แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1402 เรื่องของหงส์ผมจะเป็นคนมารับผิดชอบเอง

บทที่ 1402 เรื่องของหงส์ผมจะเป็นคนมารับผิดชอบเอง

บุริศร์ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกนรมนกำลังพูดคุยเรื่องอะไรกันอยู่ เขารู้สึกแต่เพียงว่าคนที่กล้ามาจับเมียเขาต่อหน้าเขานั้นจะต้องปล่อยเอาไว้ไม่ได้แน่

พอลงน้ำแล้ว บุริศร์ก็ว่ายไปตามทางน้ำไหล ข้างหน้ามีเงาดำอยู่อันหนึ่งแล้วก็ว่ายไปเร็วมาก บุริศร์เองก็ไม่ทิ้งห่างมากนัก พอตาเห็นว่าระยะห่างของทั้งสองคนนั้นยิ่งอยู่ก็ยิ่งใกล้เข้ามาแล้ว แล้วอยู่ ๆ อีกฝ่ายหนึ่งก็ล้วงของอย่างหนึ่งออกมาจากอก แล้วก็ดึงออกอย่างเร็ว และโยนมาทางบุริศร์เลย

บุริศร์หลบออกไปอย่างอัตโนมัติ ของสิ่งนั้นแตกออกทันที แล้วหมอกควันสีดำกลุ่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาทันที และขัดขวางการมองเห็นของบุริศร์ไปทันที

นี่มันเป็นระเบิดควันนี่!

บุริศร์รีบกลั้นหายใจไว้ แล้วก็รอให้หมอกควันจางไป จากนั้นพอมาตามหาเงานั้นอีกทีก็หาไม่เจอแล้ว

เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยากจะปล่อยผ่านไป แล้วก็เดินไปข้างหน้าต่ออีกช่วงหนึ่ง แล้วก็พบว่าที่นี่มีช่องทางที่ทะลุออกไปข้างนอกอันหนึ่ง แต่ว่าโดนคนติดตั้งประตูนิรภัยปิดกั้นเอาไว้แล้ว

ตอนนี้บุริศร์ดูไม่ออกว่าประตูนิรภัยอันนี้เคยโดนคนแตะต้องมาก่อนหรือเปล่า แต่ว่าเพื่อที่จะตรวจสอบสักหน่อย บุริศร์จึงรุดไปข้างหน้าและอยากจะเปิดออกดูสักหน่อย แต่กลับโดนไฟฟ้าที่ไหลเวียนอยู่บนนั้นช็อตไปทีหนึ่ง จนเกือบจะสลบไป

บนประตูนี้มีไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ ซึ่งก็คือประตูป้องกันของตระกูลแหลมวิไล ถ้าอย่างงั้นคนคนนั้นก็ไม่ได้เข้ามาจากทางนี้เหรอ?

บุริศร์รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจนัก

แล้วเขาก็มองดูรอบข้างเล็กน้อย และก็ไม่เห็นทางออกทางอื่นแล้ว แต่ว่าออกซิเจนในตอนนี้กำลังไม่ค่อยจะเพียงพอแล้ว

บุริศร์จึงจำเป็นที่จะต้องย้อนกลับไปอย่างรวดเร็ว

“บุริศร์ ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”

นรมนจ้องเขม็งอยู่ข้างบนตลอด พอเห็นบุริศร์โผล่หัวขึ้นมา ก็รีบเข้าไปดึงทีหนึ่ง

แล้วบุริศร์ก็ปีนขึ้นมาตามมือของนรมน

ตอนแรกหงส์ก็กะว่าจะไปดึงสักหน่อยเหมือนกัน เมื่อก่อนเรื่องแบบนี้นั้นเธอทำอยู่บ่อย ๆ แต่ว่านรมนกลับเร็วกว่าเธอก้าวหนึ่ง พอเห็นนรมนลงมือ เธอถึงนึกออกว่าตอนนี้สถานะของตัวเองไม่เหมาะที่จะทำการกระทำแบบนี้แล้ว ก็เลยเอาเท้าที่ก้าวออกไปแล้วถอยกลับเข้ามา

จณัตว์เพียงแต่แค่มองอย่างเย็นชาอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าในใจของเขานั้นคิดอะไรอยู่ แต่ว่าสายตาที่ชั่วร้ายนั่นกลับทำให้หงส์นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง พอเงยหน้าขึ้นมาก็สบเข้าในดวงตาของเขาทันที

ในดวงตานั้นมีแววชั่วร้ายอยู่ โกรธเคืองอยู่ และก็แฝงความเสียใจที่กะพริบผ่านไปเสี้ยวหนึ่งอยู่ด้วย

หงส์นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งทันที แล้วในตอนที่มองจณัตว์อีกครั้งนั้น เขาก็ได้เบี่ยงหน้าไปไม่มองเธอแล้ว และก็ยังก้าวเท้าเดินไปทางบุริศร์แล้ว

“เป็นยังไงบ้าง?”

“ข้างล่างมีคนอยู่คนหนึ่งจริง ๆ ผมตามไปถึงประตูป้องกันของพวกคุณ แต่น่าเสียดายกลับโดนระเบิดควันของเขาทำให้สะดุดไปครู่หนึ่ง ก็เลยไม่เห็นว่าเขาหนีไปทางไหนแล้ว บางทีคนคนนี้อาจจะยังอยู่ในน้ำอยู่ เพียงแต่ผมหาไม่เจอเท่านั้น”

คำพูดของบุริศร์ทำให้ดวงตาของจณัตว์หรี่ลงเล็กน้อย

“ในเมื่อรู้จักประตูป้องกันของตระกูลแหลมวิไลเรา งั้นก็ต้องคุ้นเคยกับตระกูลแหลมวิไลเรามาก ไม่ว่าคนคนนี้เป็นใคร ก็ทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจทั้งนั้น ในเมื่อเขาชอบน้ำซะขนาดนี้ งั้นก็ให้อยู่ในน้ำต่อไปเถอะ”

มุมปากของจณัตว์คลี่ยิ้มเย็นชาออกมาอันหนึ่ง

“มีใครอยู่บ้าง เอาไฟฟ้ามาต่อใส่บ่อน้ำร้อนนี้ซะ ถ้าไม่มีคำสั่งฉันห้ามใครหยุดทั้งนั้น”

พอคำสั่งนี้ของจณัตว์สั่งออกไปแล้ว คนทั้งหมดก็นิ่งอึ้งไปเลย

น้ำสามารถเป็นตัวนำไฟฟ้าได้

ถ้าหากว่าคนคนนั้นยังอยู่ในน้ำจริง ๆ การกระทำแบบนี้ก็จะทำให้คนโดนไฟช็อตตายไปได้เลย

เห็นได้ชัดเลยว่าจณัตว์ไม่ได้อยากจะให้คนคนนั้นมีชีวิตอยู่เลย

บุริศร์ไม่ได้มีความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับการกระทำนี้

ทำให้เมียเขาตกใจ แค่ไฟช็อตเขาตายก็ถือได้ว่าปรานีเขามากแล้ว

พอบุริศร์ถอดชุดอุปกรณ์ดำน้ำออก ก็ได้มีคนเอากระแสไฟฟ้ามาต่อลงบ่อน้ำร้อนแล้ว พอจณัตว์ส่งสัญญาณมือทีหนึ่ง สวิตช์ก็สับลงทันที ในน้ำก็เกิดเสียซี่ ๆ ดังขึ้นมาทันที แถมยังมีคลื่นขึ้นมาด้วย

“อ๊าก!”

ผ่านไปไม่นาน ใต้น้ำก็มีเสียงผู้ชายร้องอย่างน่าอนาถเสียงหนึ่งลอยมา เขาตะเกียกตะกายไป แล้วก็โผล่หัวออกมาอย่างรวดเร็ว

“ช่วยด้วย ช่วยด้วย!”

เขาร้องตะโกนไปอย่างรวดเร็ว แต่ว่าจณัตว์กับบุริศร์กลับเหมือนกับว่าไม่ได้ยินยังไงอย่างงั้น มองดูอย่างเย็นชา แต่นรมนในตอนที่เห็นว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งนั้นกลับโมโหจนแทบจะเป็นลมเลย

“บุริศร์คะ เมื่อกี้เขาอาจจะเห็นฉันจนหมดตัวแล้ว”

นรมนน้อยใจจนแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว

ดวงตาของบุริศร์เคร่งขรึมลงทันที

เขาลงมืออย่างรวดเร็ว มีดสั้นเล่มหนึ่งบินออกไปจากฝ่ามือของเขาทันที จากนั้นก็ไปปักอยู่ที่ตาของผู้ชายคนนั้นอย่างแม่นยำไม่มีผิดพลาด

“อ๊าก! ตาของฉัน!”

ผู้ชายร้องโหยหวนไปอย่างเจ็บปวด เลือดแดงสด ๆ เปื้อนไปทั่วบ่อน้ำร้อน แต่ก็ไม่มีใครออกเสียง ยิ่งไม่มีใครกล้าเดินเข้ามาข้างหน้า

ผ่านไปประมาณหนึ่งวินาที ๆ ผู้ชายคนนั้นก็หยุดตะเกียกตะกายไป ถึงแม้ว่าร่างกายจะยังกระตุกอยู่ และร่างกายก็มีเสียงซี่ ๆ ดังอยู่ แต่ว่าคนกลับไม่มีลมหายใจอยู่แล้ว

“ไปล้วงตัวคนขึ้นมาให้ฉัน”

จณัตว์พูดไปอย่างเยือกเย็น

พวกลูกน้องรีบปิดสวิตช์ไฟไป แล้วก็ไปล้วงคนขึ้นมา

ใบหน้าของผู้ชายดูแปลกหน้ามาก ถึงแม้จะเป็นหงส์ก็ไม่รู้จักผู้ชายคนนี้เลย

“ไม่เคยเห็นคนคนนี้เลย หรืออาจจะเป็นองครักษ์ลับ”

นี่คือการคาดเดาของหงส์

คนทั่วไปเธอล้วนรู้จักทั้งนั้น ในเมื่อเธอเป็นองค์หญิงห้าของประเทศF ปกติก็จะเข้าไปในคลังของประเทศตรวจดูทะเบียนราษฎร์อะไรพวกนั้นของประชากรบ้าง หลายปีมานี้พูดไม่ได้ว่าดูประชากรทั้งประเทศจนชัดเจนแล้ว แต่ว่าคนที่อายุประมาณนี้ก็เห็นมาเกือบหมดแล้ว

ถ้าหากเป็นใบหน้าแปลกหน้าที่ไม่ได้โผล่อยู่ในทะเบียนราษฎร์ งั้นก็น่าจะเป็นองครักษ์ลับของพวกเจ้านายในวังของสมชัย องครักษ์ลับพวกนี้จะถูกฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่าสถานะก็ต้องเป็นความลับมาก ไม่มีทางที่จะมาปรากฏอยู่ในระบบทะเบียนราษฎร์ของประเทศได้แน่

ได้ยินหงส์พูดแบบนี้ สีหน้าของบุริศร์และจณัตว์ต่างก็นิ่งไปครู่หนึ่ง

ถ้าหากเป็นองครักษ์ลับละก็ จะเป็นองครักษ์ลับของใครล่ะ?

สมชัยเหรอ?

หรือว่าของฉัตรพล?

หรือจะเป็นของพรินทร์?

แต่ว่าถ้าจะเดาอย่างแบบสุ่ม ๆ ละก็ ก็ไม่มีทางที่จะเดาได้ว่าตกลงเป็นคนของใคร เพราะฉะนั้นจณัตว์จึงพูดตรง ๆ ขึ้นว่า “ถอดเสื้อผ้าของเขาออกให้ซะ ถอดให้หมดเกลี้ยง อย่างให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว บางทีบนตัวอาจจะมีร่องรอยอะไรก็ได้”

พอคำพูดแบบนี้พูดออกไป บุริศร์ก็หันไปพูดกับหงส์ขึ้นว่า “เธอพานรมนกลับไปที่ห้องก่อนเถอะ”

สถานการณ์แบบนี้ไม่เหมาะที่จะให้พวกผู้หญิงอยู่ด้วยแล้ว

แน่นอนว่าตัวนรมนและหงส์เองก็รู้ดีอยู่แล้ว จึงรีบรุกขึ้นแล้วออกไปเลย

พอจณัตว์เห็นว่าหงส์เชื่อฟังคำพูดของบุริศร์มากขนาดนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาที่มองบุริศร์ก็แหลมคมขึ้นเล็กน้อย

บุริศร์พูดจาง ๆ ขึ้นว่า “คุณวางใจเถอะ ผมไม่สนใจหงส์หรอก อย่าใช้สายตาที่เกลียดชังมามองผม ผมเป็นน้องเขยคุณนะ”

“คุณรู้ตัวว่าเป็นน้องเขยของผมก็ดีแล้ว”

จณัตว์หึเสียงเย็นทีหนึ่ง จากนั้นก็หันหน้าไปจดจ้องต่อไป

บุริศร์มองใบหน้าด้านข้างของจณัตว์ แล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกว่าคุ้นหน้าขึ้นมาเล็กน้อย

“พวกเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า?”

“ผมไม่ใช่ผู้หญิง วิธีการการชวนคุยแบบนี้ของคุณชายบุริศร์คงจะเชยไปหน่อยแล้วมั้ง”

จณัตว์พูดไปโดยไม่หันหน้ากลับมาเลย

ปกติแล้วความจำของบุริศร์นั้นดีมาก ถึงตอนนี้จณัตว์จะพูดไปแบบนี้ แต่ว่าบุริศร์ก็ยังขมวดคิ้วแน่นแล้วก็ค้นหาอะไรบางอย่างไปในหัวสมอง

อยู่ ๆ เงาคนร่างหนึ่งก็มาประกบกับจณัตว์ที่อยู่ตรงหน้านี้เข้าแล้ว

บุริศร์หยุดนิ่งไปครู่หนึ่งทันที

“คุณคือหมอที่เคยผ่าตัดให้หงส์เมื่อหลายปีก่อนเหรอ?”

ร่างกายของจณัตว์นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย

นี่บุริศร์จำเขาได้เหรอ?

“คุณอยากจะพูดอะไร?”

จณัตว์เองกลับนิ่งเฉยมาก และก็ถือได้ว่าได้ตอบกลับคำพูดของบุริศร์แล้ว

แต่บุริศร์กลับยิ้มเล็กน้อย แล้วก็พูดขึ้นว่า “ไม่มีอะไร ดีกับหงส์หน่อยนะ ถึงผมจะไม่ได้คิดกับเธอแบบความรักชายหญิง แต่เธอมีบุญคุณต่อผม และเธอก็เป็นน้องสาวผมด้วย”

“น้องสาวคุณเหรอ? เรื่องนี้นรมนรู้เรื่องหรือเปล่า?”

อยู่ ๆ จณัตว์ก็หันหน้ากลับมา ในแววตามีแววไม่พอใจแฝงอยู่เล็กน้อย

ไม่ว่าจะพูดยังไง ผู้ชายคนนี้ก็คือศัตรูความรักของตัวเอง ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นน้องเขยตัวเองก็เถอะ ยังไงเขาก็รู้สึกไม่ชอบอยู่ดี

บุริศร์ยักไหล่ขึ้นอย่างไม่ใส่ใจแล้วพูดขึ้นว่า “นรมนรู้เรื่องทุกอย่าง”

“คุณที่ฝีมือดีจริง ๆ นะ ทางที่ดีอย่าทำเรื่องที่ผิดต่อน้องสาวผม ไม่งั้นละก็ผมจะไม่ปล่อยคุณไว้แน่”

จณัตว์ไม่สนใจหรอกว่ายศทหารของเขาจะสูงกว่าตัวเองหรือเปล่า เขาเป็นคนที่ปกป้องคนของตัวเองก่อนมาตลอดอยู่แล้ว

“คุณไม่มีทางมีโอกาสนี้หรอก ไม่ว่าคุณจะทำอะไรกับหงส์ ผมแค่อยากจะบอกคุณว่า เธอเคยผ่าตัดสมองมาก่อน และมีความทรงจำขาดหายไปสองปี คุณอย่าทำให้เธอลำบากใจมากนักเลย”

“เหอ ความทรงจำขาดหายไปสองปีเหรอ? ทำไมถึงได้ลืมไปแต่ในส่วนของผม แต่ความทรงจำที่เธอไปช่วยคุณแล้วต้องการให้คุณแต่งงานกับเธอกลับไม่ลืมไปด้วยล่ะ?”

คำพูดของจณัตว์ทำให้บุริศร์นิ่งอึ้งไปทันทีเลย

ใช่ซิ

เรื่องที่บุริศร์โดนช่วยชีวิตกับที่จณัตว์ผ่าตัดให้หงส์นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกัน ในเมื่อหงส์มีความทรงจำสองปีที่ขาดหายไป แต่ทำไมกลับยังจำเขาได้อีกล่ะ?

“คุณหมายความว่ายังไงกัน? คุณจะพูดว่าหงส์แกล้งแสดงออกมาเหรอ?”

“บางทีอาจจะไม่ใช่”

สีหน้าของจณัตว์ดูแย่ลงเล็กน้อย

เมื่อก่อนเขานึกว่าเป็นเพราะว่าความทรงจำขาดหายไปหงส์ถึงจำตัวเองไม่ได้ แต่ว่าพอนึกถึงเรื่องของบุริศร์กับหงส์แล้ว แล้วก็คิดถึงช่วงเวลา จณัตว์ก็รู้แล้วว่าตัวเองทายผิดไปแล้ว

แต่ว่าดูจากท่าทางของหงส์ก็ไม่เหมือนกับว่าจะแกล้งแสดงเลย สำหรับจุดนี้ตอนนี้จณัตว์เองก็ยังไม่รู้แน่ชัด

“คุณรู้อะไรบางอย่างมาใช่ไหม?”

“คุณอย่ามายุ่งเลย เรื่องของหงส์ผมจะรับผิดชอบเอง คุณจัดการเรื่องของน้องสาวผมให้ดีก็พอแล้ว”

จณัตว์ไม่ได้กะว่าจะพูดอะไรมากมายกับบุริศร์ ถึงแม้จะรู้ความรู้สึกที่บุริศร์มีต่อหงส์แล้ว แต่ว่าเขาก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี

พอเห็นเขาเป็นแบบนี้บุริศร์ก็ไม่ถามอะไรมากอีก พอประเมินดูแล้วผู้ชายคนนี้มีความรู้สึกต่อหงส์ลึกซึ้งมากอยู่ ในส่วนนี้เขาก็ยังดูออกได้ สำหรับความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อไปจะพัฒนาไปยังไงนั้น นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่บุริศร์จะสามารถไปประเมินได้แล้ว

เรื่องความรู้สึกนั้นใครก็ไปกำหนดไม่ได้ เพราะฉะนั้นบุริศร์ก็เลยเปลี่ยนหัวข้อคุยไปเลย

“คนคนนี้คุณคิดว่าจะเป็นคนของสมชัยไหม?”

“ไม่เหมือนนะ ถึงแม้สมชัยใจแคบ ชอบจดจำความแค้น แต่ว่าตอนนี้ยังไงก็ยังต้องพึ่งผมให้ไปช่วยแก้ปัญหาการวิจัยทางพันธุกรรมอยู่ แน่นอนว่าจะต้องไม่ทำเรื่องที่โง่เขลาแบบนี้ออกมาแน่”

จณัตว์ตัดสมชัยออกเป็นอันดับแรกเลย เพราะฉะนั้นตอนนี้คนคนนี้เป็นคนของฉัตรพลหรือว่าพรินทร์ก็ไม่รู้แล้ว

มาตอนนี้เสื้อผ้าของผู้ชายโดนถอดออกหมดแล้ว ตรงที่ตำแหน่งท้องของเขามีรอยสักที่เด่นชัดอยู่อันหนึ่ง

หัวคิ้วของจณัตว์ค่อย ๆ ขมวดขึ้นมา

“มันคือพรินทร์นี่เอง! เจ้าองค์ชายสามคนนี้นี่ช่างอยู่ไม่สุขแล้วจริง ๆ”

จณัตว์ยิ้มเย็นทีหนึ่ง แล้วก็กะว่าจะให้คนยกศพออกไปนั้น แต่กลับโดนบุริศร์ขวางเอาไว้ซะก่อน

“รอเดี๋ยว ให้ผมดูหน่อย”

บุริศร์เดินเข้าไป แล้วย่อตัวนั่งลง แล้วก็มองดูรอยสักนั้นอย่างละเอียด จากนั้นก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “จณัตว์ รอยสักนี่อาจจะเพิ่งสักเข้าไปเมื่อเร็ว ๆ นี้นี่เอง ถ้าหากว่าเป็นองครักษ์ลับที่ถูกฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กละก็ รอยสักนี่ไม่มีทางที่จะเพิ่งสักลงไปหรอก คุณก็รู้กฎขององครักษ์ลับนี่ ไม่มีทางที่โตมาขนาดนี้แล้วถึงจะเพิ่งรับเข้ามาใช้เป็นองครักษ์ลับหรอก”

พอจณัตว์ได้ยินคำพูดนี้ก็รีบเดินเข้ามา และแล้วรอยสักนั่นก็ได้อักเสบขึ้นมาแล้วเพราะว่าโดนแช่น้ำ

อาการแบบนี้มีแต่เพิ่งสักมาไม่นานแล้วมาโดนน้ำเข้าถึงได้เป็นแบบนี้

เพราะฉะนั้นหมายความว่ามีคนตั้งใจใส่ร้ายพรินทร์ อยากจะเห็นพรินทร์กับตระกูลแหลมวิไลของเขาฆ่าฟันกันเอง จากนั้นค่อยมาเก็บตกส้มหล่นเหรอ?

จะเป็นใครนะที่วางแผนมาดีขนาดนี้?

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท