แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1378 มีอารมณ์จะดื่มสักแก้วไหม

บทที่ 1378 มีอารมณ์จะดื่มสักแก้วไหม

“ผมยุ่งหมดแล้ว!”

บุริศร์เดินขึ้นหน้ามาอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย แล้วก็ลูบแรง ๆ ตรงตำแหน่งที่จณัตว์ลูบหัวนรมนเมื่อกี้ไปสองที อย่างกับว่าทำแบบนี้แล้วจะสามารถลบกลิ่นอายของจณัตว์ออกไปได้

น่ารังเกียจที่สุด!

จณัตว์คนนั้นคิดว่าเขาเป็นคนตายหรือไง?

ถึงได้กล้าหยอกล้อผู้หญิงของเขาต่อหน้าเขาแบบนี้ได้!

รอให้เขากลับประเทศแล้วจะต้องทำความรู้จักกับจณัตว์คนนี้สักหน่อยถึงจะดี

บุริศร์คิดอยู่ในใจ สีหน้าก็ไม่สู้ดีนัก ถึงแม้จะแต่งหน้าอยู่ก็บดบังความอาฆาตและความหึงหวงของเขาในตอนนี้ไว้ไม่อยู่

นรมนรู้สึกอยากจะหัวเราะขึ้นเล็กน้อย แต่ว่าก็กลัวกระตุ้นโดนบุริศร์ จึงได้อดเอาไว้

“เอาล่ะ พวกเราเองก็ออกไปกันเถอะ ไม่รู้ว่าทางด้านพี่ราเชนกับหงส์จะเป็นยังไงบ้างแล้ว ตอนนี้รอให้จณัตว์ส่งคนออกไปแล้ว แผนที่พวกเราจะจัดการกับกล้าณรงค์ก็เริ่มขึ้นได้แล้ว พอดีเลยที่เขาได้ให้เม็ดยาไว้กับฉันบางส่วน พวกเราก็จะสามารถรวดใส่เข้าไปในเหล้าของกล้าณรงค์ จากนั้นก็จับตัวเขาไว้อย่างไม่ให้ใครรู้ได้เลย คุณว่าเป็นไง?”

นรมนคิดแผนการของตัวเองไป ไม่ได้สังเกตเห็นสักนิดเลยว่าสีหน้าของบุริศร์นั้นดูบูดบึ้งมาก

“ผมจำได้ว่ายาที่คุณให้เรณุกา ก็เขาเป็นคนให้มาเหรอ?”

“ค่ะ”

นรมนพยักหน้าเล็กน้อย แล้วไม่เข้าใจว่าอยู่ ๆ ทำไมบุริศร์ถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาได้

สีหน้าของบุริศร์ดูบูดบึ้งขึ้นมาหลายส่วนอีกครั้ง

“ครั้งที่แล้วเขาก็ทำแบบนี้กับคุณเหรอ?”

“แบบไหนคะ?”

นรมนอึ้งไปเล็กน้อย แล้วก็นึกการกระทำเมื่อกี้ที่จณัตว์ทำกับตัวเองขึ้นมา แล้วก็รีบพูดขึ้นว่า “เปล่าค่ะ เปล่าค่ะ คราวที่แล้วเขาเป็นปกติมาก ใครจะไปรู้ว่าครั้งนี้เขาไปกินยาผิดอะไรมาหรือเปล่า?”

