บุริศร์แทบจะล้วงมีดสั้นออกมาตั้งแต่วินาทีที่นรมนพูดออกเสียงขึ้นแล้ว แล้วก็แทงไปทางตำแหน่งเท้าของนรมน
พอความรู้สึกที่ปลายมีดคมทิ่มโดนเนื้อส่งมานั้น สีหน้าของบุริศร์ก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันทีเลย
เขาคิดไปแล้วก็อยากจะจับตัวคนที่ซ่อนอยู่ข้างล่างเอาไว้ แต่คนที่อยู่ข้างล่างกลับลื่นไหลราวกับปลาไหลแล้วหนีไปเลย ในน้ำมีคราบเลือดไหลวนขึ้น และเลือดก็แดงสดจนทิ่มตา
หลังจากที่ได้รับความเป็นอิสระแล้วนรมนก็คว้าเสื้อผ้ามาห่มตัวเองไว้อย่างรวดเร็ว
พอบุริศร์เห็นเธอใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ถึงได้โทรศัพท์หาจณัตว์
ในตอนที่คนของจณัตว์มาถึงนั้น คราบเลือดในน้ำก็ได้หายไปหมดแล้ว แต่ว่าจณัตว์กลับไม่ได้สงสัยในคำพูดของบุริศร์และนรมนเลยแม้แต่น้อย
“รีบไปค้นหาให้ฉัน! นี่บ้านใหญ่ตระกูลแหลมวิไลกลับสามารถมีคนแฝงตัวเข้ามาได้ ฉันว่าทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนี่คงจะไม่ต้องเอาไว้แล้วมั้ง”
สีหน้าของจณัตว์ดูไม่ดีเอามาก ๆ
นี่ถ้าไม่มีบุริศร์อยู่ข้างกายด้วย แล้วนรมนมาแช่บ่อน้ำร้อนแค่ตัวคนเดียวละก็ ยังไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาบ้างเลย
“เนกษ์ นายไปถามพ่อสักหน่อยว่า ในใต้บ่อน้ำร้อนนี่สามารถทะลุออกไปข้างนอกได้หรือเปล่า?”
บ่อน้ำร้อนนี่เป็นบ่อน้ำร้อนใต้ดินธรรมชาติ ตาน้ำอยู่ที่นี่ แต่กลับไหลเวียนออกไปภายนอก เมื่อก่อนจณัตว์รู้สึกว่าไม่มีใครกล้าทำอะไรกับตระกูลแหลมวิไล ที่สำคัญที่นี่ก็น่าจะเคยมีการป้องกันมาก่อน เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ตอนนี้ถ้าคนไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่ งั้นก็มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะเข้ามาทางธารน้ำไหลจากข้างนอก
เนกษ์ไปโทรศัพท์ให้เอกฉัทอย่างรวดเร็ว
ถ้าหากการคาดเดาของจณัตว์เป็นเรื่องจริง ถ้าอย่างงั้นก็อันตรายแล้ว
บุริศร์รอทางด้านเอกฉัทมาส่งข่าวไม่ไหว จึงพูดเสียงต่ำตรง ๆ ขึ้นว่า “เดี๋ยวผมลงไปดูหน่อยดีกว่า”
“บุริศร์คะ ข้างล่างไม่รู้ว่าจะลึกเท่าไหร่ ยังไงคุณก็รอข่าวจากทางคุณท่านเอกฉัทก่อนดีกว่า”
นรมนรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก
มือข้างเมื่อกี้นั้นเย็นเฉียบไม่มีความอบอุ่นเลย ตอนที่จับโดนเธอนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าโดนผีจับมาจับเลย ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนไม่เชื่อเรื่องภูตผี แต่ว่าวินาทีนั้นก็ยังรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
พอตอนนี้มาได้ยินว่าบุริศร์ยังอยากจะลงไปอีก จึงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวขึ้นมา
บุริศร์ลูบหน้าของเธอเล็กน้อย แล้วพูดเสียงอ่อนโยนขึ้นว่า “ผมจะต้องไม่เป็นอะไร วางใจเถอะ คุณเช็ดผมให้แห้งก่อนนะ เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา รอผมกลับมาอยู่ที่นี่นะ”
“แต่ว่า……”
“เชื่อผมนะ”
ดวงตาของบุริศร์อบอุ่นมากขนาดนั้น แล้วก็ยืนกรานหนักแน่นขนาดนั้น ชั่วขณะหนึ่งทำให้นรมนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีแล้ว
“งั้นคุณระวังหน่อยนะ ถ้าคุณไม่กลับมาฉันก็จะไม่กลับไปนะ”
นี่เท่ากับว่าเอาร่างกายของตัวเองมาข่มขู่บุริศร์เลย
สำหรับการกระทำและน้ำเสียงที่เป็นเด็กอย่างนี้ของนรมนนั้น บุริศร์ก็ยิ้มอย่างรักใคร่เล็กน้อย
“ได้”
เขาพูดจบก็มองไปทางจณัตว์ แล้วพบว่าจณัตว์กำลังมองเขาอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะเก็บรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
“ผมต้องการอุปกรณ์ดำน้ำสักชุด”
“ที่นี่มี”
จณัตว์สั่งคนให้ไปเอามา
“หรือไม่ให้ผมลงไปดีกว่า”
จณัตว์มองออกได้ ว่าบุริศร์นั้นดีกับนรมนเป็นอย่างมาก ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนั้นคนอื่นแทรกเข้าไปไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นถึงแม้เขาจะไม่สบายที่เพราะว่าหงส์ชอบบุริศร์ แต่วินาทีนี้ก็ต้องคิดเผื่อนรมนด้วย
“ไม่ต้องดีกว่า ผมไปดูเองก็พอแล้ว คุณช่วยผมดูแลนรมนให้ดีด้วยก็พอ”
“ได้”
บุริศร์สวมใส่อุปกรณ์ดำน้ำเสร็จแล้ว ก็กระโดดลงไปทันทีเลย
นรมนจ้องมองผิวน้ำอย่างเป็นกังวลเล็กน้อย หัวคิ้วขมวดเข้าด้วยกันแน่น
ผมของเธอเปียกชุ่มไปหมด พอคิดถึงคำพูดของบุริศร์ก่อนที่จะไป จณัตว์ก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เอาไดร์เป่าผมมา”
แล้วก็มีคนยื่นไดร์เป่าผมมาให้จณัตว์ทันที
เขาเปิดไดร์เป่าผมออก แล้วก็เป่าผมให้นรมนอย่างอ่อนโยน แต่กลับเป็นนรมนที่ตกใจจนสะดุ้งทีหนึ่ง จากนั้นก็พูดอย่างเขินอายเล็กน้อยขึ้นว่า “พี่ เดี๋ยวฉันทำเองเถอะค่ะ”
“ให้ฉันทำเถอะ ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงเขา แต่ว่าถึงน้ำนี่จะลึกมาก แต่ว่าสำหรับบุริศร์มาพูดแล้วก็ไม่ถือว่าเป็นอะไร เชื่อใจเขาเถอะ ตอนนี้ผมของเธอไม่เป่าให้แห้ง ถ้าอีกเดี๋ยวพอเป็นหวัดขึ้นมาก็จะต้องมาลำบากฉันให้เหนื่อยไปด้วยใช่ไหม? ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ฉันอยากจะนอนดี ๆ สักทียังยากเลย เธอก็คิดซะว่าเห็นใจพี่หน่อยได้ไหม?”
พอจณัตว์พูดแบบนี้ นรมนก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อยขึ้นมาแล้ว
“พี่ ขอโทษนะ ทำให้พี่ต้องพักผ่อนไม่พอเพราะการผ่าตัดนั่นเลย”
“ยัยโง่ มันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย”
มุมปากของจณัตว์คลี่ยิ้มขึ้นเล็กน้อย การกระทำในมือก็เบามาก
หงส์เพิ่งตื่นขึ้นมาก็ได้ยินว่าทางด้านบ่อน้ำร้อนเกิดเรื่องขึ้น จึงรีบให้ธีรตามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตัวเองแล้วรีบออกไป แต่กลับมาเห็นจณัตว์กำลังเป่าผมให้นรมนอย่างอ่อนโยนมาก จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
“พวกคุณกำลังทำอะไรอยู่คะ?”
หงส์ตั้งใจพูดให้เสียงสูงมากขึ้นเยอะ
ถึงแม้ว่าจณัตว์จะเป็นพี่ชายของนรมน แต่ก็มีคนอยู่มากขนาดนี้ และที่สำคัญนรมนก็ไม่ใช่เด็กแล้ว มาออดอ้อนให้จณัตว์เป่าผมให้แบบนี้มันจะดีจริง ๆ เหรอ?
และอีกอย่างพวกเขาทำแบบนี้เฮียบุริศร์จะคิดยังไง?
หงส์คิดไปแบบนี้ แล้วก็เดินไปข้าง ๆ พวกเขาเลย แล้วก็มาพูดกับจณัตว์ว่า “เอาไดร์เป่าผมมาให้ฉัน คุณเป็นผู้ชายตัวใหญ่มือไม้แข็ง จะทำให้พี่สะใภ้ฉันเจ็บเอาได้นะ”
คำพูดนี้พูดได้อย่างดูใจกว้าง แต่กลับทำให้จณัตว์ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
“พี่สะใภ้เหรอ?”
“ก็ใช่นะซิ เธอเป็นภรรยาของเฮียบุริศร์ ถ้าฉันไม่เรียกพี่สะใภ้แล้วจะให้เรียกอะไร?”
หงส์ฉวยโอกาสที่จณัตว์นิ่งอึ้งไป ก็แย่งไดร์เป่าผมมาจากมือของเขาเลย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากจะรับใช้นรมนซะเท่าไหร่ แต่ว่าถ้าสามารถปกป้องภรรยาของเฮียบุริศร์ไว้ได้เธอก็ยังสามารถไปทำได้อยู่ดี
สำหรับสิ่งนี้จณัตว์กลับไม่ได้ต่อต้านซะเท่าไหร่
เรื่องเป่าผมแบบนี้เขาก็ทำไม่เป็นจริง ๆ ด้วย
พอเห็นว่าหงส์มารับช่วงงานที่อยู่ในมือของตัวเองไปแล้ว จณัตว์ก็ถอยออกมาก้าวหนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ห้ามเรียกพี่สะใภ้นะ”
“คุณนี่ยุ่งเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปทั่วยังจะมายุ่งเรื่องฉันเรียกใครว่าพี่สะใภ้อีกเหรอ?”
หงส์รู้สึกโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว
ได้ยินธีรตาบอกว่าตัวเองหมดสติไป เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าสาเหตุมันเกี่ยวข้องกับจณัตว์แล้วทั้งอกก็เต็มไปด้วยไฟโกรธ พอตอนนี้มาเห็นเขาแล้วก็ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตามากเลย
นรมนอยากจะดึงผมของตัวเองกลับมามากจริง ๆ
กลิ่นดินปืนระหว่างสองคนนี้มันฉุนมากไปแล้ว เธอกลัวว่าตัวเองจะซวยไปด้วยจริง ๆ
แต่ว่ายังไม่รอให้นรมนเปิดปากพูด จณัตว์ก็พูดเสียงต่ำขึ้นแล้วว่า “ผมเป็นพี่ชายของนรมน แล้วคุณเป็นผู้หญิงของผม ถ้าคุณเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ แล้วคุณกะว่าจะเรียกผมว่าอะไรล่ะ?”
คำพูดนี้พูดจนหงส์รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที
“จณัตว์ คุณหุบปากให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ! ฉันไปเป็นผู้หญิงของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ถ้าคุณยังพูดไปเรื่อยอีกเชื่อหรือเปล่าว่าฉันจะตอนคุณซะเลย”
จณัตว์กลับพูดอย่างสงบนิ่งว่า “ไม่ใช่ผู้หญิงของผมเหรอ? จะต้องให้ผมบอกไหมว่าปานตั้งแต่กำเนิดของคุณอยู่ในตำแหน่งไหน?”
พอคำพูดนี้พูดออกมา สีหน้าของหงส์ก็แดงขึ้นมาทันทีเลย
ปานบนตัวเธอนั้นนอกจากธีรตาก็ไม่มีใครรู้เลยนะ แล้วเจ้าหมอนี่ไปรู้ว่าได้ยังไง?
พอคิดถึงความทรงจำสองปีนั่นที่ตัวเองสูญเสียไป สีหน้าของหงส์ก็ดูแย่มากเลย
คำพูดที่จณัตว์พูดมานั้นมีน้ำหนักมากเกินไปแล้ว แม้แต่ปานที่อยู่ในที่ลับสุดของเธอก็ยังรู้อีก หรือว่าระหว่างพวกเขาเคยเกิดความสัมพันธ์อะไรขึ้นมาจริง ๆ เหรอ?
ในเมื่อปานแต่กำเนิดนั่นอยู่ตรงที่ก้นของเธอเลยนะ
พอคิดไปแบบนี้แล้ว ใจของหงส์ก็วุ่นวายขึ้นมาเลย และแน่นอนมือจึงสั่นไปทีหนึ่ง แล้วไดร์เป่าผมก็ม้วนติดเส้นผมของเธอเข้าไปช่อหนึ่งเลย
“โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย เจ็บ เจ็บ เจ็บ”
นรมนเจ็บจนน้ำตาก็เกือบจะไหลออกมาแล้ว
สองคนนี้นี่เกินไปแล้วนะ! ถึงกับฉวยโอกาสตอนที่บุริศร์ไม่อยู่มาทำร้ายเธอแบบนี้
แล้วหงส์ถึงตั้งสติกลับมาได้ พอเห็นว่าผมโดนดูดเข้าไปแล้วก็อดไม่ได้ที่จะลนลานขึ้นมาเล็กน้อย
“นี่จะทำยังไงดี?”
สีหน้าของจณัตว์นิ่งค้างไปครู่หนึ่ง แล้วดึงทีหนึ่งจนปลั๊กจ่ายไปหลุดออก จากนั้นก็เอากรรไกรมาตัดชั๊บทีหนึ่งจนเส้นผมช่อนั้นขาดออก
นรมนที่ได้รับความอิสระอีกครั้งรีบลุกขึ้นทันที และหลังจากที่หนีห่างจากพวกเขาแล้ว และมองไปที่เส้นผมที่อยู่ในไดร์เป่าผม แล้วก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างหดหู่ขึ้นว่า “พวกคุณสองคนจะทะเลาะกันก็อย่าเอาผมของฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้ไหม? ฉันจะฟ้องบุริศร์ว่าพวกคุณสองคนรังแกฉัน!”
นรมนปวดใจจะแย่อยู่แล้ว
นั่นเป็นเส้นผมที่เธอดูแลรักษามาอย่างดีเลยนะ แต่กลับโดนตัดขาดไปแล้ว
พอหงส์ได้ยินว่านรมนจะฟ้องบุริศร์ ก็รีบเอาไดร์เป่าผมที่อยู่ในมือโยนไปในอกจณัตว์ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “นี่ไม่เกี่ยวกับฉันนะ จณัตว์เป็นคนทำ เธอดูซิของกลางยังอยู่ในมือของเขาอยู่เลย และที่สำคัญเขาก็เป็นคนเอากรรไกรมาตัดผมของเธอด้วย ตัวการชั่วร้ายก็คือเขา”
จณัตว์หงส์จ้องมองหงส์ที่มีทีท่าทางเฉไฉไปเรื่อยนั่น แล้วก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าขึ้นเล็กน้อย แต่ว่าในดวงตากลับมีแววรักใคร่พาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง
นรมนไม่เคยเห็นหงส์มีความสามารถพูดดำให้เป็นขาวพูดเท็จให้เป็นจริงได้แบบนี้มาก่อน วันนี้ถือว่าได้เปิดโลกทัศน์แล้วจริง ๆ
“องค์หญิงห้า คุณนี่เป็นคนมีความสามารถจริง ๆ เลยนะ!”
นรมนพูดจบแล้วก็นวดหนังศีรษะของตัวเองเล็กน้อย แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ขอร้องล่ะ พวกคุณสองคนจะทำอะไรก็ทำไป แต่ขอร้องช่วยอยู่ห่าง ๆ ฉันหน่อยนะ ผมนี่ฉันก็ไม่เป่าแล้ว ฉันต้องขอบคุณพวกคุณสองคนมากเลยนะ”
พูดจบเธอก็ถอยหลังไปสองก้าว
หงส์รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย
“นรมน!”
“หยุด หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ ไม่ต้องเข้ามา”
นรมนรีบห้ามปรามหงส์ไว้
บรรยากาศที่ตื่นเต้นดี ๆ แบบนี้มาโดนพวกสองคนทำให้กลายเป็นอะไรก็ไม่ใช่หมดเลย
จณัตว์เห็นว่าพวกเธอสองคนต่างก็ท่าทางดีมาก ในใจก็โล่งไปได้เปลาะหนึ่ง เขายังนึกว่านรมนจะโกรธเพราะว่าหงส์รู้สึกดีกับบุริศร์ซะอีก แต่ว่าตอนนี้ดูไปแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย
หรือว่านรมนไม่ได้รู้สึกว่าหงส์คิดอะไรกับบุริศร์เหรอ?
สมองของจณัตว์หมุนวนไปอย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่พูดอะไร แล้วก็เอาไดร์เป่าผมส่งให้ธีรตาไป
หงส์ส่งสายตาให้ธีรตาทีหนึ่ง ธีรตาก็รับรู้ขึ้นมาทันที แล้วก็รีบเอาเส้นผมที่ติดอยู่ในไดร์เป่าผมออกมา เพื่อไม่ให้บุริศร์กลับมาเห็นเข้าแล้วจะมาว่าอะไร
นรมนจ้องมองผิวน้ำของบ่นน้ำร้อนที่นิ่งสนิทไป แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “พี่ พี่ว่าถ้าใต้บ่อน้ำร้อนนี่สามารถทะลุออกไปข้างนอกได้ งั้นคนในตระกูลแหลมวิไลในตอนนั้นก็น่าจะคิดถึงจุดนี้ด้วยเหมือนกัน และก็คงจะติดระบบป้องกันอะไรไว้แล้ว แล้วทำไมถึงยังให้คนคลำเข้ามาได้ง่ายแบบนี้ด้วยล่ะ?”
“เรื่องนี้ฉันจะไปตรวจสอบให้ชัดเจนเอง แต่ก่อนที่ยังไม่มีบทสรุปพวกเธอก็อย่าเพิ่งเข้ามาแช่บ่อน้ำร้อนเลยนะ”
“ได้ค่ะ”
นรมนนั้นได้มีภาพฝังใจต่อสิ่งนี้แล้ว ถึงจณัตว์ไม่พูด เธอก็คงจะไม่มาอีกแล้วล่ะ
“ตกลงเมื่อกี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
หงส์รู้แต่เพียงว่าทางด้านนี้เกิดเรื่องขึ้น แต่ว่าตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันนั้นยังไม่ทันได้ถาม พอตอนนี้นรมนพูดขึ้นมาแบบนี้จึงอดไม่ได้ที่จะถามมาสักประโยค
จณัตว์บอกเล่าเรื่องราวไปรอบหนึ่ง ดวงตาของหงส์ก็เคร่งขรึมลงทันที
“เจ้าบ้านี่คงจะไม่ใช่พวกโรคจิตหรอกนะ? ซ่อนตัวอยู่ในน้ำแล้วยังตั้งใจมาจับขานรมนโดยเฉพาะด้วย หรือว่าจะเป็นพวกถ้ำมอง? นรมน เธอคงจะไม่โดนมันเห็นไปจนหมดแล้วหรอกนะ?”
พอคำพูดนี้พูดออกไป นรมนก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมามาก ๆ ขึ้นมาทันทีเลย
เมื่อกี้มัวแต่กลัวอยู่ ก็เลยไม่ได้คิดถึงจุดนี้ พอมาตอนนี้โดนหงส์พูดขึ้นมาแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะโมโหจนหน้าแดงขึ้นมาทันที
“ฉันจะต้องตามจับคนคนนั้นมาให้ได้ แล้วก็จะควักลูกตาของมันออกซะ”
โถ่เอ๊ย!
เธอจะไปรู้ได้ยังไงว่าข้างล่างยังมีคนอื่นอยู่อีก เมื่อกี้ที่อยู่ด้วยกันกับบุริศร์เป็นเพราะว่าเป็นสามีภรรยากันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ใครจะไปคิดว่าในใต้น้ำยังมีคนซ่อนอยู่คนหนึ่งแบบนี้ล่ะ?
คนคนนี้เป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชายก็ยังไม่รู้เลย นี่ถ้าเกิดว่าเป็นผู้ชายล่ะ……
นรมนแค่คิดก็รู้สึกไม่สบายขึ้นมาทั้งตัวเลย
แม้งเอ้ย!
นี่เธอโดนมองเห็นหมดทั้งตัวแล้วเหรอ!