สมชัยมาเหรอ?
ทำไมเขาถึงมาได้บังเอิญขนาดนี้?
ขาที่กะว่าจะก้าวออกไปในตอนแรกของบุริศร์เก็บกลับเข้ามาอีกครั้ง แถมยังรอบคอบและหลบซ่อนตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง
ในใจของราเชนเองก็ไม่สงบนิ่งเลย แต่กลับพยายามรักษาบุคลิกภาพนอกไว้
“ท่านพ่อ”
ราเชนทำความเคารพอย่างนอบน้อม ในใจกลับไม่มีคลื่นลมใด ๆ
ในตอนที่เขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดผู้ชายคนนี้กลับจ้องมองเขาเป็นไปตามยถากรรม ตอนนี้ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นอะไร เขาก็จะไม่มีทางเกิดความสั่นไหวใด ๆ เพื่อเขาอีกแล้ว
สมชัยจ้องมองราเชน ความรู้สึกในแววตาสั่นไหวเล็กน้อย
หน้าตาของเขาเหมือนกับนงลักษณ์เล็กน้อย ดวงตาแบบนั้น ท่าทีแบบนั้น แม้กระทั่งนิสัยที่เย็นชาในตอนนี้ก็ยังเหมือนกับนงลักษณ์ยังไงอย่างงั้น
สมชัยสะบัดมือเล็กน้อย ให้ราเชนนั่งลง
“ได้ยินมาว่าแกไปที่ตำหนักเจ้าห้ามาเหรอ?”
สมชัยเหมือนกับว่าเปิดปากพูดไปงั้น ๆ แต่กลับทำให้ราเชนรู้สึกสงสัยเล็กน้อย แต่ว่าก็ยังคงพูดเสียงต่ำว่า “ใช่ครับ น้องห้าเป็นหวัด ผมอยู่เฉย ๆ ไม่มีเรื่องอะไรก็เลยไปดูสักหน่อย”
“อยู่เฉย ๆ ไม่มีเรื่องอะไรเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่รู้ล่ะว่าพวกแกสองคนพี่น้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันขนาดนี้?”
สมชัยจ้องมองราเชนอย่างเหมือนยิ้มและไม่ยิ้ม แต่ในแววตากลับไม่มีรอยยิ้มใด ๆ
ราเชนเองก็ไม่ได้ถดถอย จ้องมองดวงตาของสมชัยตรง ๆ แล้วก็พูดขึ้นว่า “เรื่องที่ท่านพ่อไม่รู้ยังมีอีกเยอะครับ”
“อ๋อ เช่นอะไรบ้างล่ะ?”
“เช่นผมยังไปที่ตำหนักน้องหกมาด้วย”
ราเชนตั้งใจเอ่ยถึงดารัณออกมาด้วย
ถ้าหากว่าดารัณจะสนับสนุนเขาอย่างที่เธอพูดจริง ๆ ละก็ ครั้งนี้ก็เป็นการทดสอบคนแล้ว ถ้าดารัณได้พูดอะไรกับสมชัยไป เขาก็จะขจัดเธอไปให้เร็วที่สุดด้วย นี่เพื่อความปลอดภัยของเขา และก็เพื่อความปลอดภัยของนรมนด้วย
หัวคิ้วของสมชัยขมวดเข้าด้วยกันเล็กน้อย
“เจ้าหก? ช่วงนี้แกกับน้องสาวทั้งสองคนนี้ไปมาหาสู่กันดีเลยนี่”
“ท่านพ่ออยากจะพูดอะไรครับ?”
ราเชนพูดขึ้นเรียบ ๆ ความห่างเหินเสี้ยวนั้นทำให้สมชัยรู้สึกไม่ชอบใจมากนัก
“ฉันเป็นพ่อของแก ฉันเป็นห่วงแกบ้างจะไม่ได้เหรอ? นี่มันท่าทีอะไรของแก?”
ราเชนกลับยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “ผมโตแล้วครับ มันเกินช่วงเวลาที่จะต้องการความรักจากพ่อแล้ว ท่านพ่อทำงานเหน็ดเหนื่อยทุกวัน ยังไงก็เอาเวลาว่างไปให้กับการดูแลจัดการประเทศเถอะครับ สำหรับผมที่มีตัวตนอยู่อย่างไม่มีความสำคัญนั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมายืดเวลาที่มีค่าของท่านพ่อหรอกครับ”
อยู่ ๆ สมชัยก็รู้สึกอัดอั้นจนว้าวุ่นขึ้นมาเล็กน้อย
เวลาผ่านมาไม่เท่าไหร่ ลูกชายคนนี้ก็ได้เติบโตขึ้นมาเป็นแบบนี้แล้วเหรอ? มาวันนี้ทั้งหน้าเต็มไปด้วยความห่างเหินและเย็นชาล้วนเตือนใจสมชัยถึงความห่างเหินระหว่างพวกเขา
“แกกำลังโทษฉันเหรอ?”
“ไม่กล้าหรอกครับ”
ราเชนยังคงไม่ทุกข์ไม่ร้อนอยู่
ไม่ค่อยเหมือนกับบทบาทที่สมชัยคิดเอาไว้เท่าไหร่
ในตอนที่เขารู้ว่าลูกชายตัวเองชอบผู้ชายนั้น ทั้งตัวก็โกรธจนแทบจะตัวสั่น
เขานึกมาตลอดว่าราเชนเป็นคนที่ไม่เอาไหนคนหนึ่ง
ผู้หญิงในโลกนี้มีเยอะแยะ แต่เขากลับแตกหักกับพี่น้องเพราะผู้ชายคนเดียว นี่มันไม่มีทางเข้าใจได้จริง ๆ แต่พอวันนี้มาเห็นราเชนแล้ว อยู่ ๆ สมชัยก็ไม่คิดแบบนั้นแล้ว
เขารู้สึกไม่ค่อยเข้าใจลูกชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้สักเท่าไหร่แล้ว
พอคิดมาถึงตรงนี้ น้ำเสียงของสมชัยก็อ่อนนุ่มขึ้นมาเล็กน้อย พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ราเชน บางทีแกอาจจะโทษฉันว่าเป็นพ่อที่ไม่ได้มาตรฐานคนหนึ่ง แต่ว่าชีวิตคนที่ฉันแบกรับไว้บนไหล่นั้นมีมากมายเกินไป จึงทำให้ฉันไม่มีเวลาว่างออกมาอยู่เป็นเพื่อนพวกแกเท่าไหร่ แต่ว่าแกเป็นลูกชายของฉัน ยังไงในใจฉันก็ยังมีแกอยู่”
“ผมรู้ครับ”
ราเชนพูดไปอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน แต่ว่าปฏิกิริยาในดวงตานั้นกลับไม่เชื่อเลยสักนิด
มีเขาอยู่เหรอ?
ถ้ามีเขาอยู่ละก็เขาคงจะไม่ต้องมีชีวิตยากลำบากขนาดนี้หรอก?
สมชัยเห็นดวงตาของเขาแล้วก็รู้ว่าเขาไม่เชื่อ แต่ว่าช่องว่างตั้งหลายปีขนาดนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้แค่วันเดียว
สมชัยทอดถอนใจทีหนึ่งแล้วก็พูดขึ้นว่า “อย่าทำให้กล้าณรงค์ลำบาก”
ที่แท้นี่ถึงจะเป็นเป้าหมายที่แท้จริงที่เขามาในวันนี้!
