แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1304 คุณอย่าร้อนใจเกินไปนะ

บทที่ 1304 คุณอย่าร้อนใจเกินไปนะ

รนหาที่ตายเองเหรอ?

นรมนไม่รู้เธอรู้แต่เพียงว่าจะต้องรู้สถานะของปีวราให้ชัดเจน ในเมื่อบุริศร์และกมลต่างก็ไม่อยู่ข้างกาย ในใจของเธอจึงมักจะไม่มีความสบายใจ

“งั้นหรือไม่ฉันไปเป็นเพื่อนเธอดีกว่า”

นงลักษณ์นั้นเป็นห่วงนรมนมากเลย

นรมนจ้องมองนงลักษณ์ แล้วก็นึกถึงแม่ของตัวเองคิม ถ้าคิมยังมีชีวิตอยู่ละก็ ตอนนี้ก็น่าจะเป็นห่วงตัวเองมากเหมือนกันมั้ง

ความเจ็บปวดเสี้ยวหนึ่งกะพริบผ่านไปในดวงตา

เธอพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ถ้าหากแม่ของฉันยังมีชีวิตอยู่ละก็ ก็น่าจะเป็นห่วงฉันเหมือนคุณเลย”

นงลักษณ์อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ถอนหายใจและพูดขึ้นว่า “เรื่องที่เสียใจมากที่สุดในชีวิตฉันก็คือไม่รีบกลับมาให้เร็วที่สุด”

“มีเรื่องบางเรื่องสวรรค์คงจะกำหนดมาแล้วมั้ง โชคชะตาบางอย่างก็ร้องขอมาไม่ได้ รอให้เรื่องราวพวกนี้จบลงแล้ว กลับไปเยี่ยมคุณตากับฉันนะคะ หลายปีมานี้ท่านคิดถึงคุณมากเลยค่ะ”

นรมนรู้ว่าตัวเองไม่สามารถเชื่อถือนงลักษณ์ได้ทั้งหมด แต่ว่าความรู้สึกบางอย่างมันก็ห้ามเอาไว้ไม่อยู่จริง ๆ

แต่ว่านงลักษณ์จะไม่ให้เธอผิดหวัง

นงลักษณ์พยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันจะไปเตรียมตัวสักหน่อย เดี๋ยวจะได้ไปหมู่บ้านน้ำใสพร้อมกับเธอ”

“ได้ค่ะ”

นรมนพยักหน้าเล็กน้อย แล้วตัวเองก็หมุนตัวกลับไปเตรียมตัวเล็กน้อยด้วยเช่นกัน

เธอเอาหมู่บ้านดารายนมอบหมายให้กับมิลิน มีมิลินอยู่เป็นหลัก ที่นี่ก็น่าจะไม่มีปัญหา ที่สำคัญหมู่บ้านดารายนก็ยังเป็นบ้านเกิดของมิลินมาตลอด และนรมนก็ทิ้งกิจจาไว้ที่นี่ด้วย

สำหรับการจัดแจงของนรมนนั้น กิจจาเองก็พยักหน้าตอบตกลงแล้ว เพียงแต่แค่ขอให้นรมนระวังความปลอดภัยด้วย

ไม่นานหลังจากนั้น นรมนและนงลักษณ์ทั้งสองคนก็ไปหมู่บ้านน้ำใสแล้ว

หมู่บ้านน้ำใสยังคงเป็นเหมือนกับตอนที่บุริศร์อยู่ยังไงอย่างงั้น ในตอนที่ผู้ใหญ่บ้านเตชิตเห็นนรมนนั้นก็ยังรู้สึกแปลกใจไปบ้าง

“คุณนายบุริศร์? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้? คุณไปหลังเขากับคุณบุริศร์แล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ปีวรากลับมาหรือยังคะ?”

พอผู้ใหญ่บ้านเตชิตได้ยินคำถามของนรมน ก็ส่ายหัวอย่างรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง

“ปีวราพาคุณหนูกมลไปตามหาพวกคุณแล้ว พวกคุณไม่ได้เจอกันเหรอครับ?”

“ฉันสามารถพบภรรยาคุณหน่อยได้ไหม?”

นรมนไม่ได้ตอบ ยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ว่าผู้ใหญ่บ้านเตชิตเหมือนกับว่าจะมองอะไรออกเล็กน้อยแล้ว

“ใช่ปีวราทำเรื่องอะไรผิดไปหรือเปล่า?”

