แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1383 เอาตัวเองมาเป็นเหยื่อล่อ

บทที่ 1383 เอาตัวเองมาเป็นเหยื่อล่อ

“เธอมาช่วยคุณค่ะ เมื่อกี้โชคดีที่มีเธออยู่ ไม่งั้นคนของเราก็ต้องโดนรังสีอินฟราเรดทำให้บาดเจ็บไปแล้ว”

นรมนยังเกลียดเรณุกาอยู่ แต่ว่าก็ไม่ได้กลบเกลื่อนผลงานของเธอไป

เรณุกาไม่ได้พูดอะไร แววตาที่มองบุริศร์นั้นมีความอ่อนโยนอยู่เล็กน้อย ความอ่อนโยนแบบนี้เมื่อก่อนบุริศร์ก็เคย นั่นเป็นความท่าทางที่เรณุกามีต่อเขาเมื่อตอนที่เป็นเด็ก เพียงแต่ว่าเวลามันผ่านไปแล้ว พอมาตอนนี้มาเห็นแววตาแบบนี้เข้า เขากลับรู้สึกรับไม่ค่อยไหว

บุริศร์เบี่ยงหน้าไปทางอื่น แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “การปิดระบบรังสีอินฟราเรดไปจะต้องทำให้ทางกล้าณรงค์รู้เรื่องของที่นี่อย่างรวดเร็วแน่ ที่เขาเอาตัวผมมาขังเอาไว้ก็ไม่ได้อยากจะให้สมชัยรู้เรื่อง เพราะฉะนั้นเขาอาจจะมาดูด้วยตัวเอง ถึงแม้ตอนนี้กำลังคนของเราจะไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ถ้าจะลอบโจมตีก็ไม่ใช่ว่าจะทำสำเร็จไม่ได้”

“คุณจะเอาตัวเองมาเป็นเหยื่อล่อเหรอคะ?”

นรมนเข้าใจความหมายของบุริศร์ขึ้นมาทันที

“ใช่”

บุริศร์เองก็ไม่ได้ปิดบัง

“ยังไงพวกเราก็จะจับกล้าณรงค์ให้ได้ ตอนนี้มันเป็นโอกาสแล้ว หลังจากที่จับกล้าณรงค์ได้แล้วก็จะนำตัวเขากลับประเทศ แล้วอีกด้านหนึ่งก็ให้คนกระจายข่าวออกไปว่าสมชัยได้ทำร้ายกล้าณรงค์ เพื่อให้ฉัตรพลและสมชัยสองพี่น้องมาต่อสู้กันเอง”

และนี่ก็คือจุดประสงค์ของบุริศร์

นรมนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“ฉัตรพลกับสมชัยสองพี่น้องร่วมมือกันมาอย่างสมบูรณ์แบบตั้งนานหลายปี คงจะไม่มีทางตกกับง่าย ๆ แน่ แผนใช้คนของศัตรูมาเป็นตัวล่อของเราก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จได้”

“ถ้าหากว่าฉันเป็นคนไปส่งข่าวนี้ล่ะ?”

อยู่ ๆ เรณุกาก็เปิดปากพูดขึ้น

บุริศร์และนรมนอึ้งไปครู่หนึ่ง

“คุณเหรอ?”

“ใช่ ฉันเป็นคนของสมชัยกับฉัตรพล และพวกเขาก็รู้สถานการณ์ที่ฉันเป็นอยู่ในตอนนี้ ฉันไม่มีทางที่จะกลับไปอยู่ข้างพวกเธอแน่ ไม่งั้นสิ่งที่รอฉันอยู่ก็คือทางตายทางเดียว เพราะฉะนั้นฉันจึงอยู่ได้โดยพึ่งพิงพวกเขาเท่านั้น ถ้าหากฉันโดยสมชัยทำร้ายแล้วหนีออกไปหาฉัตรพลได้ละก็ ไม่แน่ฉัตรพลอาจจะเชื่อจริง ๆ แต่ว่าถ้ากล้าณรงค์ยังมีชีวิตอยู่ คิดว่าฉัตรพลคงจะไม่แตกหักกับสมชัยเป็นอันดับแรกหรอก ในเมื่อกล้าณรงค์เป็นลูกชายคนเดียวของเขา เขาจะต้องตามหาไปช่วยกล้าณรงค์ก่อนแน่”

เรณุกาแจกแจงไป

ตั้งแต่ที่นรมนและบุริศร์มาถึงที่นี่ก็ได้ปิดสัญญาณของเมื่อก่อนไปทั้งหมด เพราะฉะนั้นผลตรวจดีเอ็นเอที่ว่าตกลงบุณพจน์เป็นลูกแท้ ๆ ของฉัตรพลหรือเปล่านั้น พวกเขาก็ยังไม่ได้รับ พอตอนนี้มาได้ยินเรณุกามาพูดแบบนี้ หัวคิ้วของบุริศร์ก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย

“ว่าแล้วว่าบุณพจน์จะต้องไม่ได้เป็นลูกชายแท้ ๆ ของฉัตรพลจริง ๆ ด้วย?”

“ไม่ใช่ เขาเป็นลูกที่เกิดจากโอมีความสัมพันธ์กับทหารองครักษ์ที่อยู่ข้างกายฉัตรพล ตอนนั้นฉัตรพลไม่มีทางที่จะให้โอมีลูกกับเขาด้วยซ้ำ แต่ว่าเขาต้องการจุดอ่อนอย่างหนึ่ง จุดอ่อนอันหนึ่งที่จะสามารถควบคุมโอได้ เพราะฉะนั้นก็เลยทำให้โอสลบไป แล้วก็ให้ทหารองครักษ์ของเขามามีความสัมพันธ์กับโอ แล้วก็ทำให้มีบุณพจน์คลอดออกมา ตอนแรกนึกว่าโอจะเห็นแก่หน้าเด็กแล้วบอกความลับเรื่องทางเข้าให้กับเขา แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าในใจของโอ คนในเผ่าจะสำคัญยิ่งกว่าเขาและลูก เพราะฉะนั้นฉัตรพลจึงโกรธมาก ตอนนั้นที่โอหนีจากความตายและถูกส่งตัวไปที่ตระกูลโตเล็กนั้น ฉัตรพลกะว่าจะฆ่าบุณพจน์ซะ แต่ว่าพอคิด ๆ ไปแล้วก็รู้สึกเกลียดชังเป็นอย่างมาก ก็เลยเก็บเขาไว้ และก็ยังเอาเขามาฝึกหนอนกู่และทดลองพิษ เรื่องนี้เขาเคยรายงานกับสมชัยแล้ว ฉันเคยเห็นรายงานฉบับนั้น”

เรณุกาเอาเรื่องทั้งหมดที่ตัวเองรู้มาบอกกับบุริศร์และนรมน

บุริศร์รู้สึกโกรธเป็นอย่างมากจริง ๆ

เจ้าฉัตรพลคนนี้นี่สมควรตายมากจริง ๆ!

แต่ว่าที่เรณุกาพูดมาก็ถูก ถ้ากล้าณรงค์ไม่ตาย ก็ไม่เห็นว่าฉัตรพลจะแตกหักกับสมชัยได้ แต่ว่าจะเสนอขึ้นไปขออนุมัติในตอนนี้ก็ไม่ทันซะแล้ว

แต่อย่างว่าแม่ทัพออกรบอยู่สามารถสั่งการกะทันหันได้

ยิ่งไปกว่านั้นโทษของกล้าณรงค์ก็หนักหนามาก ถึงแม้จะทำการตัดสินโทษที่นี่เลยก็ไม่มีอะไรผิด

พอคิดมาถึงจุดนี้บุริศร์ก็พยักหน้าเล็กน้อย

“งั้นก็เอาตามนี้แหละ นรมน เดี๋ยวคุณจะต้องระวังตัวให้มากนะ”

“ได้ค่ะ”

หลังจากที่นรมนและบุริศร์ปรึกษาแผนการเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เริ่มทำการเคลื่อนไหวเลย

และแล้วทางด้านกล้าณรงค์ก็ได้รับข่าวมา

“คุณชายกล้าณรงค์ ระบบรังสีอินฟราเรดทางทิศเหนือของเมืองถูกปิดไปแล้วครับ”

กล้าณรงค์หรี่ตาลงทันทีครู่หนึ่ง

“รู้ไหมว่าเป็นคนของใคร?”

“เหมือนกับว่าจะไม่ใช่คนในวังของเรา คนของพระราชาเราต่างก็เฝ้าจับตามองอยู่ แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ส่วนคนของตำหนักอื่น ๆ ก็อยู่กันอย่างดี องค์ชายสามและองค์ชายรองต่างก็อยู่ในงานเลี้ยง องค์หญิงห้ากับจณัตว์ก็อยู่ในห้อง คิดว่าช่วงสั้น ๆ นี้คงจะออกมาไม่ได้หรอก ส่วนองค์หญิงหกก็อยู่ภายใต้อำนาจการจับมองของพวกเราอยู่ ไม่มีอะไรน่าสงสัยครับ”

พอได้ยินลูกน้องรายงานแบบนี้แล้ว กล้าณรงค์ก็เดาออกแล้วว่าเป็นนรมน

“ยัยตัวดีนรมน นี่ฉันประเมินเธอต่ำไปนะ ไม่มีความช่วยเหลือจากราเชน แต่เธอกลับยังมีกำลังเสริมที่อื่นอีกเหรอ? ดีเลย พวกเราไปดูกันสักหน่อยว่ากำลังเสริมของเธอคืออะไร? แล้วก็รวดถางอำนาจที่อยู่เบื้องหลังเธอให้เรียบไปด้วยเลย”

กล้าณรงค์พูดอย่างมีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม

ทหารองครักษ์รู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย

“คุณชายกล้าณรงค์ครับ ถ้าพวกเราออกไปจากงานเลี้ยง กลัวว่าพระราชาจะตำหนิเอาได้นะครับ”

“ไปบอกกับพระราชาว่า พ่อของฉันส่งข่าวมา ฉันจะออกไปครู่หนึ่ง ไม่ว่ายังไง ตอนนี้เขายังต้องการความร่ำรวยของพ่อฉันมาประคับประคองประเทศและเรื่องการทดลองทางทหารอยู่”

“ครับ”

ทหารองครักษ์ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

กล้าณรงค์วางแก้วเหล้าลงอย่างเงียบเชียบ แล้วก็จากไปภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีไม่มีใครสังเกตเห็น

ถึงแม้ว่าพรินทร์กับราเชนดูไปแล้วจะกำลังดื่มเหล้าอยู่ แต่หูตาทั้งหมดต่างก็กำลังเฝ้าสังเกตกล้าณรงค์อยู่ พอเห็นว่ากล้าณรงค์ออกไปแล้ว พรินทร์ก็ส่งสายตาไปทีหนึ่ง แล้วคนทั้งหมดก็เดินตามฝีเท้าของกล้าณรงค์ออกไปทันที

ไรยาจ้องมองราเชนทีหนึ่ง แล้วก็ถามเสียงต่ำขึ้นว่า “องค์ชายรอง พวกเราจะทำยังไงดีคะ?”

“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ส่งคนไปบอกน้องหก ให้เธอส่งคนตามกล้าณรงค์ไป ช่วงเวลาแบบนี้พวกเราจะต้องปลีกตัวออกมา”

ดวงตาของราเชนมีแววตาที่มีความหมายลึกซึ้งมากเสี้ยวหนึ่งพาดผ่านไป

ไหนดารัณบอกว่าจะร่วมมือกับเขา จะส่งเขาขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งนั้นไม่ใช่เหรอ?

มาตอนนี้เขาก็จะดูความสามารถของดารัณสักหน่อย

และตอนนี้เขาจะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้เด็ดขาด ไม่เพียงแค่เพื่อตำแหน่งนั้น แถมยังเพื่อนรมนและบุริศร์ด้วย

สมชัยมาที่ตำหนักของเขาก่อนงานเลี้ยงจะเริ่มขึ้น เขาไม่รู้สึกว่าแค่มาเพื่อระลึกความหลังกันง่าย ๆ แบบนั้นหรอก ไม่แน่สมชัยอาจจะกำลังสงสัยเขาอยู่แล้ว เพียงแต่แค่ไม่มีหลักฐาน และภายใต้การโดนจับตามองอยู่แบบนี้ เขาก็ไม่ทำอะไรเลยน่าจะดีที่สุด ในเมื่อตอนนี้เขายังไม่มีกำลังที่จะมาต่อต้านกับสมชัย

พอคิดมาถึงตรงนี้แล้ว ราเชนก็สังสรรค์ต่อไป อย่างกับว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย อย่างกับว่าไม่สนใจอะไรเลย

ไรยาเองก็ไม่ได้จากไป เพียงแต่แค่ให้พนักงานบริการคนหนึ่งเอากระดาษโน้ตไปให้ดารัณแผ่นหนึ่ง ดารัณส่งสายตาไปทีหนึ่ง มัทยาก็ส่งคนตามกล้าณรงค์ออกนอกวังไป

