“ดูท่าทางนาย เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว หรือจะบอกว่าที่คริชณะมาที่นี่คืออีกภารกิจหนึ่ง?”
คำพูดนี้ของบุณพจน์ทำให้คิ้วบุริศร์ขมวดเล็กน้อย พูดขึ้นอย่างราบเรียบ “เกิดอะไรขึ้นกับเขาฉันไม่รู้เลย ทุกอย่างนายเป็นคนพูดเอง ความน่าเชื่อถือมันไม่มากพอที่จะรับประกัน ฉันจะรู้อะไรอีกล่ะ? ในเมื่อนายรู้ว่าที่นี่เขามีกองทัพสามารถส่งไป งั้นนายก็ต้องรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน บอกที่อยู่เขากับฉัน”
“ทำไมนายมั่นใจคิดว่าฉันจะบอกนายล่ะ?”
บุณพจน์เหยียดหยามท่าทางในตอนนี้ของบุริศร์ รู้สึกอารมณ์เสียอย่างช่วยไม่ได้
บุริศร์พูดขึ้นอย่างราบเรียบ “สภาพของนายในตอนนี้ นายคิดว่านายไม่พูดแล้วฉันจะปล่อยนายไปได้เหรอ?”
“นายคิดจะทำอะไร?”
บุณพจน์ระแวดระวังขึ้นมาทันที
บุริศร์กลับยิ้มชั่วร้ายขณะพูดขึ้น “ร่างกายโทรมๆ ของนายในตอนนี้ ภรรยาฉันก็ปราบนายได้ นายยังคิดว่าตัวเองมีโอกาสชนะเหรอ?”
“อย่ามาขู่ฉัน ฉันก็มีคนของฉันที่นี่เหมือนกัน นายเห็นพรวลัยเป็นคนตายหรือไง?”
บุณพจน์ไม่กังวลหรอกว่าบุริศร์จะลงมือกับตน ถ้าต้องลงมือก็คงลงมือนานแล้ว ถึงจะลงมือ ด้วยทักษะของพรวลัยก็ขัดขวางพวกเขาไม่ได้
บุริศร์มองพรวลัยที่ยังรินน้ำอยู่ด้านนอก ก็พูดอย่างเยาะเย้ย “ยังไงนะ? เป็นผู้หญิงของนายจริงๆ สินะ? ภรรยาเหรอ?”
มือบุณพจน์ชะงักเล็กน้อย สีหน้าก็ชะงักเล็กน้อยเช่นกัน จากนั้นก็มองแผ่นหลังพรวลัย แล้วพูดขึ้นอย่างราบเรียบ “ไม่ใช่ เธอเป็นของขวัญบรรลุนิติภาวะตอนฉันอายุสิบแปด เป็นของขวัญที่พ่อฉันให้”
บุริศร์ตกตะลึงเล็กน้อย
ของขวัญบรรลุนิติภาวะคืออะไรเขารู้
มันคือธรรมเนียมที่สืบทอดกันมาในสมัยโบราณ หมายถึงวันที่ผู้ชายอายุสิบแปดปีเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จะมอบผู้หญิงคนหนึ่งให้กับเขา เพื่อให้ผู้ชายเปิดซิงสาวพรหมจรรย์ สอนเรื่องบนเตียงระหว่างชายหญิงให้กับผู้ชาย โดยปกติแล้วผู้หญิงแบบนี้ล้วนเป็นผู้หญิงที่ผู้ใหญ่เลือกมาจากตัวเลือกนับพัน มอบให้ลูก ด้านหนึ่งเพื่อบรรเทาความเศร้า อีกด้านหนึ่งเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของลูกว่าสมเหตุสมผลหรือไม่หลังจากเป็นผู้ใหญ่ ถ้ามีพฤติกรรมผิดปกติก็จะรายงานให้ผู้ใหญ่รู้ได้ทันเวลา ถือเป็นเครื่องเฝ้าสังเกตที่เอาไว้ข้างกายลูก
แค่บุริศร์ไม่คิดว่าสมัยนี้แล้ว พิรุณยังใช้วิธีการนี้มาควบคุมบุณพจน์อีกจริงๆ
“ตอนนายเป็นทหารเธอก็ตามไปด้วยเหรอ?”
“ตามไป มีเงินก็ทำได้ทุกอย่าง นับประสาอะไรกับพาผู้หญิงคนหนึ่งเข้าค่ายทหาร”
บุณพจน์หัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง
บุริศร์ถึงได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าทำไมคำพูดเหล่านี้บุณพจน์ถึงไม่พูดต่อหน้าพรวลัย
“ทำไมไม่ฆ่าเธอซะ?”
หลังจากผู้ชายบางคนมีกำลังเป็นของตัวเองแล้ว ผู้หญิงที่ปลอมตัวมาในภารกิจก็จะถูกฆ่าในที่เกิดเหตุ ตั้งแต่นั้นมาก็จะกำจัดสายลับคนนี้ที่ผู้ใหญ่มอบให้ตน
ด้วยความสามารถของบุณพจน์ ต้องการดึงตะปูนี้ออกเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
บุณพจน์กลับพูดขึ้นอย่างราบเรียบ “ฆ่าเธอทำไม? ฆ่าเธอไปแล้ว ก็จะมีอีกคนมาในภายหลัง และฉันคนนี้เป็นคนรักความสะอาด ผู้หญิงคนเดียวก็พอแล้ว นายให้ฉันนอนกลับผู้หญิงแปลกหน้าไปเรื่อยๆ ฉันก็รังเกียจความสกปรกนะ”
คำพูดนี้ทำให้นรมนมองบุณพจน์มากขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกอดนรมนไว้ในอ้อมแขนแน่น
นรมนรู้สึกค่อนข้างประหลาดใจ จากนั้นก็เข้าใจ ผู้ชายคนนี้หึงเหรอ?
เด็กดี!
เธอก็แค่มองบุณพจน์มากหน่อยเท่านั้นเอง ขนาดนั้นเลยเหรอ?
บุณพจน์ก็รู้สึกตกตะลึงนิดหน่อยอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็ยิ้มขณะพูดขึ้น “นายไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่ได้สนใจภรรยานาย”
“ถ้านายสนใจเธอ ตอนนี้นายคงตายไปนานแล้ว”
คำพูดนี้ของบุริศร์ทำให้นรมนอายนิดหน่อย
กระอักกระอ่วนเกินไปแล้วโอเคไหม
“ฉันไปดูพรวลัยก่อนนะว่าทำไมไปหาน้ำนานจัง? คงไม่ได้ไปแจ้งเบาะแสกับพิรุณหรอกนะ?”
ขณะที่นรมนพูดก็จะลุกขึ้น ก็ได้ยินบุณพจน์พูดขึ้น “เธอไม่ทำหรอก เธออยู่กับฉันมาตั้งแต่อายุสิบแปด ตอนนี้ก็สามสิบแล้ว เราอยู่ด้วยกันมาสิบสองปี ถ้าเธอต้องการทรยศฉัน ไม่ต้องรอให้ถึงตอนนี้หรอก”
“หืม?”
นรมนค่อนข้างสงสัย
บุริศร์พูดกับนรมน “คุณไปดูหน่อยว่าเธอต้องการความช่วยเหลือไหม”
“โอเค”
นรมนเข้าใจความหมายของบุริศร์ พยักหน้าแล้วเดินออกไป
เมื่อห้องหลักเหลือแค่บุริศร์และบุณพจน์ บุริศร์ก็ควักบุหรี่มวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้
บุณพจน์ก็ไม่ได้ดัดจริต จุดบุหรี่แล้วสูดมันอย่างแรงสองที
บางครั้งวิธีการหยุดความเจ็บปวดนั้นมีมาก แต่สิ่งที่ผู้ชายชอบที่สุดก็ยังเป็นนิโคติน
หมอกควันพุ่งออกจากปากเขา มันปิดใบหน้าเขา ทำให้เห็นการแสดงออกไม่ชัด
บุริศร์พูดขึ้นเสียงทุ้ม “นายอยากปล่อยเธอไปเหรอ?”
“ใช่ เธอสามสิบแล้ว ถ้ายังไม่ไป ชีวิตนี้ก็จบเห่จริงๆ แล้ว ออกไปจากที่นี่ ออกไปจากฉัน เธอถึงจะมีโลกที่กว้างกว่านี้ และมีชีวิตที่สวยงามขึ้น ฉันถ่วงเธอมาสิบสองปีแล้ว จะถ่วงเธอไปตลอดชีวิตไม่ได้”
ขณะที่บุณพจน์พูดก็สูบบุหรี่อีกครั้ง ไม่รู้ว่าเพราะสูบเร็วเกินไปหรือว่าอะไร เขาไอรุนแรงขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง
สุดท้ายบุริศร์ก็ทนไม่ค่อยไหว เข้าไปลูบหลังเขา บุณพจน์จึงฉวยโอกาสนี้นอนลงไปบนตักเขา
“เฮ้อ อย่าทำเกินไปสิ”
คิ้วบุริศร์ขมวดเข้าหากันแน่น
ผู้ชายคนนี้ไม่แยแสเกินไปหรือเปล่า?
พวกเขาสนิทกันขนาดนั้นเชียว?
บุณพจน์โบกมืออย่างไม่สนใจแล้วพูดขึ้น “ขอพิงแป๊บ นายจะขี้เหนียวไปทำไม? อย่าลืมว่าฉันกลายเป็นแบบนี้เพราะใคร”
บุริศร์หมดคำจะพูดทันที แต่ก็ไม่ได้ผลักเขาอีก
บุณพจน์นอนบนตักบุริศร์ แล้วพูดขึ้นเสียงทุ้ม “นายช่วยฉันพาเธอออกไปที แล้วฉันสัญญาว่าจะช่วยนายตามหาคุณอาบุญทิวา”
บุริศร์ตกตะลึงทันที
“นายว่าไงนะ?”
บุณพจน์กลับยิ้ม ยิ้มกรีดกรายอย่างยิ่ง
เขาเบิกดวงตาอันดูดีมองดวงตาเรียวแหลมคู่สวยของบุริศร์ แล้วพูดทีละคำ “พรวลัยท้องแล้ว ท้องลูกของฉัน นี่เป็นลูกคนที่สี่ของฉันกับเธอแล้ว”
“นายมีลูกสามคนแล้วเหรอ?”
“ไม่ได้คลอดสักคน พ่อฉันไม่อนุญาต เขาไม่อนุญาตให้ฉันกำเนิดรุ่นต่อไปของตระกูลเถกิงพลกับของขวัญ ดังนั้นฉันไม่เคยมีโอกาสได้เห็นลูกเลยสักครั้ง การแท้งคราวที่แล้ว พรวลัยเสียเลือดมากจนเกือบตาย หมอบอกว่าต่อไปเธอจะมีความเป็นไปได้ในการท้องน้อยมาก ถึงขนาดอาจจะท้องไม่ได้แล้วในชีวิตนี้ ดังนั้นพ่อฉันก็เลยล้มเลิกความคิดที่จะฆ่าเธอ ตอนนี้เธอท้องอีกแล้ว แต่ตัวเองไม่รู้ บุริศร์ เธอสามสิบแล้ว ผู้หญิงทั่วไปอายุเท่าเธอล้วนเป็นแม่คนได้หลายปีแล้ว ฉันไม่อยากให้เธออยู่ที่นี่ นายพาเธอไปด้วย ปกป้องลูกในท้องของเธอ ฉันจะช่วยนาย ช่วยนายตามหาที่อยู่ของคุณอาบุญทิวา ช่วยนายตรวจสอบเรื่องที่นายต้องการ”
บุณพจน์มองบุริศร์ ในดวงตานั้นมีความเปียกชื้นเล็กน้อย ขอบตาเขาแดง
ทันใดนั้นบุริศร์ก็ค่อนข้างกังวล
“ในเมื่อรักเธอ ทำไมไม่พาเธอไปเองล่ะ? ด้วยความแข็งแกร่งของนาย นายมอบความสุขที่เธอต้องการได้ พิรุณมันไม่มีความเป็นคน นายจะตามมันไปจนตายเหรอ?”
“ฉันไปไม่ได้ ในร่างกายฉันมีลูกหนอนกู่ ในมือพ่อฉันมีแม่หนอนกู่ โลกนี้มันกว้างใหญ่ ฉันทำได้แค่อยู่กับเขา ฉันไม่กลัวตายหรอก ฉันแค่กลัวว่าพอฉันตายไปแล้วจะไม่มีคนปกป้องพรวลัย และไม่มีใครปกป้องลูกในท้องเธอ ฉันต้องการเด็กคนนี้ ต้องการให้พรวลัยใช้ชีวิตอย่างมีความสุข บางทีแล้วนี่อาจจะเป็นลูกเพียงคนเดียวของฉันกับเธอในชีวิตนี้แล้วก็ได้”
บุณพจน์พูดอย่างเจ็บปวด
คำพูดเหล่านี้เขาไม่เคยพูดกับใครมาก่อนเลย
ใครจะไปคิดล่ะว่าพ่อแท้ๆ ของตัวเองจะใส่กู่ให้ลูกแท้ๆ ของตัวเอง?
ถึงเขาจะพูดออกไป คาดว่ามีแค่ไม่กี่คนที่เชื่อ
บุริศร์ตกใจอยู่กับที่ ความกริ้วโกรธก็แผ่กระจายออกมาจากหน้าอกเขา
หลังจากตรินท์ตายไป เขามีมุมมองอ่อนแอเรื่องความรักในครอบครัว รวมถึงการหักหลังของธิดาวีร์ เขาจึงดูหมิ่นความรักในครอบครัว แต่ตอนนี้ เวลานี้ จู่ๆ เขาก็อยากกอดบุณพจน์ ถึงจะเป็นแค่กอดเดียวก็พอ
แต่สุดท้ายบุริศร์ก็ทนได้
“ทำไมไม่บอกพรวลัย?”
“บอกเธอ เธอก็รู้สิว่าฉันจะทำอะไร ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว เธอรู้จักฉันยิ่งกว่าตัวฉันเองอีก ถ้าบอกว่าเธอจะหักหลังฉัน ฉันคงมีชีวิตรอดไม่ถึงตอนนี้ตั้งนานแล้วล่ะ ดังนั้นได้โปรดพวกนายช่วยฉันปิดบังเรื่องที่เธอท้องด้วย”
บุณพจน์มองบุริศร์ ในดวงตาแฝงความอ้อนวอนเล็กน้อย
คิ้วบุริศร์ขมวดแน่นขึ้น
“พรวลัยเป็นผู้หญิง เธอเองจะไม่รู้ว่าตัวเองท้องได้ยังไง?”
“นักฆ่าเมื่ออยู่ในช่วงฝึกหรือมีภารกิจจะใช้ยาชะลอการมีประจำเดือนของตัวเอง ฉันกลัวเธอสงสัย เลยเปลี่ยนเป็นใช้วิตามินแทนยา ตอนนี้เธอคิดว่าประจำเดือนเธอมาช้าเพราะยา และไม่รู้ว่าท้อง แต่ถ้ารอต่อไปอีกก็คงปิดไว้ไม่อยู่แล้ว ปฏิกิริยาระหว่างท้องจะปรากฏออกมา”
นี่คือสิ่งที่บุณพจน์กังวลมากที่สุด
ภายในใจบุริศร์เข้าใจ บุณพจน์ไม่มีใครไว้ใจได้
“นายเองก็มีกำลังของตัวเองไม่ใช่เหรอ? ปกป้องผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้เหรอ?”
“คนที่แทรกซึมเข้าไปในองค์กรพ่อฉัน คราวก่อนเรื่องที่เกวลินไปตามหาวินเซนต์ก็อยู่เหนือการควบคุมฉัน เกือบทำให้วินเซนต์ตาย ก่อนที่ฉันยังสืบไม่ได้ว่าใครในองค์กรคือคนของพ่อฉัน ฉันไม่กล้าเสี่ยงเอาผู้หญิงและลูกของฉันส่งไปให้พวกมัน ตอนนี้คนที่ฉันไว้ใจได้เพียงคนเดียวคือนาย”
แววตาที่บุณพจน์มองบุริศร์นั้นร้อนแรงมาก ร้อนแรงจนทำให้บุริศร์ไม่มีทางปฏิเสธ
“โอเค”
เขารู้ว่าตัวเองไม่ควรตอบตกลง
ระหว่างทางนี้ พวกเขามีเรื่องมากมาย มีความไม่แน่นอนและอันตรายมากเกินไป แต่เขาก็ยังตอบตกลง
ถึงจะไม่ได้เรียกบุณพจน์ว่าพี่ใหญ่ แต่บางอย่างที่มันติดในกระดูก ลบก็ไม่ออก เปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้
“ขอบใจ”
บุณพจน์พูดจบก็ยิ้ม รอยยิ้มเขามันบริสุทธิ์มาก สุกใสมาก เขาพิงอยู่บนตักบุริศร์ แล้วพูดขึ้นเสียงทุ้ม “ฉันง่วงแล้ว นอนแป๊บนะ”
พูดจบเขาก็หลับไปจริงๆ
เขาหลับอย่างมั่นคงมาก เอาความไว้วางใจมอบให้บุริศร์ทั้งหมด ราวกับพวกเขาเป็นพี่น้องกันมาหลายปี
เมื่อนรมนและพรวลัยกลับมา ก็เห็นภาพนี้
บุณพจน์หน้าตาหล่อเท่มาก อยู่กับบุริศร์ก็สะดุดตาอย่างยิ่ง และในตอนนี้สองหนุ่มหล่อนั่งด้วยกัน คนหนึ่งนอนตักอีกคนหนึ่ง ภาพนี้ทำให้คนเข้าใจผิดง่ายจริงๆ
พรวลัยรีบเดินเข้าไป นรมนก็ตามไปเช่นกัน แต่เมื่อจะเดินไปถึงด้านหน้าบุณพจน์ ทันใดนั้นพรวลัยก็หยุดฝีเท้า
“เกิดอะไรขึ้น?”
นรมนไม่ได้ระวัง เกือบชนพรวลัย
และในขณะนี้ จู่ๆ พรวลัยก็มองไปทางบุริศร์ แววตาแหลมคม จากนั้นมีดสั้นแหลมคมเล่มหนึ่งก็ควักออกมาจากข้อมือเสื้อในพริบตาเดียว พุ่งตรงไปที่บุริศร์