“ผู้ใหญ่บ้านเตชิตรู้สึกว่าปีวราสามารถทำอะไรผิดได้บ้างล่ะ?”

นรมนไม่ได้ตอบแต่กลับถามกลับ จนชั่วขณะหนึ่งทำให้ผู้ใหญ่บ้านเตชิตรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา

“ผม ไม่รู้”

“ยังไงก็ให้ฉันเจอกับคุณนายใจภักดิ์เถอะ”

คุณนายใจภักดิ์เป็นลูกหลานของหมู่บ้านดารายน ยังไงนรมนก็ยังหวังว่าเธอจะสามารถเห็นแก่ความผูกพันเก่าได้

ผู้ใหญ่บ้านเตชิตครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ไม่ว่าปีวราจะทำอะไรลงไป ผมก็ยังหวังว่าอยู่ต่อหน้าภรรยาผมคุณจะสามารถถนอมน้ำใจหน่อย สุขภาพของเธอไม่ค่อยดี ผมไม่อยากจะให้เรื่องอะไรของปีวราทำให้เธอเป็นอะไรไป ถือซะว่าผมขอร้องคุณล่ะ”

นรมนไม่มีทางที่จะรับปากกับผู้ใหญ่บ้านเตชิตได้ ในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับบุริศร์และกมล

เธอพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ผู้ใหญ่บ้านเตชิต ถ้าหากเป็นไปได้ละก็ ฉันก็ไม่อยากจะรบกวนการพักผ่อนและการพักฟื้นของคุณนายใจภักดิ์หรอกค่ะ แต่ว่าตอนนี้ปีวราพาสามีและลูกสาวของฉันไปแล้วไม่มีเบาะแสอะไรเลย แล้วสามีของฉันก็เป็นผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบันของหมู่บ้านดารายน คุณรู้สึกว่าฉันควรจะถามคุณนายใจภักดิ์เกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อยไหมล่ะ?”

ผู้ใหญ่บ้านเตชิตนิ่งอึ้งไปทันทีเลย

“เป็นไปไม่ได้ เด็กอย่างปีวราจะไปทำเรื่องอย่างนี้กับคุณบุริศร์และคุณหนูกมลได้ยังไง?”

“ฉันเองก็ไม่เชื่อ เพราะฉะนั้นก็เลยจะมาทำความเข้าใจสถานการณ์สักหน่อย ในเมื่อทั้งสามีฉันและฉัน ต่างก็ไม่อยากจะเป็นศัตรูกับหมู่บ้านน้ำใส”

คำพูดของนรมนทำให้ผู้ใหญ่บ้านเตชิตเงียบขรึมไปเลย

“ยัยลูกอกตัญญูนี่ ดูซิกลับมาฉันจะตีขาเธอให้หักไปเลย!”

“นั่นก็ยังจะต้องตามหาตัวเธอให้เจอก่อนถึงจะได้”

นรมนพูดไปแล้วก็เดินเข้าไปเลย และครั้งนี้ผู้ใหญ่บ้านเตชิตก็ไม่ได้ขัดขวางอีก

นงลักษณ์ตั้งแต่ที่มาถึงที่นี่ก็ไม่ได้พูดอะไรเลย ได้แต่ติดตามอย่างสงบเงียบอยู่ข้างหลังนรมน พอเห็นนรมนเดินเข้าไปก็เดินตามเข้าไปด้วย

ผู้ใหญ่บ้านเตชิตไม่รู้จักสถานะของนงลักษณ์ แน่นอนว่าก็ไม่กล้าขวางด้วยเช่นกัน

ในตอนที่นรมนเดินเข้ามาถึงข้างเตียงของคุณนายใจภักดิ์นั้น คุณนายใจภักดิ์กำลังตื่นอยู่พอดี

“คุณนายบุริศร์ นี่คุณจะ……”

“คุณนายใจภักดิ์ ฉันสามารถพูดคุณส่วนตัวกับคุณสักหน่อยได้ไหม?”

แววตาของนรมนอ่อนโยน ให้คนมีความรู้สึกสบายใจอย่างมากอย่างหนึ่ง

คุณนายใจภักดิ์พยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็ยิ้มและพูดกับผู้ใหญ่บ้านเตชิตขึ้นว่า “ฉันอยากจะกินซุปไก่ดำที่คุณตุ๋นเองกับมือ คุณไปทำให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

เมื่อภรรยาร้องขอเช่นนี้แล้ว ผู้ใหญ่บ้านเตชิตยังจะพูดอะไรได้อีกล่ะ?