“ต่อไปนี้อยู่ห่าง ๆ เขาหน่อยนะ”

“ค่ะ”

นรมนจ้องมองใบหน้าที่บูดบึ้งของบุริศร์ แล้วก็อดไม่ได้อยากจะหัวเราะขึ้นมา แต่ว่าสุดท้ายก็ยังอดกลั้นเอาไว้ได้

“กล้าณรงค์ไม่ใช่คนที่จะต่อกรได้ง่าย ๆ แบบนั้น วางยาไว้ในแก้วเขานั้นไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ ยังไงพวกเราก็หาห้องสักห้องซ่อนตัวไว้ก่อนดีกว่า ไว้ค่อยว่ากันไปตามสถานการณ์ละกัน”

“ได้ค่ะ”

สำหรับปฏิบัติการตามล่ากล้าณรงค์นั้นนรมนก็ยังฟังบุริศร์อยู่

ทั้งสองคนหาเส้นทางเล็ก ๆ เส้นหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว แล้วก็ตามสาวใช้และพนักงานบริการไม่กี่คนเข้าไปในห้องโถงใหญ่ แล้วก็ไปที่ห้องห้องหนึ่งภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีใครสังเกตเห็น

บุริศร์ใช้คอมพิวเตอร์ย่อส่วนในมือถอดระบบกล้องวงจรปิดไป แล้วถึงได้วางใจที่จะนั่งลงไปบนโซฟาได้

“หิวหรือยัง? ให้ผมไปหาของกินอะไรให้คุณหน่อยไหม?”

บุริศร์จ้องมองนรมน แล้วถามอย่างเป็นห่วงขึ้น

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่หิว แต่ว่าห้องนี้ไม่เลวเลย มันน่าจะเป็นห้องพักแขก เอาไว้ให้แขกที่ดื่มเยอะแล้วมาพักมั้งคะ?”

“คนจะใช่มั้ง”

สำหรับเรื่องนี้บุริศร์เองก็ไม่ค่อยเข้าใจ

ที่ข้างนอกการประจบประแจงมีไม่ขาด

นรมนดูจากร่องประตูออกไปข้างนอก ก็เห็นผู้ชายที่ใส่หน้ากากอยู่คนหนึ่งกำลังโดนคนรุมล้อมไว้ และทั้งตัวก็แผ่ซ่านกลิ่นอายเย็นชาที่อยากจะออกห่างจากผู้คน

“นั่นก็คือตัวแทนของจณัตว์เหรอ? ดูไปแล้วเหมือนกับที่ร่ำลือกันเลยนะคะ”

คำพูดของนรมนทิ่มแทงโดนบุริศร์แล้ว

เริ่มตั้งแต่ที่จณัตว์ลูบหัวนรมนเป็นต้นมา บุริศร์ก็รู้สึกแปลก ๆ ทุกอย่างแล้วก็โกรธ พอมาตอนนี้นรมนก็ยังเฝ้าสังเกตจณัตว์คนนี้มาก จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “เจ้าหน้าขาวนั่นมันมีอะไรดีกัน?”

“เจ้าหน้าขาว?”

นรมนอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่าจณัตว์ นั้นค่อนข้างขาวจริง ๆ ด้วย

บัณฑิตหน้าขาวสี่คำนี้ก็ช่างเหมาะสมกับเขานะ

พอเห็นนรมนมีท่าทางเหมือนกับกำลังคิดถึงจณัตว์อย่างจริงจังนั้น บุริศร์ก็โกรธเคืองขึ้นมาทันที

“ห้ามคิดถึงเขา!”

เขารีบลากตัวนรมนเข้ามาในอกทันที ท่าทางที่วางอำนาจแบบนั้นทำให้นรมนรู้สึกหมดคำพูดขึ้นมาทันที

“ฉันเป็นเมียของคุณ คุณจะไปกลัวอะไรคะ?”

“ใครกลัวกัน? ผมก็แค่ไม่อยากจะให้คุณคิดถึงผู้ชายคนอื่นนอกจากผม”

บุริศร์ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตัวเองเป็นคนใจแคบขนาดนี้ นรมนเองก็ค่อนข้างรักษาระยะห่างกับคนอื่น แต่ว่าสำหรับจณัตว์คนนี้ทำไมถึงได้ใส่ใจและสนใจมากขนาดนี้?

ไม่ว่ามากหรือน้อยเขาก็รู้สึกถึงอันตรายขึ้นมาเสี้ยวหนึ่งแล้ว

นรมนรู้สึกขำเล็กน้อยแล้วก็พูดขึ้นว่า “คุณอย่ามาทำตัวเป็นเด็กมากขนาดนี้ซิ?”

“ยังไงผมก็ไม่อนุญาต ต่อไปถ้าเขายังกล้าลูบหัวคุณอีก ผมก็จะตัดมือเขาทิ้งซะ”

ดวงตาของบุริศร์มีแววโหดเหี้ยมพาดผ่านเสี้ยวหนึ่ง เหมือนกับไม่ใช่แค่พูดเล่น ๆ ไปเท่านั้น

“ได้ค่ะ ได้ค่ะ เมื่อกี้ตัวฉันเองก็ไม่ได้ป้องกันตัว ครั้งหน้าจะไม่มีอีกแล้วค่ะ ฉันรับประกันว่าจะไม่ให้ใครมาลูบหัวฉันอีก พอใจหรือยังคะ”

นรมนปลอบบุริศร์ไปเหมือนอย่างกับปลอบเด็กคนหนึ่ง แต่กลับรู้สึกว่าบุริศร์ที่เป็นแบบนี้ช่างน่ารักมากจริง ๆ “งั้นคุณจะไม่ทดแทนให้ผมหน่อยเหรอ?”

บุริศร์โอบเอวของนรมนเอาไว้ แล้วก็กักตัวเธอไว้ที่ประตูห้อง

ข้างหลังเป็นประตูที่หนาวเย็น ข้างหน้าเป็นบุริศร์ที่ร่างกายร้อนอย่างกับไฟ จนกลายเป็นร้อนเย็นทั้งสองอย่างปะทะกัน ทำให้นรมนรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อย ที่สำคัญที่บางแห่งที่อยู่ไม่สุขของบุริศร์ก็ค่อย ๆ ขยับขึ้นมาแล้วตอนนี้ ทำให้นรมนหน้าแดงขึ้นมาทันที

“เราเป็นสามีภรรยากันมาตั้งนานแล้ว คุณจะทำตัวให้มันปกติหน่อยได้ไหม? ตอนนี้พวกเราอยู่ในถิ่นของศัตรู ไม่แน่อีกเดี๋ยวก็อาจจะถูกเปิดโปงไปแล้ว คุณยังมีใจมาคิดเรื่องพวกนี้อีก?”

“ทำไมจะไม่มีใจคิดเรื่องนี้ล่ะ? เป็นสามีภรรยากันมานานแล้วยังไง? ใครตั้งกฎไว้ว่าห้ามคนที่เป็นสามีภรรยากันมานานจู๋จี๋กันเหรอ? และอีกอย่างผมก็แค่ขอค่าทดแทนหน่อยก็เท่านั้น”

พูดแล้วริมฝีปากบางของบุริศร์ก็ค่อย ๆ ประทับลงมา

ตอนแรกนรมนยังอยากจะผลักออกสักหน่อย แต่กลับโดนบุริศร์ใช้มือเดียวจับมือทั้งสองข้างของเธอไว้แล้วล็อกไว้เหนือหัว จูบที่ตอนแรกยังถือว่าอ่อนโยนแต่ครู่เดียวก็กลายเป็นฝนลมกระหน่ำวนเวียนอยู่กับนรมน

สมองของเธอขาวโพลนไปชั่วขณะ และก็ปล่อยให้บุริศร์นำพาเธอไปตามน้ำขึ้นน้ำลง

จนถึงนรมนขาดอากาศหายใจแล้วบุริศร์ถึงได้ปล่อยเธอออก จ้องมองเธอที่มีสภาพใบหน้าแดงระเรื่อ ดวงตาของบุริศร์เคร่งขรึมลงหลายส่วน

ถึงแม้ว่าจะผ่านมานานขนาดนี้แล้ว เขาก็ยังคงไม่สามารถต้านทานความหอมหวานและเสน่ห์ของนรมนได้ ผู้หญิงคนนี้เป็นจุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของเขา แล้วก็ยิ่งเป็นสมบัติล้ำค่าที่เขาจะไม่ปล่อยมือไปตลอดชีวิต

เสียงหัวใจเต้นราวกับฟ้าร้องดังก้องอยู่ในแก้วหูของซึ่งกันและกัน นรมนพิงอยู่ในอกของบุริศร์และรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าข้างนอกจะมีฟ้าฝนกระหน่ำ มีอันตรายอยู่รอบด้าน แต่ขอแค่มีเขาอยู่ ทุกอย่างก็เหมือนกับว่าจะสามารถเดินต่อไปได้แน่

ที่ข้างนอกเสียงผู้คนอึกทึก เสียงเพลงดังก้องไปทั่ว

นรมนโดนบุริศร์ช้อนตัวอุ้มขึ้นมา แล้วเอาไปวางไว้บนเตียงเลย

“พักผ่อนก่อนสักหน่อยเถอะ อีกเดี๋ยวพวกเราจะลงมือปฏิบัติการกันแล้ว พอถึงเวลาเดี๋ยวไม่มีแรงนะ หรือว่าผมออกไปหาของกินให้คุณสักหน่อยดีกว่า ตั้งแต่แรกคุณก็ไม่ค่อยได้กินอะไรแล้วนี่”

พูดไปอย่างนี้แล้ว บุริศร์ก็ลุกขึ้นจะออกไปจริง ๆ แต่กลับโดนนรมนคว้าแขนเอาไว้

“ช่างเถอะ ตอนนี้ข้างนอกอันตรายมากเกินไปแล้ว ถ้าเกิดโดนคนดูออกเข้าก็ซวยแล้ว และฉันก็ไม่ได้หิวขนาดนั้นด้วย”

“ไม่ได้หิวขนาดนั้นก็คือหิวนิดหน่อย ผมจะยอมให้ภรรยาตัวเองหิวได้ยังไงกัน? วางใจเถอะ แป๊บเดียวผมก็กลับมาแล้ว”

บุริศร์ลูบใบหน้าของนรมนเล็กน้อยอย่างรักใคร่ จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วกระโดดออกไปจากหน้าต่างเลย

ในตอนที่นรมนอยากจะห้ามปรามนั้นก็ไม่ทันกาลซะแล้ว

ในใจยังไงก็มีความหวานอยู่บ้าง แต่ว่านรมนก็ยังมีความกังวลอยู่บ้างเหมือนกัน

เธอพิงอยู่ที่ร่องประตูแล้วมองออกไปข้างนอก แล้วพบว่าจณัตว์ได้กลับมาแล้ว

เขายืนอยู่ข้างจณัตว์ตัวปลอมคนนั้น ช่วยดื่มเหล้าแทนเขา รวมทั้งยังดึงดูดสายตาของคนทั้งหมดไปด้วย

“ทุกท่านครับ นิสัยของคุณชายจณัตว์เราทุกคนต่างก็รู้ดี ผมเป็นผู้ช่วยของ คุณชายจณัตว์ ถ้ามีคำพูดอะไรหรือเรื่องอะไรมาพูดกับผมก็พอแล้วครับ”

ชั่วขณะหนึ่งคนของตระกูลใหญ่พวกนั้นต่างก็รีบรายล้อมเข้าไปอย่างพร้อมเพรียง

หงส์จ้องมองพวกผู้คนที่หวังผลประโยชน์จากจณัตว์ทีหนึ่ง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเย็นทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “เอาหน้าร้อน ๆ ของตัวเองไปทาบตูดเย็น ๆ ของคนอื่น ไม่รู้จริง ๆ ว่าคนพวกนี้กำลังคิดอะไรอยู่? อย่างน้อยก็ยังเป็นสี่ตระกูลใหญ่ของประเทศF ถึงแมว่าจณัตว์คนนั้นจะมีความสามารถและมีเงินแล้วจะทำไม? นี่ก็สามารถทำให้ตัวเองยอมทิ้งศักดิ์ศรีกันได้เลยเหรอ?”

ธีรตาอยู่รับใช้อยู่ข้าง ๆ ในตอนที่ได้ยินหงส์พูดแบบนี้นั้น ก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “องค์หญิงคะ คนเราทุกคนต่างก็มีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน นายน้อยของตระกูลแหลมวิไลอายุน้อยแต่มีผลงาน ถ้าสามารถร่วมงานกับเขาได้ อนาคตของตระกูลก็จะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อีกขั้น ถึงจะเป็นพระราชาก็ยังหวังว่านายน้อยของตระกูลแหลมวิไลจะสามารถเข้ามามีส่วนร่วมอยู่ในการวิจัยของทางทหารด้วยไม่ใช่เหรอคะ?”

“ท่านพ่อกล้าคิดและกล้าทำ แต่ไม่รู้ว่าจณัตว์คนนี้จะให้เกียรติหรือเปล่าก็เท่านั้น”

หงส์เป็นคนที่เย่อหยิ่ง แน่นอนว่าจะต้องไม่ชอบคนอื่นที่เย่อหยิ่งอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นกับภาพที่จณัตว์เพิ่งปรากฏตัวมาก็โดนผู้คนโอบล้อมแบบนี้ก็เลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขัดหูขัดตาเล็กน้อย เธอกลับรู้สึกว่าผู้ช่วยที่อยู่ข้างตัวจณัตว์คนนั้นดูไปแล้วดูดีกว่าเยอะเลย

“ผู้ช่วยคนนั้นชื่ออะไร?”

“เนกษ์ ได้ยินมาว่าเป็นเด็กกำพร้าที่คุณชายจณัตว์พากลับมาจากบ้านเด็กกำพร้าข้างนอก เติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็กค่ะ”

ธีรตานั้นรู้เรื่องของตระกูลแหลมวิไลไม่น้อยเลย

“เด็กกำพร้าเหรอ?”

หงส์จ้องมองจณัตว์ที่มากความสามารถที่โดนคนพวกนั้นโอบล้อมไว้ตรงกลาง ท่าทีที่ยิ้มอ่อน ๆ นั่น ดูยังไงก็ไม่เหมือนกับเด็กกำพร้าคนหนึ่งเลย และอีกอย่างรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีนั่นทำให้คนมองแล้วรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก สามารถสู้บุริศร์ได้เลย

พอเห็นสายตาของหงส์มองอยู่บนตัวจณัตว์ ธีรตาก็รีบถามขึ้นว่า “องค์หญิง องค์หญิงสนใจเนกษ์คนนั้นเหรอคะ?”

“ทำไม? เธอจะไปเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ฉันเหรอ?”

ถึงแม้ว่าหงส์จะยิ้มอยู่ แต่ว่าปฏิกิริยาในดวงตากลับทำให้ธีรตาอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็พูดอย่างหวาดกลัวขึ้นว่า “ฉันไม่กล้าหรอกค่ะ แต่ว่าน้องชายของฉันนั้นรู้จักกับเนกษ์คนนี้ ได้ยินมาว่าเรื่องราวมากมายของนายน้อยของตระกูลแหลมวิไลก็มีเขาเป็นคนตัดสินใจ และก็เป็นหมอด้วยค่ะ”

“อ๋อ?”

หงส์ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วก็เห็นสมชัยถือแก้วเหล้าเดินมาทางนี้

“ญาณิน ทำไมยืนอยู่ที่นี่คนเดียวล่ะ? ไม่เข้าไปพูดคุยกับทุกคนหน่อยล่ะ ฉันว่าเด็กอย่างเธอนี่ อายุยังน้อยแต่กลับใช้ชีวิตอย่างกับคนแก่คนหนึ่ง ไป เอาเหล้าไปชวนนายน้อยของตระกูลแหลมวิไลดื่มสักหน่อยไป ต่างก็เป็นคนหนุ่มสาวที่อายุใกล้เคียงกัน ทำความรู้จักกันไว้ให้มากหน่อยก็ดี?”

พูดจบสมชัยก็เอาเหล้าที่อยู่ในมือยื่นให้กับหงส์

หงส์อึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจความหมายของสมชัยขึ้นมา

ตาแก่คนนี้นี่!

ตัวเองสร้างความสัมพันธ์กับจณัตว์ไม่ได้ มาตอนนี้กะว่าจะใช้เธอสร้างแผนสาวงามล่อใจกับจณัตว์เหรอ?

ก็แค่ผู้ชายน่าเกลียดที่เสียโฉมคนหนึ่ง ถึงแม้จะมีพรสวรรค์สูงส่งร่ำรวยมากแล้วยังไง?

เธอญาณินยังไงก็ไม่ถูกใจจริง ๆ

เธอจะเป็นคนที่ดูแต่รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้เหรอ?

แต่ว่าความหมายในแววตาของสมชัยนั้นชัดเจนมาก นี่ตัวเองถึงจะไม่อยากไปแต่ก็ต้องไป

“ได้”

หงส์รับแก้วเหล้ามาจากมือสมชัย ที่มุมปากแฝงไว้ด้วยความเยาะเย้ยเสี้ยวหนึ่ง

ถ้าหากเธอเดาไม่ผิดละก็ ในแก้วเหล้าอันนี้คิดว่าน่าจะใส่อะไรเข้าไปแล้วแน่

อย่างน้อยเธอก็ยังเป็นองค์หญิงคนหนึ่งอยู่นะ แต่เพื่อที่จะดึงนักธุรกิจคนหนึ่งมาเป็นพวกแล้วต้องถึงกับต้องทำลายความบริสุทธิ์ของตัวเองเลยเหรอ?

เหอะ เหอะ!

ในใจของหงส์นั้นตั้งแต่แรกก็รู้สึกไม่ดีกับสมชัยอยู่แล้ว และตอนนี้ก็ยิ่งรังเกียจจะตายอยู่แล้ว

จะให้เธอไปเอาใจผู้ชายน่าเกลียดคนหนึ่งเหรอ?

ฝันไปเถอะ!

หงส์ถือแก้วเหล้าไว้ แล้วเดินทีละก้าวทีละก้าวไปทางจณัตว์

ผู้คนรอบข้างเห็นหงส์ถือแก้วเหล้าเดินมา ก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเล็กน้อย ส่วนพวกพรินทร์และกล้าณรงค์นั้นกลับหึเสียงเย็นขึ้นมาทีหนึ่งอย่างดูถูก

องค์หญิงเหรอ?

ก็แค่เป็นหมากที่เอามาใช้แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์และรวบรวมอำนาจเท่านั้น ยังจะคิดว่าตัวเองสามารถมีชีวิตอยู่อย่างอิสรเสรีได้จริง ๆ เหรอ?

ไม่ใช่ว่าหงส์จะมองไม่เห็นสายตาของคนอื่น ๆ แล้วก็ยังรู้ว่าในใจพวกเขาจะมองตัวเองเป็นยังไง แต่ว่าเป็นอย่างนั้นแล้วจะยังไง?

เธอหมุนตัวอย่างรวดเร็ว และเดินไปทางเนกษ์ที่กำลังทำตัวตามสบาย และตอนนี้เป็นผู้ช่วยในสายตาของคนอื่นอยู่

“ผู้ช่วยเนกษ์ มีอารมณ์ดื่มด้วยกันสักแก้วไหม?”

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท