ในห้องมีคนอยู่!
และยังเป็นผู้หญิง!
การรับรู้แบบนี้ทำให้สีหน้าของนรมนมืดมนอย่างรวดเร็ว ความรีบร้อนเมื่อสักครู่เหมือนถูกคนสาดด้วยน้ำเย็น ดับลงในชั่วพริบตา
เสียงกระเส่าของผู้หญิงดังขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันยังแทรกไปด้วยเสียงหอบของผู้ชาย ทำให้ความโกรธอย่างรุนแรงในใจของนรมนโบยบินออกมาโดยพลัน
บุริศร์ถูกคนวางแผน?
หรือทำเรื่องแบบนี้ด้วยความเต็มใจ?
คิดว่าเธอไม่มีทางกลับมาเร็ว ดังนั้นจึงใช้โอกาสนี้เหรอ?
นรมนยังจำความปรารถนาที่รุนแรงของบุริศร์ได้ หลายวันนี้ไม่ได้ให้เขาอดข้าว ก็อดใจไม่ไหวแล้วหรือ? หรือจะบอกว่าดอกไม้บ้านไม่หอมเท่าดอกไม้ป่า?
นรมนรู้สึกว่าปอดของตนเองกำลังจะระเบิด
เสียงด้านในดังขึ้นเรื่อยๆ เธอเสียการควบคุม เตรียมก้าวขึ้นไปถีบเปิดประตู กลับถูกคนคว้าข้อมือเอาไว้
“ใคร?”
นรมนโจมตีตามสัญชาตญาณ กลับถูกอีกฝ่ายขัดขวาง
“ผมเอง”
เสียงของบุริศร์ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้นรมนชะงักงัน
“บุริศร์?”
“ไม่อย่างนั้นล่ะ? คุณคิดว่าคนในห้องคือผมเหรอ?”
บุริศร์เห็นท่าทางแปลกใจของนรมน นึกถึงสีหน้าโกรธสุดขีดเมื่อสักครู่ของเธอ จึงเข้าใจทันที สีหน้าดูไม่ได้
“ในใจของคุณผมเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”
นรมนใจฝ่อ แต่กลับพูดอย่างแข็งขัน “ใครจะรู้ว่าคุณถูกคนวางแผนหรือเปล่า หากมีพวกดอกท้อเน่าเต็มใจเข้าหาคุณอีกล่ะ?”
บุริศร์โกรธจนหัวเราะออกมาทันที
“คุณหึงได้แย่มาก ไม่เหนื่อยหรือไง?”
“ทั้งหมดมันก็เป็นเพราะคุณ”
นรมนตอบกลับอย่างหดหู่
เธอค่อนข้างเกลียดที่ตนเองเป็นแบบนี้ แต่ท่าทางแบบนี้กลับไม่อาจช่วยตนเองได้
บุริศร์เห็นนรมนโมโห เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับความไม่เป็นธรรม แต่ทนเห็นนรมนอารมณ์เสียไม่ได้ จึงรีบกล่าวว่า “เอาล่ะๆ เป็นความผิดผมเองโอเคไหม?”
“มันเป็นความผิดของคุณอยู่แล้ว ใครใช้ให้คุณเกิดมาหล่อแบบนี้? ดึงดูดความสนใจไปทั่ว หงส์เพิ่งจะไป หากมีหงส์มาอีกคนจะทำยังไง?”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์หัวเราะขึ้นมาทันที
“หงส์ไม่ใช่คุณเหรอ?”
“คุณถึงจะเป็นหงส์”
นรมนขี้เกียจพูดมากกับเขา เลิกคิ้วขึ้นและถามว่า “ในเมื่อคนด้านในไม่ใช่คุณ งั้นเป็นใคร?”
“ไม่รู้สิ”
“ฉันรู้”
ไม่รู้ว่าหงส์มาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำเอานรมนตกใจ
“ฉิบหาย เธอเดินไม่มีเสียงหรือไง?”
นรมนตบหน้าอกตนเองอุทานเสียงเบา
หลังจากจุดยืนของหงส์ถูกกำหนดแล้ว นรมนจึงปฏิบัติต่อเธออย่างสบายๆ มาก
หงส์เห็นท่าทางไร้ประโยชน์ของนรมน จึงกล่าวอย่างดูถูก “ถ้าฉันเป็นผีจริง จะลากเธอไปเป็นคนแรก”
“เชอะ นั่นต้องได้รับการอนุญาตจากสามีของฉัน จริงไหมคุณสามี?”
นรมนดึงแขนของบุริศร์อย่างไร้ยางอาย ดึงเขามาในการสู้รบ
บุริศร์อยากหัวเราะ
ท่าทางแบบนี้ของนรมนดูเหมือนคางคกขึ้นวอจริงๆ
หงส์โมโหจนหน้าแดงทันที
“นรมน เธอยังไร้ยางอายได้มากกว่านี้อีกไหม?”
“ได้สิ หรือจะให้ฉันจูบสามีต่อหน้าสาธารณชนให้เธอดู?”
นรมนไม่มีขอบเขตมากกว่าเดิม
หงส์มองบุริศร์ ถามอย่างน้อยใจ “เฮียบุริศร์จะไม่จัดการเหรอ?”
“จัดการไม่ได้ ฉันกลัวเมีย”
บุริศร์พูดคำนี้ออกไป หงส์โดนตอกหน้าหงายทันที
คำพูดแบบนี้คิดไม่ถึงว่าบุริศร์จะพูดอย่างชื่นมื่น มันมีอะไรน่าดีใจ?
นรมนเห็นบุริศร์พูดแบบนี้ จิตใจถึงจะสงบ แต่เธอยังไม่ลืมเรื่องเมื่อสักครู่
“รีบบอกมา คนในห้องเป็นใคร?”
นัยน์ตาของหงส์เคร่งขรึมทันที
“คนที่จะวางยาบุริศร์ ผลสุดท้ายถูกฉันจับได้ จึงให้หล่อนกินเข้าไปเอง”
“หมายความว่าอะไร?”
นรมนตึงเครียดขึ้นมาทันที
ข่าวที่พวกเขาอยู่ที่นี่ไม่ได้แพร่ออกไปข้างนอก ทำไมถึงมีคนชอบพอบุริศร์
หงส์ตอบอย่างเย็นชา “สาวใช้ในตำหนักของฉัน ตอนติดตามธีรตาได้เจอเฮียบุริศร์ครั้งหนึ่ง เลยชอบเข้า ไม่คิดว่าจะใช้วิธีชั้นต่ำเพื่อได้รับความโปรดปราน หล่อนคิดว่าที่นี่คือตำหนักในของสมชัยหรือไง เฮียบุริศร์ของฉันจะปล่อยให้ผู้หญิงแบบนี้มาทำให้ด่างพร้อยได้ยังไง?”
ทำไมนรมนได้ยินคำพูดนี้แล้วไม่ค่อยสบอารมณ์?
เฮียบุริศร์ของฉัน?
แต่เธอมองบุริศร์ เพื่อไม่ทำให้เขาลำบากใจ เลยไม่พูดอะไร
“ผู้ชายเป็นใคร?”
“องครักษ์ของกล้าณรงค์”
สิ้นคำของหงส์ นรมนนิ่งไปทันที
“ไม่จริงใช่ไหม? คิดไม่ถึงว่าเธอจะไปที่ของกล้าณรงค์จับตัวองครักษ์มาลงโทษสาวใช้ในตำหนักของตนเอง เธอผิดปกติหรือเปล่า?”
“เธอสิผิดปกติ!”
หงส์กลอกตาบนใส่นรมนทันที จากนั้นกล่าวว่า “องครักษ์ของกล้าณรงค์ยังต้องให้ฉันไปจับเหรอ? ข้างนอกหาได้ตามใจชอบ”
“หมายความว่าอะไร?”
นรมนเข้าใจทันที แต่กลัวว่าตนเองจะเข้าใจผิด จึงรีบถาม “เธอหมายความว่าด้านนอกเป็นคนของกล้าณรงค์เหรอ?”
“ตั้งแต่โสธรถูกส่งมาที่ฉันเขาก็ส่งคนมาจับตาอยู่ด้านนอก และไม่ใช่วันสองวัน วันนี้ขุนนางผู้ส่งสารมารับตัวแพะรับบาปของโสธรไป คนของกล้าณรงค์กลับไม่ถอนกำลังออก หมายความว่าเขายังสงสัยอะไรอยู่ เพียงควบคุมคนของเขา ฉันถึงจะรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรต่อไป ในเมื่อหมากที่พร้อมใช้งานส่งถึงประตูแล้ว ทำไมฉันจะต้องปฏิเสธด้วย”
ได้ยินหงส์พูดแบบนี้ นรมนถึงจะพบว่าหงส์ยังใจดีกับเธอ ไม่อย่างนั้นตอนนี้ตนเองจะยืนอยู่ตรงนี้อย่างสบายดีหรือเปล่าก็ไม่รู้
นัยน์ตาของบุริศร์หรี่ลง
“พวกเราเข้าออกคนของกล้าณรงค์ไม่รู้เหรอ?”
“ไม่รู้หรอก ฉันให้คนดึงดูดความสนใจของพวกเราล่วงหน้าแล้ว สบายใจได้”
หงส์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้บุริศร์ นรมนยืนแทรกกลางระหว่างพวกเขาทันที
“เฮ้ ไม่อนุญาตให้ยิ้มเหมือนคนบ้าผู้ชายใส่สามีของฉัน”
“นรมน เธอ…”
หงส์อยากสู้กับนรมนอีกสักรอบจริงๆ
นรมนกลับแลบลิ้นใส่เธอ พูดอย่างไม่พอใจ “บุริศร์ คุณรีบหาผู้ชายมาแต่งงานกับเธอเถอะ ไม่งั้นเอาแต่คิดถึงคุณทั้งวัน ฉันคงจมน้ำส้มสายชูตาย คุณทนเห็นภรรยาคนสวยตายตั้งแต่ยังสาวได้ยังไง?”
หงส์รู้สึกว่าตนเองใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว
“เรื่องแต่งงานของฉันเธอแส่ให้มันน้อยหน่อย”
“ใครจะไปชอบแส่ล่ะ ขอเพียงแค่เธอไม่ชอบสามีของฉัน ฉันอยากจะขึ้นคานไปตลอดชีวิตฉันก็ไม่ยุ่งหรอก”
นรมนไม่เคยคิดว่าตนเองปากร้าย แต่ตอนนี้กลับพบแล้ว
บุริศร์เห็นว่าพวกเธอสองคนเหมือนจะทะเลาะกัน กลับมีท่าทางที่ไม่สบอารมณ์ของมิตรภาพอยู่มาก จึงอดส่ายหน้าไม่ได้
“งั้นตอนนี้ด้านในจะจบลงยังไง?”
“ฉันติดกล้องและกล้องวิดีโอไว้แล้ว บันทึกทั้งหมดเอาไว้ แน่นอนว่าสามารถขู่ให้องครักษ์คนนั้นเชื่อฟัง พวกเฮียย้ายไปพักห้องอื่นเถอะ”
“ก็ดี”
บุริศร์พูดจบก็หันตัวจะเดินไป กลับถูกนรมนดึงเอาไว้
นรมนมองหงส์ หงส์เห็นสายตานั้นรู้สึกไม่สบายใจ
“เธอจะทำอะไร?”
“เธอคงไม่ติดกล้องในห้องนั้นไว้ก่อนหน้า คิดจะดูความรักใคร่ของฉันกับบุริศร์หรอกนะ”
นรมนพูดออกไป หงส์สำลักน้ำลายตนเองทันที จากนั้นรีบไอออกมา
“เธอเป็นบ้าหรือเปล่า? ฉันจะโรคจิตขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ฉันจะไปรู้ได้ไง?”
นรมนไม่รู้สึกสักนิดว่าการคาดเดาของตนเองมีอะไรไม่เหมาะสม
บุริศร์คิดว่านรมนอยู่ตรงนี้ต่อไป เดาว่าหงส์คงจะกระอักเลือดออกมา รีบโอบเอวบางของนรมนกล่าวว่า “คุณยังฟังเสียงนี้ไม่พอใช่ไหม? ไม่สู้พวกเรากลับห้องไปหารือกันไหม?”
นรมนหน้าแดงขึ้นทันที
“หุบปาก”
ในที่สุดเธอก็ถูกบุริศร์ลากไป
หงส์ถอนหายใจอย่างโล่งอก นรมนคนนี้น่าเกลียดจริงๆ
แต่เห็นท่าทางรักกันมากของพวกเขา ในใจของหงส์ว่างเปล่า
เธอก็ควรหาใครสักคนมาจู๋จี๋ด้วยใช่ไหม?
เฝ้ารอบุริศร์คนที่ไม่มีหวังแบบนี้ต่อไปเท่ากับสิ้นเปลืองชีวิตของตนเอง ก่อนหน้านี้ยังคิดว่าตนเองจะได้ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งนั้น ตอนนี้คิดว่านรมนผู้หญิงคนนี้นอกจากจะน่าเกลียดไปหน่อย อย่างอื่นก็นับว่าใช้ได้ ตนเองไม่อาจขึ้นไปอยู่ตำแหน่งนั้น เธอควรจะยกเลิกความคิดของตนเอง หาคนอื่นมาบรรเทาไหม?
หงส์ส่ายหน้าทันที
ชีวิตคนเราความรู้สึกช่างซับซ้อนเหลือเกิน หาคนที่รักไม่เจอ งั้นก็อยู่เป็นโสดไปแบบนี้
ความจริงเป็นโสดก็ค่อนข้างดี มีอิสระ
หงส์ปลอบโยนตนเองเช่นนี้
เสียงด้านในค่อยๆ เบาลง จนสุดท้ายเมื่อใกล้จบลง หงส์ให้คนถีบประตูเข้าไป การแสดงจับผิดประเวณีจึงเริ่มดำเนินการขึ้น
เมื่อสาวใช้พบว่าชายที่ตนเองหลับนอนด้วยไม่ใช่บุริศร์ แต่เป็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งก็ร้องห่มร้องไห้ กลับถูกหงส์ส่งเสียงเย็นชาให้เงียบ
“ทำไม? ตอนนี้คิดได้เลยร้องไห้? ตอนแรกวางแผนทำไมไม่คิดถึงผลที่จะตามมา? แขกผู้มีเกียรติของฉันญาณินแกสามารถหลงใหลได้เหรอ? ใครก็ได้ เอาตัวมันออกไปให้ฉัน”
หงส์ออกคำสั่ง สาวใช้ถูกบังคับพาตัวไป
องครักษ์มองหงส์ มีความขี้ขลาดอยู่บ้าง แต่กลับพูดยืนยัน “องค์หญิงห้า กระหม่อมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กระหม่อม…”
“นอนกับคนของฉันกลับบอกฉันว่าไม่รู้เรื่องอะไร? ปกติกล้าณรงค์สอนพวกแกแบบนี้เหรอ? แกทำอะไรสาวใช้ของฉัน กล้องบันทึกไว้หมดแล้ว อยากให้กล้าณรงค์ดูต่อหน้าชัดๆ ไหม?”
สิ้นคำของหงส์ อีกฝ่ายมองเห็นกล้องทันที ร่างกายเป็นอัมพาตไปอย่างห้ามไม่ได้
“องค์หญิงไว้ชีวิตด้วย”
“ต้องการให้ฉันไว้ชีวิตก็ได้ แกรู้ว่าฉันจะให้แกทำยังไง”
องครักษ์ลำบากใจ
“หรือแกจะยอมตายในหน้าที่ ก็ได้นะ”
สิ้นคำของหงส์ องครักษ์พูดขึ้นทันที “คุณชายกล้าณรงค์ให้กระหม่อมเฝ้าติดตามว่าองค์หญิงติดต่อกับคุณชายรองหรือเปล่า และทางฝั่งพระราชามีนักโทษหญิงหนีไป คุณชายกล้าณรงค์สงสัยว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับองค์หญิง”
“เหลวไหล!”
หงส์มีภาพลักษณ์ที่เย็นชาและสูงส่งมาตลอด ในเวลานี้จู่ๆ ก็โพล่งคำหยาบขึ้นมา ทำให้ทุกคนอดอึ้งไปไม่ได้
“จะดูอะไรกัน?”
วันนี้หงส์ฉุนเฉียวมาก
วันครบรอบวันตายของแม่เธอ แต่ละคนต่างอยู่ไม่สุข ออกมาหาเรื่อง ก็อย่าโทษที่เธอแสดงอำนาจบารมี
ทุกคนรีบก้มหน้าลง รู้สึกว่าวันนี้น่าเหลือเชื่อ
หงส์กล่าวอย่างเย็นชา “คุณชายกล้าณรงค์ของพวกแกคิดว่าฉันน่าอัศจรรย์หรือไง ถ้าฉันให้ที่หลบซ่อนนักโทษหญิงจริง เมื่อสักครู่ตอนที่ขุนนางผู้ส่งสารมาทำไมแกไม่เข้ามารายงาน? หรืออาศัยโอกาสให้เสด็จพ่อของฉันสั่งค้นพระตำหนัก พวกแกก็จะเข้าใจอย่างถ่องแท้ไม่จริงเหรอ?”
องครักษ์รีบกล่าว “คุณชายกล้าณรงค์บอกว่าหลายปีที่ผ่านมาองค์หญิงห้าอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย กลับอยู่อย่างสงบไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง ซึ่งจะต้องไม่เหมือนกับเปลือกนอกที่ดูเรียบง่ายแน่นอน แม้เรื่องนักโทษหญิงจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับองค์หญิงห้า แต่เบื้องหลังองค์หญิงห้าจะต้องมีอำนาจอย่างอื่นคอยช่วยเหลืออยู่แน่นอน คุณชายกล้าณรงค์อยากรู้ว่าคนเบื้องหลังขององค์หญิงห้าเป็นใคร”
“ความทะเยอทะยานของคุณชายกล้าณรงค์ไม่น้อยเลยจริงๆ ทำไม? เขาคงไม่คิดเอาประเทศ F ไว้ในกำมือจริงๆ ใช่ไหม?”
นัยน์ตาของหงส์เคร่งขรึมโดยพลัน ท่าทางน่าเกรงขามทำเอาองครักษ์ตกใจทันที