“คุณอย่าร้อนใจเกินไปนะ”

ผู้ใหญ่บ้านเตชิตกำชับขึ้นอีกประโยคหนึ่งแล้วก็จากไป

นงลักษณ์เองก็เดินออกไปหลังจากที่นรมนส่งสัญญาณให้

ในตอนที่ในห้องเหลือแต่นรมนและคุณนายใจภักดิ์นั้น ดวงตาของคุณนายใจภักดิ์ก็มีความกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

“คุณนายบุริศร์ ปีวราของบ้านเราทำเรื่องอะไรผิดพลาดไปใช่หรือเปล่าคะ?”

นรมนเองก็เป็นแม่คนหนึ่ง พอเห็นคุณนายใจภักดิ์เป็นแบบนี้ แน่นอนว่าก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาบ้างแล้ว

เธอพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “มีเรื่องนิดหน่อย แต่ว่าคุณอย่าเพิ่งร้อนใจไป ฉันแค่มาทำความเข้าใจสถานการณ์หน่อยเท่านั้น”

พูดจบนรมนก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดกับคุณนายใจภักดิ์รอบหนึ่ง เล่าเรื่องได้อย่างละเอียด ไม่มีตกหล่นสักนิด

สีหน้าของคุณนายใจภักดิ์ดูไม่ดีขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากที่นรมนพูดจบแล้วก็พูดขอโทษขึ้นว่า “ขอโทษนะคะ คุณนายบุริศร์ เป็นเพราะว่าฉันสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดี ฉันทำผิดต่อผู้ใหญ่บ้าน”

“คุณอย่าพูดแบบนี้ ตอนนี้ยังหาปีวราไม่เจอ ใครก็ไม่รู้ว่าตกลงมันเป็นเรื่องอะไร ฉันเชื่อว่าปีวราน่าจะไม่ทำร้ายสามีของฉันกับลูกสาว เพียงแต่ว่าตอนนี้ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน คุณนายใจภักดิ์ คุณจะสามารถช่วยลองคิดดูหน่อยได้ไหม ว่าปีวราจะสามารถไปที่ไหนได้บ้าง”

ว่ากันว่าไม่มีใครเข้าใจลูกสาวได้เท่ามารดา นรมนมักจะรู้สึกว่าคุณนายใจภักดิ์น่าจะให้เบาะแสอะไรกับเธอได้

เพียงแต่ว่าคุณนายใจภักดิ์กลับส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า “เด็กคนนั้นนิสัยเถื่อนมาตั้งแต่เด็ก ฉันกับพ่อของเธอก็มีลูกแค่คนนี้ แล้วสุขภาพของฉันก็ไม่ค่อยดี เพราะฉะนั้นตั้งแต่เด็กก็มักจะตามใจเธอ ยังจำได้ว่าตอนนั้นที่หัวหน้าคริชณะบอกว่าจะผลักดันเธอนั้น เธอดีใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่อยากจะเชื่อว่าลูกสาวของฉันจะไปเป็นคนสมรู้ร่วมคิดของผู้อื่นได้”

นรมนเองก็ไม่เชื่อ เพราะฉะนั้นก็ได้มาหมู่บ้านน้ำใสเที่ยวหนึ่ง แต่ว่าพอเห็นคุณนายใจภักดิ์เป็นเช่นนี้แล้ว คาดว่าก็คงจะถามข่าวคราวอะไรที่เป็นประโยชน์ไม่ได้ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะผิดหวังขึ้นมาเล็กน้อย

“ฉันเชื่อความเป็นคนของปีวรา และก็เชื่อว่าบางทีที่เธอทำแบบนี้อาจจะมีเหตุผลอื่น แต่ว่าคุณนายใจภักดิ์ คุณเองก็เป็นแม่คนหนึ่ง และน่าจะเข้าใจความรู้สึกของฉันได้ ลูกสาวของฉันแค่อายุห้าขวบ สามีของฉันก็สุขภาพไม่ค่อยดี แล้วตอนนี้ก็มาหายตัวไปพร้อมกับลูกสาวของคุณ แล้วฉันจะไม่เป็นกังวลได้ยังไงกัน?”

คุณนายใจภักดิ์จ้องมองนรมน แล้วพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณ แต่ว่าคุณนายบุริศร์ ลูกสาวของฉันไม่ใช่คนที่ไม่รู้ดีชั่ว ยังไม่พูดถึงว่าทำไมเธอถึงทำแบบนี้ แค่พูดถึงนิสัยของเธอก่อน จะต้องไม่มีทางที่จะในขณะที่ช่วยคนชั่วทำเรื่องไม่ได้แล้วก็ไม่สนใจความปลอดภัยของฉันกับพ่อเธอแน่ ในหมู่บ้านน้ำใสนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นบ้านของเรา แต่ว่าถ้าคุณนายบุริศร์ต้องการทำที่นี่ให้พังพินาศเป็นราบกองขึ้นมา พวกเราเองก็ไม่มีทางที่จะอยู่ต่อได้ไม่ใช่เหรอ? ถ้าลูกสาวฉันจะทำผิดกฎหมายจริง ๆ ก็คงจะไม่พาตาแก่อย่างเราสองคนไปตายด้วยหรอกมั้ง? แล้วอีกอย่างเธอก็ไม่ได้บอกความเคลื่อนไหวอะไรกับเรา แต่กลับทิ้งพวกเราไว้ที่นี่ นั่นก็พูดได้ชัดแล้วว่าลูกสาวของฉันไม่ได้เป็นคนทรยศ ไม่ใช่คนเป็นแม่อย่างฉันจะแก้ตัวแทนลูกสาว เพียงแต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มีเรื่องมากมายต่างก็ไม่สะดวกที่จะพูด”

นรมนจ้องมองคุณนายใจภักดิ์ที่อ่อนแอที่อยู่ตรงหน้า แล้วเหมือนกับว่าจะรู้จักผู้หญิงคนนี้ครั้งแรกยังไงอย่างงั้น

เธอพูดได้ไม่ผิด

และนี่ก็เป็นสาเหตุที่นรมนสงสัยว่าปีวราไม่ได้เป็นศัตรูกับพวกเขาจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าคุณนายใจภักดิ์ก็จะเป็นคนที่มองอะไรทะลุปรุโปร่งด้วยเหมือนกัน

“คุณนายใจภักดิ์นี่ทำให้ฉันต้องมองคุณใหม่จริง ๆ เลย”

“คุณนายบุริศร์เองก็จิตใจสะอาดบริสุทธิ์ ไม่งั้นก็คงจะไม่มาหาฉันซึ่งเป็นคนกึ่งพิการคนหนึ่งแบบนี้หรอกใช่ไหมคะ?”

คุณนายใจภักดิ์ยิ้มจาง ๆ ขึ้น ท่าทีที่สงบนิ่งแบบนั้นกลับทำให้นรมนรู้สึกชื่นชมขึ้นมาเล็กน้อย

“พูดอย่างไม่ปิดบังนะคะ มิลินได้รับหนอนพิษส่งสารมาตัวหนึ่ง น่าจะปีวราเป็นคนส่งกลับมา เธอให้พวกเราอยู่นิ่ง ๆ อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวใด ๆ ก่อนชั่วคราว และให้คอยรอข่าวอยู่”

ตอนแรกนรมนไม่ได้คิดว่าจะพูดเรื่องพวกนี้ แต่ว่าตอนนี้กลับไม่พูดไม่ได้แล้ว

คุณนายใจภักดิ์อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “งั้นฉันรู้แล้วว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน”

“อยู่ไหนเหรอคะ?”

นรมนร้อนใจเป็นอย่างมาก

แต่คุณนายใจภักดิ์กลับพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เรื่องนี้ตอนนี้ยังบอกคุณไม่ได้ แต่ว่าถ้าคุณอยากจะหาพวกเขาให้เจอ ทางที่ดีที่สุดต้องหาลูกหลานตระกูลแสงนาคให้เจอก่อน”

“ลูกหลานตระกูลแสงนาคเหรอ?”

“ใช่ คนที่รู้เรื่องกลยุทธ์ลูกหลานตระกูลแสงนาค ถ้าหากตามหาคนคนนี้เจอได้ บางทีพวกเราก็จะสามารถตามหายัยลูกสาวของบ้านเราและพวกสามีของคุณได้แล้ว”

คำพูดของคุณนายใจภักดิ์ทำให้นรมนรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงพรวลัยขึ้นมา

เมื่อหลายวันก่อนพรวลัยเป็นคนพาพวกเขาเข้าไปในค่ายกลแปดทิศหยินหยาง หรือว่าพรวลัยจะเป็นลูกหลานของตระกูลแสงนาคเหรอ?

ใจของนรมนตื่นเต้นไม่หยุด แต่ว่าก็ยังรู้สึกกังวลอยู่บ้าง

หลังจากที่พรวลัยกินยาพิษไปแล้วก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมา ถึงเธอจะเป็นลูกหลานของตระกูลแสงนาค แต่ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ว่าพอรู้ข่าวอันนี้แล้วยังไงก็ยังรู้สึกดีใจอยู่บ้าง

“ขอบใจคุณมาก คุณนายใจภักดิ์ คุณรักษาสุขภาพให้ดี แล้วต่อไปฉันค่อยมาดูคุณอีก”

นรมนยิ้มอ่อน ๆ ขึ้น ที่ระหว่างหัวคิ้วล้วนเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

คุณนายใจภักดิ์พยักหน้า แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะเป็นคนของหมู่บ้านน้ำใส แต่ว่าหมู่บ้านดารายนก็ยังเป็นบ้านแม่ของฉัน สำหรับคดีทำลายล้างหมู่บ้านในครั้งนั้นฉันก็ยังจดจำไว้ในใจเสมอ คุณนาย คุณไม่ต้องสงสัยฉัน ยิ่งไม่ต้องคาดเดาปีวราของบ้านเรา พวกเราสามารถใช้ชีวิตมารับประกันได้ว่า ปีวราของบ้านเราจะไม่มีทางเป็นคนทรยศแน่ และยิ่งจะไม่เป็นคนไม่รักษาสัญญาแน่”

“ฉันเชื่อค่ะ”

นรมนนั้นเชื่อถือคนน้อยมาก แต่ว่าวินาทีนี้กลับยอมเชื่อคุณนายใจภักดิ์ที่อยู่ตรงหน้านี้ บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่หลงเหลืออยู่ของหมู่บ้านดารายน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาต่างก็เป็นแม่

แล้วทั้งสองคนก็พูดคุณกันไปอีกไม่กี่ประโยค นรมนก็ลุกขึ้นแล้วจากไป

พอนงลักษณ์เห็นนรมนออกมา ก็รีบเดินตามเข้าไป

“ถามได้ความอะไรบ้างไหม?”

“อืม”

นรมนพยักหน้า แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันอยากไปดูพรวลัยที่โรงพยาบาลก่อน คุณป้าใหญ่ คุณกลับไปก่อนเถอะ”

“ให้ฉันไปเป็นเพื่อนเธอเถอะ ที่โรงพยาบาลคนวุ่นวายซะขนาดนั้น ฉันกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นมา”

การคำนึงของนงลักษณ์กลับทำให้นรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง

“ได้ค่ะ”

นรมนไม่ได้ปฏิเสธ แล้วก็ไปโรงพยาบาลพร้อมกับนงลักษณ์เลย

ในตอนที่บุณพจน์เห็นพวกเขามานั้นก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ว่าก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมา เพียงแต่พูดขึ้นเรียบ ๆ ว่า “เธอยังไม่ฟื้น ถ้าหากคุณมาเพราะว่าเรื่องกลยุทธ์ละก็ อาจจะผิดหวังได้”

นรมนอึ้งไปทันทีครู่หนึ่ง

“คุณรู้เรื่องกลยุทธ์ด้วยเหรอคะ?”

ในตอนที่พรวลัยพาพวกเขาเข้าไปในค่ายกลแปดทิศนั้น บุณพจน์ไม่ได้อยู่ด้วย แต่ตอนนี้กลับพูดเป้าหมายที่พวกเขามาได้ชัดเจนแบบนี้ นรมนอดไม่ได้ที่จะคาดเดาขึ้นมาเล็กน้อย

บุณพจน์พูดเรียบ ๆ ขึ้นว่า “ในตอนที่ผมหมดสติอยู่ พรวลัยบอกกับผม”

เขาเอาเรื่องที่พรวลัยพูดทั้งหมดบอกกับนรมนและนงลักษณ์

ในใจของนรมนสั่นสะเทือนไม่หยุด เธอคิดไม่ถึงว่าพรวลัยจะมีชีวิตที่โหดร้ายขนาดนี้ได้

แต่ว่าเธอยังมีเรื่องที่คิดไม่ตกอยู่เล็กน้อย

“พี่ใหญ่ ฉันไม่ได้ตั้งใจสงสัยพรวลัยในทางไม่ดีอะไร เพียงแต่ว่าถ้าที่คุณพูดมาเป็นความจริงทั้งหมด งั้นระหว่างพรวลัยและพิรุณก็น่าจะต้องมีความแค้นใหญ่หลวงอยู่ แต่ว่าทำไมพรวลัยถึงได้ปล่อยตัวพิรุณไปได้ล่ะ?”

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท