกไปจากขอบข่ายของเครือญาติแล้วเหรอ

นงลักษณ์อดไม่ได้ที่จะยิ้มขมขื่นขึ้นมา

“นรมน ฉันรู้ว่าเธออาจจะไม่เชื่อฉัน แต่ว่าฉันไม่ทางอื่นแล้วจริง ๆ กำลังของฉันโดนคนอื่นเก็บไปหมดแล้ว ตอนนี้ฉันไม่มีคนให้ใช้แล้วจริง ๆ”

“งั้นก็อยู่ดี ๆ ไปเถอะ”

พูดจบนรมนก็วางสายไปเลย

ไม่มีคนให้ใช้แล้วงั้นเหรอ?

จะเป็นไปได้ยังไง!

นึกว่าเธอนรมนเป็นเด็กสามขวบแล้วจริง ๆ เหรอ?

คนที่สามารถแกล้งตายยี่สิบกว่าโดยไม่มีคนพบเห็นในประเทศFได้ คนที่สามารถพาตัวมิลินมาหลบซ่อนไว้ทางนี้โดยไม่มีสุ้มเสียงอะไรตั้งหลายปีขนาดนี้ ตอนนี้เธอจะมาบอกกับนรมนว่าไม่มีคนให้ใช้แล้วงั้นเหรอ?

นรมนยิ้มเย็นขึ้น ในใจกลับมีความโกรธเคืองและความโศกเศร้าพุ่งขึ้นมาระลอกหนึ่ง

บุริศร์จับมือของเธอเอาไว้ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “อย่าโมโหเลย เพื่อคนอื่นแล้วโมโหจนตัวเองไม่สบายไปมันจะไม่คุ้มกันนะ ผมได้ให้ชัยยศไปสืบหาเบาะแสของมิลินแล้ว ขอแค่ให้มีข่าวส่งมาพวกเราก็จะรีบไปช่วยคนทันที”

นรมนตัวสั่นไปทั้งตัว

“นี่มันเกินไปแล้วจริง ๆ! อย่างน้อยมิลินก็ติดตามเธอมาตั้งหลายปี เพื่อเธอแล้วหลายปีมานี้มิลินต้องมีชีวิตอยู่ยังไง? แต่เธอกลับเอามิลินมาเป็นเหยื่อล้อพวกเรา เพราะเธอโง่หรือรู้สึกว่าฉันโง่กันแน่?”

แค่คิดว่าคนคนนี้เป็นญาติของตัวเอง เป็นนงลักษณ์ที่มีใบหน้าที่เหมือนกับคุณแม่ ไม่ว่ายังไงอารมณ์ของนรมนก็ไม่มีทางที่จะสงบลงมาได้

เพราะกลัวว่านรมนโกรธมากไปจะไม่ดีต่อร่างกาย บุริศร์จึงได้แต่จับมือของเธอไว้ “ถ้าหากว่าคุณโมโหอีก ผมก็จะจูบคุณแล้วนะ”

นรมนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง พอเห็นบุริศร์ที่มีท่าทางจริงจังทั้งหน้าและเตรียมพร้อมที่จะกระทำ ก็โกรธจนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“คุณอย่ามาทำอย่างนี้ได้ไหมคะ? นี่ฉันกำลังโกรธอยู่นะ”

น้ำเสียงของนรมนแฝงไว้ด้วยความเบื่อหน่ายเสี้ยวหนึ่ง

บุริศร์กลับยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ผมรู้อยู่แล้ว หรือคุณดูไม่ออกเหรอว่าผมกำลังหาโอกาสทุกอย่างเพื่อให้ได้ใกล้ชิดคุณอยู่?”

“บุริศร์ คุณกลายเป็นคนลามกขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”

มุมปากของนรมนคลี่ขึ้นเล็กน้อย อารมณ์ที่กำลังโกรธอยู่เมื่อกี้ก็เปลี่ยนเป็นดีขึ้นมากแล้ว

บุริศร์กลับหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “ผมก็ลามกอย่างนี้มาตลอด ทั้งคุณและผมเราต่างก็ถูกต้องตามหลักตามกฎหมาย ถ้าไม่คิดจะนอนกับคุณนะซิถึงจะไม่ใช่ลูกผู้ชาย”

“นี่คุณยังจะพูดอีก”

นรมนโดนเขาฉุดให้หันเหความสนใจไปหมดแล้ว

พอเห็นนรมนอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยแล้ว บุริศร์ก็ได้แต่ใช้วิธีที่ธรรมชาติที่สุดมาทำให้ภรรยาไม่โมโห

นงลักษณ์ฟังเสียงเงียบเชียบของโทรศัพท์ที่โดนนรมนวางสายไป แล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขมขื่นขึ้นมา

นี่เธอโดนรังเกียจแล้วเหรอ?

ไม่ใช่!

เธอโดนโกรธเกลียดแล้วต่างหาก

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เธอทุกข์ใจเป็นอย่างมาก

ถ้าหากขนาดนรมนยังไม่เชื่อเธอเลยว่าตอนนี้เธอไม่มีคนให้ใช้แล้ว แล้วยังจะมีใครเชื่อเธออีก?

คนคนนั้นช่างโหดร้ายจริง ๆ!

ตั้งแต่เริ่มต้นเธอก็อยู่ในแผนการของเขา

เธอนึกว่าตัวเองสามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของเขาแล้ว นึกว่าตัวเองพบเจออะไรมามากขนาดนี้และก่อตั้งองค์กรและอำนาจของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับมิลิน นึกว่าตัวเองสามารถมีเรี่ยวแรงที่จะปกป้องคนในครอบครัวของตัวเองได้แล้ว แต่ว่าผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว เธอถึงได้รู้ว่า เรื่องทั้งหมดนี้ตัวเธอคิดไปเองทั้งนั้น

เขาเป็นคนที่ให้ทุกอย่างกับเธอ

เขาให้เธอแกล้งตายได้สำเร็จ แต่กลับแอบดูเธอดิ้นรนอยู่ในโคลนตมจากมุมมืด จ้องมองเธอคิดไปเองทีละก้าวว่าตัวเองได้ก่อตั้งอำนาจของตัวเองขึ้นมาแล้ว ในขณะที่คิดว่าสามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของเขาไปหมดแล้ว เขาก็ลงมือเลย

เหมือนอย่างกับเมื่อก่อน เขาลงมือได้อย่างไม่มีเยื่อใยเลยสักนิด ลงมือได้อย่างรวดเร็วและโหดเหี้ยม ทำให้เธอไม่มีการป้องกัน และทำอะไรไม่ทัน

เพื่อที่จะปกป้องเธอให้จากไป มิลินต้องเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้

พอตอนนี้เธอมาถึงเมืองชลธีตัวคนเดียว มาถึงที่แห่งนี้ ที่ที่เธอถือกำเนิดขึ้นมา ที่ที่เป็นบ้านเกิดของเธอ แต่กลับแปลกที่และน่ากลัว

เธอไม่มีที่ให้ร้องขอความช่วยเหลือ จึงได้แต่มาหาบุริศร์และนรมนแล้ว

เธอนึกว่านรมนจะกลายเป็นที่หลบภัยของตัวเองได้ แต่สุดท้ายตัวเองก็ซื่อเกินไปแล้ว

ตกลงมันเกิดปัญหาขึ้นตรงไหนนะ?

เป็นเพราะว่าเธอไปบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดามาเหรอ?

เป็นเพราะว่าเธอพูดเรื่องอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาออกไปเหรอ?

แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นธรณีหรือว่านรมน ไม่ควรจะไปประเทศFเพื่ออารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาหรอกเหรอ?

ทำไมเรื่องราวถึงได้ไม่เป็นอย่างที่ตัวเองคิดไว้ล่ะ?

ทำไมเหมือนกับว่านรมนจะโกรธตัวเองล่ะ?

นงลักษณ์ไม่เข้าใจ

ตอนนี้เธอเหลือแค่ทางเลือกเดียวแล้ว นั่นก็คือคุณท่านตนุวร แต่ว่าวินาทีนี้ นงลักษณ์เกิดความลังเลขึ้นมาแล้ว

ถ้าหากว่าคุณท่านตนุวรก็ปฏิเสธที่จะช่วยตัวเอง และไม่เชื่อว่าตอนนี้เธอไม่มีทางหนีแล้วล่ะ เธอควรจะทำยังไงดี?

นั่นเป็นความอบอุ่นสุดท้ายของเธอแล้ว

นั่นเป็นญาติที่สนิทที่สุดเพียงคนเดียวของเธอ

เธอแบกรับการถูกสงสัยและความคาดเดาอะไรอีกไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะถ้ามาจากคุณท่านตนุวร

จะทำยังไงดี?

นงลักษณ์แข็งแกร่งมาทั้งชีวิต แต่อยู่ ๆ กลับน้ำตานองหน้าในวินาทีนี้ และโศกเศร้าเสียใจอย่างที่สุด

เธอเคยคิดว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้ แต่ว่าวินาทีนี้กลับรู้สึกว่าตัวเองวางอะไรไม่ลงสักอย่าง ถึงแม้ว่าการมีชีวิตอยู่ก็ยังเป็นความฟุ่มเฟือยและความตกต่ำอย่างหนึ่ง

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท