“ไปเถอะไปเลย ไปกันให้หมด”
หงส์หงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
ธีรตานิ่งอึ้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นนัยน์ตาของหงส์ทอแววว่างเปล่าและโดดเดี่ยว เธอจึงอดเศร้าขึ้นมาไม่ได้
จริงๆแล้วพอมาลองคิดดูดีๆ หงส์ดีกับเธอมาก เพียงแค่หงส์เก็บซ่อนอารมณ์มาตลอด ทั้งยังพูดน้อย ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีแค่ผู้หญิงคนนี้กรีดตาอยู่คนเดียวในวัง และเรื่องทั้งหมดที่อีกฝ่ายทำมันชวนให้ธีรตารู้สึกหวาดกลัวก็เท่านั้น
จริงๆแล้วเธอดีกับธีรตามาก
ตอนที่ธีรตาป่วย หงส์ไม่ให้เธอมาตามรับใช้ และยังหาหมอมารักษาให้เธออีกด้วย
อย่างที่รู้กันดีถ้าในวังมีสาวใช้ป่วย จะไม่สามารถไปหาหมอได้ในขณะทำงาน ทำได้แค่รอจนกว่าจะเลิกงานถึงจะสามารถออกนอกวังไปหาหมอได้ แต่สาวรับใช้อย่างพวกเธอไม่มีเวลาเลิกงานจริงๆจังๆ จึงไม่สามารถออกไปนอกวังได้ ดังนั้นทุกครั้งเลยต้องมีการเตรียมยาที่จำเป็นเผื่อกันเอาไว้ แต่เมื่อมารับใช้หงส์ เธอไม่เคยต้องมากังวลเรื่องพวกนี้เลย
ยังมีน้องชายของเธอ เดิมทีพวกเขาเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวยากจน แต่เพราะได้มาเป็นสาวใช้ของหงส์ น้องชายของเธอเลยได้มีโอกาสได้เข้าโรงเรียนของผู้ดี อีกอย่างหลายปีมานี้หงส์ก็ยังช่วยเหลือเขาอยู่ตลอด ทั้งยังเอาใส่ใจการเรียนของน้องชายเธอเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าบางครั้งหงส์จะดูร้ายกาจไปบ้าง แต่ตอนนี้พอมาคิดดู ธีรตากลับพบว่าจิตใจของหงส์ดีมากๆ
เพียงแค่เธอคือองค์หญิง เมื่ออยู่ในตำแหน่งนี้ก็จำเป็นต้องทำตัวเยือกเย็นกับทุกๆสิ่ง
เมื่อคิดข้อนี้ได้ ธีรตาก็รีบพูดขึ้นมาว่า “ฉันไม่ไป ฉันเป็นสาวใช้ขององค์หญิง และจะเป็นตลอดไป องค์หญิงอย่าไล่ฉันไปเลยนะ ถ้าต้องไปจากองค์หญิง ฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องไปที่ไหน และต้องทำอะไร”
ทว่าหงส์กลับเข้าใจผิด คิดว่าอีกฝ่ายยังอยากพึ่งพาตัวเองเพื่ออนาคตของน้องชาย จึงอดพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า “ถ้าให้น้องเธออยู่ที่วังต่อคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ตอนนี้เธอเองก็เห็น ว่าในวังวุ่นวายแค่ไหน หลังจากนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่มีใครรู้ แต่ฉันสามารถบอกเธอได้ว่า ในวังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และอาจจะมีคนตายมากมาย แต่ไหนแต่ไรตัวแทนที่ถือครองอำนาจการปกครองล้วนแล้วแต่ต้องชดใช้ด้วยเลือดเนื้อ ถ้าน้องชายของเธอเลือกยืนผิดฝั่ง ฉันก็อาจจะช่วยเขาเอาไว้ไม่ได้ ดังนั้นเธอควรให้เขาออกมาจากวังก่อน ส่วนหลังจากนี้ รอให้มีการปกครองใหม่ที่มั่นคง แล้วค่อยกลับไปก็ยังไม่สาย อีกอย่างฉันก็เริ่มรู้สึกไม่อะไรกับตำแหน่งองค์หญิงนี้แล้ว เธอตามรับใช้ฉันก็คงไม่ก้าวหน้า ตอนนี้ควรไปจากฉันจะดีกว่า ฉันจะให้เงินเธอก้อนหนึ่งไปตั้งตัว จากความสามารถของเธอ ยังไงก็ต้องหาเลี้ยงตัวเองได้อยู่แล้ว”
นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับธีรตาเท่าที่หงส์จะคิดได้
ถึงยังไง ธีรตาก็ติดตามเธอมาตลอดหลายปี เธอยังคงหวังว่าอีกฝ่ายจะได้มีชีวิตที่สุขสบาย
เมื่อธีรตาได้ยินหงส์พูดมาแบบนี้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าเนื้อแท้ของหงส์เป็นคนจิตใจดี
เธอรีบคุกเข่าลง แล้วพูดว่า “องค์หญิง ธีรตาจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จะมีชีวิตอยู่เป็นคนขององค์หญิง ตายไปก็ขอเป็นผีขององค์หญิง ถ้าน้องชายของฉันปลอดภัย ธีรตาคนนี้ก็ขอมอบทั้งชีวิตนี้ให้องค์หญิงตลอดไป”
หงส์รู้สึกเกินคาด
เมื่อก่อนไม่เคยรู้สึกว่าธีรตาจะภักดีขนาดนี้ ตอนนี้ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเริ่มมีความรู้สึกให้กันแล้ว แต่การใช้ชีวิตอยู่ในวังหลายปีทำให้เธอไม่กล้าเชื่อธีรตาในทันที
“เอาล่ะ ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป ดีเหมือนกันตระกูลแหลมวิไลจะได้ไม่ขาดคนช่วยกินข้าว”
แค่คิดว่าตัวเองถูกควบคุมโดยใครบางคน หงส์ก็ค่อนข้างอารมณ์เสีย
“องค์หญิง…..”
“เอาล่ะ ฉันอยากอยู่เงียบๆคนเดียว ว่าแต่เฮียบุริศร์กับนรมนอยู่ห้องไหน?”
หงส์รู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่รู้สาเหตุ
“ห้องแรกทางฝั่งซ้าย แต่เหมือนพวกเขาจะยังไม่ตื่น ส่วนคนที่ชื่อปัญญ์เฝ้าอยู่หน้าห้องผ่าตัดตลอด หลังจากที่คุณชายจณัตว์กลับไปที่ห้อง เขาก็ยังอยู่กับเด็กผู้หญิงคนนั้น”
คำพูดของธีรตาทำให้หงส์นิ่งไปเล็กน้อย
เธอค่อนข้างสนใจเด็กผู้หญิงที่อยู่กับปัญญ์
ได้ยินมาว่าเพิ่งจะสิบสามเองนี่?
เด็กอายุสิบสามสามารถลักลอบเข้ามาในวังได้อย่างเงียบเชียบ มันเป็นอะไรที่เกินคาดจริงๆ แม้แต่คนของเธอก็ยังไม่สังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายเข้ามา แค่นี้ก็รู้แล้วว่าฝีมือของเด็กคนนี้ดีขนาดไหน
เพิ่งจะสิบสามเองนะ!
ในอนาคตเด็กนั่นอาจจะทำได้อีกหลายอย่าง แต่เอาแค่ตอนนี้ก็เก่งกล้าถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าจะบอกว่าเบื้องหลังของเด็กนั่นไม่มีกลุ่มแก็งอะไร ต่อให้อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อหรอก
ส่วนกลุ่มที่ว่าจะเป็นภัยต่อบุริศร์และนรมนหรือเปล่าก็ไม่อาจทราบได้ แต่เธอกลับรู้สึกว่ามันเป็นความอันตรายที่แอบซ่อนไว้
หน้าที่ของเธอคือดูแลไม่ให้บุริศร์ได้รับอันตราย เพราะฉะนั้นถ้าจะสำรวจคนที่ไม่รู้ที่มาที่ไปชัดเจนอย่างมายด์เอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆก็ไม่ถือว่าเสียหายอะไร
“ฉันจะไปดู”
พูดจบหงส์ก็เดินตรงไปทางห้องของมายด์
และปัญญ์ก็ไม่ได้ปิดประตูเอาไว้ หลังจากที่มายด์ผ่าตัดเสร็จก็ยังคงหลับสนิท เมื่อมองมายด์ที่ยังคงอยู่ในห้วงนิทรา สายตาปัญญ์ก็ทอแววอ่อนโยน
เขาจับมือของมายด์เอาไว้เบาๆ ถึงจะไม่ได้นอนมาทั้งคืนกระนั้นก็ยังไม่ง่วง
ช่วงที่ผ่านมามายด์พบเจออะไรบ้างนะ? อันที่จริงแล้วปัญญ์อยากรู้มาก แต่มายด์ก็ไม่ยอมพูดมันออกมา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอจงใจปิดบัง หรือเป็นเพราะไม่รู้อะไรจริงๆ
ปัญญ์ไม่คิดว่าจะมีใครทุ่มแรงเลี้ยงดูคนกลุ่มหนึ่ง แล้วจะปล่อยไปเฉยๆโดยไม่ใช้ประโยชน์
อีกฝ่ายอาจจะยังไม่สั่งการพวกเขา หรือไม่ก็อาจจะมีเป้าหมายอื่น
เขาคือคนใกล้ตัวของนรมน ถึงปัญญ์จะดีใจที่จู่ๆมายด์ก็ปรากฏตัวมาแบบนี้ แต่พอนึกถึงอันตรายและภัยแฝงที่ซุกซ่อนเอาไว้ เขาก็อดขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
ถ้ามายด์ฟื้นขึ้นมาหลังจากผ่าตัดสำเร็จ เขาอาจจะพาเธอหนีไป
อยู่ที่นี่เขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรบุริศร์กับนรมนได้ กลับกันถ้าพามายด์มาอยู่ด้วยอาจจะเป็นการนำพาอันตรายมาให้พวกเขา ในเมื่อเป็นอย่างนี้หนีไปยังจะดีกว่า
เขาไม่อยากให้คนที่ตัวเองชอบทำร้ายนรมน
คิดมาถึงตรงนี้ ปัญญ์ก็ตัดสินใจได้ ในตอนนี้เองหงส์ก็เดินเข้ามา
“เธอเป็นใครกันแน่?”
หงส์รู้ว่าปัญญ์เป็นคนของนรมน จึงไม่พูดอะไรอ้อมค้อม
ปัญญ์ชะงักไปเล็กน้อย เมื่อหันไปมองก็พบว่าหงส์ยืนอยู่ตรงประตู ท่วงท่าสบายๆพกพาความเฉยชาและถือตน ปัญญ์หยุดนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นก็พูดว่า “เธอคือคนของผม”
“คนของนาย? ฝีมือของเธอนายเป็นคนสอนมางั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่”
เขารู้ว่าหงส์เป็นคนของบุริศร์ และตอนนี้ก็คงกำลังสงสัยในตัวมายด์ เพราะฉะนั้นถึงได้มาถาม
ปัญญ์ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร ขนาดเขายังสงสัย ก็ไม่แปลกที่หงส์จะสงสัยด้วยเช่นเดียวกัน
“ผมรู้ว่าคุณมีสายข่าว ถ้าเป็นไปได้ คุณช่วยผมสืบได้ไหมว่าตอนนั้นใครเป็นคนพาตัวมายด์ไป และใครเป็นคนฝึกและสอนทักษะการต่อสู้ให้เธอในช่วงที่ผ่านมา? สายข่าวของผมจำกัดอยู่แค่ในด้านธุรกิจ ในด้านอื่นผมไม่มี โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับกลุ่มคนที่ซ่อนตัวอยู่ ผมรู้คุณมีวิธี”
ปัญญ์พูดอย่างตรงไปตรงมา ทำให้หงส์ไม่กล้าเค้นถาม
“ฝีมือเธอเป็นยังไงฉันยังไม่เคยเห็นหรอกนะ แต่การที่สามารถเข้ามาในวังได้อย่างเงียบเชียบโดยที่ฉันไม่สังเกตเห็น มันไม่ใช่สัญญาณที่ดีแน่ ฉันจะให้จิ้งจอกเงินของสหภาพQTไปสืบให้แล้วกัน ว่าแต่ฉันขอข้อมูลเกี่ยวกับเธอหน่อยได้ไหม?”
“ได้”
ปัญญ์นำข้อมูลของมายด์บอกเล่าให้อีกฝ่ายฟัง
หลังจากที่ได้ฟังหงส์ก็รู้สึกสงสารและชื่นชมเด็กอย่างมายด์
“เป็นเด็กดีคนหนึ่งเลยนี่นา หวังว่าจะไม่ถูกคนชั่วชักจูงไปในทางที่ผิดเสียก่อนนะ”
“ไม่มีทาง มีผมอยู่ด้วย ผมไม่มีทางยอมให้เป็นอย่างนั้นแน่”
แววตาของปัญญ์วาวโรจน์
หงส์เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาในทันที
“นายชอบเธอเหรอ? เธอยังเด็กอยู่นะ!”
“ผมรอให้เธอโตได้”
มุมปากของปัญญ์ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย
หงส์ค่อนข้างแปลกใจ จึงเอ่ยถามเสียงต่ำว่า “ถ้าเธอโตแล้ว แต่ไปชอบคนอื่น นายจะทำยังไง?”
ปัญญ์นิ่งไปเล็กน้อย
ชอบคนอื่นงั้นเหรอ?
เขาไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย
แต่พอตอนนี้หงส์เอ่ยถาม ปัญญ์จึงครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่พักหนึ่ง จากนั้นถึงได้เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ผมก็จะยินดีกับเธอ และส่งเธอเข้าประตูวิวาห์ในฐานะพี่ชาย”
หงส์คิดไม่ถึงว่าปัญญ์จะพูดออกมาอย่างนี้ จึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า “ไม่รู้สึกขัดใจบ้างเหรอ? คนที่คอยปกป้องดูแลมาตั้งนานจู่ๆก็ไปชอบคนอื่น มันต้องรู้สึกเสียใจบ้างแหละใช่ไหม?”
“ไม่ใช่ความเสียใจหรอก แต่มันคือความเจ็บปวดและด้านชา แต่ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่เธอต้องการ ผมก็ต้องให้เธอ และต้องให้สิ่งที่ดีที่สุด การรักใครสักคนไม่จำเป็นต้องได้มาครอบครองเสมอไป ถึงผมจะอยากผูกมัดเธอไว้กับผมตลอดชีวิตแค่ไหน แต่ว่าเธอคือมนุษย์ คือคนคนหนึ่ง เธอมีความคิดและความรู้สึกเป็นของตัวเอง ถ้าในอนาคตเธอไม่เลือกผม นั่นก็แปลว่าผมยังไม่ดีและไม่เก่งพอที่จะทำให้เธอรู้สึกว่าแต่งงานกับผมแล้วจะมีความสุข ถ้าเป็นแบบนั้นผมจะไปขวางทางเธอได้ยังไง? ผมแค่หวังว่าเธอจะมีความสุข ทำอะไรก็สมดั่งใจปรารถนา นี่ต่างหากคือความชอบที่ผมมีต่อเธอ”
คำพูดของปัญญ์ทำให้หงส์ซาบซึ้งเป็นอย่างมาก
นี่สิ ลูกผู้ชายและสุภาพบุรุษตัวจริง!
ไม่เหมือนจวัตณ์ ที่ทั้งเลวทรามไร้ยางอายและลามก!
“คำพูดพวกนี้ว่างๆนายเอาไปสอนจวัตณ์บ้างนะ”
“ห๊า?”
ปัญญ์รู้สึกงงงัน ทว่าหงส์กลับหันหลังเดินออกไปเสียแล้ว พวกเขาทั้งสองไม่มีใครสังเกตเห็นนิ้วและเปลือกตาของมายด์ขยับไหว ก่อนจะกลับมานิ่งเหมือนเดิม
เมื่อหงส์เดินออกมาก็เจอกับนรมน
“ตื่นเช้าจัง”
“ฉันมาดูมายด์นะ ผ่าตัดสำเร็จหรือเปล่า?”
เมื่อวานนรมนไม่ได้นอนเต็มอิ่มเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่เพราะมีบุริศร์อยู่ด้วยป่านนี้เธอคงได้มาเยี่ยมตั้งนานแล้ว มาเวลานี้กลับเห็นหงส์เดินออกมาจากห้องนั้น เธอจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้
“น่าจะไม่มีปัญหาอะไรนะ ถึงคนอย่างจวัตณ์ท่าทางจะดูไม่ให้ แต่ทักษะก็คงน่าเชื่อถือได้อยู่ ไม่อย่างนั้นพ่อฉันไม่มีทางประจบประแจงเขาหรอก เขาเพิ่งกลับไปนอนที่ห้องเมื่อกี้ อดหลับอดนอนมาทั้งคืนขนาดนั้นก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วมั้ง”
หงส์ยังไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของจวัตณ์กับนรมน ดังนั้นจึงวิจารณ์จวัตณ์ตามความรู้สึกของตัวเอง
ทว่านรมนกลับจับสังเกตอะไรบางอย่างได้อย่างว่องไว
“เธอกับเขา……..”
“ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน! ไม่มีอะไรทั้งนั้น คนสารเลวนั่นขืนใจฉันต่างหาก!”
พูดจบหงส์ก็หันหลังเดินจากไป ท่าทางกระฟัดกระเฟียดยิ่งทำให้นรมนฉงนใจ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาหงส์เป็นคนเฉยชาและถือตน นอกจากเรื่องของบุริศร์ก็เหมือนจะไม่มีใครสามารถกระตุ้นอารมณ์ของเธอได้ แต่เมื่อพูดถึงจวัตณ์เธอกลับแสดงสีหน้าราวกับอยากจะกัดอีกฝ่ายให้ตาย
อีกอย่างนรมนไม่รู้ว่าตอนอยู่ในห้องพักผ่อนของวังหงส์กับจวัตณ์ทำอะไรกัน พอตอนนี้ได้ยินหงส์พูดออกมาแบบนี้ เธอก็เข้าใจผิดไปถึงไหนต่อไหน
ขืนใจ?
จวัตณ์กับหงส์มีความสัมพันธ์กันเหรอ?
แบบนั้นก็แปลว่าหงส์กลายเป็นพี่สะใภ้ของเธอแล้วน่ะสิ?
คิดได้แบบนี้ นรมนก็ดีใจขึ้นมาในทันที
มันดีถึงขนาดนี้เลย
ถ้าเธอกลายมาเป็นพี่สะใภ้ของนรมนจริงๆ แบบนั้นคนรักของนรมนก็ปลอดภัยแล้วน่ะสิ
แม้ว่านรมนจะชอบหงส์ แต่ถ้าหงส์ยังคิดอะไรกับคนรักของเธออยู่ เธอก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น บุริศร์ก็กำลังเดินเข้ามา ทว่ากลับเจอกับหงส์พอดี จึงถูกหงส์จับแขนเอาไว้แล้วลากไปที่สวนหลังบ้าน
สีหน้าของนรมนพลันเปลี่ยนเป็นหงอยลง