“คนเมื่อกี้ไม่เห็นพวกเราไม่ใช่เหรอ?”
นรมนถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
บุริศร์พูดขึ้นเบาๆ: “ถ้วยน้ำชาสามใบนั้นก็เปิดเผยจำนวนของพวกเราที่นี่แล้ว อีกอย่างถ้ามีสองทางออกล่ะก็ เป็นไปได้ว่าผู้ชายคนนั้นคงเห็นประตูทางเข้าที่โดนพวกเราเตะจนพังไปแล้วแน่ๆ”
นรมนถึงนึกขึ้นได้ว่าพวกเขาเข้ามากันยังไง
“งั้นตอนนี้เราทำยังไงกันดี?”
นรมนเท้าเอว
ถ้าอีกเดี๋ยวจะมีการต่อสู้ที่รุนแรงดุเดือดเกิดขึ้น เธอกลับไม่ได้กลัวสักเท่าไหร่ แค่ได้อยู่กับบุริศร์ จะอยู่ที่ไหนก็ได้
บุริศร์บีบมือของนรมนเบาๆ พูดอย่างอ่อนโยน: “พวกเรายังมีหงส์ไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ก็หวังว่าเธอจะมาถึงที่นี่เร็วกว่าคนของสมชัย”
พูดๆอยู่ มือถือของบุริศร์ก็ดังขึ้น
เห็นหมายเลขที่โทรเข้ามา บุริศร์ยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“เธอมาแล้ว พวกเราควรจะออกไปเดี๋ยวนี้เลย”
ชัญญากับนรมนคลายกังวลลงได้
บุริศร์กดรับ
“หงส์ คนของเธอถึงไหนแล้ว?”
“เข้าไปในเขตรกร้างแล้ว แต่ว่าพวกเฮียอยู่ที่ไหนกัน?”
เสียงของหงส์ค่อนข้างรีบร้อน
บุริศร์ส่งตำแหน่งของที่นี่ไปให้ แล้วถือโอกาสพูดเรื่องผู้ชายคนเมื่อกี้ กับการมีตัวตนของชัญญาไปด้วยเลย
หงส์ตะลึงงัน
“ชัญญา? คนของตระกูลธนเกียรติโกศลน่ะเหรอ?”
ถึงยังไงหงส์ก็อยู่ที่ประเทศZมาหลายปี ต้องชัดเจนเรื่องของคนตระกูลธนเกียรติโกศลอยู่แล้ว
บุริศร์อืมออกมาเบาๆ หงส์จึงค่อนข้างร้อนรน
“เฮียบุริศร์ อยากหาเรื่องให้ฉันตายรึไง คนของฉันที่ส่งออกไป ถ้าเขตรกร้างไม่มีคนอยู่ แล้วพระราชาถามขึ้นมาฉันคงบอกได้มากที่สุดแค่ว่ามาล่าสัตว์ที่ด้านนี้ ตอนนี้ชัญญาโดนคุมขังอยู่ที่นี่ เฮียยังจะพาเธอไปด้วยอีก นี่ไม่ได้บอกพระราชาอยู่โต้งๆเหรอว่าฉันเป็นคนพาตัวไป?”
น้ำเสียงของหงส์ร้อนรนเล็กน้อย
บุริศร์ก็คิดไม่ถึงว่าแค่เข้ามาในประเทศFก็จะเจอคุณน้าธนเกียรติโกศลเลย เขารู้สึกผิดต่อหงส์ขึ้นมาทันที
“ให้ฉันส่งคนไปก่อความวุ่นวายที่เขตชายแดนสักหน่อยไหม เพื่อให้สมชัยคิดว่าคนของพวกฉันพาคุณน้าธนเกียรติโกศลออกไป?”
นี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่บุริศร์คิดออกในตอนนี้
หงส์กลับพูดขึ้น: “ฉันติดต่อกับวินเซนต์แล้ว ให้เขาส่งเฮลิคอปเตอร์เข้ามาพาคนของตระกูลธนเกียรติโกศลออกไป พระราชาคุมขังเธอไว้ได้หลายปีขนาดนี้ ถึงกับทำให้พื้นที่ป่ากลายเป็นเขตรกร้างไร้ผู้คนเพื่อเธอ แสดงว่าพระราชาให้ความสนใจเธอมากๆ เพียงแค่เธออยู่ภายในประเทศ ต่อให้พระราชาต้องหาไปทั่วทุกที่ก็จะตามหาเธอจนเจอ ตอนนี้ฉันไม่มีความสามารถมากมายขนาดที่จะซ่อนคนของตระกูลธนเกียรติโกศลไว้ได้อย่างมิดชิด ดังนั้นเฮียบุริศร์ ถ้าเฮียคิดถึงความปลอดภัยของเธอจริงๆ ก็ให้เธอออกไปเดี๋ยวนี้”
“แต่กว่าวินเซนต์จะส่งคนมาถึงต้องใช้เวลา ฉันกลัวว่าพระราชาจะตามมาทัน”
บุริศร์ก็คิดถึงปัญหานี้ แต่ตอนนี้ก็กลัวว่าชายคนนั้นจะกลับไปบอกสมชัย แล้วพวกเขาที่คิดจะออกไปจากเขตรกร้างนี่ก็คงสายไปแล้ว
หงส์ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วพูดขึ้น: “ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ทำได้เพียงใช้กำลังพลของสหภาพQTของพวกเราที่ปกปิดตัวตนเอาไว้ แต่ทว่าทำอย่างนี้ พวกเราอาจจะสูญเสียพรรคพวกไปด้วย เพราะการเปิดเผยเพียงครั้งเดียว ด้วยนิสัยของพระราชาต้องกำจัดทิ้งอย่างแน่นอน เฮียบุริศร์ นี่เท่ากับว่าใช้ชีวิตของสหายหลายสิบคนเพื่อแลกกับคนของตระกูลธนเกียรติโกศลเพียงคนเดียว สิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนนี่มากเกินไปนะ”
หงส์เป็นคนฝึกฝนอบรมคนพวกนี้มาอย่างลับๆ เริ่มแรกก็ใช้สถานะของตนเองพาพวกเขาเข้ามาในประเทศF เผื่อในอนาคตอาจจะมีสักวันที่ต้องเอาไว้ป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด แต่วันนี้เพื่อคนของตระกูลธนเกียรติโกศลเพียงคนเดียวถึงกลับต้องสูญเสียชีวิตของสหายหลายคนขนาดนี้ หงส์ไม่ยินยอมอยู่แล้ว
สำหรับเธอ สหภาพQTเป็นผู้มีพระคุณของเธอ เป็นครอบครัวของเธอ แต่คนของตระกูลธนเกียรติโกศลไม่ใช่
แม้ว่าบุริศร์จะจงรักภักดีต่อคนของตระกูลธนเกียรติโกศล แต่เธอไม่ใช่คนของประเทศZ สำหรับท่าทีที่มีต่อคนของตระกูลธนเกียรติโกศลก็ไม่ได้เคารพขนาดนั้น
บุริศร์เข้าใจนิสัยกับความแน่วแน่ของหงส์ดี แต่ชัญญาใช่ว่าจะเข้าใจ เขามองไปที่ชัญญาโดยไม่รู้ตัว ชัญญาจึงพูดขึ้นเบาๆ: “เธอพูดถูก การแลกเปลี่ยนอย่างนี้มันมากเกินไป อีกอย่างชีวิตของฉันชัญญาก็คือชีวิตหนึ่ง แล้วชีวิตของคนอื่นไม่ใช่ชีวิตเหรอ? ถ้ามันไม่ได้เธอกับ นรมนไปก่อนเลย ฉันจะอยู่ที่นี่ แค่ฉันยังอยู่ สมชัยไม่ทำอะไรหรอก อย่างมากที่สุดก็แค่ย้ายฉันไปอยู่ที่อื่น วางใจเถอะ เขาไม่เอาชีวิตฉันแน่นอน ถึงยังไงสถานะที่เป็นคนของตระกูลธนเกียรติโกศลสำหรับเขาแล้วยังมีประโยชน์อยู่อีกมาก”
แค่ชัญญาพูดออกไป หงส์ก็ชะงักงันทันที
เธอเคยคิดๆดูว่าคนของตระกูลธนเกียรติโกศลจะเห็นด้วยกับคำแนะนำของเธอหรือเปล่า พูดตามตรงเธอแค่ลองหยั่งเชิงปฏิกิริยาคนของตระกูลธนเกียรติโกศลเท่านั้น
ถ้าชัญญาคิดจะหลบหนีไปโดยที่ไม่สนใจความเป็นความตายของคนอื่น หงส์ก็จะทิ้งเธอทันที สำหรับเธอแล้ว เธอยอมรับแค่บุริศร์เท่านั้น ส่วนความเป็นความตายของคนอื่นเธอไม่สนใจหรอก
แล้วก็ไม่คิดจะสนใจด้วย แต่ตอนนี้ได้ยินชัญญาพูดอย่างนี้ แววตาของหงส์สั่นไหวเล็กน้อย
แต่บุริศร์กลับพูดขึ้น: “ไม่ได้ครับ ผมรับปากคุณชายธเนศพลไปแล้วว่าจะพาคุณกลับไป อีกอย่างคุณชายธเนศพลก็บอกแล้วว่าตอนนี้สหภาพQTทำทุกอย่างเพื่อเขา”
คำนี้พูดให้หงส์ฟัง
หงส์ขมวดคิ้วแน่น แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วก็ได้ยินบุริศร์พูดขึ้น: “หงส์ ส่งพรรคพวกหลายๆคนออกไปสร้างความวุ่นวายรอบๆเขตรกร้าง พร้อมทั้งติดต่อวินเซนต์ให้ส่งเฮลิคอปเตอร์เข้ามารับ บอกเหล่าสหายของพวกเรา อย่าเผชิญหน้าต่อต้านพวกเขาโดยตรง แค่เฮลิคอปเตอร์ของ วินเซนต์มาถึง ก็ให้พวกเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกไป”
“แล้วคนของตระกูลธนเกียรติโกศลล่ะ?”
หงส์เข้าใจความหมายของบุริศร์ เขาอยากให้สหายของตนเองออกไปจากประเทศF
แต่คนพวกนี้ก็เพื่อปกป้องเขาถึงได้พาเข้ามาเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้เพื่อคนของตระกูลธนเกียรติโกศลคนเดียวจึงต้องถอนกำลังออกไปทั้งหมด งั้นต่อไปความปลอดภัยของบุริศร์ใครจะดูแล?
แววตาของบุริศร์หม่นลงเล็กน้อย พูดขึ้น: “คุณน้าธนเกียรติโกศลไปกับฉัน แค่เฮลิคอปเตอร์ของวินเซนต์เข้ามาในประเทศ สมชัยก็จะคิดว่าเขามารับคุณน้าธนเกียรติโกศลออกไป ดังนั้นต่อให้คนของพวกเราขึ้นเครื่องบินไปหมดแล้ว เขาก็คงไม่คิดว่าคุณน้าธนเกียรติโกศลจะอยู่ที่นี่”
“เฮียบุริศร์ เฮียกำลังเดินไปหาอันตรายนะ”
หงส์รู้ แค่วินเซนต์มาถึง เหล่าสหายของเธอก็จะออกไปได้อย่างปลอดภัย ยังไงซะเฮลิคอปเตอร์ของวินเซนต์ก็เป็นเครื่องบินรบ สำหรับประเทศFในตอนนี้เหนือกว่าอย่างสมบูรณ์ แต่บุริศร์กลับเอาความเสี่ยงมาไว้ที่ตนเอง
บุริศร์พูดเบาๆ: “ไม่มีเวลาแล้ว ทำตามที่ฉันบอกเถอะ”
“เฮียบุริศร์ พาคนของตระกูลธนเกียรติโกศลตามคนของฉันไปเถอะ”
ในที่สุดหงส์ก็ยอมอ่อนข้อให้
เธอทนเห็นบุริศร์ประสบอันตรายไม่ได้ ยิ่งไม่ยอมให้วินเซนต์กับเหล่าสหายไปเผชิญหน้ากับห่ากระสุนของประเทศFด้วย ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงออกหน้าเอง
“หงส์……”
ดวงตาของบุริศร์เปล่งประกายออกมาเล็กน้อย
เขาเข้าใจความแน่วแน่ของหงส์ดี ตอนนี้ได้ยินหงส์พูดอย่างนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดอยู่บ้าง
นรมนไม่เข้าใจเหตุผล จึงถามขึ้น: “เธอเป็นใครเหรอ?”
“องค์หญิงห้าของประเทศF ญาณิน ลูกสาวของสมชัย”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนตะลึงไปเลย
ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าหงส์ของสหภาพQTจะเป็นองค์หญิงห้าของประเทศF
“เธอ……”
“ออกไปก่อนเถอะ”
บุริศร์จับมือนรมนแน่น มองชัญญา พูดขึ้น: “คุณน้าธนเกียรติโกศล ตามพวกเรามานะครับ”
“อื้ม สร้างความลำบากให้พวกเธอแล้ว”
ชัญญารอคอยที่จะได้ออกไปจากประเทศF แต่ก็ไม่อยากให้คนมากมายเสียสละเพื่อพาตนเองเพียงคนเดียวออกไป ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ได้ยินว่าอีกฝ่ายคือองค์หญิงห้าของประเทศF เธอจึงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง มองบุริศร์ด้วยสายตาค้นหาเล็กน้อย
สหภาพQTเป็นองค์กรอะไรกันแน่?
ไม่นึกว่าจะทำให้องค์หญิงห้าของประเทศFถึงกับทรยศประเทศ ทรยศพ่อของตนเอง ทำให้คาดไม่ถึงจริงๆ
บุริศร์ไม่มีเวลาอธิบายกับพวกเธอมากมาย หลังจากพาพวกเธอออกไปจากบ้านแล้ว จึงรีบเดินไปตามทางที่หงส์ระบุเอาไว้
พายุหิมะเริ่มพัดเข้ามาแล้ว ตอนที่บุริศร์ออกไปก็ไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อขนเป็ดตัวหนึ่งในตู้มาให้ นรมนใส่ แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ นรมนก็ยังคงหนาวจนจมูกแดงอยู่ดี
“ทนอีกหน่อยนะ รอให้พวกเราเจอคนของหงส์ก่อน”
บุริศร์พูดปลอบใจ
นรมนพยักหน้า รีบเดินตามไปด้านหลัง สังเกตการณ์รอบๆด้านอยู่บ่อยๆ หลังจากที่บุริศร์กับชัญญาเดินไปแล้วก็รีบปกปิดร่องรอยของพวกเขาทันที
ไม่นานพวกบุริศร์กับนรมนก็เจอคนที่หงส์ส่งมาแล้ว อีกฝ่ายสวมเสื้อผ้าที่มีลักษณะเด่นของสหภาพQT ตอนที่เห็นบุริศร์จึงพูดขึ้นด้วยความนอบน้อม: “เฮียบุริศร์ เรามารับพวกเฮียครับ”
“เหนื่อยหน่อยนะ”
ได้เจอสหายของตนเองในต่างประเทศ บุริศร์รู้สึกอุ่นใจเป็นพิเศษ สีหน้าผ่อนคลายขึ้นมาก
ชัญญากับนรมนขึ้นรถแล้ว บุริศร์สังเกตการณ์อยู่รอบๆครู่หนึ่ง พูดขึ้นเบาๆ: “ด้านหลังยังมีรถอีกไหม?”
“มีครับ หัวหน้าหน่วยหงส์ให้รถของพวกเราคันหนึ่งขับไปทางเหนือ รถที่มารับพวกเฮียขับไปทางใต้ ลักษณะรถเหมือนกัน อย่างนี้จะไม่พบร่องรอยของพวกเราได้ง่ายๆครับ อีกเดี๋ยวพายุหิมะก็มาแล้ว มันสามารถปกปิดร่องรอยของพวกเราเอาไว้ได้เป็นอย่างดีครับ”
เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายรีบอธิบาย
“นายชื่ออะไร?”
“เฉียงครับ”
เฉียงพูดเบาๆ แล้วรีบขึ้นรถไป
หลังจากพวกบุริศร์ขึ้นรถไปแล้ว เครื่องให้ความอุ่นภายในรถทำให้นรมนรู้สึกเหมือนอยู่คนละโลกเลยจริงๆ
ชัญญาเงียบมาโดยตลอด แต่ทว่าสายตากลับสังเกตการณ์รอบๆด้าน เห็นได้ชัดว่าระมัดระวังเป็นพิเศษ
เฉียงสตาร์ทรถ รถอีกคันที่อยู่ด้านหลัง ก็ขับออกไปคนละทาง
บุริศร์ถามขึ้น: “นายมาอยู่ที่นี่ได้กี่ปีแล้ว?”
“ห้าปีครับ”
เฉียงตอบอย่างนอบน้อม
“ในครอบครัวมีใครบ้างล่ะ?”
“แม่แก่ๆเพียงคนเดียวครับ พ่อเสียไปเมื่อสองปีที่แล้ว ผมกลับไปหาเขาไม่ทันด้วยซ้ำ”
ตอนที่เฉียงพูดเรื่องพวกนี้ก็ยังคงเศร้าใจ
ในใจของบุริศร์รู้สึกแย่ไปด้วย
สหายของเขาดักซุ่มอยู่ที่ต่างประเทศ ต่อให้พ่อของตนเองเสียชีวิตก็ยังกลับไปไม่ทันเลย ถ้าพวกเขาเป็นทหารยังได้รับการแสดงความเคารพ แต่พวกเขาไม่ได้เป็นอะไรเลย
นึกถึงตรงนี้ บุริศร์ไม่สบายใจมากๆ ในที่สุดเขาก็เข้าใจธเนศพลแล้วว่าทำไมถึงให้สหภาพQTอยู่ในลู่ทางที่ถูกต้อง
สหภาพQTมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในโซนสีเทา ระบบการจัดการด้านทหารเข้มงวดมาก สำหรับคนอื่น พวกเขาแข็งแกร่งมาก แต่คนที่เข้าใจบุริศร์กับวินเซนต์ต่างรู้ดี เลือดทหารไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายของพวกเขา คนที่ฝึกฝนออกมาจึงเป็นคนมีพรสวรรค์ที่หาได้ยาก
คนมีพรสวรรค์อย่างนี้ถ้าเกี่ยวข้องอยู่กับโซนสีเทา อาจจะไม่ค่อยยุติธรรมกับพวกเขาเท่าไหร่
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน พวกเขาสามารถบันทึกการทำงานของสมาชิกไว้เป็นหลักฐานได้ สิ่งที่พวกเขาต้องจ่ายออกไปก็จะได้รับความเคารพจากผู้อื่น
นึกถึงตรงนี้ บุริศร์จึงพูดขึ้น: “รอให้เรื่องนี้จบลงแล้ว ฉันจะให้นายลาพักหนึ่งเดือนไปอยู่เป็นเพื่อนแม่นาย”
“ขอบคุณครับเฮียบุริศร์”
เฉียงตื่นเต้นเหลือเกิน
พวกเขาไม่ได้พูดอะไรกันอีก นรมนเห็นรถขับออกไปนอกเขตรกร้าง ไกลขึ้น ไกลขึ้นเรื่อยๆ ไกลจนไม่นึกว่าจะได้เห็นไฟประภาคารสีเหลืองๆส้มๆ จึงอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
“พวกเราใกล้จะเข้าเขตตัวเมืองแล้วใช่ไหม?”