แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1355 นรมนเป็นเส้นตายของฉัน

บทที่ 1355 นรมนเป็นเส้นตายของฉัน

ชีวิตในวังหลายปีมานี้ทำให้เธอรู้จักเสแสร้ง ในตอนที่ได้ยินว่าบุริศร์จะไปหานรมนนั้น หงส์ก็อยากจะรั้งเขาไว้อย่างอัตโนมัติ แต่กลับลืมไปว่าบุริศร์ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาทั่วไป สำหรับมารยาแบบนี้แน่นอนว่าจะต้องมองได้ทะลุปรุโปร่งอยู่แล้ว

เธอเองที่เป็นคนโง่เกินไปแล้ว

หงส์รีบถลึงตาใส่เฉียงทีหนึ่ง แล้วก็พูดเสียงขรึมขึ้นว่า “เฉียง ห้ามพูดไปเรื่อยนะ เฮียบุริศร์ไม่ได้ทำอะไรฉันซะหน่อย เมื่อกี้ฉันยืนไม่มั่นคงเอง หลายวันมานี้ไม่ได้นอนหลับดี ๆ แล้วเมื่อกี้ก็ตื่นเต้นและรีบร้อนไปหน่อย ที่ขาพลิกไป ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเฮียบุริศร์”

พูดจบหงส์ก็เงยหน้าขึ้นไปมองบุริศร์ทีหนึ่ง

บุริศร์กลับยังคงจ้องมองเธออย่างเย็นชาอยู่ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “กลุ่มทหารยามอยู่ที่ไหน? ถ้าเธอสามารถให้ความช่วยเหลือได้ก็ดี ถ้าไม่ได้ก็อย่ามาขัดขวางฉัน เธอเองก็รู้นะ ว่าเธอขวางฉันไม่ได้หรอก”

พูดจบบุริศร์ก็หมุนตัวเดินไปเลย

ร่างกายของหงส์นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นในแววตาก็มีความไม่พอใจและความอิจฉาพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง

ตกลงนรมนผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดีกันแน่?

คุ้มค่าที่จะให้บุริศร์ไปช่วยไปช่วยเธออย่างไม่คิดถึงความปลอดภัยของตัวเองแบบนี้เหรอ?

“ตกลงคนหายไปไหนแล้ว?”

หงส์ถามเสียงต่ำขึ้น

ธีรตารีบพูดขึ้นว่า “พวกเราไม่เห็นเธอค่ะ ฉันได้ให้ติณห์ไปค้นหาแล้ว”

ดวงตาของหงส์เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย

นรมนคนนี้ดูท่ายังพอมีสมองอยู่บ้าง ถึงกับรู้ว่าเธอไม่น่าเชื่อถือด้วย?

หรือว่าเธอจะรู้อะไรมาเหรอ?

ใจของหงส์รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาบ้าง แต่ว่าก็ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันจะไปตามเฮียบุริศร์ พวกเธอไปค้นหานรมนต่อ พยายามหาตัวให้เจอก่อนพวกเรา จากนั้นก็……”

“เข้าใจแล้วค่ะ”

ธีรตารีบพยักหน้าขึ้น

หงส์รีบร้อนตามฝีเท้าของบุริศร์ไป

“เฮียบุริศร์ ถ้าคุณจะไปช่วยเธอก็ตามฉันมา ฉันรู้จักเส้นทางหนึ่งที่สามารถไปถึงที่ทำการของทหารยามได้โดยตรงเลย แต่ว่าเธอจะอยู่ที่นั่นหรือเปล่านั้นฉันไม่รู้นะ”

ตอนนี้ใจของบุริศร์ร้อนราวกับเปลวไฟ ไม่ได้ยินว่าหงส์พูดอะไรด้วยซ้ำ เพียงแต่พูดขึ้นเสียงเย็นว่า “ถ้าหากว่าเธอคิดดีกับนรมนตั้งแต่แรก นรมนก็คงไม่เกิดเรื่องขึ้นหรอก”

คำพูดนี้พูดจนหงส์รู้สึกไปไม่เป็นเลย

“เฮียบุริศร์ นี่คุณหมายความว่ายังไง? ถึงแม้ว่าฉันจะมีความไม่ชอบใจต่อเธอ แต่ก็ไม่เคยคิดทำร้ายเธอเลยนะ”

“แต่ว่าเธอก็ไม่เคยคิดที่จะช่วยนรมนหรอกใช่ไหม”

อยู่ ๆ บุริศร์ก็หยุดฝีเท้าลงทันที และจ้องมองหงส์ ในใจนั้นรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก

“หงส์ ฉันรู้ว่าเธอมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งมากต่อฉัน และตัวฉันเองก็ยอมรับว่าตัวเองติดค้างเธอไว้ แต่ว่านรมนไม่ได้ติดค้างเธอ ตอนแรกฉันนึกว่าตลอดระยะทางนี้เธอทำอะไรเพื่อฉันมามากมาย และทำได้ดีมากด้วย และก็คงจะไม่มีทางทำร้ายนรมน แต่ตอนนี้ดูท่าฉันจะคิดผิดไปแล้ว”

คำพูดของบุริศร์นั้นพูดได้ช้ามาก ไม่มีใครรู้ว่าความรู้สึกในใจของเขาตอนนี้นั้นเป็นยังไง แต่ว่ากลับทำให้หงส์ตกตะลึงไปทันทีเลย

เขากำลังโทษเธอ!

หนำซ้ำยังพูดแทงใจดำมาตรง ๆ เลยว่าเธอทำร้ายนรมน!

ถึงแม้ว่าเธอจะทำแบบนั้นไปจริง ๆ แต่ว่าอยู่ในใจบุริศร์นั้นตัวเองได้ย่ำแย่ขนาดนั้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

“เฮียบุริศร์ อยู่ในใจคุณฉันเป็นคนแบบนี้เหรอ?”

“พูดอะไรในตอนนี้ยังจะมีความหมายอยู่อีกเหรอ? นรมนหายไปแล้ว นี่ถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด!”

บุริศร์โทษตัวเองไม่หยุด

ทั้ง ๆ ที่เขารู้ถึงความรู้สึกที่หงส์มีต่อตัวเอง แต่ว่าก็ยังคงคิดว่าหงส์ยังเป็นหงส์คนเดิมอยู่อีก นี่เขาเองที่โง่เกินไป

ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นกับนรมนละก็ เขาจะไม่มีทางให้อภัยตัวเองแน่ ๆ

บุริศร์พูดจบแล้วก็หมุนตัวเดินไปเลย

“เฮียบุริศร์!”

“เธออยู่ที่นี่เถอะ ในเมื่อเธอไม่ได้อยากจะช่วยฉันและนรมนด้วยความจริงใจ งั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไปไม่ว่าเรื่องอะไรของฉัน การกระทำใด ๆ ของฉันก็ไม่เกี่ยวกับเธอแล้ว รวมทั้งความเป็นความตายของฉันด้วย”

อยู่ ๆ บุริศร์ก็เปิดปากพูดขึ้นมา จนทำให้ดวงตาของหงส์เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมาทันที แต่ครั้งนี้นั้นอยากจะร้องไห้ขึ้นมาจากใจจริง ๆ แล้ว

“เฮียบุริศร์ คุณจะทำแบบนี้ได้ยังไง? ฉันคือหงส์ของคุณนะ ฉันเป็นคนของสหภาพQTนะ คุณอยู่ที่นี่ ฉันจะไม่สนใจความเป็นความตายของคุณได้ยังไงกัน? คุณทำแบบนี้คืออยากจะทำให้ฉันไม่มีจุดยืนในสหภาพQTเหรอ?”

“ไม่มีสหภาพQTแล้ว เธอยังมีประเทศF”

คำพูดของบุริศร์ทำให้หงส์รู้สึกตัวเย็บวาบไปทั้งตัว

บุริศร์จะไม่เอาเธอแล้วเหรอ?

เป็นเพราะว่าเธอไม่ได้พานรมนกลับมาด้วยเหรอ?

มิตรภาพระหว่างเธอกับเขาในหลายปีมานี้ เทียบไม่ได้กับผู้หญิงคนนั้นที่ไม่มีอะไรเลยเหรอ?

ในใจของหงส์รู้สึกไม่พอใจ

“ฉันไม่! ฉันมีแต่สหภาพQTเท่านั้น มีแต่เฮียบุริศร์คุณ คุณจะไม่เอาฉันไม่ได้นะ! ฉันไม่สน คุณจะมาทิ้งฉันไปไม่ได้นะ! คุณเคยพูดแล้วไง ว่าชาตินี้จะดูแลฉัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน แต่คุณก็จะดูแลฉันเหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง คุณเคยพูดไว้แล้ว คุณจะไม่รักษาคำพูดไม่ได้นะ!”

อยู่ ๆ หงส์ก็มากอดบุริศร์เอาไว้ และกอดไว้แน่นมาก

เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว

กลัวว่าบุริศร์จะทอดทิ้งเธอไปจริง ๆ กลัวว่าบุริศร์จะไม่เอาเธอแล้วจริง ๆ แล้วไล่เธอออกจากสหภาพQT ยิ่งกลัวว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไปบุริศร์จะไม่สนใจเธออีก

บุริศร์กลับแกะมือของหงส์ทีละนิ้วทีละนิ้ว แล้วก็พูดอย่างเย็นชาขึ้นว่า “เธอสามารถทำร้ายฉันได้ และสามารถฆ่าฉันได้ แต่ว่าไม่ควรแตะต้องนรมน นรมนเป็นเส้นตายของฉัน เป็นจุดต้องห้ามของฉัน ไม่ว่าใครที่แตะต้องเธอ ฉันก็จะไม่ปล่อยไว้ทั้งนั้น หงส์ ทางที่ดีเธออย่าได้ทำอะไรกับนรมนไปจริง ๆ ไม่งั้น……”

คำพูดข้างหลังบุริศร์ไม่ได้พูด แต่ว่ากลับยิ่งทำให้คนกดดันและกลัวมากว่าพูดไปซะอีก

หงส์ไม่อยากจะยอมรับ และไม่ยินยอมที่จะยอมรับ ถึงแม้ว่าเธอจะใช้เรี่ยวแรงไปทั้งหมด แต่ก็ยังคงโดนบุริศร์สลัดทิ้งไปได้

บุริศร์มุดตัวออกไปอย่างรวดเร็ว

“เฮียบุริศร์!”

หงส์อยากจะตามไปด้วย แต่แค่คลาดสายตาครู่เดียวก็ตามไม่ทันแล้ว

เธอรู้สึกตื่นกลัวเป็นอย่างมาก

“เร็ว! เฉียง ให้คนทั้งหมดสังเกตความเคลื่อนไหวของเฮียบุริศร์ จำเป็นจะต้องคุ้มครองเขาอย่างลับ ๆ ให้ดี ยังมีอีกส่งข่าวไปบอกให้ธีรตา ให้ติณห์ยกเลิกแผนการฆ่าคน แล้วก็ตามหาเบาะแสของนรมนทั้งหมด ฉันต้องการให้นรมนมาปรากฏตัวตรงหน้าฉันอย่างปลอดภัย”

คำพูดของหงส์ทำให้เฉียงอึ้งไปเล็กน้อย

“หัวหน้าหน่วย นี่คุณคือ……”

“ฉันเกลียดเธอ เกลียดจนแทบอยากจะฆ่าเธอ แต่ว่าเมื่อกี้นายเองก็ได้ยินแล้ว เฮียบุริศร์พูดแล้ว ถ้าหากว่าเธอเกิดเรื่องขึ้น เฮียบุริศร์ก็จะไม่มีทางปล่อยฉันไปได้ นอกจากสหภาพQTแล้ว ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ที่นั่นเป็นบ้านของฉัน ที่นั่นมีพี่น้องของฉัน ยังมีเฮียบุริศร์ ถ้าออกจากสหภาพQT ฉันจะถือว่าเป็นอะไร? ฉันจะเป็นใคร? นรมนสมควรตาย แต่ว่าตอนนี้ยังตายไม่ได้ รีบไปหาคนมาให้ฉันก่อน ต่อไปฉันยังมีวิธีทำให้เธอตายอย่างไม่มีสุ้มเสียงอีกเยอะแยะ”

ในดวงตาของหงส์มีแววอิจฉาและบ้าคลั่งกะพริบขึ้น

ทำไม?

ทำไมบุริศร์ถึงได้ดีกับผู้หญิงที่ขึ้นเตียงด้วยคนนั้นขนาดนี้?

หนำซ้ำเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้วยังมาตำหนิเธอเช่นนี้อีก!

ผู้หญิงคนนั้นนอกจากคลอดลูกให้เขาสองคนแล้ว เธอยังเสียสละอะไรอีก? ยังมีประโยชน์อะไรอีก?