แน่นอนว่ากล้าณรงค์จะต้องรู้อยู่แล้วว่าเบื้องหลังตัวเองมีหางตามมาเป็นขบวน แต่ว่าตอนนี้เขากลับไม่สนใจ

ที่ระบบรังสีอินฟราเรดโดนปิด ทำให้เขารู้ว่าบุริศร์อาจจะหนีออกไปได้แล้ว และตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะวางกับดักอะไรไว้รอให้เขาไปตกใส่อยู่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ไม่แน่ในช่วงเวลาที่สำคัญหางที่อยู่ข้างหลังอาจจะสามารถรักษาชีวิตของเขาไว้ได้ก็ได้

จะไม่พูดก็ไม่ได้ คนในวังนั้นมีความคิดซับซ้อน คนทุกคนต่างก็มีเล่ห์เหลี่ยมของตัวเอง

ในตอนที่กล้าณรงค์มาถึงทิศเหนือของเมืองนั้น บุริศร์ก็ไม่อยู่แล้วจริง ๆ คนที่นอนอยู่ที่นี่ล้วนเป็นคนของเขา แต่ตอนนี้กลับไม่มีลมหายใจแล้ว

ช่างโหดเหี้ยมจริง ๆ!

ที่ผ่านมากล้าณรงค์ไม่ได้รู้สึกว่าบุริศร์เป็นไก่อ่อนเลย ยิ่งไม่รู้สึกว่าเขาเป็นคนใจอ่อนมีเมตตา มีบางครั้งที่เขาสู้ตัวเองไม่ได้ ก็เป็นเพราะยศบนตัวบุริศร์และความศรัทธาควบคุมความโกรธของเขาอยู่

มาวันนี้ก็จะเริ่มผิดศีลและฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแล้วเหรอ?

เห็นได้ชัดเลยว่าทั้งเขาและนรมนต่างก็ไม่ใช่คนที่จะต่อกรได้ง่าย ๆ

“เปิดระบบติดตามขึ้นมา แล้วหาตำแหน่งของบุริศร์ให้เร็วที่สุดซิ”

ไม่มีใครรู้ว่าเขาได้ใส่เครื่องติดตามไว้บนตัวบุริศร์แล้ว ถึงแม้ว่าบุริศร์จะหนีไปจนสุดหล้าฟ้าเขียว เขาก็มีวิธีรู้ตำแหน่งที่แน่ชัดของเขาได้

และในตอนที่กล้าณรงค์กำลังได้ใจเป็นอย่างมากนั้น ในมือของบุริศร์ก็กำลังเล่นของเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งอยู่ เห็นได้ชัดว่าเป็นเครื่องติดตามที่กล้าณรงค์ใส่ไว้บนตัวเขา

“นี่คือ?”

“เครื่องติดตาม บางทีกล้าณรงค์อาจจะแอบใส่ไว้ตอนที่จับตัวผมมาขัง แล้วนึกว่าผมไม่รู้เรื่อง แต่ว่าผมคือใครล่ะ? จะไม่รู้ได้ยังไงกัน? ในเมื่อเขาคิดว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบนี้เป็นของที่พึ่งพาได้ละก็ งั้นก็ทำให้เขาเสียเปรียบสักหน่อยเถอะ”

มุมปากของบุริศร์คลี่ขึ้นมาเล็กน้อย รอยยิ้มที่โหดร้ายอันหนึ่งปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า

มาเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นต่ำแบบนี้ต่อหน้าเขาที่เป็นเซียนคอมพิวเตอร์ นี่มันคิดว่าตัวเองเก่งชัด ๆ

จากนั้นนรมนก็รู้แล้วว่าบุริศร์จะทำอะไร

“คุณกะว่าจะเอาเครื่องนี้ไปไว้ที่ไหนเหรอคะ?”

“ที่ที่กักขังคุณน้าชัญญาไว้ ที่นั่นเป็นที่ที่ดีแห่งหนึ่ง และก็เป็นที่ของสมชัยด้วย ถ้าหากกล้าณรงค์ตายอยู่ที่นั่นละก็ ถึงแม้จะเป็นฉัตรพลก็คงจะต้องเชื่ออยู่บ้างแน่”

คำพูดของบุริศร์ได้รับการเห็นด้วยจากเรณุกา

“ใช่ ที่แห่งนั้นเป็นของสมชัย ถ้าไม่มีคำสั่งของพระราชาใครก็เข้าใกล้ไม่ได้ แม้แต่ฉัตรพลก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นที่แห่งนั้นจะต้องปลอดภัยแน่ ๆ และก็น่าจะทำให้ฉัตรพลเชื่อมากขึ้นด้วย”

พอได้ยินเรณุกาพูดแบบนี้เหมือนกัน นรมนก็วางใจลงแล้ว

“งั้นแบบนี้ที่แห่งนั้นก็ต้องเป็นที่ฝังศพของกล้าณรงค์แล้วเหรอ?”

“อืม ในนี้มีมือซุ่มยิงไหม?”

บุริศร์ถามขึ้นมาคำหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครออกมาตอบรับ งั้นก็แปลว่าไม่มีซินะ

“ฉันเองค่ะ!”

นรมนเปิดปากพูดขึ้นเรียบ ๆ

ตอนนี้เรี่ยวแรงของเธอถูกใช้งานเกินกำลังไปหน่อยแล้ว ถึงแม้กล้าณรงค์จะมาถึงที่นี่ ก็ใช่ว่าตัวเองจะสามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้ แต่ว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา และยังเป็นนายหญิงของตระกูลโตเล็กด้วย และอยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้จะต้องไม่มีทางยอมปล่อยให้ตัวเองอยู่นอกเหตุการณ์แน่

พอตอนนี้ในฐานะที่เป็นมือซุ่มยิงก็จะต้องไปหาจุดซุ่มยิงไว้ก่อน จัดแจงสถานที่ให้เรียบร้อย จากนั้นก็รอเวลาที่เหมาะสมที่จะเหนี่ยวไกนัดเดียวให้ถึงชีวิตอย่างเงียบเชียบไป

แบบนี้ละก็ เรี่ยวแรงของเธอก็จะพอฟื้นกลับมาได้ส่วนหนึ่ง และก็ค่อนข้างปลอดภัยด้วย

บุริศร์รู้ว่าสิ่งที่นรมนคิดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และก็รู้ว่าก่อนที่เธอจะทำภารกิจนี้สำเร็จจะต้องใช้แรงเกินกำลังแน่ เพราะฉะนั้นในขณะที่ปวดใจก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

นรมนไม่ใช่ดอกไม้ที่อ่อนแอ เธอเป็นคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา คนของตระกูลพรโสภณ และก็ยังเป็นนายหญิงของตระกูลโตเล็ก เรื่องที่เธอจำเป็นต้องทำไม่อนุญาตให้เขาสงสารได้

ผลงานพิเศษของเธอจำเป็นที่จะต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์พร้อมกับเขา

บุริศร์จ้องมองนรมน แล้วพูดขึ้นอย่างเป็นกังวลเล็กน้อยว่า “คุณเองจะต้องระวังตัวให้มาก ๆ ทางที่ดีที่สุดก็หาจุดซุ่มยิงหลาย ๆ จุดหน่อย จุดซุ่มยิงที่คุณสามารถคิดได้ กล้าณรงค์เองก็อาจจะคิดถึงเหมือนกัน ในคนของเขามีมือซุ่มยิงอยู่หรือเปล่าเราก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคุณต้องหาที่ที่ถูกพบเห็นได้ยากหน่อยมาเป็นจุดซุ่มยิงถึงจะทำให้ตัวเองปลอดภัยได้ นรมน ผมรู้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนอ่อนแอ แต่ว่าคุณจะต้องจำไว้ว่า คุณค่าของคุณคือเพื่อช่วยขจัดสิ่งกีดขวางอันสุดท้ายของพวกเราทุกคน เพราะฉะนั้นจะต้องป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด”

“ฉันรู้แล้วค่ะ”

นรมนพยักหน้าเล็กน้อย และอยากจะจากไป แต่กลับโดนบุริศร์รวบตัวทีหนึ่งเข้ามาไว้ในอก

แขนของเขาโอบกอดนรมนไว้แน่น น้ำเสียงที่ร้อนรนดังขึ้นมาที่ข้างหู

“ผมทนเห็นคุณลำบากไม่ได้ แต่ผมรู้ว่าตอนนี้คุณจำเป็นที่จะต้องไปทำภารกิจนี้ นรมน ผมรู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติที่มีภรรยาอย่างคุณ ผมคาดหวังว่าพวกเราจะได้กลับประเทศพร้อมกัน ได้รับเกียรติยศด้วยกัน คุณเข้าใจเจตนาของผมไหม?”

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท