จณัตว์นอนหลับนั้นมักจะรู้สึกสะดุ้งตื่นขึ้นมาตลอด ถึงแม้ว่าหงส์อยู่ข้างกายแล้วเขาจะผ่อนคลายตัวเองลง แต่ว่าเสียงที่ร่างกายที่ใหญ่ขนาดนี้ล้มลงไปบนพื้นก็ทำให้เขาลืมตาขึ้นมาทันที แล้วสติก็ตื่นขึ้นมาทันทีด้วย
เขามองรอบ ๆ ห้องทีหนึ่ง ก็เห็นหงส์นอนหมดสติอยู่บนพื้น ที่จมูกยังมีเลือดอุ่น ๆ ไหลออกมาอยู่ จนทำให้เลอะไปทั้งใบหน้าของเธอ แถมยังเปื้อนมาถึงคอเสื้อด้วย
จณัตว์ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วก็เอากล่องพยาบาลมาโดยตรง แล้วเอาเข็มเงินของตัวเองออกมาฝังเข็มลงตรงจุดหนึ่งให้หงส์ ในที่สุดเลือดกำเดาก็หยุดไหลซะที
เขาช้อนตัวหงส์ขึ้นมาแล้วอุ้มไปวางลงบนเตียง แล้วก็สั่งให้คนเอาอุปกรณ์มา แล้วก็ทำการตรวจร่างกายทั่วทั้งตัวและสแกนส่วนศีรษะให้เธอไปรอบหนึ่ง
หงส์บอกว่าเธอมีความทรงจำสองปีที่หายไป ถ้าหากเธอไม่ได้โกหกเขาละก็ ก็น่าจะเป็นเพราะว่าหัวได้บาดเจ็บแล้วไปกดทับโดนเส้นประสาทเข้า
และอย่างรวดเร็วจณัตว์ก็เห็นร่องรอยการผ่าตัดสมองของหงส์ และก็เห็นว่ามีเส้นประสาทเส้นหนึ่งโดนกดทับเสียหายไป
สีหน้าของเขาเคร่งขรึมไปหลายส่วนทันที
เพราะฉะนั้นที่เธอพูดมาเป็นความจริงทั้งหมดงั้นเหรอ?
เพราะฉะนั้นเธอลืมเขาไปแล้วจริง ๆ เหรอ?
หัวใจของจณัตว์เจ็บปวดราวกับโดนเข็มทิ่มแทง
ความทรงจำที่ลึกซึ้งขนาดนั้นทำไมถึงได้ลืมไปได้นะ? การผ่าตัดที่งดงามขนาดนั้น ทำไมถึงได้กดทับเส้นประสาทเส้นนั้นไปได้นะ?
มาตอนนี้หงส์น่าจะอยากจะไปพยายามนึกอะไรขึ้นมา ถึงได้ไปฉีกโดนบาดแผลเก่า แล้วทำให้เลือดกำเดาไหลออกมา ถ้าหากไม่รีบห้ามเลือดละก็ บางทีการผ่าตัดที่ทำไว้ก่อนหน้านี้อาจจะล้มเหลวไปได้เลย
พอคิดถึงผลกระทบของเลือดคั่งในสมองแล้ว สีหน้าของจณัตว์ก็ยิ่งเคร่งขรึมลง
“เอาอุปกรณ์ออกไป ถ้าไม่มีการอนุญาตจากฉัน ก็ห้ามใครเข้ามาทั้งนั้น”
“ค่ะ”
คนรับใช้รีบเอาอุปกรณ์ออกไปเลย
จณัตว์จ้องมองหงส์ที่หมดสติอยู่ ชั่วขณะหนึ่งความง่วงงุนก็หายไปทั้งหมดเลย
หลายปีมานี้ถ้าไม่ใช่เพราะหงส์ เขาก็คงจะไม่มีทางอดทนมาถึงตอนนี้ได้ ช่วงเวลานั้นเป็นความทรงจำทั้งชีวิตของเขา แต่ว่าสำหรับหงส์แล้วกลับเป็นแค่สิ่งของที่สามารถทิ้งไปได้ใช่ไหม?
เขารู้ว่าตัวเองจะโทษหงส์ไม่ได้
หมดที่ผ่าตัดในตอนนั้นก็ได้เลือดหนทางที่เสียหายน้อยที่สุดมาทำแล้ว แถมยังทำได้ดีมากด้วย ถ้าหากว่าความทรงจำช่วงนั้นไม่มีอดีตของเขากับหงส์อยู่ บางทีเขาเอาก็คงจะเลือกแบบนี้ แต่ว่าในใจของจณัตว์ยังไงก็ไม่สบายใจอยู่ดี ไม่สบายใจมาก
ความคิดของเขาอดไม่ได้ที่จะคิดกลับไปถึงฤดูร้อนในปีนั้น
นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้รับคำสั่งจากตระกูลให้ออกไปทำงาน แต่คิดไม่ถึงว่าระหว่างทางจะเจอเข้าก็ผู้ก่อการร้ายได้ แล้วเพื่อที่จะปกป้องเนกษ์ เขาจึงให้เนกษ์เอาสินค้าแล้วจากไปก่อน ส่วนตัวเองกลับอยู่ต่อเพื่อถ่วงเวลา จนสุดท้ายก็โดนจับตัวไปเพราะกำลังน้อยสู้ไม่ไหว
จณัตว์นึกว่าครั้งนี้ตัวเองจะต้องตายแน่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะมีกำลังคนกลุ่มหนึ่งมาช่วยพวกเขาเอาไว้ และในนั้นก็มีเด็กผู้หญิงที่สวยงามคนหนึ่งอยู่ด้วย ต่อมาเขาถึงรู้ว่าเธอชื่อหงส์ และเป็นคนของทีมปฏิบัติการเฉพาะกิจ
ทีมปฏิบัติการเฉพาะกิจสังกัดอยู่กับกรมทหาร เขาในวินาทีนั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แถมยังรู้สึกว่าหงส์ดูเหมือนเทพเจ้ามาก และก็จิตใจหวั่นไหวเล็กน้อยแล้วด้วย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะดูอ่อนหวานแต่ภายนอกเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นคนมีนิสัยบ้าคลั่งคนหนึ่ง
การปฏิบัติการในครั้งนั้นระหว่างพวกเขามีคนโดนจับตัวไป และหงส์เพื่อที่จะช่วยคนคนนั้นกลับมากลับไม่สนใจอันตรายที่อยู่ข้างหน้า ไม่ฟังคำสั่งและเคลื่อนไหวตัวคนเดียวด้วย
และเพราะว่ากลัวว่าเธอจะเกิดเรื่องขึ้น จณัตว์จึงอยากจะตามไปด้วย แต่กลับโดนเธอไล่ให้ถอยกลับมา
ตอนนั้นเธอพูดว่าไงนะ?
อ๋อ ใช่แล้ว
เธอพูดว่า “นายมันคุณชายตระกูลผู้ดีคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยจะมาเพิ่มความวุ่นวายอะไรให้ฉันทำไม? ช่วยฉันเหรอ? ไม่เพิ่มความวุ่นวายให้ฉันก็ถือว่าดีแล้ว เริ่มตั้งแต่ตอนนี้นายมาจากไหนก็ไสหัวกลับไปที่นั่นซะ เรื่องที่ฉันหงส์จะทำนั้นนายไม่มีสิทธิ์ที่จะช่วย! ไสหัวไปซะ!”
นั่นเป็นครั้งแรกที่จณัตว์โดนคนทำให้ตกใจจนราวกับเต่าหดหัว แต่คนคนนั้นกลับเป็นผู้หญิงที่ตัวเองถูกใจอีก
ความภาคภูมิในตัวเองของเขาโดนทำร้ายเป็นอย่างมาก แต่ว่ารู้อย่างมีสติดีว่าถ้าหงส์และตัวเองไปด้วยกันก็เท่ากับไปรนหาที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เพราะฉะนั้นเขาก็เลยจากไปเงียบ ๆ แล้วก็ติดต่อเนกษ์เป็นอันดับแรกให้เคลื่อนไหวกำลังคนทั้งหมดของตระกูลแหลมวิไลมาช่วยหงส์ แต่ทำอะไรไม่ได้สุดท้ายตัวเองก็ยังช้าไปก้าวหนึ่งอยู่ดี
ตอนที่จณัตว์กลับมานั้น การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายก็ได้จบลงไปแล้ว สภาพการต่อสู้เลวร้ายจนทำให้จิตใจของจณัตว์รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
เขาถามไถ่ข่าวคราวของหงส์ไปทั่ว ถึงรู้ว่าคนที่หงส์จะช่วยในตอนนั้นคือบุริศร์ และคนถูกช่วยออกมาแล้ว แต่หงส์กลับมีสภาพชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ตอนนั้นหมอในกรมทหารมีไม่เยอะ และคนที่สามารถผ่าตัดได้ก็ยิ่งมีน้อยมาก จณัตว์ก็เลยเดินไปข้างหน้าและเอาใบประกอบวิชาชีพแพทย์ของตัวเองออกมาด้วยความสมัครใจ แล้วมาทำการผ่าตัดให้หงส์
นั่นเป็นการผ่าตัดที่ในชีวิตนี้จณัตว์นึกถึงแล้วยังรู้สึกกลัวมากเลย ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าทักษะของตัวเองมีมากพอ ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าบังคับตัวเองให้พยายามมีสติ คิดกับหงส์ว่าเป็นแค่คนไข้ธรรมดา เขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถทำการผ่าตัดครั้งนั้นสำเร็จได้หรือเปล่า
หลังจากเสร็จเรื่องแล้วตัวเขาทั้งตัวอ่อนแรงไปหมด และไม่สามารถยืนขึ้นได้ตั้งนาน จนทำให้เนกษ์ตกใจไปมากพอสมควร และนึกว่าตัวเขาก็ได้รับบาดเจ็บไปด้วย
แต่ว่าพอเขาผ่อนคลายลงมาได้แล้วถึงมาได้ยินว่าที่แท้บุริศร์กับหงส์เป็นคู่กัน และก็เป็นเพราะว่าเรื่องในครั้งนี้ ข่าวดี ๆ ของบุริศร์และหงส์ก็กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว
จุดจบแบบนี้ทำให้จณัตว์รู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่ว่าการปฏิบัติต่อหงส์ก็ถือได้ว่าเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง หงส์ช่วยชีวิตเขาไว้ครั้งหนึ่ง เขาก็คืนชีวิตให้เขาครั้งหนึ่ง ถือได้ว่าไม่ติดค้างกันแล้วใช่ไหม
คิดแบบนี้ถึงแม้ว่าจณัตว์จะยังคงเสียใจอยู่ แต่อย่างน้อยก็ได้ให้ข้ออ้างและเหตุผลอันหนึ่งที่ตัวเองยอมแพ้ไป
และเพราะว่าต้องอยู่ช่วยการตรวจสอบ พวกเขาจึงต้องอยู่ที่ฐานที่มั่นต่ออีกหลายวัน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าพอไม่กี่วันให้หลังบุริศร์จะจากไปตัวคนเดียวแล้ว และทิ้งหงส์ไว้ที่นี่
บุริศร์พูดอะไรกับหงส์บ้างนั้นจณัตว์ไม่รู้ รู้แต่เพียงว่าวันนั้นหงส์มาหาเขา แล้วก็มาดื่มเหล้ากับเขา
เธอที่เป็นคนไข้หนักคนหนึ่งมาหาเขาที่เป็นหมอคนหนึ่งดื่มเหล้า นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
แต่ว่าเขาสู้หงส์ไม่ได้ จึงได้แต่มองดูเธอแย่งขวดเหล้าไปแล้วก็มอมเหล้าตัวเองไปไม่หยุด
ต่อมาหงส์ก็เมา เธอที่เมามายนั้นร้องไห้ได้อย่างเสียใจเป็นอย่างมาก เธอฟุบอยู่บนไหล่ของเขา ถามเขาว่าหน้าตาเธอสวยหรือเปล่า?
ตอนนั้นจณัตว์พูดว่ายังไงนะ?
เขาพูดว่า “คุณเป็นเด็กผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาบนโลกใบนี้”
แต่ว่าคำพูดประโยคนี้กลับทำให้หงส์ยิ่งร้องไห้หนักเข้าไปอีก
เธอพูดว่าในเมื่อเธอสวยขนาดนี้แล้วทำไมบุริศร์ถึงไม่ชอบเธออีก? ทำไมบุริศร์ถึงไม่อยากจะแต่งงานกับเธอล่ะ? แถมในตอนที่ทุกคนต่างก็คิดว่าพวกเขาจะจัดงานแต่งหรือว่างานหมั้นนั้น บุริศร์กลับหนีไปแล้ว!
และเขาก็ได้หนีไปแบบไม่พูดอะไรสักคำ ขณะเดียวกันก็ได้บอกกับหงส์ด้วยว่าเขาไม่ได้คิดอะไรต่อเธอ
ยังมีอะไรที่แย่กว่าตัวเองแอบรักเขาข้างเดียวแล้วโดนปฏิเสธอีก?
หงส์ดื่มมากไปแล้ว และร้องไห้จนทำให้คนใจสลาย จณัตว์ไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจเธอยังไง แต่กลับโดนเธอบังคับให้ดื่มเหล้าไป
คืนนั้นทั้งสองคนต่างก็บ้าคลั่งไปเลย ดื่มจนบ้าไปเลย
พวกเขาพูดคุยกันไปมากมาย ทั้งชาติกำเนิดของซึ่งกันและกัน ความลำบากของซึ่งกันและกัน เรื่องพวกนั้นที่ไม่บอกกับคนนอกล้วนพูดกันจนหมดเปลือก พอคำพูดพวกนั้นได้พูดออกมาหมดแล้ว ก็เหมือนกับหินก้อนใหญ่ที่ทับอยู่ในใจอยู่ ๆ ก็มีคนมายกออกไปแล้ว และรู้สึกสบายมาก
จนในเวลาต่อมาหงส์ก็กอดตัวจณัตว์ไว้เลย แล้วพูดอย่างเจ็บปวดและเสียใจมากว่า “นี่ นายมีอะไรกับฉันดีหรือเปล่า”
ตอนนั้นอาการเมาของจณัตว์แทบจะโดนคำพูดนี้ทำให้สร่างเมาเลย
“คุณว่าอะไรนะ?”
“นายนี่เป็นผู้ชายตัวโตอย่ามาปอดแหกขนาดนี้ได้ไหม? นายชอบฉันไม่ใช่เหรอ? เด็กผู้หญิงที่นายชอบมาบอกให้นายเอาเธออยู่ตรงหน้า นายยังจะลังเลอะไรอีก? จณัตว์ นี่นายโง่หรือเปล่าเนี่ย?”
หงส์พุ่งเข้าใส่ตัวจณัตว์โดยตรงเลย
จณัตว์มึนงงไปเลยจริง ๆ รอจนตอนที่เขาตั้งสติขึ้นได้นั้น เสื้อผ้าของตัวเองก็โดนหงส์ถอดออกไปแล้ว รูปร่างที่สมบูรณ์แบบของหงส์กระตุ้นประสาทสัมผัสของเขาไป ภายใต้การออกฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แล้วทั้งสองคนก็ได้กลายเป็นสามีภรรยาคืนเดียวกันไป
ตอนที่ตื่นมาในวันที่สองนั้น หงส์ก็ไม่อยู่แล้ว แต่ว่าจณัตว์กลับเห็นรอยเลือดที่หงส์ทิ้งไว้บนเตียง
นี่เขาเป็นผู้ชายคนแรกของหงส์เลยเหรอ!
จณัตว์ไม่สนใจอะไรกับเรื่องเวอร์จิ้นมากนัก แต่ว่าการที่สามารถเป็นผู้ชายคนแรกของผู้หญิงที่ตัวเองรักได้นั้นยังไงเขาก็ยังซาบซึ้งอยู่ แถมยังมีความคิดอย่างหนึ่งอยู่ ๆ ก็เกิดขึ้นมาในหัวสมอง
เขาจะเอาหงส์!
เขาจะแต่งงานกับเธอ!
เธอบอกว่าเธอเป็นองค์หญิงห้าของประเทศFใช่ไหม? งั้นเขาก็จะพยายามเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ให้คู่ควรกับเธอให้ได้แล้วค่อยไปสู่ขอเธอ
ตอนนี้หงส์ชอบบุริศร์อยู่ก็ไม่เป็นไร เขาจะค่อย ๆ เอาผู้ชายคนนี้ออกไปจากหัวใจของหงส์เอง ไม่ว่าจะสิบปีหรือว่ายี่สิบปี เขาก็ไม่สน แต่ว่าก่อนอื่นเขาจะต้องแต่งงานกับเธอแน่
จณัตว์แทบทนรอไม่ไหวอยากจะเอาการตัดสินใจนี้ไปบอกกับหงส์ แต่ว่าเขาหาจนทั่วทั้งฐานที่มั่นก็หาหงส์ไม่เจอ ต่อมาถึงรู้ว่าพอหงส์ตื่นขึ้นมาแล้วก็พบว่าตัวเองมีอะไรกับจณัตว์ไปแล้ว ถึงได้หนีไปเลย
เธอหนีไปที่ไหนนั้นไม่มีใครบอกจณัตว์ ในเมื่อสถานะของเขาไม่เหมาะสมที่จะรู้ความเคลื่อนไหวของหงส์ และต่อมาถึงจณัตว์จะใช้เส้นสายทั้งหมดที่มีอยู่ก็ตามหาเบาะแสของหงส์ไม่เจอเลย
ต่อมาสถานการณ์ในประเทศไม่มั่นคง จณัตว์ก็เลยจำเป็นที่จะต้องรีบกลับประเทศF แต่ว่าก็ได้ทิ้งสิ่งของไว้ให้หงส์
เขาเอาสร้อยเส้นหนึ่งที่ใส่มาตั้งแต่เล็กจนโตทิ้งไว้ให้หงส์ นั่นเป็นของแทนใจที่พ่อบุญทิวาซื้อให้กับแม่นงลักษณ์ นั่นคือของสิ่งเดียวที่นงลักษณ์ทิ้งไว้ให้เขาในตอนที่คลอดเขาออกมาแล้วมอบเขาให้กับตระกูลแหลมวิไล
จณัตว์เอาของสิ่งนี้ทิ้งไว้ให้หงส์ ถือเป็นของสื่อความหมายอย่างหนึ่ง ของแทนใจอย่างหนึ่งที่ว่าในอนาคตจะต้องกลับมาแต่งงานกับเธอแน่
แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าการพบเจอกันอีกครั้งนั้น เธอกลับลืมเขาไปแล้ว และคนที่พร่ำเพ้อพรรณนาก็ยังคือบุริศร์คนนั้นอีก
ถึงแม้ว่าตอนนี้บุริศร์จะแต่งงานไปแล้ว ถึงแม้บุริศร์จะยังคงไม่มีใจแบบนั้นกับเธอ แต่เธอก็ยังลุ่มหลงไม่เปลี่ยนแปลง แต่สำหรับเขาและเรื่องราวทุกอย่างระหว่างพวกเขากลับสลายไปพร้อมกับการผ่าตัดในครั้งนั้นด้วย
จณัตว์รู้สึกว่านี่ก็คือการเยาะเย้ยอย่างหนึ่ง การเยาะเย้ยอย่างใหญ่หลวง
หลายปีมานี้ด้วยสถานะตัวแทนของเขาเอง ผู้หญิงที่อยู่รอบข้างก็เข้ามาไม่ขาดสาย แต่เขากลับยังจำได้อยู่ตลอดว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่มีสัญญาการแต่งงานอยู่ ยังจำค่ำคืนที่หอมหวานนั่นได้อยู่ตลอด ยังคงจำได้ว่าเขาได้ความบริสุทธิ์ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมา เขาจะต้องรับผิดชอบ แต่ว่าตอนนี้คนที่จะต้องรับผิดชอบกลับลืมทุกอย่างระหว่างพวกเขาไป
งั้นเขาควรจะทำยังไงดี?
ปล่อยเธอไป ให้ความอิสระแก่เธอเหรอ?
แค่คิดถึงความเป็นไปได้แบบนี้ ใจของจณัตว์ก็มีความทุกข์และความเจ็บปวดที่พูดไม่ออก
จะเป็นไปได้ยังไง?
ผู้หญิงที่เขาจณัตว์ถูกใจถึงแม้ว่าในใจจะไม่มีเขา ถึงแม้ว่าเธอจะลืมเขาไปแล้ว เขาก็ไม่มีทางอนุญาตให้เธอไปจากตัวเองแน่
แล้วก็มองหงส์ที่หมดสติอยู่อีกครั้ง จณัตว์ก็ถอนหายใจไปทีหนึ่ง จากนั้นก็นวดขมับที่ปวดเหมื่อยของตัวเองเล็กน้อย จากนั้นก็มาถึงข้างเตียงของหงส์ แล้วยื่นมือออกไปปลดกระดุมเสื้อของเธอออก
ไม่ว่าจะยังไง ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอสักชุดหนึ่งก่อนค่อยว่ากัน ถึงแม้ว่าใส่เสื้อผ้าของเขาอยู่เขาดูแล้วจะสบายตามาก แต่ว่ายังไงนี่ก็ไม่ใช่เสื้อผ้าของเด็กผู้หญิง และที่อีกอย่างตอนนี้เธอก็ยังหมดสติอยู่ แบบนี้ก็ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ ยังไงก็เปลี่ยนเป็นชุดนอนสักชุดดีกว่า
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว จณัตว์ก็รีรออีก แล้วก็ลงมือทำเลย
เขากับหงส์เป็นสามีภรรยาที่แท้จริงกันมาทั้งนานแล้ว ตอนนี้เขายิ่งไม่คิดที่จะปล่อยเธอไป เพราะฉะนั้นเรื่องบางอย่างจะช้าหรือเร็วยังไงก็ต้องเผชิญอยู่ดี ถึงแม้ว่าหงส์จะจำอะไรไม่ได้เลย เขาก็จะต้องทำให้เธอคุ้นชินกับการมีตัวตนอยู่ของตัวเอง
จณัตว์หัวเราะเบา ๆ ขึ้นมาคำหนึ่ง แล้วมือที่แกะกระดุมอยู่ก็หยุดลงทันที ความคิดก็มีความรู้สึกแปลก ๆ และซับซ้อนขึ้นมาเล็กน้อย