ใจของหงส์ว้าวุ่นไม่หยุด แต่ว่าอยู่ต่อหน้าความเป็นความตายของบุริศร์แล้ว เธอก็ยังยอมแพ้อยู่ดี

หลังจากที่บุริศร์วิ่งออกมาจากตำหนักของหงส์แล้ว แล้วก็ย้อนกลับไปที่ปากทางขาวดำตามความทรงจำ แต่ว่าที่นี่ไม่มีร่องรอยของนรมนและชัญญาตั้งนานแล้ว

เขาเปิดเครื่องติดตามที่ข้อมือขึ้นมาดู แต่ว่าบนนั้นกลับไม่มีอะไรเลย ซึ่งก็หมายความว่าปุ่มเปิดปิดของกำไลข้อมือของนรมนโดนปิดไปแล้ว

ใครเป็นคนปิด?

นรมนเป็นคนปิดเอง? หรือว่าเป็นคนอื่น?

บุริศร์ไม่รู้ ในใจยิ่งเป็นกังวลเป็นอย่างมาก

แล้วในเวลานั้นพอดี สายของราเชนก็โทรเข้ามาแล้ว

“พี่ นรมนอยู่กับพี่หรือเปล่า?”

บุริศร์รับสายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็ถามหาเบาะแสของนรมนเป็นสิ่งแรกเลย

น้ำเสียงของราเชนมีความเย็นชาเล็กน้อย

“บุริศร์ นายรู้สึกว่านายเก่งมากเลยใช่ไหม? ถึงกล้าพานรมนมาถึงที่นี่ได้? มาถึงแล้วก็ช่างเถอะ นายยังทิ้งเธอไว้ตัวคนเดียวที่ปากทางขาวดำอีก นายรู้หรือเปล่าว่าถ้าโดนคนของพวกทหารยามมาพบเห็นเข้า นรมนจะมีจุดจบยังไง? ถ้าหากว่านายไม่สามารถรักษาความปลอดภัยให้เธอได้ ก็อย่าพาเธอเข้ามาในวังวนของการแย่งอำนาจ หรือจะบอกว่านายรังเกียจเธอแล้ว ถึงได้กะว่าจะใช้การเมืองของทางนี้มาขจัดเธอทิ้งไป จากนั้นค่อยแต่งกับคนอื่นเหรอ?”

“ไม่ใช่ ทิ้งนรมนไว้คนเดียวนั้นเป็นเพราะว่าผมไม่ดีเอง พี่จะด่าว่ายังไงก็ได้ แต่ตอนนี้พี่ช่วยบอกผมหน่อยว่านรมนอยู่ที่ไหน?”

ท่าทีของบุริศร์นั้นมีความถ่อมตนอยู่เล็กน้อย

ราเชนหึเสียงเย็นขึ้นมาทีหนึ่ง “ฉันไม่รู้ นายไปตามหาเองเถอะ”

พูดจบราเชนก็วางสายไปเลย

ในใจของเขามีความโกรธเคืองต่อบุริศร์อยู่บ้าง

ผู้หญิงอย่างนรมนถึงแม้ว่าจะมีความเฉลียวฉลาดอยู่บ้าง มีฝีมืออยู่บ้าง แต่ว่าเมื่อเทียบกับผู้คนเจ้าเล่ห์ที่จมอยู่ในถังย้อมสีอันใหญ่แล้ว เธอก็เป็นแค่คนใสซื่อบริสุทธิ์คนหนึ่ง

บุริศร์พาเธอมาถึงที่นี่ก็เป็นการเสี่ยงอันตรายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แล้วตอนนี้ก็ยังมาทิ้งเธอไว้ทางนี้คนเดียวอีก ถ้าหากเขาอยู่ตรงหน้าบุริศร์ละก็ ก็อยากจะต่อยบุริศร์สักหมัดสองหมัด ตอนนี้ก็เลยไม่อยากจะให้บุริศร์รู้เบาะแสของนรมนเร็วเกินไป

ทางสายของราเชนมีเสียงสัญญาณตัดไปแล้วลอยมา บุริศร์รู้ว่าเขาวางสายไปแล้ว แต่ว่าราเชนเป็นเบาะแสเดียวที่บุริศร์จะตามหานรมนเจอ

อยู่ที่นี่นรมนไม่รู้จักกับคนอื่น รู้จักแต่แค่ราเชน แล้วก็มีแต่ราเชนเท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือนรมนได้

ตอนนี้รู้ว่านรมนและราเชนอยู่ด้วยกัน ในใจของบุริศร์ก็โล่งอกไปได้เปลาะหนึ่งและในขณะเดียวกันก็เป็นห่วงความรู้สึกในตอนนี้ของนรมนขึ้นมา

เธอคงจะรู้สึกกลัวมากเลยละมั้ง

ราเชนพูดได้ถูกต้อง เขาไม่ควรที่จะทิ้งนรมนไว้คนเดียว ช่างปากทางขาวดำอะไรนั่นซิ อะไรชายหญิงไม่สามารถเดินด้วยกันได้ เขาบุริศร์เป็นคนที่รักษากฎขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

แต่ว่าตอนนี้พูดอะไรก็สายไปซะแล้ว

บุริศร์ไม่รู้ว่าตำหนักของราเชนอยู่ทางไหน และตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาคับขันและก็ไม่มีใครให้ถามไถ่ ที่จริงเขาสามารถถามหงส์ได้ แต่ว่าตั้งแต่วินาทีที่นรมนหายตัวไป เขาก็ไม่เชื่อใจหงส์อีกแล้ว

คนที่เคยเหลือแผ่นหลังของตัวเองไว้ให้อีกฝ่ายได้ในสนามรบ ตอนนี้กลับไม่มีทางเชื่อใจได้อีกแล้ว ในใจของบุริศร์นั้นรู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก แต่เมื่อเทียบกับความปลอดภัยของนรมนแล้ว เขาก็ได้ข่มความทุกข์ใจนี้ลงไปเลย

แล้วก็ในเวลานี้พอดี ที่ด้านหน้าก็มีเสียงฝีเท้าดังลอยมา

บุริศร์รีบซ่อนตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ที่นี่ไม่มีที่ให้ซ่อนตัว มีแค่ถังขยะอันหนึ่ง แต่ว่าบุริศร์กลับรู้สึกรังเกียจเล็กน้อย ในขณะที่กำลังรีบร้อนอยู่นั้น เขาก็รีบเหยียบเสาแล้วปีนขึ้นไปบนคาน ได้กลายเป็นนักย่องเบาครั้งหนึ่งเลย

กลุ่มคนที่มา มารวมตัวอยู่ด้วยกันอย่างรวดเร็ว

“หาตัวเจอไหม?”

“ยังหาไม่เจอ ยัยชั่วไรยานั่น หลอกให้เราหมุนวนไปทั่ว จากนั้นก็กลับไปเลย”

คนพวกนี้กลับเป็นคนที่กล้าณรงค์ใช้ให้ไปสะกดรอยตามราเชน

ในขณะที่กำลังพูด กล้าณรงค์ก็ขับรถมาจากอีกด้านหนึ่งแล้ว

“คุณชายกล้าณรงค์”

พวกกลุ่มคนนั้นเคารพนอบน้อมกล้าณรงค์เป็นอย่างมาก

ดวงตาของกล้าณรงค์เยือกเย็นเป็นอย่างมาก

“ตามจนคลาดสายตาไปเหรอ?”

“ขอโทษครับ คุณชายกล้าณรงค์ พวกเรา……”

คนพวกนั้นยังพูดไม่ทันจบ กล้าณรงค์ก็ส่งมีดสั้นที่อยู่ในมือเข้าไปในอกของพวกเขาอย่างรวดเร็วและแม่นยำแล้ว ในดวงตาไม่มีอารมณ์สั่นไหวใด ๆ เลย

“พวกสวะ!”

เขาดึงมีดสั้นออกมา เลือดที่อุ่นร้อนก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ว่าสำหรับเขาแล้วก็เหมือนกับว่ามองไม่เห็นเลย

ดวงตาที่เยือกเย็นของกล้าณรงค์เป็นเหมือนกับงูพิษยังไงอย่างงั้น และจ้องเขม็งไปที่ทิศทางหนึ่ง แล้วพูดขึ้นทีละคำทีละคำว่า “ราเชน ช้าเร็วยังไงก็ต้องมีสักวันที่ฉันจะสับแกให้เป็นหมื่น ๆ ชิ้น!”

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท