“ใคร?”
หงส์แปลกใจสุดๆ มากเสียจนค่อยๆ เอามือวางไว้ที่เอวของตนเองด้วยซ้ำไป
ที่นี่คือพระตำหนักของเธอ ทั้งด้านในและนอกต่างเป็นคนของเธอ คิดไม่ถึงว่าจะมีคนแอบย่องเข้ามาอย่างเงียบๆ และสิ่งที่ทำให้แปลกใจที่สุดคือเธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป!
นี่ถึงจะเป็นส่วนที่หงส์หวาดกลัวที่สุด
เธอจ้องเขม็งที่มุมห้อง เสียงเมื่อสักครู่ดังมาจากหน้าต่าง แต่เห็นว่าคนที่มาไม่ได้อยู่ด้านล่างหน้าต่าง แต่เป็นด้านหลังหน้าต่าง
หงส์เตรียมตัวลงมือทันที
ในขณะนั้นเอง นรมนค่อยๆ เดินออกมาจากด้านหลังม่าน
“ฉันเอง”
เมื่อหงส์เห็นว่าเป็นนรมน ไม่รู้ว่าในใจรู้สึกอย่างไร
เธอมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร?
ไม่ใช่สิ ต้องพูดว่าเธอมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ถ้าอยู่ตั้งแต่ตอนที่บุริศร์มา คงจะเห็นสภาพจนตรอกเมื่อสักครู่ของตนเองไปแล้ว?
คิดได้เช่นนี้ แววตาของหงส์ปรากฏความโหดเหี้ยมแวบหนึ่ง
นังผู้หญิงคนนี้ทำให้เธอไม่ชอบเอาเสียเลย!
นรมนสัมผัสถึงความเดือดดาลของหงส์โดยปริยาย แต่กลับไม่สนใจ เดินไปตรงหน้าหงส์ทันที เทเหล้าให้ตนเองแก้วหนึ่งตรงหน้าเธอ และใช้จมูกสูดดม
“อืม เหล้าดี เหล้าดีแบบนี้ไม่คิดว่าเธอจะแอบเก็บเอาไว้ดื่มคนเดียว ไม่เป็นธรรมเลย”
“นรมน เธอมาที่นี่ได้ยังไง? ดูเหมือนนี่จะไม่ใช่พฤติกรรมที่ควรมีของผู้หญิงที่มาจากตระกูลใหญ่เลยนะ?”
เสียงของหงส์ราวกับเคลือบไปด้วยน้ำแข็ง เยือกเย็นน่าตกใจ คนทั่วไปคงตกใจในอำนาจของเธอไปแล้ว แต่นรมนกลับเหมือนไม่รู้สึกสักนิดเดียว จิบเหล้าหนึ่งคำ รู้สึกอบอุ่นไปทั้งร่างกาย
ประเทศ F หนาวเกินไปจริงๆ เธอก็ไม่อยากแอบเข้ามาลับๆ ล่อๆ แต่ชัญญาหลับไปแล้ว เธอจึงต้องกลับไป แต่เห็นบุริศร์ตรงมาหาหงส์ทางนี้ จึงทำให้เธอตามมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แน่นอนว่าเห็นลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดกับตา
เดิมทีนรมนไม่คิดจะปรากฏตัว แต่ท่าทางเจ็บปวดทุกข์ทรมานของหงส์ทำให้เธอทนไม่ไหว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเมื่อหงส์พูดกับธีรตาว่าให้ยกเลิกแผนการและส่งคนมาคุ้มครองเธอ นรมนจึงรู้ว่า ความจริงหงส์ไม่ได้มีจิตใจที่เลวร้าย
ตอนนี้เห็นหงส์ถลึงตาใส่ตนเองเหมือนตัวเม่น นรมนรู้สึกว่าตนเองเหมือนเป็นคนเลวมาก
“อย่ากังวลไปเลย นอกจากฉันเป็นผู้หญิงที่มาจากตระกูลใหญ่ แต่ฉันก็คือนายหญิงของอาณาจักรรัตติกาล สิ่งนี้หัวหน้าหน่วยหงส์ ไม่มีทางไม่รู้?”
“ฉันคิดไปเองตลอดว่านั่นเพราะความสัมพันธ์ของเฮียบุริศร์”
หงส์ไม่ปกปิดความเหยียดหยามและอารมณ์ที่ไม่ดีของตนเองสักนิดเดียว
นรมนก็ไม่สนใจ สำหรับเธอ ผู้หญิงที่อยากจะได้สามีของเธอมานานหลายปีจู่ๆ ก็คิดได้ ต้องการปล่อยวางความหลงใหลต่อสามีของเธอ เรื่องนี้คู่ควรแก่การเฉลิมฉลองมาก
ตราบใดที่ไม่แย่งผู้ชายของเธอ เธอไม่ต้องการมีศัตรูเพิ่มขึ้น
“ที่เธอพูดมา เหมือนฉันเป็นคนไร้ความสามารถเลย”
“ดีใจมากที่เธอรู้จักประเมินตนเอง”
หงส์ก็มองออก นรมนไม่ได้มาหาเรื่องตบตีกับเธอ แต่คำพูดแย่ๆ ในใจของเธอไม่สามารถออกไปได้
ผู้หญิงคนนี้มีสิทธิ์อะไรได้รับความรักทั้งหมดของบุริศร์?
ตนเองคิดได้แล้วว่าจะไม่ไล่ตามคือเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ได้ถึงตาที่เธอจะมาเห็นเป็นเรื่องตลก
“นรมน ลุกขึ้น มาสู้กับฉันสักรอบ
“เรื่องอะไร? ฉันเป็นภรรยาของบุริศร์ พี่สะใภ้ของเธอ เธอลงไม้ลงมือกับฉัน ไม่กลัวบุริศร์รู้แล้วลงโทษเธอเหรอ?”
นรมนพูดอย่างใจร้าย กลับทำให้หงส์โมโหตัวสั่น
“ฉันเสียใจ ฉันไม่น่ารอลงมือพรุ่งนี้เลย ฉันจะฆ่าเธอตอนนี้ซะ ถึงแม้ต่อจากนี้เฮียบุริศร์จะเคียดแค้นฉัน ฉันก็ต้องระบายความโกรธนี้ออกมา”
หงส์พูดจบตรงเข้าหานรมน
นรมนรู้ว่าหล่อนแค่ไม่ยินยอม หลังจากหลบเลี่ยงอย่างห้าวหาญก็อยากรู้ว่าช่วงนี้ฝีมือของตนเองถดถอยลงหรือเปล่า
มูลเหตุของร่างกายทำให้เธอไม่ได้ฝึกฝนมานาน ถึงแม้จะมีบุริศร์อยู่ข้างกายเสมอ แต่นรมนเองก็รู้ ในประเทศ F นี้ ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นไม่ดีเท่าช่วยตนเอง โดยเฉพาะเธอเองก็ไม่อยากถ่วงแข้งถ่วงขาบุริศร์ รอหลังจากพรุ่งนี้ชัญญาออกไป พวกเขาถึงจะเริ่มเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างแท้จริง
วันนี้มีหงส์เป็นหินลับมีดพอดี
คิดได้เช่นนี้ นรมนวางแก้วเหล้าในมือต่อสู้กับหงส์
ไม่ว่าอย่างไรหงส์ก็คิดไม่ถึงว่าฝีมือของนรมนจะยอดเยี่ยมเช่นนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือฝีมือนี้ทำไมถึงได้เหมือนกับบุริศร์?
เธอเข้าใจอะไรขึ้นมาโดยพลัน ในใจยิ่งทุกข์ทรมาน
ตนเองก็แค่มีบุญคุณที่ช่วยชีวิตบุริศร์ ดังนั้นบุริศร์ถึงแนะนำอยู่หลายอย่าง แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะสอนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับนรมน
ความเจ็บแสบในร่างกายของหงส์พรั่งพรูออกมาอีกครั้ง
“น่าเกลียดชัง ไม่คิดว่าเฮียบุริศร์จะสอนการต่อสู้ให้เธอเองกับมือ”
“น่าแปลก ก็เขาเป็นสามีของฉัน และไม่ได้สอนฉันแค่สิ่งเหล่านี้”
นรมนต่อสู้อย่างถึงอกถึงใจเช่นนี้น้อยมาก ภายใต้สถานการณ์ปกติร่างกายไม่อนุญาต วันนี้เลยทำในสิ่งที่ต้องการ
และบุริศร์เชื่อใจหล่อน เธอต้องรู้ให้ได้ว่าหงส์คู่ควรต่อความเชื่อใจของตนเองหรือเปล่า
ถึงแม้ตั้งแต่เริ่มเธอไม่คิดจะเป็นศัตรูกับหล่อน
หงส์ถูกกระตุ้นให้ลงมือหนักยิ่งขึ้น
“นรมน นี่เธอกำลังโม้อยู่เหรอ?”
“ว้า โดนเธอจับได้แล้ว น่าอายจังเลย”
นรมนรู้สึกว่าตอนนี้ตนเองกวนบาทาสุดๆ แต่หงส์ก็ไม่ได้ทำให้เธอผิดหวัง หมัดสอยดาวด้านซ้ายต่อยมาที่ไหล่ของเธออย่างหนักหน่วง
ความเจ็บปวดทำให้ความบ้าคลั่งในการต่อสู้ภายในร่างกายของนรมนทะลักออกมา
ถ้าบอกว่าเพราะไม่กี่ประโยคของหงส์ทำให้เธอลบล้างความไม่พอใจที่ถูกคนอยากได้สามีของตนเอง นั่นก็ง่ายเกินไปหน่อย
“หงส์ มีฝีมืออะไรควักออกมาให้หมด วันนี้ให้ฉันได้เห็นว่าเธอมีอะไรน่าภาคภูมิใจ”
“ถ้าฉันชนะเธอจะยกเฮียบุริศร์ให้ฉันไหม?”
“ฝันไปเถอะ เมื่อกี้บุริศร์พูดชัดเจนแบบนั้น หูของเธอมีปัญหาหรือไง?”
คำพูดนี้ของนรมนเท่ากับเป็นการบอกหงส์โดยตรงว่าเธอได้ยินเรื่องเมื่อสักครู่
ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะแค่คาดเดา แต่ในขณะนี้หงส์ยังรู้สึกรับไม่ได้
“นรมน เธอชอบทำให้คนรังเกียจเสียจริง”
“หงส์ เธอก็ทำตัวให้คนไม่ชอบเหมือนกัน”
ผู้หญิงสองคนต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง ตอนแรกแค่ออกท่วงท่าในการต่อสู้ ภายหลังเหมือนเด็กน้อยตีกัน ฉุดกระชากผมของอีกฝ่าย หยิกแขนของอีกฝ่าย
ในวินาทีนี้หงส์ไม่ใช่องค์หญิง นรมนก็ไม่ใช่คุณหนูใหญ่ของตระกูลธนาศักดิ์ธน ทั้งสองคนเหมือนผู้หญิงธรรมดาที่ตบตีกัน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ทั้งสองเหนื่อยจนอ่อนแรง นอนกองอยู่กับพื้น
หงส์มองเส้นผมที่ยุ่งเหยิงของนรมน ในที่สุดก็สบายใจขึ้นมาหน่อย
นรมนกลุ้มใจ นึกไม่ถึงว่าจะสู้ไม่ชนะหงส์ ผู้หญิงคนนี้เก่งอย่างที่คิดเอาไว้
“มิน่าล่ะเธอถึงกล้าอยากได้สามีของฉันอย่างอวดดีแบบนั้น ดูแล้วเธอยังพอมีศักยภาพอยู่บ้าง”
นรมนหอบ เหลือบมองหงส์ สายตามีความเลื่อมใส
เห็นความเลื่อมใสจากสายตาของนรมนเป็นสิ่งที่หงส์ไม่คาดคิด เธออึ้งไป ถึงจะพบว่านรมนไม่ได้อ่อนแออย่างที่ตนเองคิด จนแม้แต่ทรงพลังมาก แต่ความแข็งแกร่งของร่างกายนี้…
เธอพูดอย่างดูถูก “เสียแรงที่เฮียบุริศร์สั่งสอน ร่างกายที่เสื่อมโทรมของเธออ่อนแอเกินไป”
“ทำอะไรไม่ได้”
เธอหยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ และไม่พูดอะไรมาก
เรื่องนี้แค่เธอกับบุริศร์รู้ก็พอ ส่วนคนอื่นเธอจะพูดหรือเปล่ามันไม่สำคัญ
ลุกขึ้น กินเหล้าเป็นเพื่อนฉัน
หงส์ถีบนรมน
นรมนพูดอย่างขุ่นเคือง “เธอเชื่อไหมว่าฉันจะบอกบุริศร์ว่าเธอรังแกฉัน?”
“เหอะ โตขนาดนี้ยังจะฟ้องเหมือนเด็กไปได้ เธอจะเอากำไรไปหน่อยนะ”
“ได้กำไรสักหน่อยก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย”
นรมนโอ้อวด
มุมปากของหงส์กระตุก รู้สึกว่านรมนผู้หญิงคนนี้ได้คืบจะเอาศอก
“ตกลงเธอจะดื่มหรือเปล่า?”
“มีเหล้าฟรีทำไมจะไม่ดื่ม?”
นรมนดันตัวขึ้นมา มาที่โต๊ะตรงหน้าและนั่งลงไป
หงส์หยิบแก้วไวน์ออกมาสองใบ เทเหล้าลงไปทั้งสองแก้วให้เธอ แล้วก็ไม่เคยชินเล็กน้อย กลับพูดอย่างยอมแพ้ “แด่เธอ พี่สะใภ้”
คำว่าพี่สะใภ้ทำให้นรมนแสยะยิ้มออกมา รอยยิ้มนั้นฉีกไปถึงหลังใบหู หงส์เห็นแล้วขัดหูขัดตา
“ฉันขอเตือนเธอนะ อย่ามากเกินไป ถึงแม้ฉันจะยอมรับเธอ แต่ฉันไม่ได้พูดว่าฉันปล่อยวางความรู้สึกที่มีต่อเฮียบุริศร์”
“ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้?”
นรมนหดหู่ใจทันที
เธอรู้สึกว่าเหล้าในมือไม่หอมอีกต่อไป
เห็นนรมนหดหู่ หงส์รู้สึกดีขึ้นเยอะ
“อย่าคิดว่าต่อสู้กับฉันแค่ครั้งเดียวจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น ฉันรับปากว่าจะคุ้มครองเธอ แต่ไม่ได้พูดว่าจะปล่อยเฮียบุริศร์ไปซะหน่อย”
“งั้นต้องดูฝีมือของเธอ เธอไม่กลัวอิ่มอาหารสุนัขจนตาย ก็ดิ้นไปดิ้นมาอยู่ตรงหน้าพวกเราไม่ต้องเกรงใจ”
นรมนขัดคอหงส์จนได้
หงส์หมดคำพูดทันที
“เฮียบุริศร์รู้ไหมว่าเธออันธพาลแบบนี้?”
“เขารู้แน่นอน แต่เขาชอบที่ฉันอันธพาลแบบนี้ เป็นไง?”
นรมนเชิดหน้าขึ้น ท่าทางกวนบาทาทำให้หงส์อยากจะต่อยเธออีกสักหมัดจริงๆ
“เหอะ ไร้ยางอาย”
“ขอบคุณที่ชม”
นรมนยกเหล้าขึ้นมาดื่ม ความเจ็บปวดบนร่างกายบรรเทาลงไปมาก
ตั้งแต่ร่างกายไม่แข็งแรง บุริศร์ไม่ค่อยให้เธอดื่มเหล้า ตอนนี้อยู่ในประเทศที่หนาวมาก ได้ซดเหล้าสักนิดหน่อยรู้สึกไม่เลวจริงๆ
หงส์เห็นเธอชิมรสชาติของเหล้าอย่างละเอียด ท่าทางมีความสูงส่งและเอื่อยเฉื่อย ทิ้งอคติส่วนตัวไป เธอพบว่าความจริงนรมนก็ใช้ได้
ถึงแม้ในใจจะไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่จำต้องพูดว่านรมนมีบางอย่างที่เธอเทียบไม่ติดจริงๆ
“นี่ เดิมทีเธอคิดจะทำอะไรฉัน?”
นรมนอยากรู้มาก
แม้เธอจะรู้ว่าหงส์ไม่มีทางปล่อยโอกาสงานเลี้ยงของรัฐเล่นงานตนเองไป แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะยกเลิกแผนการอย่างจวนตัว
หัวคิ้วของหงส์ขมวดเล็กน้อย ไม่อยากพูดเกี่ยวกับสิ่งนี้แม้แต่นิดเดียว ราวกับเป็นการเตือนว่าตนเองเคยเลวทรามมากเพียงไหน
“ทำไมฉันจะต้องบอกเธอด้วย?”
“ไม่บอกก็ช่างเถอะ ฉันก็ไม่ได้อยากรู้ แต่เธออยากเล่าให้ฉันไหม ทำไมเธอถึงชอบสามีของฉัน?”
นรมนยกหัวข้อนี้ขึ้นมาอย่างกวนบาทาสุดๆ
สามีสองคำจากปากเธอทำให้หงส์หดหู่ใจ
“วันนี้พวกเราแค่ดื่มเหล้าไม่ต้องพูดอะไรได้ไหม?”
“งั้นก็น่าเบื่อแย่ ไม่กลายเป็นดื่มย้อมใจหรือไง?”
“เดิมทีฉันก็จะดื่มย้อมใจ เธอคิดว่าฉันจะฉลองที่ตัวเองอกหักหรือไง?”
นรมนกลับถามอย่างไม่เครียด “เธอเคยมีความรักไหม? อย่างมากก็แค่แอบรัก ไม่มีความร่วมมือของสามีฉัน นั่นไม่ได้เรียกว่าเธอมีความรักนะ”
“นรมน!”
หงส์ค่อยๆ ลุกขึ้น กลับได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากด้านนอก คิ้วขมวดเล็กน้อยทันที