ราเชนหัวเราะเย็น ๆ คำหนึ่งแล้วก็พูดขึ้นว่า “ท่านพ่อพูดผิดไปหรือเปล่าครับ? ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้คนที่โดนทำให้ลำบากคือผมต่างหาก คุณควรจะไปบอกกับกล้าณรงค์ว่าอย่ามาทำให้ผมลำบากถึงจะถูก ซินดี้ของผมโดนเขาทำให้ตายไป ชีวิตของผมโดนเขาทำลายไป แต่ท่านพ่อกลับมาตักเตือนผมอย่างลำเอียง ให้ผมอย่าไปทำให้เขาลำบาก ดูท่าแล้วท่านพ่อคงจะชื่นชอบเขามากนะครับ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วทำไมถึงไม่ให้สถานะที่เป็นทางการกับเขาอันหนึ่งไปเลยล่ะครับ? และก็พอดีเลย ประเทศของเราจะได้มีองค์ชายเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคนด้วย”
สำหรับสถานะของกล้าณรงค์ ผู้คนต่างก็ลือกันไปต่าง ๆ นานา แต่ว่าคนที่พอมีฝีมือนั้นต่างก็รู้เกือบหมดแล้ว เรื่องที่กล้าณรงค์เป็นลูกชายของสมชัย ในเมื่อมีผลตรวจดีเอ็นเออยู่ตรงนั้นแล้ว ตอนนี้ก็ขาดแค่สมชัยมายอมรับเท่านั้น
มาตอนนี้เพื่อกล้าณรงค์ลูกนอกสมรสคนนี้แล้ว สมชัยถึงกับตั้งใจมาตักเตือนเขารอบหนึ่ง ใจของราเชนที่รู้สึกเหน็บหนาวเล็กน้อยอยู่แล้วในตอนแรกก็ยิ่งเหน็บหนาวขึ้นไปอีก
สมชัยจ้องมองราเชนที่มีท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย แล้วก็ถอนหายใจทีหนึ่งและพูดขึ้นว่า “เขาไม่ใช่ลูกชายของฉัน แต่ว่าเป็นพี่น้องกับแก”
“หมายความว่ายังไงครับ?”
แล้วสมชัยก็บอกสถานะของกล้าณรงค์ให้ราเชนรู้
“เรื่องนี้มีคนรู้อยู่ไม่กี่คน และตอนนี้ก็ยังไม่เหมาะสมที่จะประกาศสถานะของกล้าณรงค์ออกไป เพราะฉะนั้นฉันก็เลยปล่อยให้คนทั้งหมดนึกว่าเขาลูกชายของฉัน แต่ว่ารอให้อาของแกกลับมา ทุกอย่างก็จะสามารถเปิดเผยต่อโลกได้แล้ว”
ทั้งตัวของราเชนล้วนอึ้งไปหมดเลย
นี่เขายังมีอาอยู่อีกคน ซึ่งก็คือพิรุณเหรอ?
เขารู้สึกว่าความเป็นมนุษย์ของตัวเองเกิดปัญหาขึ้นแล้ว
“นี่ตกลงพวกคุณกำลังวางแผนอะไรกันอยู่?”
“เส้นทางเหมือนแร่เส้นหนึ่ง ทรัพยากรเส้นหนึ่งที่สามารถทำให้ประเทศของเราก้าวไปสู่ประเทศชั้นนำของโลก ขอแค่ประเทศของเราตามหาเส้นทางแร่นี้เจอ การทดลองทางทหารของเรา อาวุธของเราถึงจะสามารถเจริญก้าวหน้าได้ไม่หยุด ถึงจะสามารถเทียบเคียงไปกับประเทศอื่น ๆ ได้ ราเชน ประเทศของเราเล็กเกินไปแล้ว เล็กจนในโลกนี้มีแค่ไม่กี่ประเทศที่รู้จักเรา แกดูประเทศของเราซิ เรามีทักษะที่ล้ำหน้าที่สุด บุคลากรที่มากความสามารถที่สุด และมีสิทธิ์อะไรที่จะต้องมาโดนประเทศต่าง ๆ มองข้ามล่ะ? ขอแค่เราได้เส้นทางแร่นี้มา พวกเราก็จะมีพละกำลังที่แน่ชัดแล้ว แกเองก็รู้ว่า ทุนทรัพย์ของประเทศเรากำลังขาดแคลนอยู่ แค่พึ่งทุนทรัพย์ที่เหล่าตระกูลใหญ่นี้มอบมาให้นั้นไม่เพียงพอที่จะเอามาสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการทดลองของทั้งประเทศหรอก เพราะฉะนั้นฉันกับอาของแกก็เลยวางแผนทุกอย่างนี้ขึ้นมาเพื่อความผงาดของตระกูลจันทรวงศ์ของเรา ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกหรือด้วยเหตุผล พวกเราก็ติดค้างอาของแกไว้ ช่วงหลายปีมานี้เขาล่องลอยอยู่ข้างนอกตัวคนเดียว แบกรับทุกอย่างไว้ตัวคนเดียว ฉะนั้นฉันจำเป็นที่จะต้องดูแลลูกชายของเขาให้ดี”
สมชัยจ้องมองดูราเชน แล้วพูดไปทีละคำทีละคำขึ้นว่า “ฉันรู้ว่าระหว่างแกกับกล้าณรงค์มีความคลางแคลงใจต่อกัน และฉันก็รู้ว่าแกเคยเจอกับพวกนรมนและบุริศร์มาแล้ว แถมยังอยากจะร่วมมือกับพวกเขาด้วย แต่ว่าราเชน แกจะต้องรู้ไว้นะ แกเป็นคนประเทศF แกกับกล้าณรงค์ต่างหากที่เป็นพี่น้องกัน จะเป็นนรมนก็ดี หรือจะเป็นบุริศร์ก็ช่าง ต่างก็ไม่ใช่คนของประเทศเรา และก็ไม่ได้เป็นคนของตระกูลเรา ในตัวของแกมีเลือดของตระกูลจันทรวงศ์ไหลเวียนอยู่ แกจะต้องรู้ให้ชัดเจนว่าอะไรคือสิ่งที่แกจะต้องทำ แกอยากจะตำแหน่งพระราชาอันนี้ ได้ รอให้ฉันได้เส้นทางแร่มาแล้ว ฉันก็จะเอาตำแหน่งนี้ยกให้แก สิ่งที่ฉันทำมาทั้งหมดก็เพื่อลูกหลานและคนรุ่นหลังอย่างพวกแกไม่ใช่เหรอ? แต่ว่าในใจของแกจะต้องรู้ไว้ ว่าใครต่างหากที่เป็นญาติของแก แล้วใครที่เป็นศัตรูของแก ถ้าจะเป็นพระราชา ก็จะต้องแยกแยะความใกล้ชิดกับความห่างเหินให้ได้ แม่ของแกเป็นคนประเทศZ ถึงแม้ว่าตระกูลของแม่แกจะยิ่งใหญ่ แต่ก็มีความเกี่ยวข้องกับพวกเราแค่หลอกใช้เท่านั้น แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องมามีความรู้สึกที่แท้จริงด้วยแกเข้าใจไหม?”
คำพูดพวกนี้ทำให้มือของราเชนกำเข้าหากันแน่น แถมยังกัดฟันไว้แน่นมากด้วย
มารดาติดตามเขามาตลอดชีวิต จนสุดท้ายต้องมาตายอยู่ในวังนี้ แต่เขากลับบอกกับราเชนว่ามีความเกี่ยวข้องกันแค่หลอกใช้เหรอ?
ราเชนไม่เคยรู้สึกว่าสมชัยมีหัวใจ แต่ว่าความเลือดเย็นในวินาทีนี้กลับทำให้ข้างในหัวใจของราเชนหนาวเหน็บ
เขารู้สึกไม่คุ้มแทนแม่!
ถึงแม้ว่านรมนจะบอกกับเขาว่าแม่นงลักษณ์ยังมีชีวิตอยู่ แต่เขาก็ไม่เคยคิดว่าจะไปตามหา เพราะอะไรล่ะ?
ก็เพราะเขากลัวว่าหลังจากที่ตามหามารดาเจอแล้วจะถูกสมชัยเอามาหลอกใช้อีกครั้ง แล้วก็จะลากเธอมาสู่โคลนตมนี้อีกครั้ง พอมาวันนี้ได้ยินจากปากสมชัยว่าสิ่งที่ตัวเองคาดเดาไว้นั้นเป็นความจริง ราเชนก็เก็บกดความเกลียดชังของตัวเองเอาไว้ แล้วก็ก้มหัวไว้แล้วพูดขึ้นว่า “ผมรู้แล้วครับ”
สมชัยมองปฏิกิริยาของราเชนไม่ออก และก็ไม่รู้ว่าลูกชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าการต่อสู้ของเขากับกล้าณรงค์มาถึงขั้นจุดเดือดที่สุดแล้ว วันนี้เขาก็คงไม่มาหรอก
โดยเฉพาะชัญญาสามารถโดนคนช่วยไปอย่างไม่มีสุ้มเสียง หนำซ้ำยังให้เขาสืบค้นเบาะแสไม่เจออีก สมชัยสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับราเชน
และวันนี้ก็แค่มาตักเตือนเขาเท่านั้น
สำหรับตระกูลจันทรวงศ์แล้วยังไงนรมนก็ยังเป็นคนนอกอยู่ดี
“ราเชน ฉันรู้ว่าในใจของแกยังมีความเกลียดชังต่อฉันอยู่ อย่างอื่นฉันก็จะไม่พูดมากแล้ว แกลองนึกภาพบุริศร์ดู เขาร่ำรวยซะขนาดนั้น แถมยังออกแบบรถถังและอาวุธได้อีก ถ้าเขาอยากจะคิดไม่ซื่อต่อประเทศเราละก็ แกร่วมมือกับเขามีแต่จะผลักประเทศไปให้ถึงขั้นไม่มีทางเยียวยาได้อีกแล้ว และฉันกับอาของแกหวังอยากจะได้เส้นทางแร่จากประเทศของพวกเขา ตั้งแต่แรกเราก็เกี่ยวข้องกันแบบศัตรูต่อต้านกันอยู่แล้ว แกนึกว่าบุริศร์จะยอมปล่อยประเทศเราไปเหรอ? อย่าโง่ไปหน่อยเลย พวกเขาเป็นศัตรูของพวกเรา ตอนนี้เป็นช่วงเวลาคับขันพวกแกพี่น้องก็จะต้องกลมเกลียวกันเอาไว้ และสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วย รู้หรือเปล่า?”
ในที่สุดราเชนก็พอจะฟังความหมายอะไรออกบ้างแล้ว
“ตกลงท่านพ่ออยากจะพูดอะไรกันแน่? คงจะไม่ได้คิดว่าคนที่คุณอยากจะตามหาจะอยู่ที่ตำหนักผมนี้หรอกมั้งครับ? หรือไม่ท่านพ่อก็ส่งคนมาค้นดูสักหน่อยเป็นไง?”
คำพูดนี้พูดได้อย่างตรงไปตรงมาไร้ความเคารพนอบน้อมไปบ้างแล้ว แต่ว่าสำหรับราเชนแล้วกลับไม่ได้สนใจอะไร
สมชัยไม่เคยมาที่ตำหนักของเขาเลย แล้วจู่ ๆ ก็มาแบบนี้ แถมยังพูดอะไรมากมายแบบนี้อีก หนำซ้ำยังบอกสถานะที่แท้จริงของกล้าณรงค์ออกมาอีก สิ่งที่ต้องการก็คือจะบอกกับเขาว่าบุริศร์กับนรมนนั้นเป็นคนนอก ให้เขาอย่าไปร่วมมือกับคนนอกเท่านั้น
แต่ว่าสำหรับราเชนแล้ว อะไรคือคนนอก?
ในตอนที่เขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดนั้น เป็นบุริศร์และนรมนคนนอกคนนี้ที่ให้ความอบอุ่นกับเขาเสี้ยวหนึ่ง ส่วนพ่อคนนี้ของเขาล่ะ? กำลังทำอะไรอยู่?
ผลประโยชน์ของประเทศอะไร เส้นทางเหมือนแร่อะไร การวิจัยทางวิทยาศาสตร์อะไร สำหรับเขาแล้วล้วนเป็นแค่ตดหมาเท่านั้น!
เขาแทบอยากจะทำลายประเทศนี้ไปซะ ทำลายวังที่เย็นชานี้ไปซะ สำหรับเรื่องที่จะสามารถทำให้ประเทศFกลายเป็นประเทศชั้นนำของโลกได้หรือเปล่านั้นเขาไม่ได้สนใจสักนิด แถมตำแหน่งพระราชานี้ก็ไม่ได้สนใจขนาดนั้น ที่แย่งชิงในตอนนี้ก็เพื่อที่จะแก้แค้นเท่านั้น
เพื่อซินดี้ และเพื่อแม่เท่านั้น
สมชัยกลับน่าขำที่นึกว่าเขาต้องการครอบครองใต้หล้าเลยเหรอ?
เขาราเชนไม่เคยมีใจทะเยอทะยานมากแบบนั้น สิ่งที่เขาต้องการก็แค่การได้อยู่อย่างสงบ ได้ใช้ชีวิตเข้างานตอนเช้าเลิกงานตอนเย็นกับคนที่ตัวเองรักก็เท่านั้น แต่ว่าความหวังที่เรียบง่ายแบบนี้กลับกลายเป็นความหวังเกินจริงไป
ในตอนที่คนที่เขาต้องการจะปกป้องไม่อยู่แล้วนั้น เขายังมีอะไรให้ต้องสนใจอยู่อีกเหรอ?
สำหรับสมชัยแล้วนรมนเป็นแค่คนนอกคนหนึ่ง แต่ว่ากลับเป็นหลานสาวคนเดียวของแม่ เป็นน้องสาวคนเดียวของเขา ถ้าหากว่าเธอและบุริศร์ต้องการประเทศFนี้ เขายอมประคองยกให้ทั้งสองมือแล้วจะเป็นไรไป?
คำพูดพวกนี้ตอนนี้เขายังไม่มีทางบอกกับสมชัย และรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นด้วย ดวงตาคู่สวยคู่หนึ่งจ้องมองสมชัยตรง ๆ ไม่ได้สนใจว่าเขาจะค้นตำหนักเลยสักนิด
พอเห็นท่าทางในตอนนี้ของราเชนแล้ว อยู่ ๆ สมชัยก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นเล็กน้อย
เขาพยายามพูดดีด้วยเต็มที่แล้ว ลูกชายคนนี้จะยืนคนละข้างกับเขาเหมือนอย่างกับผู้หญิงอย่างนงลักษณ์คนนั้นแล้วใช่หรือเปล่า?
พอคิดถึงสิ่งนี้แล้ว สีหน้าของสมชัยก็ดูไม่ดีขึ้นมาบ้างแล้ว
“ค้นตำหนักนั้นคงไม่ต้องหรอก แต่ว่าช่วงหลายปีมานี้ ในตำหนักของแกนี้ก็น่าจะมีเฟอร์นิเจอร์อะไรที่ต้องเปลี่ยนบ้างแล้ว ฉันเองก็ละเลยไป ทหาร ส่งคนชุดหนึ่งมาดูเฟอร์นิเจอร์ในตำหนักองค์ชายรองให้ดีสักหน่อย อะไรที่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนให้รายงานขึ้นมาทันที ตอนบ่ายเอาของใหม่ชุดหนึ่งมาเปลี่ยนให้หมด”
ถึงแม้ว่าคำพูดของสมชัยจะดูเหมือนว่าห่วงใย แต่ว่าเจตนานี้กลับแสดงออกชัดเจนว่าต้องการค้นตำหนัก บุริศร์ที่หลบซ่อนอยู่ในที่ลับก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตื่นเต้นขึ้นมา