แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1306 ยังเล่นไม่พออีกเหรอ

บทที่ 1306 ยังเล่นไม่พออีกเหรอ

พอนรมนได้ยินข่าวนี้แล้วก็ตื่นตกใจเป็นอย่างมาก หนำซ้ำยังแทบไม่อยากจะเชื่อ

พวกเขาเอาธนเดชมาเป็นเบาะแสค้นหามาตั้งนานขนาดนี้ แต่กลับเป็นคนที่ตายไปตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว

เป็นไปได้ยังไงกัน?

แต่ว่าเธอเองก็รู้สึกว่าบุณพจน์ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหลอกตัวเอง

นรมนอดไม่ได้ที่จะยิ่งคิดถึงบุริศร์มากยิ่งขึ้นเลย

ถ้าหากบุริศร์อยู่ด้วยละก็ ก็จะสามารถคิดถึงความเกี่ยวข้องอย่างอื่นได้แล้วใช่ไหม?

บุณพจน์เองก็กำลังครุ่นคิดสิ่งที่ตัวเองสงสัย แล้วในตอนที่หันกลับไปมองนรมนนั้น ก็อึ้งไปเล็กน้อยครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้นว่า “บุริศร์ยังไม่กลับมาอีกเหรอ?”

“ยังค่ะ เหมือนกับว่าปีวราจะมีเรื่องอะไรปิดบังพวกเราไว้”

นรมนเล่าเรื่องราวทั้งหมดไปรอบหนึ่ง

เธอเป็นห่วงบุริศร์และกมลเป็นอย่างมาก แต่ว่าก็เป็นอย่างที่คุณนายใจภักดิ์พูดมา ปีวราไม่มีเหตุผลอะไรที่จะหักหลังคริชณะ งั้นที่เธอทำแบบนี้เพื่อเป้าหมายอะไรกันล่ะ?

“บางทีอาจจะเพื่อตบตาคนข้างนอก ให้พิรุณนึกว่าข้างกายคริชณะมีหนอนบ่อนไส้ขึ้น แล้วก็ล่อเสือออกจากถ้ำออกมา”

คำพูดของบุณพจน์ไม่ใช่ว่านรมนจะไม่เคยคิดมาก่อน แต่ว่ายังไงก็ยังคิดไม่ตกอยู่ดี

“ถ้าหากเป็นอย่างนี้ละก็ งั้นพวกบุริศร์ก็ควรส่งข่าวมาให้พวกเราซิ แต่กลับมีแค่หนอนพิษส่งสารตัวหนึ่งกลับมาว่า ให้เราอยู่นิ่ง ๆ ไม่ต้องเคลื่อนไหมกำลังพล ให้รอข่าวไปก่อน ฉันไม่รู้ว่าข่าวนี้จริงหรือปลอม เพราะฉะนั้นก็เลยเป็นห่วงอยู่บ้าง”

หัวคิ้วของนรมนขมวดกันนิ่ง

บุณพจน์พูดเสียงเรียบขึ้นว่า “ถ้าอยากจะรู้ว่าเรื่องจริงหรือปลอม อีกเดี๋ยวให้พรวลัยพาพวกเราเข้าไปหาก็พอแล้ว”

“อาการของพรวลัยในตอนนี้คุณเองก็เห็นแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าจะตื่นขึ้นมาได้เมื่อไหร่ แล้วถึงจะตื่นแล้ว พวกเราก็รับประกันไม่ได้ว่าพรวลัยจะช่วยเหลือพวกเรา พี่ใหญ่ ฉันไม่รู้เรื่องความแค้นระหว่างพรวลัยและพิรุณ แต่ว่าในเมื่อเธอได้กินยาพิษไปอย่างเฉียบขาดแบบนั้น กลัวว่า……”

คำพูดที่เหลือนรมนไม่ได้พูดต่อ

เรื่องที่แก้ยากมากที่สุดบนโลกใบนี้ก็คือเรื่องความรู้สึก

บุณพจน์กลับหันไปมองพรวลัยที่ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียงทีหนึ่ง แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เธอจะต้องฟื้นแน่ คุณกลับไปก่อนเถอะ รอให้เธอตื่นแล้ว ผมจะโทรหาคุณแน่นอน ช่วงเวลานี้ก็ดูแลตัวเองให้ดี ๆ ไม่งั้นละก็บุริศร์จะต้องปวดใจแน่นอน”

นรมนไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวเองรู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่มักจะรู้สึกว่าบุณพจน์เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแล้ว

เรื่องของพิรุณ สำหรับเขาแล้วไม่ควรเป็นเรื่องสะเทือนใจเรื่องหนึ่งเหรอ?

แต่ทำไมเขากลับมีท่าทางดีใจเล็กน้อยล่ะ?

“พี่ใหญ่ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

นรมนถามขึ้นอย่างไม่ค่อยวางเล็กน้อย

“ไม่เป็นอะไร คุณกลับไปก่อนเถอะ”

บุณพจน์ออกคำสั่งไล่แขกขึ้นมาเลย นรมนเองก็ไม่รู้จะอยู่ที่นี่ต่อยังไงดี เพียงแต่แค่พยักหน้าเล็กน้อยแล้วก็จากไปเลย

ในตอนที่เธอเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วยแล้ว บุณพจน์ก็ปิดประตูลงทันที ท่าทีแบบนั้นทำให้นรมนรู้สึกหดหู่ขึ้นมาเล็กน้อยจริง ๆ

เธอไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนมากขนาดนี้เลยเหรอ?

ในตอนที่ห้องพักผู้ป่วยเหลือแต่บุณพจน์และพรวลัยแล้วนั้น บุณพจน์ก็จ้องมองไปที่พรวลัยบนเตียงทีหนึ่ง ในดวงตาแฝงไว้ด้วยความรู้สึกลึกซึ้งเสี้ยวหนึ่ง

“ยังจะแสดงไปถึงเมื่อไหร่? หนังตาก็กระตุกแล้ว อยู่กับผมมานานขนาดนี้แล้ว ยังคงโกหกไม่เป็นอีก พรวลัยที่เสแสร้งไม่เป็น คุณว่าสิบกว่าปีมานี้อยู่ข้างกายผมนี่อยู่มาได้ยังไงกันเนี่ย?”

น้ำเสียงของบุณพจน์แฝงไว้ด้วยความขบขันและรักใคร่เสี้ยวหนึ่ง

หลังจากที่พรวลัยโดนเปิดโปงแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา ในตอนที่สบเข้ากับแววตาแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มของบุณพจน์นั้น ที่หัวใจก็อึ้งไปครู่หนึ่ง

ถึงแม้ว่าจะผ่านมาสิบสองปีแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ยังคงไม่มีทางที่จะต้านทานเสน่ห์ของเขาได้

ยังคงแค่รอยยิ้มจาง ๆ ของเขาอันเดียวก็สะเทือนไปหมดทั้งหัวใจแล้ว จนต้องโอนอ่อนต่อเขา โดยไม่สนใจอะไรเลย

พรวลัยรู้สึกโกรธเคืองที่ตัวเองเป็นแบบนี้เล็กน้อย

เธอรีบหันหน้าไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกับว่าไม่ไปมองบุณพจน์ก็จะสามารถลืมไปว่าคนคนนี้เป็นลูกชายของพิรุณ เป็นศัตรูของเธอได้

ตอนแรกนั้นบุณพจน์ยังยิ้มอยู่ แต่ว่าพอเห็นท่าทางพรวลัยที่หลบหนีอย่างกับนกกระจอกเทศเจอศัตรูนั้น ดวงตาก็อดไม่ได้ที่จะเคร่งขรึมลงหลายส่วน

“ยังเล่นไม่พออีกเหรอ?”

น้ำเสียงของเขาเย็นเฉียบ แฝงได้ด้วยความโกรธกรุ่น ๆ เสี้ยวหนึ่ง

พรวลัยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่กลับกัดริมฝีปากล่างเอาไว้และไม่ได้พูดอะไร

บุณพจน์รีบเดินหน้าขึ้นมา แล้วคว้าคางของเธอมาบีบไว้ บีบบังคับจนเธอจะไม่สบตาคู่ที่โกรธจัดคู่นั้นของเขาไม่ได้

“ผมถามคุณ ว่าเล่นพอหรือยัง?”

“ฉันไม่ได้เล่น! ปล่อยฉันนะ!”

น้ำเสียงของพรวลัยแหบแห้ง แต่กลับแฝงไว้ด้วยความดื้อดึงเสี้ยวหนึ่ง

คางของเธอรู้สึกเจ็บมาก

อยู่ข้างกายบุณพจน์มาสิบสองปี น้อยครั้งมากที่เขาจะหยาบคายกับเธอ นอกจากปีแรก ๆ ที่อารมณ์เสียใส่เธอแล้วนั้น ส่วนใหญ่แล้วเขาก็ดีกับเธอมากเลย แต่ท่าทางเหมือนอย่างตอนนี้ ที่ดวงตาแดงเดือดคู่นั้นที่แทบจะกินเธอเข้าไปยังไงอย่างงั้น ก็ยังเป็นครั้งแรกที่พรวลัยได้เห็นมาเหมือนกัน จึงอดไม่ได้ที่จะจิตใจหวั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย

เธอบอกกับตัวเองว่า คนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นลูกชายศัตรูของเธอ เธอไม่ควรและไม่สามารถที่จะโดนเขาลุ่มหลงและกระทบกระเทือนได้อีกแล้ว แต่ว่าความกลัวแบบนั้นกลับพุ่งทะยานขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจ เหมือนอย่างกับว่าเธอได้ทำเรื่องอะไรที่ทำผิดต่อเขาไปยังไงอย่างงั้น

เรื่องที่ทำผิดต่อเขาเหรอ?

ใช่ซิ

เธอได้ฆ่าลูกระหว่างพวกเขาไปเองกับมือ

คาดว่าเรื่องนี้บุณพจน์น่าจะรู้แล้วมั้ง

เขาชอบเด็กซะขนาดนั้น อยากจะได้ลูกซะขนาดนั้น แต่ว่าการกระทำทั้งหมดของเธอ ถึงแม้ว่าจะฆ่าเธอให้ตายไป บุณพจน์ก็คงจะไม่หายเกลียดหรอกมั้ง?

พรวลัยรู้มาตลอด ว่าบุณพจน์ไม่ใช่ผู้ชายที่ใจบุญสุนทาน ความโหดเหี้ยมของเขาเธอรู้ดียิ่งกว่าใครทั้งหมด

สิบสองปีมานี้ มือของบุณพจน์เปื้อนเลือดสด ๆ มาไม่น้อย เธอเคยเห็นมามากมายแล้ว แต่ว่าวิธีเหล่านั้น ความโหดร้ายและความโหดเหี้ยมเหล่านั้นต่างก็ไม่เคยใช้กับเธอมาก่อน

แต่ตอนนี้เขาจะจัดการกับเธอเหรอ?

ก็ใช่

เธอเป็นของขวัญบรรลุนิติภาวะของบุณพจน์ ตอนแรกก็เป็นแค่ของเล่นที่จะมีก็ได้ไม่มีก็ได้อยู่แล้ว พอมาตอนนี้เขาอยากจะฆ่าเธอ เธอเองก็ขัดขืนไม่ได้

บางทีเริ่มตั้งแต่วินาทีที่ปล่อยตัวพิรุณไป แล้วโดนพวกนรมนจับตัวกลับมานั้น เธอก็รู้แล้วว่า จุดจบที่รอตัวเองอยู่นั้นคืออะไร

สิ่งที่บุณพจน์เกลียดที่สุดก็คือการหักหลัง

เธอไม่เพียงแค่หักหลังเขา แต่ยังทำเรื่องที่โหดร้ายเช่นนี้ออกมาอีก แม้แต่ตัวเองก็ยังดูถูกตัวเองเลย แล้วบุณพจน์ล่ะจะขนาดไหน?

พรวลัยร้องไห้น้อยมาก แต่ว่าวินาทีนี้กลับยังไงก็อดกลั้นน้ำตาของตัวเองไว้ไม่อยู่

เธอนึกว่ายาพิษของตัวเองจะแรงมากพอ ตัวเองจะสามารถลงไปเจอกับพ่อแม่และญาติพี่น้องได้แล้ว แต่น่าเสียดายใครจะไปรู้ว่าเธอจะยังโดนช่วยชีวิตกลับมาได้อีก

โลกนี้สำหรับเธอแล้วนั้นมันได้พังพินาศไปตั้งนานแล้ว เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าต้องการอยู่เป็นเพื่อนบุณพจน์อีกสักหน่อย บางทีเธออาจจะไปตายตั้งนานแล้ว

มาวันนี้บุณพจน์ตามหาบุริศร์เจอแล้ว ตามหาญาติที่แท้จริงเจอได้แล้ว ในที่สุดเธอก็สามารถปล่อยมือได้แล้ว ทำไมถึงยังต้องช่วยชีวิตเธอด้วยนะ?

“ฆ่าฉันไปเถอะ”

ดวงตาของพรวลัยจ้องมองไปที่บุณพจน์ จ้องมองผู้ชายคนนี้ที่ติดตามมาตั้งแต่วัยรุ่น ถ้าจะพูดว่าสามารถปล่อยวางลงได้นั้นก็คือการโกหกแล้ว

เขาเป็นเหมือนกับเลือดเนื้อของเธอ ที่แยกกันไม่ออกมาตั้งนานแล้ว

แต่ว่าเธอไม่สามารถรักได้ ไม่สามารถคลอดลูกให้เขาได้ เธอทำไม่ได้

บางทีอาจจะมีแต่ตายเท่านั้นถึงจะสามารถหลุดพ้นได้

“คุณนี่คิดได้ง่ายนะ ฆ่าลูกของผมไปแล้ว ก็จะอยากจะหนีตายไปเลยเหรอ? คุณคิดว่าผมบุณพจน์เป็นคนที่จะบอกปัดไปได้ง่าย ๆ แบบนั้นเหรอ? พรวลัย เวลาที่คุณติดตามมาข้างกายผมก็ไม่น้อยแล้วนะ ทำไมถึงได้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งโง่ไปแล้วล่ะ ผมบุณพจน์เป็นคนที่มีความแค้นแล้วไม่ชำระเหรอ?” แววตาของบุณพจน์มีความเย็นชาอยู่บ้าง

เมื่อก่อนพรวลัยเคยคิดว่าตัวเองจะสามารถแบกรับความเย็นชาของบุณพจน์ไหว แต่ตอนนี้ถึงพบว่า ตัวเองประเมินตัวเองสูงไป

เธอรักบุณพจน์รักจนเข้ากระดูกดำ เธอแบกรับการที่บุณพจน์เย็นชาและเคียดแค้นต่อตัวเองไม่ไหว

ที่คางเจ็บปวดเป็นอย่างมาก กระเพาะก็ปวดแสบปวดร้อนอยู่เพราะว่าเพิ่งล้างท้องมา แต่ว่าล้วนเทียบกับเศษเสี้ยวความเจ็บปวดในใจไม่ได้

“คุณชายบุณพจน์อยากจะลงโทษฉันยังไง? ฉันจะไม่โต้แย้งสักคำเลย”

พรวลัยหลับตาลง

เธอไม่มีทางที่จะพูดคำพูดที่ตรงกับใจต่อใบหน้านี้ออกมาได้ เธอทำไม่ได้

นิ้วมือของบุณพจน์ใช้แรงขึ้นมาเล็กน้อย คางของพรวลัยก็แดงขึ้นมา แต่ว่าเธอกลับเพียงหลับตาไว้แน่น และไม่ร้องออกมาสักแอะอย่างดื้อด้าน

“ลงโทษคุณ? ลูก ๆ ระหว่างเราสี่คน มาโดนคุณทำให้ตายไปอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง แต่คุณแค่พูดว่าให้ลงโทษคุณคำเดียวก็พอแล้วเหรอ?”

ใจของพรวลัยโดนบีบจนเจ็บจี๊ด

ลูกเป็นความเจ็บปวดที่ลึกที่สุดในใจของเธอ

เธอเคยเตรียมการป้องกันแล้ว และพยายามป้องกันไม่ให้ตัวเองตั้งท้องอย่างสุดความสามารถ แต่ว่าเธอก็ยังตั้งท้องขึ้นมาได้ เธอเองก็ไม่อยากทำ เพราะนั่นก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอด้วยเช่นกัน!

พรวลัยน้ำตาไหลไปอย่างไม่มีสุ้มเสียง

บุณพจน์จ้องมองพรวลัยที่อยู่ตรงหน้า ในดวงตามีแววเจ็บปวดพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง

เขารีบก้มหน้าลงทันที แล้วก็จูบปากพรวลัยอย่างบ้าอำนาจขึ้นมาทันที

“อู้ว์ อู้ว์……”

พรวลัยอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เริ่มขัดขืนขึ้นมา แต่ว่ากลับโดนบุณพจน์ล็อกตัวไว้ด้วยมือข้างเดียว

จูบที่ร้อนแรงจนทำให้คนรู้สึกขาดอากาศหายใจ และบ้าอำนาจอย่างไม่ว่างเว้นแม้แต่อณูเดียว

ในตอนแรกพรวลัยยังพยายามขัดขืนอยู่ แต่ที่สุดแล้วต้านทานไม่ไหว จึงได้แต่ยอมปล่อยให้บุณพจน์ทำตามความต้องการไป

ช่างเถอะ

เขาอยากจะทำยังไงก็ทำไปเถอะ

พรวลัยยอมแพ้การต้านทานไป แต่กลับยิ่งทำให้บุณพจน์เกิดไฟโกรธอย่างหนึ่งขึ้นมา

อยู่ข้างกายเขามันเป็นทุกข์มากขนาดนี้เลยเหรอ?

ทั้ง ๆ ที่ทั้งสองคนต่างก็มีความรู้สึกต่อกัน ทั้ง ๆ ที่คนที่ฆ่าคนในครอบครัวเธอทั้งหมดไม่ใช่เขา แล้วมีสิทธิ์อะไรที่จะต้องให้เขามาเช็กบิลเรื่องทุกอย่างด้วย?

มีสิทธิ์อะไร?

บุณพจน์ปล่อยตัวพรวลัยออกอย่างรวดเร็ว เขาโกรธจนเตะเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าบินไปเลยทีเดียว จนเกิดเสียงดังขึ้นมาดังมาก

พรวลัยตกใจจนสะดุ้งขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วจ้องมองบุณพจน์ที่โกรธจัดอย่างเหม่อลอยเล็กน้อย

เหมือนกับว่าเธอจะไม่เคยเห็นบุณพจน์ที่อารมณ์ฉุนเฉียวแบบนี้มาก่อน

“คุณชายบุณพจน์ คุณ……”

“ทางที่ดีที่สุดคุณหุบปากให้ผมไปเลย ไม่งั้นผมกลัวว่าผมจะฆ่าคุณได้จริง ๆ!”

บุณพจน์หันหน้ากลับไปอย่างรวดเร็ว ดวงตาแดงก่ำจนทำให้พรวลัยตกใจจนสะดุ้งไปทีหนึ่ง

สีหน้าของเธอขาวซีดจนทำให้คนเห็นแล้วขัดตา

บุณพจน์พยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พยายามให้ไฟโกรธของตัวเองสงบนิ่งลงมา

เขาไม่ได้โกรธพรวลัย แต่โกรธตัวเอง

“ทำไมถึงได้ปล่อยตัวพิรุณไป? เขามีความแค้นที่ลึกราวกับมหาสมุทรกับคุณ ทำไมคุณถึงปล่อยเขาไปได้? อยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นบุริศร์หรือว่านรมน ก็จะต้องไม่มีใครปล่อยตัวเขาไปทั้งนั้น ทำไมคุณจะต้องมาลงมือเองด้วย? ทำไมคุณจะต้องมาเปิดเผยสถานะของตัวเองด้วย?”

บุณพจน์พยายามให้ลมหายใจของตัวเองสงบนิ่งลงมาเล็กน้อย

พอพรวลัยได้ยินคำพูดของบุณพจน์แล้ว ก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่นขึ้นว่า “ใช่ บุริศร์กับนรมนนั้นจะไม่มีทางปล่อยตัวพิรุณไป แต่ว่าก็ไม่ฆ่าเขาเหมือนกัน พวกเขาจะเอาตัวพิรุณส่งให้กับตำรวจหรือว่ากรมทหาร พอถึงตอนนั้นถึงแม้จะผ่านการสอบสวนแล้ว เขาเองก็แค่ตายด้วยกระสุนนัดเดียวเท่านั้น มือของเขาเปื้อนความผิดบาปไว้มากมาย บนตัวเขาแบกชีวิตคนไว้มากมายขนาดนั้น แล้วมีสิทธิ์อะไรที่จะมาให้ตายอย่างง่ายดายด้วย? และนี่ยังถือว่าเป็นจุดจบที่ดีที่สุด แต่ถ้านรมนและบุริศร์ไม่ได้เฝ้าเขาไว้ให้ดี แล้วโดนคนของเขามาช่วยตัวไป แล้วครั้งหน้าที่จะจับตัวพิรุณได้อีกจะเป็นเมื่อไหร่? ฉันรอมาสิบสองปีแล้ว ทุกค่ำคืนฉันมักจะฝันเห็นญาติ ๆ ของฉันมาร้องไห้กับฉัน มาถามฉันว่าทำไมยังไม่แก้แค้นให้พวกเขา ฉันอายุสามสิบแล้ว ฉันไม่มีเวลาอีกมากมายให้มารออีกสิบสองปีแล้วนะ”

พูดไปพูดมา น้ำตาของพรวลัยก็ไหลออกมา

“คุณรู้ไหม? ตอนที่ฉันอายุสิบแปดถูกเอาไปเป็นของขวัญมอบให้คุณเป็นของขวัญบรรลุนิติภาวะนั้น ในใจของฉันมีความรู้สึกยังไง? ฉัน คนที่ร่างกายสะอาดบริสุทธิ์ กลับต้องมาบำเรอลูกชายของศัตรู และที่สำคัญยังจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร้ศักดิ์ศรีอีก ปีนั้นฉันมีชีวิตอยู่มาได้ยังไงนั้น คุณรู้หรือเปล่าคะ?”

“ผมรู้”

อยู่ ๆ ดวงตาของบุณพจน์ก็ขรึมลงมาหลายส่วน คำพูดของเขาทำให้พรวลัยนิ่งอึ้งไปเลย

“คุณรู้? คุณจะไปรู้อะไร? คุณไม่รู้อะไรทั้งนั้น!”

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท