นรมนอึ้งไป เหมือนกับไม่ได้คาดคิดมาก่อน แต่ไม่มีความกระวนกระวายใจใด ๆ เดินตรงไปหาคนนั้น
“ดูเหมือนคุณจะเก่งไม่เบานะ”
นรมนมองนงลักษณ์ที่ใบหน้าขาวซีด อดพูดออกมาไม่ได้
นงลักษณ์มองนรมน กระแอมไอทันที และกล่าวว่า: “ถ้าไม่มีอุบายรักษาชีวิตแบบนี้ ฉันคงไม่รอดมาถึงตอนนี้”
“รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าฉันตามมา?”
นรมนประหลาดใจ
ตนเองเรียนรู้มาจากบุริศร์ ถึงแม้จะไม่ชำนาญมาก แต่สำหรับคนทั่วไปก็นับว่าไม่เลว เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าการติดตามนงลักษณ์จะกลายเป็นเรื่องน่าขำ จึงอดไม่ได้อยากรู้ว่าตนเองพลาดตรงไหน
นงลักษณ์มองท้องฟ้าที่ครึ้มฝนด้านนอก ตอบเสียงเบา: “เมื่อสักครู่นี้เอง เธอตามฉันมาตลอดทาง ถือว่าไม่เลว”
ประโยคนี้ถือว่าเป็นคำชมเชย นรมนก็ไม่งอแงไร้เหตุผล ถือโอกาสรับเอาไว้
“นั่นคือหลุมฝังศพของคุณยายเหรอ? คุณรู้ได้ไงว่าท่านฝังอยู่ที่นี่?”
ไม่มีความไม่สบายใจและรังเกียจใดๆ นรมนถามด้วยความประหลาดใจ
นงลักษณ์มองตาของนรมน ไม่รู้กำลังคิดอะไร สุดท้ายจึงถอนหายใจออกมา: “นรมน ฉันอยู่กับเธอต่อไปก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้เธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนคนนั้นมีอำนาจมาก เธอให้ฉันไปเถอะ”
“ปัญหา?ตอนนี้คิดถึงปัญหาเหรอ?ทำไมก่อนหน้านี้ที่กลับมาหาฉันคุณถึงไม่คิดว่าจะสร้างปัญหาให้ฉัน?อย่าบอกนะว่าตอนแรกคุณไม่ได้คิดถึงสิ่งเหล่านี้”
มุมปากของนรมนมีความเหน็บแนมเล็กน้อย
ความรู้สึกของนงลักษณ์หายไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดจึงกล่าวว่า: “ถ้าไม่มีการพูดคุยเมื่อสักครู่นี้ บางทีฉันอาจจะยังอยู่ แต่เธอเกลียดฉันแบบนี้ ฉันจะ……”
“กลัวฉันจะจัดการคุณเพราะเรื่องที่คุณทำให้พ่อแม่ของฉันต้องพลาดกันชั่วชีวิตเหรอ?ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก ไม่ว่าจะพูดอย่างไร คุณคือคนในครอบครัวคนสุดท้ายบนโลกใบนี้ของคุณตา ไม่ว่าคุณจะใช้ประโยชน์จากฉันกับคุณตาหรือเปล่า ฉันไม่มีทางทิ้งคุณไปได้จริงๆ สภาพร่างกายตอนนี้ของคุณ อยากจะไปคนเดียว ไม่ง่ายแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถทำร้ายคุณได้โดยที่คุณไม่ได้ป้องกันตัว น่าจะเป็นคนที่คุณรู้จักใช่ไหม?คนที่ลอบสังหารคุณ คุณรู้จักไหม?”
นรมนถามอย่างนิ่งเฉย แต่กลับสังเกตนงลักษณ์อยู่ตลอด
นงลักษณ์สั่นไหวทันที แววตามีความเจ็บปวดและเย็นชา
เห็นได้ชัดเจน เธอเดาถูก
“ไปเถอะ กลับไปกับฉัน ในเมืองชลธีไม่มีปัญหาอะไรที่ฉันกลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่เพราะมีคุณอยู่ถึงเกิดเรื่องมากมายขึ้น แต่ในฐานะคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา คนของตระกูลพรโสภณ และคุณนายของตระกูลโตเล็ก ทั้งสามตัวตนนี้ ฉันหลบไม่พ้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมฉันจะต้องหวาดกลัวกับปัญหาที่คุณพูดด้วย?”
นรมนพูดอย่างไม่แยแส น้ำเสียงไม่สูงไม่ต่ำ แต่คำพูดเหล่านี้กลับเผยร่องรอยของความใจอ่อน
นงลักษณ์มองเธอ มองอยู่นานสองนาน จู่ ๆ ก็ถอนหายใจและพูดขึ้น: “เธอเหมือนกับแม่ของเธอมาก เหมือนมากจริง ๆ ยังจำตอนที่หล่อนเพิ่งตามหาฉันเจอได้อยู่เลย น้ำเสียงก็เป็นแบบนี้ พูดกับฉันด้วยท่าทางแบบนี้ กลับไปเถอะ ไม่ว่าพี่จะทำอะไรมา พ่อกับแม่ไม่มีทางตำหนิพี่หรอก ตอนนั้นหล่อนเย็นชาเหมือนเธอ ฉันเข้าว่าที่หล่อนเย็นชากับฉันแบบนี้ เพราะได้รับคำสั่งจากพ่อแม่มา เพราะไม่ชอบฉันแต่กลับต้องรับฉันกลับบ้าน ตอนนั้นฉันจึงไม่รู้สึกซาบซึ้งใจ จนเมื่อหล่อนถูกคนเข้าใจผิดว่าเป็นฉัน โดนวางยา เมื่อกลับมายังคงพูดกับฉันอย่างไม่มีอะไร ไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่ได้ตัวคนเดียว ยาพิษนี้ทำอะไรฉันไม่ได้ อย่าทุกข์ใจและโทษตนเองมากไปเลย ตอนนั้นฉันถึงรู้ว่าฉันมันใจแคบและโง่เขลาแค่ไหน”
ได้ยินนงลักษณ์พูดแบบนี้ นรมนไม่รู้ว่าในใจรู้สึกอย่างไร
ความรู้สึกของเธอยังไม่ฟื้นคืนตั้งแต่คิมถูกทำร้าย การพูดตรงๆ กับนงลักษณ์ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีมาก เพียงแต่สุดท้ายใจก็ไม่แข็งพอ
นงลักษณ์ก็เข้าใจความรู้สึกของนรมน จึงยิ้มเจื่อนๆ อย่างห้ามไม่ได้: “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันรู้ว่าเธอก็มีปัญหาเยอะอยู่แล้ว และรู้ว่าเธอสามารถปกป้องฉันได้ แต่เรื่องบางอย่างในที่สุดฉันต้องเป็นคนทำเอง การนองเลือดนี้สุดท้ายแล้วฉันต้องลงมือเอง เรื่องบางเรื่อง ควรจะเป็นฉันเอง ใครก็แย่งไปไม่ได้ ถึงแม้ว่าคนนั้นจะเป็นพี่น้องกับฉันก็ตาม”
พูดถึงตอนสุดท้าย แววตาของนงลักษณ์เยือกเย็นลงทันที กลิ่นอายความเย็นชานั้นทำให้นรมนแปลกใจ
“คนที่ทำร้ายคุณเป็นใคร?”
“ลูกน้องของมิลิน”
นงลักษณ์น้ำตาคลอเล็กน้อย กำมือแน่น
เธอคิดไม่ถึงว่าคนที่ทรยศตนเองจะเป็นมิลิน
มิลิน
ครั้งหนึ่ง ณ เกาะร้าง คนที่เป็นเพื่อนเธอเดินออกมาจากฝันร้ายนั้น และออกมาจากการเข่นฆ่าในวัยเด็ก
คนที่เคยมีกันและกันยอมสละแม้แต่ชีวิตได้
วันนี้กลับกลายเป็นเรื่องตลก กลายเป็นการเสียดสีที่ยิ่งใหญ่
เหอๆ
นงลักษณ์รีบเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดครึ้ม บีบให้น้ำตาไหลกลับไป
ไม่มีอะไรน่าร้องไห้จริงไหม
ควรจะรู้ตั้งนานแล้ว คนที่มาจาก“นรก”จะจริงใจได้อย่างไร?
เป็นเธอที่โง่เอง ไม่นึกว่าจะเชื่อในมิตรภาพของคนที่เติบโตมาด้วยกัน ไม่นึกว่าจะเพ้อฝันว่าวิญญาณชั่วร้ายในนรกจะมีความเมตตาและเจตนาดี
ความโศกเศร้าห้อมล้อมนงลักษณ์เอาไว้อย่างแน่นหนา พร้อมกับอากาศแบบนี้ และป้ายหลุมศพด้านหลัง ทำให้คนเป็นทุกข์อย่างอึดอัดใจ
นรมนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร สุดท้ายจึงเอ่ยเสียงเบาว่า: “บาดแผลของคุณค่อนข้างหนัก อยู่ตัวคนเดียวเกรงว่า……”
“ฉันเคยเจ็บหนักกว่านี้ ฉันก็ผ่านมาได้ ชีวิตสุขสบายหลายปีที่ผ่านมาทำให้ฉันลืมไปว่า เดิมทีฉันเป็นวิญญาณชั่วร้ายจาก“นรก” ไม่ควรเพ้อฝันถึงความอ่อนโยนและความอบอุ่นของโลกมนุษย์ ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าเพราะยึดติดอยู่กับความอบอุ่นนี้จึงเกือบต้องชดใช้ด้วยชีวิต นี่คือการลงโทษที่ฉันต้องรับมัน”
นงลักษณ์พูดอย่างนิ่งเฉย กลับทำให้คนอยากร้องไห้อย่างอธิบายไม่ถูก
“ฉันยังยืนยันคำเดิม มาหาฉันได้ทุกเวลาที่คุณต้องการ ถึงแม้ฉันจะไม่ชอบคุณ แต่ก็ทนเห็นคุณตายไม่ได้”
คำพูดนี้คือความจริง
นงลักษณ์อึ้งไป อาจเพราะไม่คิดว่านรมนจะตรงไปตรงมาแบบนี้ หรืออาจเพราะคิดถึงอย่างอื่น เธอยิ้ม เป็นยิ้มที่จริงใจครั้งแรก
“ฉันเป็นป้าของเธอ เป็นพี่สาวร่วมสายเลือดกับแม่ของเธอ ฉันยอมรับว่ากลับมาตอนแรกฉันอยากใช้ประโยชน์จากอำนาจของเธอกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาช่วยพาคุณท่านรองกลับมาจากประเทศ F ยิ่งไปกว่านั้น ฉันต้องการใช้พวกเธอช่วยฉันแย่งชิงสิ่งที่สูญเสียไปกลับมา”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ อาจเพราะนงลักษณ์เจ็บแผลเกินไป จึงหยุดไปชั่วคราว
นรมนได้ยินนงลักษณ์ยอมรับจากปากตนเอง ความโกรธในตอนแรกหายไป
ถ้าเธอเป็นนงลักษณ์ คงจะทำเช่นนี้เหมือนกัน
โดยไม่รู้ตัว นรมนสงสารผู้หญิงตรงหน้า
ดูเหมือนเธอจะดูแลร่างกายดีกว่าแม่ แต่ความละอายใจและการโทษตนเองที่หายไปอย่างรวดเร็วทำให้นรมนหวั่นไหว
เธอรู้ว่าตนเองไม่ควรเชื่อนงลักษณ์อย่างง่ายดายแบบนี้ แต่สมดุลทางอารมณ์มีความเอนเอียงจริง ๆ
นงลักษณ์พูดอย่างผ่อนคลาย: “เพียงแต่ตอนนี้ ฉันต้องการใช้วิธีของฉันแย่งชิงทุกอย่างที่สูญเสียไปกลับมา”
ถึงแม้นงลักษณ์จะหน้าซีด แต่ความแข็งแกร่งในขณะนี้เปลี่ยนไปมาก
นรมนมองเธอ ถามว่า: “อยากให้ฉันช่วยไหม?”
“ถ้าต้องการฉันจะไปหาเธอ”
“งั้นคุณต้องรีบหน่อย เพราะตั้งแต่วันนี้ฉันจะออกไปเที่ยวกับลูกๆ
นงลักษณ์แปลกใจคำพูดของนรมน
เธอไม่เข้าใจ ดูเหมือนนรมนมีท่าทางระมัดระวังและไม่พอใจเธอมาก แต่กลับบอกที่อยู่ของตนเองให้ฟัง หรือไม่กลัวว่าเธอจะทำอะไรตนเองจริงๆ ?
ดูเหมือนจะสัมผัสได้ว่านงลักษณ์สงสัย นรมนยิ้ม: “ถ้าคุณคิดจะทำอะไรต้องวางแผนให้ดี ในเมื่อไม่อยากให้ฉันตามไป ฉันก็จะไม่ตาม บังเอิญว่าสามีกับลูกสาวของฉันยังไม่ได้กินอาหารเช้า ฉันต้องกลับไปแล้ว เชิญคุณตามสบาย โอ้ จริงสิ ถ้าสามารถบอกข่าวของคุณอารองให้ฉันฟังได้ ฉันจะขอบคุณมาก แต่ถ้าไม่อยากพูด ฉันก็ไม่บังคับ ถึงอย่างไรเรื่องบางเรื่องฉันสามารถสืบเองได้”
ความหมายของคำพูดคือ สิ่งที่ฉันสืบได้ คุณบอกฉันเองนั้นคือมารยาท หรือไม่บอกฉันก็ไม่มีอะไรเสียหาย นี่คือสิ่งที่นรมนต้องการบอก
นงลักษณ์หยุดนิ่งไปสักพัก
แต่ก่อนอาจจะคิดว่านรมนไม่มีอะไร จนแม้แต่คิดว่าถ้าไม่ได้แต่งงานกับบุริศร์ บางที่ผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นจิตรกรธรรมดาๆ หรือเป็นผู้หญิงหน้าตาดีทั่วไป แต่ในตอนนี้นงลักษณ์สัมผัสได้ว่า นรมนยืนเคียงข้างบุริศร์อย่างกล้าหาญและมั่นใจ กลายเป็นคุณนายบุริศร์ ไม่ได้ไร้ความสามารถและอ่อนโยนเหมือนที่ตนเองหรือคนนอกมอง
จู่ๆ นงลักษณ์ยิ้มขึ้นมา รอยยิ้มมีความจริงใจ ไม่มีการคิดร้าย
“เที่ยวให้สนุกนะ หวังว่าเมื่อกลับมา ทุกอย่างจะจบลง”
เสียงของนงลักษณ์ไม่ดังมาก แต่นรมนได้ยินชัดเจน
นรมนแค่หยุดนิ่งสักพัก ไม่ได้หันกลับไป สวมแว่นกันแดด จากนั้นลูบต่างหูของตนเอง ยิ้มมุมปากเล็กน้อย
ออกมาจากสุสานสาธารณะ มือถือของนรมนดังขึ้น
เสียงทุ้มต่ำของบุริศร์ดังมาจากปลายสาย
“ผมให้คนไปรับคุณไหม?”
“ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้ อยากกินอะไร? ฉันจะซื้อไปให้”
นรมนได้ยินเสียงแหบแห้งตอนเพิ่งตื่นของบบุริศร์ จึงอดใจเต้นไม่ได้ ลูบต่างหูตนเองอีกครั้ง
นี่คือเครื่องติดตามที่บุริศร์ตั้งใจทำให้เธอ
เดิมทีไม่อยากพกมาด้วย แต่นึกถึงสถานการณ์ตอนนี้ หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับตนเองจะทำให้บุริศร์เดือดร้อน ดังนั้นเธอจึงสวมเอาไว้ และเปิดระบบติดตาม
ดังนั้นการที่บุริศร์รู้ตำแหน่งของตนเองนรมนจึงไม่แปลกใจ
บุริศร์พิงหน้าต่าง มองท้องฟ้ามืดครึ้มด้านนอก กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “อยากกินคุณ”
ใบหน้าของนรมนค่อย ๆ แดงขึ้น
“แค่กๆ ฉันอยากนมถั่วเหลือง ซื้อกลับไปให้คุณด้วยเอาไหม?”
เธอจำเป็นต้องเบนหัวข้อ
ช่วงนี้ผู้ชายคนนี้ป่าเถื่อน คิดถึงเรื่องแบบนั้นตลอดเวลาหรือไง
บุริศร์หัวเราะเบา ๆ อารมณ์ดีมากอย่างเห็นได้ชัด
“ได้”
“รอฉันนะ”
นรมนวางสาย รู้สึกผ่อนคลายทันที
ไม่ว่าสุดท้ายนงลักษณ์จะมีจุดประสงค์อะไร ไม่ว่าเธอจะพูดความจริงหรือไม่ เธอจะเชื่อไปก่อน ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการพาครอบครัวออกไปเที่ยว ถึงแม้สถานที่ท่องเที่ยวนี้มีคนต้องการให้พวกเขาไปก็ไม่เป็นไร?
แค่คิดว่ามีลูกๆ กับบุริศร์อยู่ข้างกาย นรมนรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจอย่างยิ่ง นี่คือความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ และเป็นความสุขที่ในชีวิตของเธอ
รถขับออกไปอย่างช้าๆ นงลักษณ์มองนรมนที่จากไป มุมปากยิ้มขึ้นเล็กน้อย ปรากฏรอยยิ้มสบายใจ ทันใดนั้นกลับพบว่ามีลมแรงพัดเข้ามาด้านหลัง