ได้ยินว่าการผ่าตัดของบุริศร์ประสบความสำเร็จ หัวใจที่เป็นกังวลของนรมนสงบลง
“คอยปรนนิบัติดูแลให้ดี ฉันขอตัวไปพักก่อน”
นรมนทนต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ
หนทางข้างหน้ายังมีเรื่องต้องทำอีกมาก กลับถึงเมืองชลธีไม่มีทางสงบสุข ตอนนี้เธอไม่อาจร่วงไปได้
นรมนพูดจบหันตัวจากไป หาห้องผู้ป่วยเอนกายลง หลับไปทันที
พูดให้ถูกคือหมดสติไป
มิลินแปลกใจ แต่ก็รีบตรวจดูเธอ
บาดแผลของนรมนอักเสบ มากเสียจนบวมแดงขึ้นมา ผ้าก๊อซเปียกชุ่มไปด้วยเลือดนานแล้ว แต่เธอกลับอดทนไม่พูดอะไรสักคำ
ตอนนี้ในที่สุดมิลินก็ชื่นชมเธอด้วยใจจริง ยอมรับจากใจว่าเธอคือเจ้านายของตนเอง
มิลินใส่ยาฆ่าเชื้อและพันแผลให้เธอใหม่ ในระหว่างนี้นรมนไม่ตื่นขึ้นมาเลย
พฤกษ์ดูแลบุริศร์ เมื่อเห็นมิลินกลับมาก็รีบถาม “คุณนายเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แค่ต้องการพักผ่อน เธอเครียดเกินไป”
คำพูดของมิลินทำให้พฤกษ์ถอนหายใจ
“จะไม่เครียดได้ยังไง? ในเมื่อพวกเราต้องหนีตายเอาชีวิตรอด สมชัยไม่ได้ไร้อำนาจ ต้องไล่ตามมาโดยเร็วแน่นอน และฉัตรพลก็ไม่มีทางปล่อยโอกาสฆ่าพวกเรานี้ไป”
ถ้าพูดว่าเพราะการตายของกล้าณรงค์ทำให้สมชัยกับฉัตรพลต่อสู้กันเอง เช่นนั้นในเวลานี้พวกเขาก็จะสงบศึกหันมาร่วมมือกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นสมชัยหรือฉัตรพล ก็ต่างอยากให้นรมนกับบุริศร์ตายทั้งนั้น
มิลินไม่ได้พูดอะไร แค่อยู่เงียบๆ
“คนของคุณล่ะ? ตอนนี้ยังหลบซ่อนอยู่ไหม?”
พฤกษ์จำได้ว่ามิลินยังพอมีอิทธิพลอยู่ คนที่ฝึกฝนมาอย่างดีที่มีเครื่องหมายแกะสลักดอกนรกไม่ใช่คนของมิลินหรอกหรือไง?
มิลินกลับส่ายหน้า “นั่นไม่ใช่คนของฉัน พูดให้ถูกคือคนของสมชัย พวกเขาเป็นนักรบดัดแปลงพันธุ์กรรม”
พฤกษ์สีหน้าเปลี่ยนทันที
“ไม่คิดว่าคุณจะทำงานให้สมชัย?”
“คุณเองก็รู้ ตอนแรกนงลักษณ์ก็หล่อหลอมอำนาจบางส่วนไว้ คุณคิดว่าสถานการณ์ในประเทศ F ของพวกเราดีมากนักหรือไง? พระมเหสีเจ็ดควบคุมดอกเตอร์ด้านพันธุกรรมเอาไว้คนหนึ่ง จึงให้เขาฝึกซ้อมนักรบดัดแปลงพันธุกรรมขึ้นมากลุ่มหนึ่ง เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยขององค์ชายรอง และเพื่อตัดขาดจากการควบคุมของสมชัย แต่พวกเราไม่มีใครคิดว่า ทั้งหมดนี้จะเป็นอุบายของสมชัย เดิมทีดอกเตอร์คนนั้นก็เป็นคนของสมชัย เขาแค่ใช้ประโยชน์จากความคิดที่จะปกป้องตนเองพระมเหสีเจ็ดให้เธอทำเรื่องที่เขาต้องการทำมาตลอดแต่ไม่สำเร็จ นักรบดัดแปลงพันธุกรรมกลุ่มนั้นเกือบจะสมบูรณ์แบบ แต่เพราะการศึกษาด้านพันธุกรรมมีความลึกลับอยู่แล้ว อีกทั้งข้อมูลก็ไม่เสถียร ดังนั้นในความเป็นจริงพวกเขารับคำสั่งจากสมชัย ฉันสามารถระดมกำลังพวกเขาได้เพราะสมชัยคิดว่าใช้ประโยชน์จากฉันได้คุ้มค่า และคิดจะให้ฉันนำคนเหล่านี้ไปปรากฏตัวตรงหน้าพระมเหสีเจ็ด ให้พระมเหสีเจ็ดกับฉันแตกคอกัน ไปจนถึงทำให้พระมเหสีเจ็ดอยู่ในสภาพโดดเดี่ยว แม้แต่ในหมู่บ้านดารายนคราวก่อน ก็เพราะต้องการช่วยฉัตรพลเขาถึงให้ฉันยืมคน ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ฉันตัวคนเดียว ฉันไม่มีสิทธิระดมกำลังพวกเขาได้”
มิลินเจ็บใจ
ดิ้นรนกับนงลักษณ์มาตั้งนาน คิดว่าเป็นอำนาจของตนเอง กลับไม่คิดว่าหลายปีที่ผ่านมาก็แค่ลำบากแทนสมชัย ช่างโชคร้ายจริงๆ
สีหน้าของพฤกษ์ก็ดูไม่ได้อย่างยิ่ง
“ไม่คิดว่าคุณเพิ่งจะมาบอกเรื่องนี้กับพวกเรา”
“ฉันมีเวลาบอกพวกคุณที่ไหนกันเล่า”
มิลินก้มหน้าลง รู้สึกผิดในใจ
พฤกษ์กลับพูดเย็นชา “มีเวลา? คุณไม่มีเวลาส่งข้อความเลยหรือไง? มิลิน อย่าหาข้ออ้างให้ตัวเองเลย ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณคิดจะพัฒนาอำนาจนี้ใช่ไหม? แค่คุณทำไมสำเร็จ”
คราวนี้มิลินไม่พูดอะไร แต่เธอแค่เงียบไปไม่กี่วินาที จากนั้นเงยหน้าขึ้น “ใช่ ก็ฉันเป็นหมอ ฉันรู้ว่ามูลค่าทางแพทยศาสตร์ของนักรบดัดแปลงพันธุกรรมกลุ่มนี้สูงมาก ตัวฉันเองไม่มีงานวิจัยด้านพันธุกรรมมากนัก แต่คิดว่าข้อมูลบางอย่างที่รวบรวมได้จากร่างกายพวกเขา น่าจะมีคนทำวิจัยด้านพันธุกรรมไม่จริงหรือไง? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องอื่นฉันช่วยไม่ได้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องได้ข้อมูลพันธุกรรมนี้มา ถ้าคนของพวกเราสามารถวิจัยวิธีต่อสู้กับนักรบดัดแปลงพันธุกรรมได้ อาจเป็นโอกาสชดใช้ความผิดอย่างหนึ่ง”
พฤกษ์ชะงักไป เขาไม่ได้คิดถึงสิ่งเหล่านี้
การกระทำทุกอย่างของมิลินความจริงแล้วไม่มีทางเลือก และเพื่อปกป้องตนเอง แต่จะจัดการเธออย่างไรหลังจากนี้ต้องให้บุริศร์กับนรมนออกคำสั่ง
“คุณได้ข้อมูลพันธุกรรมมาไหม?”
“ได้มา แต่ยังขาดอีกเล็กน้อย ถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้นกับผู้ใหญ่บ้านและคุณนาย ฉันอาจยังตรวจสอบต่อไปได้”
“เดี๋ยวเล่าเรื่องนี้ให้คุณนายฟัง”
ตอนนี้บุริศร์ไม่ได้สติ ที่นี่มีนรมนเป็นเจ้าบ้าน พฤกษ์วางใจนรมนมาก
“ได้เลย”
ผ่านเรื่องนี้มา มิลินก็ยอมรับในตัวนรมนอย่างสมบูรณ์
นรมนหลับไปได้ห้าชั่วโมงกว่าก็ถูกพฤกษ์ปลุกขึ้นมา
“คุณนายครับ พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว”
ความง่วงของนรมนยังไม่หายไป ได้ยินพฤกษ์พูดเช่นนี้ ก็อดแปลกใจไม่ได้
“ออกเดินทาง เกิดเรื่องขึ้นกับบุริศร์อีกเหรอ?”
เธอลุกขึ้นนั่งทันที เพราะออกแรงกะทันหันเลยหน้ามืด เกือบเสียหลักล้มลงบนพื้น
พฤกษ์รู้ว่าเธอเสียเลือดเยอะเกินไป ไม่อาจพักฟื้นได้ในเวลาอันสั้น จึงรีบพยุงไว้ จากนั้นกล่าวว่า “คุณชายบุริศร์ปลอดภัย แค่มีไข้เป็นธรรมดา แต่มีมิลินดูแลอยู่ข้างๆ ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอนครับ พวกเราต้องออกเดินทางเพราะคนของสมชัยไล่ตามมา อาจจะมีคนอื่นด้วย”
นรมนได้สติโดยพลัน
สมชัยสามารถจัดการความยุ่งเหยิงที่คุณชายอรรณพทิ้งไว้ในเวลาอันรวดเร็ว ช่างมีฝีมือจริงๆ
“น่าจะเป็นความร่วมมือของฉัตรพลกับสมชัย ให้กองทัพของพวกเรานำเครื่องบินขึ้น ใช้ความเร็วเต็มสปีดกลับประเทศ”
“ครับ”
พฤกษ์รีบตอบรับ และให้ทุกคนอยู่ในสถานะพร้อมต่อสู้
ร่างกายของนรมยังคงอ่อนแอมาก ในเวลานี้เธอดูแคลนร่างกายที่ทรุดโทรมของตนเอง ถ้าร่างกายสามารถแข็งแกร่งเต็มเปี่ยมด้วยพลังเหมือนอย่างหงส์ ตอนนี้ตนเองคงไม่กลายเป็นแบบนี้?
เธออดนึกถึงหงส์กับมายด์และนภดลไม่ได้ ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง คุณชายอรรณพไม่เหมาะที่จะเปิดเผยตัวตน เพื่อช่วยเหลือเธอกับบุริศร์ได้ทำมากมาย เธอจะไม่ละอายใจให้คุณชายอรรณพออกหน้าอีกได้อย่างไร? และไม่รู้ว่าจณัตว์กับราเชนเป็นอย่างไรบ้าง
ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถติดต่อเธอได้แน่นอน ไม่อย่างนั้นคนของสมชัยคงจะตามหาพวกเขาเจอผ่านทางสัญญาณการสื่อสาร ถึงแม้ตอนนี้ก็แทบจะเปิดเผยร่องรอย แต่ไม่ว่าอย่างไรบุริศร์ก็ถูกช่วยชีวิตมาแล้ว
เส้นทางต่อจากนี้ถูกลิขิตเอาไว้ไม่ให้สงบสุข
นรมนไปห้องน้ำใช้น้ำเย็นสาดใส่ตนเอง ตอนนี้เธอจำเป็นต้องเรียกสติของตนเองอย่างเต็มเปี่ยม แม้การผ่าตัดของบุริศร์จะประสบความสำเร็จ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ตามใจ และยิ่งไม่สามารถปรากฏบาดแผลใหม่ขึ้นอีก
“พฤกษ์ ออกคำสั่งไป ไม่ต้องคำนึงถึงความสูญเสียอะไรทั้งนั้น จำต้องปกป้องบุริศร์ อีกอย่าง ถามคนของคุณชายอรรณพว่าสามารถเตรียมเครื่องบินอีกลำให้พวกเราได้ไหม”
คำพูดของนรมนทำให้พฤกษ์กังวล
“คุณนายคิดจะทำอะไร?”
นรมนยิ้มบางๆ “เบี่ยงเบนความสนใจพวกมัน”
“ผมขอทำ!”
“คุณอยู่ที่นี่คุ้มครองบุริศร์”
พฤกษ์เข้าใจความตั้งใจของนรมนทันที กลับไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
“คุณนาย ผมคิดว่าผมไปเบี่ยงเบนความสนใจพวกมันจะเหมาะสมกว่า คุณขับเครื่องบินไม่เป็น สถานการณ์ของคุณอันตรายมาก ยิ่งไปกว่านั้นถ้าคุณชายบุริศร์ฟื้นขึ้นมาไม่เจอคุณ…”
“งั้นเขาก็หาเรื่องใส่ตัวเอง เขาไม่ได้วางแผนอยู่ก่อนแล้วว่าจะไม่เจอฉันไปตลอดชีวิตหรือไง?”
นรมนน้ำตาคลอ แต่กลับแข็งกร้าวสุดๆ เรื่องนี้ความโกรธของเธอไม่หายไปง่ายๆ
พฤกษ์สงสารบุริศร์ รีบกล่าวแทนเขา
“คุณชายบุริศร์ก็ทำเพื่อความปลอดภัยของคุณนะครับ”
“พฤกษ์ คุณรู้ไหม? ผู้หญิงเกลียดอะไรที่สุด?”
“อะไรเหรอครับ?”
“สิ่งที่ผู้หญิงเกลียดที่สุดคือผู้ชายที่คิดไปเองว่าทำเรื่องดีเพื่อเธอและทำให้เธอเสียใจไปตลอดชีวิต สิ่งที่พวกคุณเรียกว่าดีสำหรับผู้หญิงอย่างเรา รู้ได้ยังไงว่าพวกเราต้องการจริงๆ?”
คำพูดของนรมนค่อนข้างแรง ถึงกับสำลักเพราะพูดเร็วไป ไอออกมาทันที
พฤกษ์เงียบไปเพราะคำพูดนี้ของนรมน
ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
คุณชายบุริศร์สละชีวิตเพื่อรับรองความปลอดภัยของนรมน หรือยังทำพลาดไป?
นรมนเห็นสีหน้าของพฤกษ์ก็รู้ว่าผู้ชายแมนๆ คนนี้ไม่อาจเข้าใจความคิดของตนเอง บุริศร์ก็อาจจะไม่เข้าใจเช่นกัน
พูดว่าเธองอแงไร้เหตุผลก็ได้ หรือจะพูดว่าเธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แต่เธอเลือกยอมตายในสนามรบกับบุริศร์ และไม่อยากเป็นทหารหนีสงคราม อยู่ด้วยความรู้สึกผิดเสียใจไปตลอดชีวิต
ตามการจัดการของบุริศร์ เธอจึงมีชีวิตอยู่ แต่คนที่เธอรัก คนที่เธอต่อสู้ดิ้นรนไม่อยู่แล้ว ชีวิตของเธอจะมีความหมายอะไร
คนอื่นไม่เข้าใจก็ช่าง บุริศร์รู้ แต่เขารู้ก็ยังทำแบบนี้ นรมนไม่มีทางให้อภัยได้จริงๆ
รักเขา เป็นห่วงเขา ไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตเขา จนแม้แต่เสี่ยงชีวิตตนเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะให้อภัยเขา
บรรยากาศหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
พฤกษ์กดดันมาก รีบกล่าว “คุณนายพิจารณาถึงสิ่งคุณชายบุริศร์ทุ่มเทลงไปแบบนี้ ตอนนี้คุณจะเอาชีวิตตนเองไปเบี่ยงเบนศัตรูเพื่อปกป้องอันตรายให้คุณชายบุริศร์ก็ไม่ใช่วิธีเดียวกันเหรอครับ?”
“ไม่เหมือนกัน”
นรมนมองพฤกษ์ พูดออกมาชัดถ้อยชัดคำ “ตอนนั้นฉันมีแรงสู้ ฉันอยู่ก็ช่วยเขาได้ แต่ตอนนี้เขาไม่มีแรงสู้ จนแม้แต่ยังไม่ฟื้นขึ้นมาด้วยซ้ำ อย่างที่สอง ฉันไม่ได้ไปเป็นเบี้ยโง่ๆ ฉันจะให้คนขับเครื่องบินไปในน่านน้ำสากล ฉันดูแผนที่ของที่นี่แล้ว อยู่ไม่ไกลจากน่านน้ำสากล ขอเพียงเครื่องบินรบของสมชัยไล่ตามพวกเราไปถึงน่านน้ำสากล มากี่ลำฉันก็จะถล่มให้หมด เขาเพ่งเล็งฉันกับบุริศร์ฉันก็จะคืนกลับให้พวกเขาเท่าตัว อย่างที่สาม ฉันติดต่อพี่คริชณะกับคุณอาธรรศของฉันแล้ว คาดว่าคนของกองทัพน่าจะมาถึงน่านน้ำสากลในไม่ช้า เพื่อร่วมมือปฏิบัติการกับฉัน และฉันก็ติดต่อเจตต์กับขวัญตา เส้นทางเดินเรือของตระกูลปวนะฤทธิ์จะเปิดให้พวกเรา พวกคุณพาบุริศร์บินเข้าไปที่จุดรวมพล จะมีคนของตระกูลปวนะฤทธิ์รอพวกคุณอยู่ พวกคุณกลับเมืองชลธีไป”
ได้ยินนรมนจัดการเช่นนี้ พฤกษ์รู้สึกช็อกอย่างไม่จบไม่สิ้น
การวางแผนที่รอบคอบแบบนี้ไม่ใช่การวางแผนอย่างจวนตัวแน่นอน แต่นรมนเริ่มต้นวางแผนเหล่านี้ตั้งแต่มีความคิดไปช่วยชีวิตบุริศร์
พฤกษ์คิดมาตลอดว่านรมนไปช่วยบุริศร์ด้วยความรัก มุทะลุบุ่มบ่าม ไม่สนใจผลที่จะตามมา แต่ตอนนี้เพิ่งพบว่าตนเองคิดผิด แน่นอนว่าในตอนนั้นการไปช่วยบุริศร์ นรมนวางแผนรัดกุมที่สุด จนแม้แต่มีการประสานกันอย่างใกล้ชิด