แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1386 แกบอกว่าเขาชื่อว่าอะไรนะ

บทที่ 1386 แกบอกว่าเขาชื่อว่าอะไรนะ

ฉัตรพลต่อสายหาสมชัยเป็นสิ่งแรกในตอนที่ได้รู้ข่าว ส่วนสมชัยในเวลานี้อยู่ที่งานเลี้ยงของรัฐกำลังเจรจากับจวัฒว์ตัวปลอม หรือก็คือเนกษ์เรื่องการลงทุนและเข้าประจำการที่สถานบันวิจัยการทหาร เมื่อเห็นสายโทรศัพท์จากฉัตรพลก็ชะงักนิ่งไปเล็กน้อย ทว่าก็ยังตัดสายทิ้งเหมือนเดิม

สมชัยคิดว่าธุระของฉัตรพลไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องเงินๆ ทองๆ ตอนนี้การถือโอกาสตีสนิทกับคนของตระกูลแหลมวิไลต่างหากถึงจะสำคัญที่สุด แต่ทว่าในมุมมองของฉัตรพล กลับคิดว่าเพราะสมชัยฆ่าลูกชายของตัวเองจึงจงใจตัดสายของเขาทิ้ง

ในเวลานี้เขาเหมือนสัตว์ป่าที่ถูกยั่วโมโห จึงกดโทรออกหาสมชัยครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยดวงตาที่แดงเถือก

เนกษ์เหลือบมองโทรศัพท์ของสมชัย จากนั้นก็พูดเสียงต่ำว่า “พระราชารับโทรศัพท์ก่อนดีไหมครับ เผื่อมีเรื่องสำคัญอะไรจะได้ไม่เสียเวลา”

ตอนนี้สมชัยเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย

วันนี้ฉัตรพลเป็นอะไรนักหนา?

อีกอย่างหลายปีมานี้เขาให้สิทธิ์และอำนาจกับฉัตรพล จนทำให้อีกฝ่ายหลงลืมไปแล้วใช่ไหมว่าใครคือเจ้าของประเทศFที่แท้จริง?

สมชัยเดินถือโทรศัพท์ออกไปอย่างกรุ่นโกรธ เมื่อเดินมายังสถานที่ที่ไร้ผู้คนถึงได้กดรับสาย

“ฉัตรพล ตอนนี้ฉันมีเรื่องสำคัญต้องทำ ธุระของแกเอาไว้เดี๋ยวฉันโทรหาอีกทีหนึ่ง”

น้ำเสียงของสมชัยไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

ด้านฉัตรพลก็แสยะยิ้มออกมา “โทรหาผม? กลัวก็แต่ว่าอีกสักพักจะส่งทหารมาฆ่าผมน่ะสิ”

“แกพูดอะไรของแก?”

สมชัยขมวดคิ้วขึ้นมา รู้สึกว่าฉัตรพลในตอนนี้เริ่มไม่มีความพอดีขึ้นทุกวัน

ฉัตรพลพูดออกมาเสียงเย็นว่า “พี่ฆ่าลูกชายของผม ยังมีหน้ามาถามว่าผมพูดอะไรอีกเหรอ? สมชัย ในฐานะที่เป็นพี่ชายของผม ยังจำได้ไหมว่าเมื่อก่อนพี่พูดกับผมว่าจะดูแลลูกชายของผมให้ดี? ตอนนี้เขากลับต้องมาตายอยู่ในกำมือของพี่ พี่จะให้คำอธิบายกับผมยังไง?”

“แกพูดเพ้อเจ้ออะไร? กล้าณรงค์ยังอยู่ในงานเลี้ยงดีๆ อยู่เลย”

สมชัยรู้สึกว่าฉัตรพลเริ่มสติเลอะเลือน

“งั้นเหรอ? งั้นพี่เปิดกล้องให้ผมคุยกับลูกหน่อยสิ ถ้าเขายังอยู่จริงๆ ผมจะลงโทษตัวเองที่วันนี้พูดจาล่วงเกินพี่ แต่ถ้าลูกชายของผมตาย พี่ก็ต้องมีคำอธิบายให้กับผม!”

คำพูดของฉัตรพลทำให้สมชัยเริ่มจับใจความอะไรบางอย่างได้

“กล้าณรงค์ยังไงนะ?”

“ตายแล้ว! พี่อย่าบอกนะว่าพี่ไม่รู้!”

ฉัตรพลขึ้นเสียง

หลายปีมานี้เขาจากบ้านไกลเมืองเพื่อเก็บรวบรวมเงินทองไปเพื่ออะไรกัน? ก็เพื่อลูกชายตัวเองไม่ใช่เหรอ? ทะเยอทะยานเพื่อตระกูลจันทรวงศ์ไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้อีกแค่นิดเดียวก็จะสำเร็จแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าสมชัยจะฆ่าแกงกันเมื่อใช้ประโยชน์เสร็จแล้วแบบนี้ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนดีจริงๆ

หัวคิ้วของสมชัยขมวดมุ่น เอ่ยพูดเสียงต่ำว่า “ฉันจะไปดูก่อน แล้วเดี๋ยวโทรหาแกอีกที”

พูดจบก็ไม่รอให้ฉัตรพลพูดอะไร ชิงตัดสายอีกฝ่ายในทันที

สมชัยเรียกหาองครักษ์ของตัวเองด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็ออกคำสั่งว่า “รีบส่งคนไปตามหาคุณชายกล้าณรงค์ ไม่ว่าเขากำลังทำอะไร ก็พาตัวมาหาฉันที่นี่”

“รับทราบ”

องครักษ์เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

พรินทร์จ้องมองสมชัยอยู่ตลอด เมื่อเห็นว่าเหล่าองครักษ์เดินออกไปอย่างรีบเร่ง จึงรู้ในทันทีว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

เขาจึงให้คนตามไป

จู่ๆ สมชัยก็รู้สึกไม่สบายใจ

เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน โดยเฉพาะท่าทีของฉัตรพล หรือว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นกับกล้าณรงค์จริงๆ ?

แต่ว่าเขาให้อำนาจที่เด็ดขาดกับกล้าณรงค์ในวังแห่งนี้ ไม่น่ามีใครกล้าทำอะไรกล้าณรงค์ได้

เขาหันไปมองลูกชายทั้งสองคนของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ถูกล้อมหน้าล้อมหลังไม่สามารถขยับไปไหนได้ ส่วนคนของพวกเขาก็ถูกจับตามองเขม็ง หาโอกาสลงมือไม่ได้เลยสักนิด ดังนั้นถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับกล้าณรงค์จริงๆ ก็คงเป็นเพราะอีกฝ่ายหนีออกไปจากวังเอง

ถ้าหากคนนอกวังคิดจะเล่นงานกล้าณรงค์ เกรงก็แต่ว่าจะเป็นบุริศร์กับนรมนที่มีความเป็นไปได้สูงสุด

“ไปสืบมาเดี๋ยวนี้ว่านรมนกับบุริศร์อยู่ที่ไหน”

เดิมทีสมชัยกางตาข่าย วางแผนดักจับบุริศร์กับนรมน แต่ดูจากตอนนี้แล้วเหมือนความสามารถของพวกเขาจะไม่ใช่เด็กๆ อย่างที่คิด หนีออกจากวังไปได้แล้วเหรอ?

ใคร?

ใครเป็นคนเปิดทางให้พวกเขา?

นัยน์ตาของสมชัยมองสำรวจราเชนและพรินทร์อีกครั้ง ถึงขั้นอดคิดไปถึงหงส์ไม่ได้ แต่ว่าพวกเขาต่างก็ไม่ได้มีเวลาไปก่อเหตุอะไรแบบนั้น

เดี๋ยวนะ!

ดารัณ!

