นรมนกับบุริศร์หนีกลับมาที่หมู่บ้านดารายนอย่างจนตรอก
ทำไมถึงเรียกว่าหนี?
เพราะลมหายใจของนรมนมีความยุ่งเหยิง ส่วนบุริศร์ก็เกือบถูกนงลักษณ์พบเข้า
แค่เกือบไป
ถ้าบุริศร์ช้ากว่านี้หนึ่งนาที พวกเขาอาจจะถูกพบไปแล้ว
เรื่องวันนี้สำหรับนงลักษณ์ อัปยศน่าละอาย ไม่ควรให้คนอื่นรู้ โดยเฉพาะหลานอย่างนรมน แต่พวกเขากลับรู้เยอะขนาดนี้โดยไม่ตั้งใจ
นรมนยังคงไม่มีการตอบสนองจากเรื่องเมื่อสักครู่นี้ เธอขดตัว ทุกข์ทรมาน แค่นึกถึงสภาพอับจนไร้หนทางของนงลักษณ์ สีหน้าที่ถูกข่มเหงรังแก ความโกรธในใจของเธอก็โหมกระหน่ำ
ลูกสาวของตระกูลพรโสภณเคยถูกรังแกแบบนี้เมื่อไหร่?
นั่นคือคุณป้าของเธอนะ!
แน่นอนบุริศร์รู้ว่าตอนนี้นรมนเสียใจ เขาก็ไม่พูดโน้มน้าว แต่เทน้ำอุ่นส่งให้เธอ
“ดื่มน้ำสักหน่อย สงบจิตสงบใจ เรื่องวันนี้พวกเราจำเป็นต้องค่อยๆ ปรึกษากันให้ดี”
นรมนมองร่างที่คุ้นเคยตรงหน้า หัวตาร้อนผ่าว
“ฉันไม่คิดเลยว่าป้าจะต้องลำบากแบบนี้ ฉันคิดว่าเธอแค่ถูกลักพาตัวไป จากนั้นใช้ความสามารถของตนเองจนได้เป็นท่านผู้หญิงเจ็ดของพระราชาประเทศ F จนแม้แต่คลอดราเชนออกมา ฉันคิดว่าชีวิตของเธอสูงส่ง สามารถกุมชะตาชีวิตของตนเองได้ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะมีชีวิตต่ำต้อยแบบนี้ มิน่าล่ะ มิน่าล่ะเธอถึงกลับบ้านไม่ได้ มิน่าล่ะเธอถึงไม่อาจรู้จักกับคุณตาได้ มิน่าล่ะเธอถึงเอาแต่ไม่สนใจราเชน จนแม้แต่ไล่ราเชนออกไปจากประเทศ F ด้วยซ้ำ ที่แท้ทุกอย่างเป็นเพราะชีวิตของเธอไม่มีอิสระ ถ้าพูดแบบนี้ ปีนั้นทุกสิ่งที่ทำกับคุณอารองก็ทำไปเพราะฝืนใจ?”
น้ำตาของนรมนไหลริน
คุณป้าของเธอ
หญิงสาวที่สูงส่ง กลับมีชีวิตอย่างต่ำต้อยอยู่ในที่ที่คนอื่นมองไม่เห็นเช่นนี้
อาจมีเพียงผู้หญิงด้วยกันถึงจะเข้าใจความโศกเศร้าของผู้หญิงในเวลานี้
นรมนเข้าอกเข้าใจ
บุริศร์ถอนหายใจออกมา ดึงนรมนมาไว้ในอ้อมแขน กล่าวเสียงเบา “ทุกคนต่างมีความจำใจ แต่ผมคิดว่าทุกคนต่างมีขอบเขตเป็นของตนเอง ถึงแม้ผมจะไม่รู้ว่าขอบเขตของนงลักษณ์อยู่ตรงไหน แต่ถ้าเกินขอบเขตนั้น นงลักษณ์จะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน”
“ขอบเขต คนที่แม้แต่ชีวิตที่มีเกียรติยังเป็นเรื่องเพ้อฝันอย่างหนึ่งยังจะมีขอบเขตด้วยเหรอ?”
นรมนเงยนัยน์ตาที่พร่ามัวมองบุริศร์ ท่าทางเจ็บปวดใจทำให้หัวใจของบุริศร์เจ็บปวดเบาๆ
“มีสิ คุณอาบุญทิวา และราเชนต่างเป็นขอบเขตของเธอ”
นรมนอดนึกถึงการกระทำของนงลักษณ์ก่อนหน้านี้ไม่นานขึ้นมาไม่ได้
เพื่อคุณอาบุญทิวา นงลักษณ์เป็นหุ่นเชิดมานานหลายปี เพื่อราเชน เธอคุกเข่าขอร้องผู้ชายคนนั้น เห็นได้ว่าสองคนนี้ในใจของนงลักษณ์มีความสำคัญมาก
บุริศร์เห็นนรมนหน้าตาเหมือนกับคิดออก จึงพูดต่อ “ถึงแม้ผมจะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่ดูจากเรื่องในวันนี้ คุณอาบุญทิวายังคงมีชีวิตอยู่แน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาจะใช้อะไรควบคุมนงลักษณ์ ถึงแม้จะมีราเชนอยู่ในมือ น่าจะไม่มีโอกาสชนะมากนัก ไม่อย่างนั้นนงลักษณ์คงจะไม่สามารถเด็ดขาดได้แบบนี้”
นรมนถึงจะพยักหน้า
เธอดื่มน้ำอุ่นในมือ เมื่อน้ำอุณหภูมิอุ่นไหลลงสู่ลำคอ เธอถึงจะรู้สึกอบอุ่นเล็กน้อย
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?”
นัยน์ตาของนรมนเปล่งแสงแห่งความโกรธและเกลียดชัง
เหยียดหยามคุณป้าของเธอแบบนี้ แค้นนี้เธอจะต้องชำระ!
บุริศร์กลับตอบเสียงเบา “ไม่รู้สิ พวกเรามองเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน บางทีตัวตนของเขาอาจมีเพียงนงลักษณ์ที่รู้”
“แต่เธอคงจะไม่พูดหรอก พวกเราก็ไม่อาจถามได้”
แค่ถามก็ทำให้นงลักษณ์รู้ว่าพวกเขามองเห็นเรื่องวันนี้ทั้งหมด
บุริศร์ก็เงียบไม่พูดจา
สมองของนรมนทำงานอย่างรวดเร็ว
“ผู้ชายคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับพิรุณ จนแม้แต่ควบคุมความเคลื่อนไหวของประเทศ F ตัวตนของเขาไม่ธรรมดาแน่นอน บางทีเขาอาจจะเป็นคนประเทศ F”
บุริศร์ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ ก็อดนิ่งไปไม่ได้
“เดิมคิดว่ากล้าณรงค์คือ BOSS ใหญ่ ตอนนี้มองดูแล้ว กล้าณรงค์ไม่ได้สำคัญเลย ในทางกลับกันพิรุณถึงจะคุ้มค่าให้คนคิดไตร่ตรอง”
“คุณมีแนวทางไหม?”
แววตาของนรมนแจ่มแจ้งทันที
“ถ้าผู้ชายคนนั้นมีความเกี่ยวข้องกับประเทศ F พิรุณก็อาจจะเป็นคนประเทศ F จนมีความเป็นไปได้ว่าอยู่ในตำแหน่งสำคัญด้วยซ้ำไป”
ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ นรมนอึ้งไป จากนั้นเกิดความคิดแวบขึ้นมาในสมองกะทันหัน
“ฉันนึกออกแล้ว”
“อะไรเหรอ?”
นรมนคว้าแขนของบุริศร์ด้วยความตื่นเต้น ตอนที่ฉันเจอพิรุณรู้สึกคุ้นๆ เหมือนว่าเคยเจอเขาที่ไหน แต่เห็นได้ชัดว่าฉันไม่เคยเจอเขามาก่อน แล้วทำไมถึงรู้สึกแบบนี้
“เพราะบุณพจน์ใช่ไหม? พวกเขาเป็นพ่อลูกกัน!”
“ผิด ถึงแม้พวกเขาจะเป็นพ่อลูกกัน แต่บุณพจน์ไม่เหมือนพิรุณเลยสักนิด ในทางตรงกันข้ามกลับเหมือนป้าโอมาก ลูกชายเหมือนแม่ยังมีดีอยู่บ้าง แต่บุณพจน์ไม่มีเงาของพิรุณอยู่บนร่างกายเลยสักนิด บุริศร์ ฉันไม่เคยเจอพิรุณ ดังนั้นคุณจึงเดาแบบนี้ แต่ฉันเคยเจอแล้ว พิรุณไม่เหมือนกับบุณพจน์สักนิดจริงๆ ตรงกันข้ามกลับมีคนหนึ่งที่เหมือนเขามาก”
บุริศร์ได้ฟัง งุนงงทันที
“ใครกัน?”
“ราเชน!”
คำตอบของนรมนทำให้บุริศร์อึ้งไปอีกครั้ง
“ใครนะ ?”
นรมนรู้ว่าบุริศร์แปลกใจ แม้แต่ตัวเธอเองยังแปลกใจด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้คิดดูแล้ว พวกเขาสองคนมีความคล้ายคลึงกันมากเกินไป
“พิรุณคล้ายกับราเชนมาก พูดให้ถูกคือ จมูกและดวงตาของราเชนเหมือนกับพิรุณมาก ส่วนปากของเขาเหมือนกับคุณป้ามาก”
หลังจากนรมนพูดออกมา เธอค่อยๆ ตั้งสติ รู้ว่าบุริศร์กำลังคาดเดาอะไรอยู่ พูดตามตรงเธอก็กำลังคาดเดาเหมือนกัน
เธอมองบุริศร์ กระซิบว่า “คุณคิดว่าพิรุณจะเป็นพระราชาของประเทศ f หรือเปล่า?”
“ไม่มีทาง!”
บุริศร์ปฏิเสธทันที
“พระราชาของประเทศ F อยู่ในประเทศตลอด และเมื่อสามสิบปีก่อนพระราชาของประเทศ F ยังมาเยี่ยมเยือนประเทศของพวกเราอยู่เลย สิ่งนี้อยู่ในบันทึก พิรุณในตอนนั้นกลับอยู่ที่หมู่บ้านดารายน ยกเว้นเขามีเทคนิคโคลนนิ่ง ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเป็นแบบนี้แน่นอน”
“งั้นเป็นไปได้ไหมว่า พิรุณกับพระราชาของประเทศ F จะเป็นฝาแฝดกัน?”
นรมนใช้ความคิดอย่างเต็มที่
บุริศร์ยื่นมือออกไปจิ้มจมูกของนรมน หัวเราะอย่างเอาอกเอาใจ “คุณโง่หรือเปล่าเนี่ย? ยีนของฝาแฝดนั้นสืบทอดกัน แต่พระราชบุตรและพระราชธิดาก็ดี หรือจะเป็นเจ้าหญิงต่างไม่มีใครสักคนเป็นฝาแฝด”
“งั้นทำไมถึงเหมือนขนาดนี้ล่ะ?”
นรมนกระซิบกระซาบ สีหน้าเศร้าหมอง
บุริศร์กลับพูดขึ้นว่า “อยากจะรู้เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
“คุณมีวิธีเหรอ?”
“ยังจำหงส์ของสหภาพ QTของพวกเราได้ไหม?”
การไถ่ถามอย่างฉับพลันของบุริศร์ทำให้นรมนงุนงง จนแม้แต่ไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ
ตอนนี้ไม่ได้คุยเรื่องของพิรุณอยู่หรือไง ทำไมพูดถึงหงส์
แต่นรมนก็ไม่ได้เอ่ยถาม แค่มองบุริศร์ด้วยแววตาสงสัย แววตาที่มองบุริศร์นั้นทำให้รู้สึกจั๊กจี้
เขาเอื้อมมือออกไปปิดตาของนรมน
ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้เลยว่าแววตาสับสนนั้นของเธอดึงดูดให้คนอยากทำเรื่องผิดกฎหมายแค่ไหน
“ทำอะไรเนี่ย?”
นรมนไม่พอใจคิดจะดึงมือบุริศร์ออก กลับพบว่าบุริศร์กอดตนเองจากด้านหลัง วางเธอไว้บนตัก
ท่าทางที่คลุมเครือเช่นนี้ ทำให้คนเก้อเขิน เพียงแต่ทั้งสองคนอยู่ในห้อง แถมยังเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว และไม่มีใครเห็น
นรมนคล้อยตามเขา
“พูดก็พูดมาสิ คุณทำอะไรเนี่ย?”
นรมนพยายามดิ้นสองครั้งตามอำเภอใจก็ยอมแพ้ อิงแอบหน้าอกของบุริศร์ ตั้งใจฟังเสียงหัวใจเต้นแรงของเขาและกระซิบถาม
ในที่สุดความวุ่นวายในก้นบึ้งหัวใจของบุริศร์ก็สงบลง เขากระซิบว่า “หงส์อยู่ในประเทศ F”
“แต่ตอนนี้ประเทศ F ปิดชายแดนอยู่ไม่ใช่รึ? สัญญาณก็ถูกบล็อก คุณติดต่อเขาได้ยังไง?”
“พวกเรามีวิธีการติดต่อและช่วงสัญญาณแยกออกจากกัน”
ในระหว่างพูดบุริศร์นำสิ่งที่เหมือนกับเครื่องส่งโทรเลขออกมาจากเครื่องส่งสาร ของสิ่งนั้นดูเก่าไปหน่อย นรมนอดอ้าปากค้างไม่ได้
“นี่……”
“ชวู่ ผมจะแสดงให้ดูก็พอ”
บุริศร์ยิ้มบางๆ ประคองนรมนนั่งลงด้านข้าง จากนั้นมาตรงหน้าเครื่องส่งโทรเลขเสียบแหล่งจ่ายไฟเข้าไป เริ่มทำการเคาะ
การเคาะที่มีแบบแผนทำให้นรมนเข้าใจทันที นี่อาจเป็นช่วงคลื่นรหัส
เธอแปลกใจมาก
วิธีส่งแบบนี้โบราณมาก แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนา ละทิ้งวิธีติดต่อแบบนี้ไปนานแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าบุริศร์จะเลือกหยิบใช้โอกาสนี้
วิธีการติดต่อแบบนี้ ถึงแม้ช่วงคลื่นจะถูกคนสกัดจับได้ ถ้าไม่มีรหัสพิเศษก็จะไม่ทราบเนื้อหาการติดต่อของพวกเขา
นรมนจำต้องบอกว่าสามารถเห็นเรื่องแปลกใจและดีใจจากบุริศร์ได้ทุกวัน
นรมนไม่รู้ว่าบุริศร์ส่งอะไรไป และก็ไม่ได้เอ่ยถาม เธอแค่ยืนอยู่ด้านข้าง ชงชาให้บุริศร์หนึ่งกา รอคอยอยู่เงียบๆ
ผ่านไปไม่นานอีกฝ่ายก็ส่งช่วงคลื่นมา ทำให้นรมนดีใจมาก
“ติดต่อได้แล้วใช่ไหม?”
“อืม”
ตรงกันข้ามกับความดีใจของนรมน บุริศร์กลับนิ่งเฉยมาก ราวกับไม่มีอันตรายแฝงเร้นในการติดต่อนี้
“อีกฝ่ายว่าไงบ้าง?”
ในขณะนี้ นรมนไม่รู้อะไรสักอย่าง แต่กลับกระวนกระวายสุดๆ
บุริศร์เห็นท่าทางร้อนรนของเธอ จู่ๆ ก็รู้สึกว่านรมนที่เป็นแบบนี้น่ารักทีเดียวเชียว จึงอดพูดด้วยรอยยิ้มไม่ได้ “ให้รางวัลผมสิ ผมจะบอกคุณ”
“ฉันต้มชามาให้คุณกาหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอ?”
นรมนชี้ไปที่ชาดำตรงหน้า
บุริศร์กลับยิ้มพูด “ผมต้องการรางวัลอย่างอื่น”
นรมนนึกอะไรออกทันที หน้าแดงลามไปถึงคอ ถลึงตาใส่บุริศร์ “หน้าไม่อาย วันๆ คิดแต่เรื่องแบบนั้น คุณไม่กลัวไตพร่องหรือไง”
บุริศร์งุนงงทันที
“ไตพร่อง? ผมแค่อยากจูบคุณ ทำไมถึงจะไตพร่อง?”
สิ้นคำ นรมนรู้ว่าตนเองคิดไปอีกเรื่องหนึ่ง หน้าแดงจนเลือดแทบหยดออกมาทันที
มองเห็นท่าทางของนรมน บุริศร์จะไม่คาดเดาอะไรได้อย่างไร หัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“คุณภรรยา คุณคิดจะ……”
“หุบปาก! รีบพูดออกมา อีกฝ่ายว่าไงบ้าง?”
นรมนอายจะแทบจะหาที่มุดลงไป ในขณะนี้เห็นท่าทางลำพองใจของบุริศร์ก็ยิ่งเขิน เธอจูบลงบนใบหน้าบุริศร์อย่างรวดเร็ว จากนั้นหันตัวเดินไป ท่าทางเขินอายทำให้คนจั๊กจี้หัวใจจริงๆ
บุริศร์ยากที่จะควบคุมอารมณ์ของตนเอง ยิ้มกล่าว “หงส์บอกว่าเธอจะสืบเรื่องนี้ให้ อีกสักพักจะส่งข่าวให้พวกเรา”
“อีกสักพักนานแค่ไหน?”
“ไม่รู้สิ อาจจะเร็วมาก หรืออาจต้องใช้เวลาสักพัก”
บุริศร์กำลังพูด จู่ๆ เครื่องโทรเลขก็มีเสียงดังขึ้น