จณัตว์นั้นรู้จักหงส์อยู่ ถึงแม้กับเธอนั้นจะมีโอกาสเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง แต่ว่าผู้หญิงคนนี้เขาก็เคยทำความรู้จักมาก่อนแล้ว แถมยังเคยให้ความสนใจมาก่อนด้วย ตอนนี้อยู่ในสายตาคนนอกตัวเองเป็นแค่ผู้ช่วยคนหนึ่ง และก็คิดไม่ถึงว่าหงส์จะตรงเข้ามาหาเขา
มีความหมายหน่อยแล้ว!
“องค์หญิงห้าคงจะชวนดื่มผิดคนแล้วมั้งครับ? นายน้อยบ้านผมนั่งอยู่ทางโน้นนะครับ”
จณัตว์ใช้คางยื่นชี้ไปทางตัวแทนที่นั่งอยู่ไม่ไกล มุมปากคลี่ออกเล็กน้อย ท่าทางที่เป็นคุณชายนุ่มนวลราวกับหยกในตอนแรก วินาทีนี้กลับมีแววโหดเหี้ยมเพิ่มขึ้นมาในดวงตาเสี้ยวหนึ่ง ทำให้หงส์นิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “คนที่องค์หญิงอย่างฉันอยากดื่มด้วยคือคุณ เป็นไง? ไม่มีความกล้าที่จะดื่มเหรอ?”
หงส์สามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงสายตาของสมชัยที่อยู่ข้างหลังราวกับกระบี่แหลมคมที่เพิ่งออกจากฝัก จนแทบอยากจะแทงทะลุตัวเธอเลย แต่ว่าแล้วมันจะยังไง?
เขาเป็นพ่อของเธอแล้วจะยังไง?
หรือว่าเขาจะให้เธอแต่งกับใคร เธอก็จะต้องตอบตกลงเหรอ?
นี่มันช่างน่าขำจริง ๆ!
ที่สามารถมีชีวิตอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ก็ไม่ได้เป็นเพราะสมชัย
ในเมื่อเขาหวังว่าตัวเองจะสามารถมีความเกี่ยวข้องกับนายน้อยของตระกูลแหลมวิไล ได้ งั้นเธอก็จะไม่ทำตามความต้องการของเขาเด็ดขาด
เธอจะไปหาผู้ช่วยที่ต่ำต้อยคนนั้น คนที่เป็นเด็กกำพร้ามีชีวิตน่าเวทนาคนนั้น ดูซิว่าสมชัยจะทำอะไรเธอได้?
จะไม่พูดก็ไม่ได้ ว่าหงส์ในตอนนี้นั้นเป็นม้าพยศอยู่ ยิ่งไม่สามารถที่จะไปควบคุมได้ แต่ว่านิสัยที่ดื้อดึงไม่ว่านอนสอนง่ายของเธอนี้กลับทำให้จณัตว์ค่อย ๆ คลี่ยิ้มที่มุมปากขึ้น
“ของอย่างความกล้าแบบนี้ ผมไม่มีจริง ๆ ด้วยครับ”
จณัตว์แค่ยิ้มขึ้นมากลับทำให้คนหวั่นไหว แม้แต่หงส์ก็ยังอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเล็กน้อย
“ที่แท้ก็เป็นคนขี้ขลาดคนหนึ่งนี่เอง”
“ผิดแล้วครับ องค์หญิงห้าให้ดื่มเหล้า แน่นอนว่าผมจะต้องดื่มอยู่แล้ว”
พูดแล้วจณัตว์ก็รับเหล้าที่อยู่ในมือหงส์มา แล้วเอามาไว้ใต้จมูกดมดูครู่หนึ่ง
กลิ่นยาปลุกอารมณ์เข้มข้นมาก!
ดูท่าสมชัยคงจะร้อนใจมากแล้วจริง ๆ
มุมปากของจณัตว์มีรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นมาอันหนึ่ง อยู่ ๆ ก็รุกขึ้นหน้า แล้วก็โอบเอวบางของหงส์ไว้และกระชับเข้ามาในอ้อมอกอย่างกล้าหาญ แล้วอุณหภูมิที่อุ่นร้อนพุ่งขึ้นมาทันที
“องค์หญิงครับ เหล้านี้มันถูกเติมของบางอย่างลงไป คุณแน่ใจเหรอครับว่าจะให้ผมดื่ม?”
น้ำเสียงของจณัตว์ดังขึ้นที่ข้างหูของหงส์
ว่าแล้วเชียว!
ดวงตาของหงส์มีแววโกรธเคืองพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง
เพื่อที่จะให้บรรลุถึงผลประโยชน์ของตัวเองแล้วสมชัยไม่สนใจความเป็นความตายของเธอเลย ตอนแรกก็แค่คาดเดา แต่ตอนนี้พอได้ยินจณัตว์พูดแบบนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะมีความโกรธเคืองพุ่งขึ้นมาในใจ
“ถ้าฉันพูดว่ามั่นใจล่ะ? คุณจะกล้าไหม?”
นี่ถือได้ว่าหงส์หว่านเสน่ห์อย่างเปิดเผยเลยนะ
จณัตว์จ้องมองสมชัยที่อยู่ข้างหลังหงส์เล็กน้อย แล้วก็ยิ้มชั่วร้ายขึ้นเล็กน้อย
“ในเมื่อเป็นความเมตตาขององค์หญิงห้า งั้นผมก็เคารพไม่สู้น้อมรับไว้ดีกว่านะครับ”
พูดจบจณัตว์ก็ช้อนตัวหงส์ขึ้นมาอุ้มไว้ทีหนึ่ง แล้วก็เดินตรงไปที่ห้องพักที่อยู่ใกล้ ๆ เลย ส่วนจะไปทำอะไรนั้น ทุกคนต่างก็รู้อยู่แก่ใจ
เสียใจไหม?
หงส์ไม่รู้
เธอกวาดตามองรอบห้องโถงใหญ่ทีหนึ่ง สายตาที่ทุกคนมองมาที่เธอนั้นไม่ก็แฝงไว้ด้วยความเยาะเย้ย ไม่ก็ไร้ความห่วงใย เย็นชาจนทำให้หัวใจคนหนาวสั่น
ทั้งชีวิตของเธอจนถึงตอนนี้ เคยรักผู้ชายคนหนึ่งอย่างลึกซึ้งมาก่อน แต่น่าเสียดายตอนนี้ผู้ชายคนนั้นไม่ได้อยู่ข้างกายเธอ
หงส์นึกถึงสถานะของตัวเอง สิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ ถึงแม้ว่าบุริศร์จะยอมรับตัวเองได้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะอยู่กับเธอที่นี่ได้นานตลอดหรอกมั้ง? และยิ่งไปกว่านั้นคนที่บุริศร์เลือกตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ใช่เธอด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เลือกใครก็ไม่มีอะไรต่างกันหรอกมั้ง? ยังไงในวังนี้ก็เหน็บหนาวเกินไป ตัวเธอเองก็เหงาเกินไปแล้ว
ในดวงตาของหงส์มีแววเปลี่ยวเหงาพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง จากนั้นก็ดื่มเหล้าที่อยู่ในมือจณัตว์จนหมด ในขณะที่จณัตว์ยังไม่ทันได้ห้ามปรามนั้น เรียวปากลูกเชอร์รี่ของเธอก็อุดปากจณัตว์เอาไว้เลย ไวน์ที่หวานขมของนั่นได้ไหลเข้าไปตามช่องปากของ จณัตว์ด้วย
ดวงตาของจณัตว์ขรึมลงเล็กน้อย
สมชัยโกรธจนปอดจะระเบิดอยู่แล้ว
“ญาณิน เธอลงมาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
เขาปฏิบัติต่อหงส์แบบนี้ไม่บ่อยนัก แต่ว่าวินาทีนี้หงส์เหมือนกับจะไม่ได้ยินยังไงอย่างงั้น ยังคงทำเรื่องโจ่งแจ้งกับจณัตว์ไป
เมื่อสมชัยเห็นเป็นเช่นนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดกับตัวแทนของจณัตว์ขึ้นว่า “คุณชายจณัตว์ คุณจะทนดูผู้ช่วยของตัวเองขี่หัวคุณอย่างงี้เหรอ?”
“เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ช่วยผม ขอแค่เขาพอใจ จะทำอะไรก็ได้ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
ดวงตาของผู้ชายภายใต้หน้ากากเป็นกะพริบขึ้นทีหนึ่งแล้วก็ขรึมลงไปอีกครั้ง เหมือนกับบึงน้ำนิ่งแห่งหนึ่ง
สมชัยโกรธจะตายอยู่แล้ว ในตอนที่กำลังเตรียมจะให้คนไปแยกหงส์กับจณัตว์ออกนั้น ทั้งสองคนก็ได้เข้าห้องไปแล้ว แถมยังล็อกประตูไว้อีกด้วย
ยาทำให้ต่างคนต่างรู้สึกเร่าร้อนขึ้นมาเล็กน้อย
จณัตว์ดูไปแล้วเป็นคุณชายสบาย ๆ แต่ว่าวินาทีนี้กลับกักตัวหงส์ไว้ที่ประตู เรียวปากที่ร้อนแรงร้องขออย่างเร่งรีบอยู่
นรมนรู้สึกจะบ้าตายอยู่แล้ว
มีห้องอยู่ตั้งเยอะแยะ แต่สองคนนี้ช่างเลือกเป็นจริง ๆ กลับเลือกห้องที่พวกเขาสองคนซ่อนตัวอยู่ ยิ่งไปกวานั้นภาพที่เร่าร้อนเช่นนี้ทำให้เธอต้องกระแอมไอออกเสียงออกมา
“คือว่า พวกคุณสามารถผ่อนคลายลงหน่อยได้ไหม?”
นรมนยิ้มอย่างเคอะเขิน
หงส์และจณัตว์อึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นหงส์ก็ผลักตัวจณัตว์ออกไปเลยอย่างกับว่าเห็นผี
“ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”
“ขอโทษนะ ขอโทษจริง ๆ ที่รบกวนความสุขของพวกคุณ แต่ว่าพวกคุณนี่ก็เลือกห้องเก่งเกินไปแล้วมั้ง?”
นรมนหัวเราะแฮะ ๆ ไป สีหน้าของหงส์เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย
จณัตว์อึ้งไปเล็กน้อย ตอนที่เห็นนรมนนั้นกลับมีรอยยิ้มที่สวยงามขึ้นมาอันหนึ่ง
“ผมนึกว่าพวกคุณจะออกไปแล้วซะอีก คิดไม่ถึงว่าจะซ่อนตัวอยู่ในนี้ แล้วไม่กลัวคนของสมชัยจะมาเห็นเข้าเหรอ?”
“พวกเราก็แค่มาพักผ่อนที่นี่สักครู่หนึ่ง รอให้งานเลี้ยงดำเนินไปถึงช่วงกลางค่อยออกไป แล้วค่อยหาโอกาสจับตัวกล้าณรงค์ไว้”
นรมนนั้นกลับรู้สึกไว้วางใจจณัตว์อยู่
พอหงส์เห็นว่าจณัตว์เหมือนกับว่าจะรู้จักกับนรมน จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา
“คนของเธอเหรอ?”
“ถ้าจะพูดให้ถูกต้องก็น่าจะเป็นคนของบุริศร์นะ”
นรมนเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองพูดแบบนี้จะถูกต้องไหม แต่ว่าบุริศร์ก็อยู่ในเขตทหารตะวันออกเฉียงใต้ และอีกอย่างตำแหน่งยศก็สูงกว่าจณัตว์ แน่นอนว่าก็ต้องถือว่าเป็นคนของเขาละมั้ง
หงส์กลับอึ้งไปครู่หนึ่ง
“คุณ? เป็นคนของเฮียบุริศร์เหรอ?”
“ไม่เหมือนเหรอ?”
จณัตว์ยังคงยิ้มอยู่ แต่ว่าในแววตากลับไม่มีอารมณ์ความต้องการทางเพศแล้ว
หงส์กลับรู้สึกสงสัยเล็กน้อย ผู้ชายที่สามารถปรับเปลี่ยนอารมณ์ของตัวเองได้เร็วขนาดนี้ทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อกี้จณัตว์เหมือนกับเป็นชายฉกรรจ์ที่กระวนกระวายคนหนึ่ง แต่ท่าทางที่สงบนิ่งในตอนนี้กลับทำให้คนรู้สึกมีความกดดันอยู่เล็กน้อย
ผู้ชายคนนี้ตกลงมีสถานะอะไรกันแน่?
หงส์ยังไม่ทันได้ถาม นรมนก็เปิดปากพูดขึ้นมาแล้ว
“จณัตว์ คุณจะไปจากที่นี่เมื่อไหร่?”
“งานเลี้ยงจบแล้วค่อยไป”
การที่นรมนเปิดเผยสถานะของเขาต่อหน้าหงส์ไปนั้น จณัตว์กลับไม่ได้รู้สึกอะไร แต่กลับเป็นตัวหงส์ที่อึ้งไปเลยไม่หยุด
“คุณคือจณัตว์เหรอ? ถ้างั้นผู้ชายที่ใส่หน้ากากคนนั้นเป็นใครกัน?”
นรมนอึ้งไปเลยทันที
หงส์ไม่รู้สถานะของจณัตว์เหรอ?
เธอนึกว่าพวกเขาสองคนเดินเข้ามาอย่างเร่าร้อนขนาดนั้นคงต้องรู้จักกันแน่
พอรู้สึกถึงเรื่องนี้ นรมนก็พูดขึ้นอย่างรู้สึกผิดว่า “ขอโทษด้วยนะ ฉันไม่รู้ว่า……”
“ไม่เป็นไร”
จณัตว์ยิ้มให้นรมนอย่างรักใคร่ จากนั้นก็มองไปที่หงส์ และพูดขึ้นทีละคำทีละคำว่า “ผมคือจณัตว์ ส่วนคนที่ใส่หน้ากากอยู่นั้นก็จะต้องเป็นผู้ช่วยของผมเนกษ์อยู่แล้ว”
“แต่ว่าทุกคนต่างก็คิดว่าเขาเป็นนายน้อยของตระกูลแหลมวิไลต่างหาก!”
“นั่นคือเจตนาของผม และเพื่อสะดวกต่อการทำงานของผม”
จณัตว์กลับไม่ได้ปิดบัง
สีหน้าของหงส์ดูเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย
“ฉันรู้ความลับของคุณแล้ว คุณกะว่าจะทำยังไงกับฉัน?”
“คุณคิดว่าไงล่ะ?”
จณัตว์มองไปที่หงส์ ในดวงตาแฝงไว้ด้วยความขบขันเสี้ยวหนึ่ง แต่ก็ยังแฝงความกดดันที่บีบคั้นคนไว้เสี้ยวหนึ่ง
หงส์รู้สึกไม่เข้าใจนิดหน่อยว่าตกลงผู้ชายคนนี้คิดอะไรอยู่แน่ จึงได้แต่พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ฉันจะไม่พูดความลับนี้ออกไปแน่”
“พูดปากเปล่าไม่มีอะไรค้ำประกัน ใช้ชีวิตอยู่ในวังมานานหลายปีแบบนี้ ยังไม่ได้สอนให้องค์หญิงห้ารู้จักว่าอะไรคือมนุษย์โลกเชื่อถือไม่ได้อีกเหรอครับ?”
“งั้นคุณอยากจะฆ่าฉันเหรอ?”
หงส์รู้สึกโกรธเคืองเล็กน้อย
นี่เธอกลับเป็นเหมือนคนอื่น ๆ ที่เข้าใจจณัตว์ผิดตัวไป และในเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้านี้คือจณัตว์ตัวจริงแล้ว ถ้างั้นแผนการก่อนหน้านี้ของเธอก็ทำไม่ได้แล้วละซิ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้นรมนก็อยู่ข้าง ๆ ด้วย เธอจะปล่อยตัวก็ดี จะเป็นการวางแผนก็ดีคงต้องปล่อยไปก่อนแล้ว
แต่ว่าความหมายของจณัตว์กลับไม่ได้คิดจะปล่อยเธอไป
แล้วนี่จะทำยังไงดี?
หงส์กำลังคิดอยู่ ก็ได้ยินจณัตว์พูดขึ้นว่า “หรือไม่คุณมาเป็นผู้หญิงของผมเถอะ ผมรู้สึกวางใจผู้หญิงของตัวเองมากกว่านะ”
“จณัตว์!”
หงส์เองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโกรธหรือเป็นเพราะอะไร แล้วสีหน้าก็แดงขึ้นมาทันที และก็ยิ่งโกรธเคืองมากขึ้น
นรมนจ้องมองท่าทางที่ตาต่อตาฟันต่อฟันของพวกเขา แล้วก็อดไม่ได้ที่จะมองจุดแปลก ๆ อะไรออกนิดหน่อยแล้ว
จณัตว์คนนี้ชอบหงส์เข้าแล้วเหรอ?
มันก็ไม่เลวนะ
ขอแค่หงส์มีคู่แล้ว ก็จะต้องไม่มาพิศวาสบุริศร์บ้านเธอแล้ว พอถึงตอนนั้นเธอก็จะวางใจได้หน่อยแล้วใช่ไหม?
พอคิดมาถึงตอนนี้ นรมนก็รีบพูดขึ้นว่า “ฉันก็รู้สึกว่าจณัตว์ไม่เลวเหมือนกันนะ หงส์ เธอลองพิจารณาดูหน่อยได้นะ”
“เธอรู้สึกว่าเขาไม่เลวเธอก็แต่งกับเขาเองซิ? พอดีเลยเฮียบุริศร์ก็จะได้ถอยให้ฉัน และจะได้สมหวังกันทั้งสองฝ่ายเลย”
หงส์นั้นไม่สนใจหรอกว่านรมนจะพูดอะไร แล้วก็ย้อนกลับไปตรง ๆ เลย
นรมนรู้สึกหดหู่เล็กน้อยแล้ว
“หอ……”
“หุบปาก!”
หงส์กลับว่านรมนจะเรียกสัญลักษณ์ของตัวเองออกมา จึงรีบขัดขวางเธอไว้
ถึงแม้ว่านรมนจะมีท่าทางคุ้นเคยและเชื่อใจจณัตว์มาก แต่หงส์กลับไม่เชื่อ ผู้ชายคนหนึ่งที่แม้แต่สมชัยยังหลอกได้ เธอไม่รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นแค่หมอคนหนึ่งง่าย ๆ แบบนั้นหรอก
และอีกอย่างนรมนก็เคยพูดแล้วว่า เขาเป็นคนของบุริศร์ พอนึกถึงว่าเขาโอนสัญชาติไปตั้งแต่อายุสิบหก แล้วก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“ตอนนี้คุณเป็นคนของประเทศไหน?”
“ประเทศZครับ”
จณัตว์ก็ไม่ได้ปิดบัง ในระหว่างที่พูดคุยกับหงส์นั้นเขาก็ได้หากล่องพยาบาลออกมาจากห้องพักแล้ว โชคยังดีที่ข้างในยังมียาที่ใช้ได้และเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วทิ้งอยู่ด้วย
“นรมน เอาลูกกวาดที่ผมให้คุณออกมาเม็ดหนึ่ง เอาเม็ดสีน้ำเงินนะ”
พอได้ยินจณัตว์พูดแบบนี้ นรมนก็รีบเอาลูกกวาดที่จณัตว์ให้เธอไว้ตอนก่อนหน้านั้นออกมาแล้วหาเม็ดสีน้ำเงินยื่นให้กับเขา
จณัตว์ใช้น้ำมาละลายแล้วก็ดูดเข้าไปในเข็มฉีดยา จากนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรก็ยกแขนของหงส์ขึ้นมา แล้วก็ปักเข็มลงไปเลย
“คุณจะทำอะไรน่ะ?”
หงส์อยากจะขัดขืน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าที่ตัวเองคิดว่ามีฝีมือดีแต่พอมาอยู่ต่อหน้าจณัตว์กลับไม่มีประโยชน์อะไรเลย
มือที่เรียวเล็กคู่นั้นดูไปแล้วเหมือนจะอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง แต่กลับเป็นเหมือนกับเหล็กกล้าล็อกมือของหงส์เอาไว้แน่น จนกระทั่งน้ำยาได้เข้าไปในร่างกายตัวเองจนหมด จณัตว์ถึงได้ปล่อยตัวเธอออก แล้วก็พูดเสียงต่ำว่า “เมื่อกี้ในเหล้ามียาปลุกอารมณ์อยู่ ถ้าผมไม่เป็นยาถอนพิษให้คุณละก็ อีกเดี๋ยวท่าทางน่าเกลียดของคุณก็จะปรากฏออกมาแล้ว ยาแบบนี้มันรุนแรงมาก จะทำให้คนขาดสติได้เลยนะ”
พอคำพูดนี้พูดออกมา นรมนก็อึ้งไปทันทีเลย
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ยาปลุกอารมณ์เหรอ?
หงส์และจณัตว์สองคนเหรอ?
งั้นตกลงถือว่าเธอช่วยหงส์ไว้หรือว่าทำลายเรื่องดี ๆ ระหว่างพวกเขาไปกันละเนี่ย?
นรมนคิดไม่ตก ท่าทางที่ตกอกตกใจแบบนั้น หงส์เห็นแล้วก็รู้สึกโกรธมากขึ้นมา แต่ก็พุ่งไปใส่จณัตว์โดยตรงเลย