จู่ๆ สมชัยก็นึกถึงลูกสาวคนที่หกของตัวเอง

ดารัณเก็บตัวมาตลอด งานเลี้ยงวันนี้โผล่หัวมาแค่แป๊บเดียวก็ไม่รู้หายไหนแล้ว หรือว่าจะเป็นเธอ?

เมื่อความสงสัยผุดขึ้นมาก็ไม่สามารถปล่อยวางได้ง่ายๆ เขาตะโกนเรียกองรักษ์ เอ่ยพูดเสียงต่ำว่า “ตามหาตัวองค์หญิงหกให้เจอ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรอยู่ ให้นำตัวเธอไปล่ามไว้ที่ห้องหนังสือ”

เบื้องลึกนัยน์ตาของสมชัยในขณะนี้เต็มไปด้วยไอสังหาร

เดิมทีลูกสาวคนนี้ก็เป็นแค่เครื่องมือเกี่ยวดองอยู่แล้ว ถ้าหากตอนนี้ดารัณช่วยพวกนรมนแก้แค้นตัวเองจริงๆ เขาก็จะไม่ลังเลที่จะจัดการลูกเวรคนนี้ด้วยมือตัวเอง

ด้านดารัณก็ไม่ได้รู้เรื่องว่าสมชัยกำลังเพ่งเล็งตัวเอง เมื่อเธอมองผู้ชายที่นอนหมดสติถูกส่งมาตรงหน้าของเธอ ใบหน้าน่ารักพลันแดงระเรื่อขึ้นมา

“องค์หญิงหก พาคนผู้นี้มาให้แล้วค่ะ แต่นิสัยเขาจะรั้นหน่อย อีกเดี๋ยวพอฟื้นขึ้นมา เกรงก็แต่ว่าองค์หญิงหก จะเอาไม่อยู่ ให้คนเอาเชือกมัดแขนมัดขาเขาก่อนดีไหมคะ”

มัทยามองมาที่ดารัณ แล้วอดพูดขึ้นมาไม่ได้

ดารัณส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ต้อง ฉันไม่อยากบังคับผู้ชายที่ฉันชอบ อีกอย่างวันนี้ที่จับตัวเขามาก็ไม่ใช่เพื่อทำอะไรแบบนั้น ฉันก็แค่อยากเจอเขา เธอออกไปเถอะ ห้ามให้ใครเข้ามาถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่ใจดีก็แล้วกัน”

“ค่ะ”

มัทยาเหลือบมองผู้ชายที่ยังคงหลับสนิท จากนั้นถึงได้ถอยออกมาเงียบๆ

ดารัณเดินมาถึงเตียง แล้วยื่นมือออกไปลูบใบหน้าของชายหนุ่ม

หล่อชะมัด!

ดารัณใช้นิ้วมือเขี่ยคิ้ว จมูก และริมฝีปากของชายหนุ่ม หัวใจก็เต้นแรงไม่หยุด

ผู้ชายหล่อขนาดนี้ทำไมถึงมองไม่เห็นความดีของเธอล่ะ?

ดารัณคนนี้ไม่ได้ชอบใครบ่อยๆ หรอกนะ คนเดียวที่ชอบก็คือผู้ชายคนนี้ น่าเสียดายที่อีกฝ่ายเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ไม่ว่าเธอจะร้อนรุ่มเหมือนไฟแค่ไหนก็ไม่สามารถละลายน้ำแข็งอย่างเขาได้

ต้องทำยังไงถึงจะสามารถทำให้ชายหนุ่มหลงรักตัวเองได้?

หรือว่าต้องยอมเสียสละร่างกายจริงๆ ถึงจะได้?

ดารัณลังเล แต่ทว่ากลับหลงเสน่ห์เข้าเสียแล้ว

เธอกลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้ จากนั้นค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก ราวกับตัดสินใจมาอย่างดีแล้ว ในตอนที่ถอดเหลือแค่ชิ้นสุดท้าย ดารัณก็หยุดการกระทำ

หน้าของเธอแดงเถือกเหมือนลูกท้อสุก ในตอนนี้เองเธอก็โน้มตัวลงไปจูบลงบนหน้าของชายหนุ่มเบาๆ มือของเธอแกะกระดุมคอเสื้อของชายหนุ่มออก จนเผยให้เห็นไหปลาร้าสวย

ดารัณกลืนน้ำลายลงคอจนเกิดเสียงดังอึก

เขาดูดีมาก!

แค่กระดูกไหปลาร้าก็สามารถทำให้เธอจินตนาการไปต่างๆ นานาได้แล้ว

นิ้วมือของดารัณแกะกระดุมเม็ดที่สองออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นแผ่นอกกำยำของชายหนุ่ม

ลมพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้ร่างกายของดารัณกระตุกขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

หนาวนิดหน่อยแฮะ

แม้ว่าตอนนี้เธอจะอารมณ์พุ่งขึ้นสูงและร้อนรุ่มเหมือนดั่งไฟ กระนั้นก็ยังรู้สึกหนาว

ดารัณหยุดมือลง จากนั้นก็ลุกขึ้นไปปิดหน้าต่าง ในตอนที่หันหลังกลับมากลับพบว่ามีมีดแหลมคนจี้อยู่ตรงคอของเธอ

ผู้หญิงในชุดนินจาสีดำรัตติกาลจ้องมองมาที่เธออย่างเยือกเย็น

แววตาของเธอแหลมคมหนาวเหน็บเหมือนปลายมีด บริเวณหน้าถูกปกคลุมไปด้วยผ้าสีดำจึงไม่อาจมองหน้าของเธอได้ชัด ทว่าไอสังหารที่พวยพุ่งออกมาจากร่างกายทำให้ดารัณขนลุกขนพอง

“แกเป็นใคร? เข้ามาได้ยังไง?”

ดารัณหวาดกลัวขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้กรีดร้องเสียงแหลมออกไป

เธอรู้ว่าถ้าหากเธอส่งเสียงล่ะก็ มัทยาที่อยู่ข้างนอกต้องพาคนเข้ามาช่วยเธอแน่ๆ แต่ว่าผู้หญิงตรงหน้าจ่อมีดไว้ที่คอของเธอ ถ้าหากเธอตะโกนออกไป มัทยายังไม่ทันเข้ามา หัวกับไหล่ของเธอก็คงกระจัดกระจายอยู่คนละที่แล้ว

ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องทำก็คือใจเย็น

ยังดีที่หลายปีมานี้เธอติดตามจณัตว์ เธอจึงได้ฝึกฝนความกล้ามาบ้าง

ผู้หญิงคนนั้นดูโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก เอ่ยพูดขึ้นมาเสียงเย็นว่า “แกเป็นใครถึงบังอาจมาแตะต้องเขา เมื่อกี้แกแตะต้องตรงไหนของเขาไปบ้าง?”

คำพูดของหญิงสาวทำให้ดารัณชะงักนิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจในทันที เธอหันไปมองผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงอย่างรวดเร็ว กระดุมที่ถูกแกะออกถูกกลัดเข้าไปใหม่อย่างที่คิดเอาไว้ เพียงแต่ว่าเขายังไม่ตื่นขึ้นมาก็เท่านั้น

“แกเป็นใครกันแน่? เป็นอะไรกับปัญญ์”

ท่าทีของดารัณเย็นชา แม้ว่าจะกำลังเผชิญกับความเป็นความตาย เธอก็ยังเดือดดาลเป็นอย่างมาก

ผู้ชายที่เธอชอบแน่นอนว่าต้องโดดเด่นอยู่แล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีผู้หญิงคนอื่นอยากได้ปัญญ์เหมือนกับเธอ

หญิงสาวแสยะยิ้ม “แกไม่สมควรรู้!”

พูดจบหญิงสาวก็สะบัดมืออย่างกะทันหัน ดารัณรู้สึกแค่ว่านิ้วมือเย็นวาบ ต่อมาความรู้สึกเจ็บรุนแรงก็จู่โจมเข้ามา นิ้วมือของเธอพลันหลุดออกจากร่างกายของเธอทันที

“โอ๊ย!”

ดารัณกรีดร้องออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้

หญิงสาวตีเธอให้สลบ จากนั้นก็แบกปัญญ์ขึ้นมา มุดรอดออกไปทางหน้าต่างในช่วงวินาทีที่มัทยาเดินเข้ามาในห้อง

“องค์หญิง!”

เมื่อมัทยาเห็นเลือดสดๆ ไหลออกมาจากนิ้วของดารัณ ก็ตกใจในทันที รีบตะโกนเรียกหมอ

และในตอนนี้เององครักษ์ของสมชัยก็มาถึง

พวกเขามองเห็นความผิดปกติของภาพเบื้องหน้า แต่กระนั้นก็ยังพาตัวดารัณไปที่ห้องหนังสือตามคำสั่งของสมชัย แม้แต่ตัวคุณหมอก็เอาไปด้วย

เมื่อสมชัยเห็นดารัณสลบไม่ไม่มีสติ และนิ้วที่ถูกตัดขาดของเธอ ก็ขมวดคิ้วมุ่นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

“เกิดอะไรขึ้น?”

มัทยาคือหญิงรับใช้ติดตัวของดารัณ จึงต้องเดินเข้าไปตอบคำถามของอีกฝ่าย

“พระราชา องค์หญิงหกชื่นชอบชายหนุ่มผู้หนึ่ง น่าผิดหวังที่ชายหนุ่มผู้นั้นหยิ่งยโส ไม่ชายตามององค์หญิงหก คืนนี้องค์หญิงหกเลยถือโอกาสในช่วงที่คนแออัดกันในงานเลี้ยง ส่งคนไปจับตัวผู้ชายคนนั้นมา แล้วทำการวางยาเขา จากนั้นองค์หญิงหกก็สั่งให้พวกหม่อมฉันออกมาจากห้อง พวกหม่อมฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงองค์หญิงหกกรีดร้อง ต่อมาก็ไม่เห็นผู้ชายคนนั้นแล้ว แถมนิ้วขององค์หญิงหกก็ขาด แถมยังหมดสติไปอีกด้วย”

คำพูดของมัทยาทำให้สีหน้าของสมชัยเริ่มดูไม่ได้

“ลูกไม่รักดี! ไม่รักนวลสงวนตัวถึงเพียงนี้เลยเหรอ ถ้าเกิดเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปยังจะได้แต่งงานอยู่ไหม? ผู้ชายคนนั้นชื่อว่าอะไร? หาตัวมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”

สมชัยเป็นคนรักศักดิ์ศรี ลูกของเขาเขาลงโทษได้คนเดียว พอได้ยินว่ามีคนอื่นมาดูถูกลูกสาว เขาก็ไม่อาจยอมรับได้

ผู้ชายคนนั้นสมควรตาย!

อีกอย่างยังสามารถเข้าๆ ออกๆ ในเขตวังที่มีการคุ้มกันอย่างเคร่งครัดได้อย่างสบายๆ แสดงว่าผู้ชายคนนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่นอน! บางทีอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับบุริศร์กับนรมนก็ได้

ตอนนี้แม้จะยังยืนยันไม่ได้ว่าดารัณถูกผู้ชายคนนั้นหลอกใช้ แต่สมชัยก็ตัดสินใจหาผู้ชายคนนั้นให้เจอก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที

มัทยาเห็นสมชัยเดือดเป็นไฟ ถึงได้พูดเสียงเบาว่า “ผู้ชายคนนั้นชื่อว่าปัญญ์ค่ะ เขามารักษาตัวอยู่ที่นี่ เขา เขาเดินไม่ได้ค่ะ”

“แกบอกว่าเขาชื่อว่าอะไรนะ?”

นัยน์ตาของสมชัยหรี่ลงในทันที

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท