แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1334 นั่นคือชีวิตของเขา โกรธป้าไม่ได้

บทที่ 1334 นั่นคือชีวิตของเขา โกรธป้าไม่ได้

“เป็นไปไม่ได้ตลอดชีวิต บุญทิวา นี่คือความคิดจริงๆ ที่อยู่ในใจคุณใช่มั้ยคะ”

สองวันนี้นงลักษณ์เหมือนร้องไห้จนน้ำตาหมดตัว ตอนนี้แม้จะเสียใจเพียงใด ขอบตากลับแห้ง ไม่มีหยดน้ำตาสักหยดไหลออกมา

บุญทิวาอยากจะหลบหน้า แต่ก็ยังคงพูดเสียงแผ่วเบา “ชาตินี้เราไม่ได้คู่กัน ชาติหน้าผมจะชดใช้ให้”

“ชาตินี้ยังไม่หมด คุณสัญญาชาติหน้ากับฉันแล้ว บุญทิวา คุณยังจำได้มั้ยเคยสัญญาอะไรกับฉัน เคยบอกว่าจะดีกับฉันตลอดไป จะรักดูแลฉันเหมือนเจ้าหญิง ตอนนี้คุณทำกับฉันอย่างนี้ได้ยังไง”

เสียงของนงลักษณ์แฝงด้วยการเสียดสี แต่กลับทำให้บุญทิวาเงยหน้าไม่ได้

“เรื่องในอดีตถือว่าผมไม่เคยพูดละกัน ชาตินี้ผมผิดต่อคุณ คุณอยากด่าอยากโทษผมก็ได้ ผมไม่โทษคุณ”

“คุณไม่โทษฉันหรือ บุญทิวา คุณก็รู้ฉันจะโทษคุณมั้ย ฉันจะบอกคุณ ชีวิตนี้ไม่ว่าคุณคิดยังไง นอกจากฉันบอกว่าจะปล่อยมือ มิเช่นนั้นต่อให้ตายฉันก็จะตายกับคุณ! คุณเลิกพูดอะไรที่ไม่มีประโยชน์เถอะ!”

นงลักษณ์พูดจบก็วางอาหารบนโต๊ะ จากนั้นก็เดินออกไป

นรมนเป็นห่วงนงลักษณ์ มองบุญทิวาแวบหนึ่ง ยังไม่ทันพูดอะไรก็ได้ยินบุญทิวาเอ่ย “หนูไปดูป้าเถอะ อย่าให้เธอเป็นอะไร”

“ค่ะ”

นรมนรีบตามออกไป

บุริศร์มองบุญทิวา สายตาค้นหาอะไรบางอย่าง

“คุณอาบุญทิวา อามีอะไรปิดบังหรือเปล่าครับ”

คำพูดของบุริศร์แม้จะเป็นประโยคคำถาม แต่ค่อนข้างแน่ใจทีเดียว

บุญทิวาชีวิตนี้ทุกข์ทรมาน เดิมคิดว่าตัวเองจะทนรับไว้คนเดียว แต่เมื่อบุริศร์ถามขึ้นอย่างนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึดอัด

“นายรู้ได้ยังไง”

“สายตาของอาครับ ในสายตาของอามีแต่นงลักษณ์ แต่อาพูดทำร้ายเธอ ถึงกับไม่อยากอยู่กับเธอด้วยซ้ำ พวกเราเป็นผู้ชาย ผมรู้สึกว่าเข้าใจจิตใจของอา”

บุริศร์ไม่แข็งกร้าวแต่ก็ไม่ถ่อมตัว คำพูดของเขาทำให้บุญทิวาชะงัก แล้วก็ยิ้มเจื่อน

“เรื่องที่นายดูออก นงลักษณ์ก็ดูออกใช่มั้ย อานึกว่าตัวเองฉลาดแล้ว ทนทรมานทำให้เธอเจ็บปวดเสียใจ ที่แท้ก็แค่เรื่องตลก”

บุญทิวาเห็นอาหารเต็มโต๊ะเป็นของที่ตัวเองชอบกินทั้งนั้น ตอนนี้นึกถึงจิตใจและคำพูดของนงลักษณ์ พูดเสียงแผ่วเบา “ชาตินี้อาไม่มีทางเป็นผู้ชายปกติได้อีกแล้ว นายคิดว่าให้เธออยู่กับผู้ชายที่เหมือนขันทีเธอจะมีความสุขมั้ย”

เมื่อคำพูดนี้ออกไป บุริศร์ก็ตกตะลึง แม้ว่าเขาจะคิดถึงความเป็นไปได้หลายอย่าง ก็นึกไม่ถึงผลจะออกมาเป็นอย่างนี้

“พระราชาทำอะไรกับอาครับ”

“ทุกอย่าง อาไม่ยอมพูดความลับที่พวกเขาอยากรู้ ก็เลยทรมานอาสารพัด ตอนแรกก็ฉีดยาต่างๆ อาไม่รู้ว่าตัวเองรอดพ้นความตายมาได้กี่ครั้งกี่หน ทุกครั้งที่คิดว่าจะได้ไปพบยมบาล ก็มีคนช่วยชีวิตทุกทีไป นานวันเข้า ความตายก็กลายเป็นเรื่องที่เกินความคาดหวัง ต่อมาอาถึงรู้ว่าสูญเสียความสามารถของผู้ชายไปแล้ว แต่อาไม่สนใจ ชาตินี้อาจจะเหมือนหนูในท่อระบายน้ำตายในคุกใต้ดินไม่มีคนสนใจ ถึงกับกลายเป็นกองกระดูกก็ยังไม่มีคนรู้ แต่นึกไม่ถึงพวกนายจะมาช่วยอาออกมา ตอนนี้อาโชคดีออกมาได้ แต่ก็กลุ้มใจด้วย ไม่รู้ว่าตัวเองออกมาแล้วจะทำอะไรได้ อาไม่มีกำลังวังชา ดูเหมือนคน แต่กลายเป็นคนพิการนานแล้ว ไหล่แบกหามไม่ได้ มือยกไม่ได้ แม้แต่ความสามารถปกติก็ยังทำไม่ได้ อาอยู่ไปจะมีความหมายอะไร”

บุญทิวาถูกขังนานหลายปีขนาดนี้ ลำบากเหลือเกิน ตอนนี้นรมนกับนงลักษณ์ไม่อยู่ เขาก็ไม่รู้ทำไมพูดอย่างนี้กับบุริศร์ แต่ถ้าไม่พูดออกไป เขาจะต้องทนจนแทบทนไม่ไหว ทนจนไม่รู้จะทำอย่างไรดี

เขาสับสนว่างเปล่ากับโลกใบนี้ หวาดกลัวกับอนาคต ในใจเกิดความรู้สึกขัดแย้งที่จะต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้คน

เขารู้ว่าตัวเองทำไม่ถูก เขาได้รับการช่วยเหลือแล้ว นี่อาจเป็นข่าวดีสำหรับญาติของตัวเอง เพื่อญาติของตัวเองก็ต้องมีชีวิตต่อไป แต่เหตุผลที่จะอยู่ต่อไปนอกจากเหตุผลนี้แล้วยังมีอะไรอีกล่ะ

เมื่อก่อนคนที่เฝ้าคิดถึงคือนงลักษณ์ ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับความลำบากขนาดไหนก็อยากอยู่กับนงลักษณ์ แต่ตอนนี้นงลักษณ์กลับเป็นคนที่เขากลัวจะเห็นหน้ามากที่สุด

ความรู้สึกที่หากไม่พบเจอด้วยตัวเองก็ไม่มีวันเข้าใจ ทว่าเขาก็ยังต้องพูดออกไป เพราะเขาอดกลั้นมานานแล้ว

บุริศร์ไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจบุญทิวาอย่างไร ได้แต่พูดขึ้น “คุณอาบุญทิวา อายังมีพวกเรา ผมกับนรมนก็คือลูกของอา พวกเราจะเลี้ยงดูอาจนแก่เฒ่า”

บุญทิวาตะลึง ยิ้มออกมาพลางพูด “มิน่าล่ะหลานสาวฉันถึงรักนาย นายใช้ได้จริงๆ”

“ที่จริงหลายปีมานี้นงลักษณ์ก็ลำบากเหมือนกันนะครับ”

บุริศร์อดที่จะพูดแก้ต่างให้นงลักษณ์ไม่ได้

เขาคิดถึงสิ่งที่พระราชาทำกับนงลักษณ์ และท่าทางที่นงลักษณ์ทรมานใจ

บุญทิวาจะไม่รู้ได้อย่างไรนงลักษณ์มีชีวิตลำบาก และเพราะอย่างนี้ เขาถึงรู้สึกว่าตัวเองยิ่งควรจะไปจากนงลักษณ์ นี่ถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับนงลักษณ์

นงลักษณ์ที่อยู่นอกประตูเกือบจะผลักประตู แต่ถูกนรมนห้ามไว้

นรมนดึงเธอไปตรงที่ไม่มีคน อารมณ์สับสนมาก

นงลักษณ์แม้ว่าจะออกมาแล้ว แต่ไม่ได้ไปไหนไกล เมื่อเห็นนรมนออกมาหาตัวเอง ดึงมือเธอแอบฟังอยู่ข้างนอก

นรมนไม่เคยแอบฟังมาก่อน ตอนนี้ถูกนงลักษณ์ดึงไว้ฟังคุณอาบุญทิวา ก็รู้สึกกระสับกระส่ายไม่สบายใจ นึกไม่ถึงจะได้ยินบุญทิวาพูดเช่นนี้ ตกใจจนยืนอึ้ง

ตอนนี้เห็นดวงตาขรึมของนงลักษณ์ นรมนกัดฟันกระซิบ “คุณป้า หนูจะสังหารพระราชาประเทศF ป้าอย่าห้ามหนู”

“ป้าไม่ห้ามหลาน และจะช่วยด้วย ผู้ชายคนนี้ชั่วร้ายมาก ป้าจะชดใช้ทบต้นทบดอกให้เขา”

นงลักษณ์คาดไม่ถึงสาเหตุที่บุญทิวาปฏิเสธตัวเองจะเพราะอย่างนี้

มิน่าเขาไม่อยากให้เธอแตะต้องตัว มิน่าตอนนี้เขาเปลี่ยนไปมากอย่างนี้ มิน่าเขาเงียบขรึมตลอด

ผู้ชายคนหนึ่งต้องกลายเป็นขันที ไม่ว่าใครก็รับไม่ได้ บุญทิวาไม่บ้าก็ถือว่าเข้มแข็งแล้ว

นงลักษณ์โกรธจนตัวสั่น น้อยครั้งที่เธอจะโกรธจนเป็นอย่างนี้ เพราะฝึกตั้งแต่เด็กไม่ปลดปล่อยอารมณ์ออกไป จะให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองคิดอะไรไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่สนแล้ว

เธอแทบอยากจะบุกประเทศFฆ่าผู้ชายคนนั้น

เขาโหดเหี้ยมขนาดนี้ได้อย่างไร

เขากล้าได้อย่างไร!

มือของนงลักษณ์กำแน่น ไม่พูดอะไร

นรมนทั้งหดหู่ ทั้งกังวล

“ป้าคะ ต่อไปป้าจะทำยังไง”

“จะทำยังไงหรือ บุญทิวาเป็นผู้ชายของป้า ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนยังไงป้าก็จะไม่ทิ้งเขา!”

นงลักษณ์พูดหนักแน่น

นรมนพูดลังเล “แต่ป้าเป็นพระมเหสีเจ็ด ประเทศFนะคะ”

“พระมเหสีเจ็ดตายนานแล้ว ทั้งประเทศรู้ดี จะพูดไปแล้ว พระมเหสีเจ็ดก็คือสนม ไม่ได้เข้าศาลบรรพชน ผู้หญิงที่มีหรือไม่มีก็ได้ ไม่ได้บันทึกในสมุดบรรพชน ขอแค่ป้ายินยอมก็ไปได้ ป้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาทางกฎหมาย”

คำพูดของนงลักษณ์ทำให้นรมนเสียใจ

หลายปีมานี้นงลักษณ์ต้องทนความอยุติธรรมมากแค่ไหนกัน

ตอนนั้นนงลักษณ์แกล้งตายเพื่อหนีความโหดร้ายของพระราชา อย่างน้อยแกล้งตายแล้ว ตัวเองอยู่คนเดียว ก็ไม่ต้องปรนนิบัติพระราชาหรือ

นรมนรู้สึกว่าความคิดของตัวเองน่าจะถูกต้อง แต่ก็ถามอย่างเกรงใจ

“แต่ป้าคะ ถ้าป้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แล้วราเชนจะทำอย่างไรคะ”

นรมนยังจำได้ ราเชนยังอยู่ในประเทศF และนงลักษณ์ก็ห่วงใยราเชนมากมาตลอด

แต่นงลักษณ์ครั้งพูดขึ้น “ราเชนเป็นลูกชายของเขา ถ้าเขาฆ่าป้าก็จะไม่ห้าม พูดไม่น่าฟังหน่อย ราเชนสำหรับป้าเป็นจุดด่างพร้อย คอยเตือนตัวเองตลอดเวลา ป้าให้กำเนิดเด็กคนนี้ ถ้าเขาไม่มีหนทางปกป้องตัวเองจนต้องตายจริงๆ นั่นคือชีวิตของเขา โกรธป้าไม่ได้”

นรมนตะลึงงัน

เรื่องอะไรกันนี่

ก่อนหน้านี้เพื่อราเชนแล้วนงลักษณ์ไม่คำนึงศักดิ์ศรีของตัวเองไปขอพระราชาให้ปล่อยเขา ตอนนี้ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะ

นรมนสงสัย แต่ก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว

ตอนที่ยังไม่รู้บุญทิวาเป็นหรือตาย ราเชนเป็นเหตุผลและแรงขับเคลื่อนเดียวให้นงลักษณ์อยู่ต่อไป แต่ตอนนี้รู้ว่าบุญทิวาถูกพระราชาทรมานจนเป็นอย่างนี้ ชีวิตนี้ไม่อาจมีลูกของตัวเอง จิตใจของนงลักษณ์จึงเปลี่ยนไป

ตอนนี้เธอทิ้งได้ทุกอย่าง แม้แต่ลูกชายแท้ๆ ของตัวเองเพื่อปกป้องบุญทิวา อยากจะอยู่กับบุญทิวา ความรู้สึกนี้ทำให้นรมนไม่รู้ควรจะพูดอย่างไรดี

ระหว่างพวกเขาความรักลึกซึ้ง แต่ชะตาชีวิตเล่นตลก ตอนนี้จะแก้ไขตอนจบแสนรันทดอย่างไรดี

นรมนไม่อาจล่วงรู้

ที่จริงเธอไม่อยากให้ราเชนตาย แต่ถ้าพระราชาผิดหวังในตัวนงลักษณ์สุดๆ แล้ว จะใช้ชีวิตของราเชนข่มขู่หรือไม่ เรื่องนี้พวกเขาไม่มีใครรู้

นงลักษณ์มองนรมน เห็นสายตางงงวยและประหลาดใจของเธอ ก็อดยิ้มเย็นไม่ได้ “รู้สึกว่าป้าเลือดเย็นมากใช่มั้ย”

“ไม่ใช่ค่ะ หนูแค่รู้สึกว่าราเชนไม่ผิดอะไร”

คำพูดของนรมนทำให้อารมณ์นงลักษณ์รุนแรงขึ้น

“เขาบริสุทธิ์หรือ อย่างนั้นป้าไม่บริสุทธิ์หรือ เพิ่งเกิดก็ถูกคนลักพาตัวไป ตั้งแต่รู้ความก็ถูกฝึกเป็นนักฆ่าและลอบสังหาร ไม่มีสิทธิ์เลือกจะทำอะไร เจ้านายให้ทำอะไรก็ต้องทำ แม้แต่ความรักและการแต่งงานก็เลือกไม่ได้ และยังมีลูกให้เขาคนหนึ่ง ป้ามีความผิดอะไร มีพ่อมีแม่ แต่ไม่ได้รู้จักกัน มีคนรัก แต่ก็ต้องไปรับใช้คนอื่น ชีวิตนี้คนที่ป้าอยากมีลูกให้เขามากที่สุดก็คือบุญทิวา แต่น่าเสียดายพวกเราสองคนไม่มีวาสนาต่อกัน ความอยุติธรรมพวกนี้ป้าไม่ใช่คนที่ถูกกระทำอย่างนั้นหรือ”

นงลักษณ์ย้อนถามเป็นชุดทำให้นรมนไม่รู้จะพูดอย่างไรดี แต่เธอก็ร้อยเรียงเรื่องราวได้อย่างรวดเร็ว

“ป้าคะ ป้าบอกว่าคนที่ลักพาตัวป้าไปตอนนั้นก็คือพระราชาประเทศFหรือคะ ทำไมเขาต้องทำอย่างนี้ เขากับพวกเรามีความแค้นใหญ่หลวงอะไรต่อกันคะ เขาเป็นคนเลี้ยงป้าหรือคะ เขาเอาลูกเลี้ยงเป็นผู้หญิงของตัวเอง และมีลูกให้เขาหรือคะ”

นรมนรู้สึกว่าทัศนคติต่อโลกและชีวิตของตัวเองใกล้จะพังแล้ว

พระราชาประเทศFคนนี้เป็นคนประหลาดอะไรขนาดนี้

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท