ดูเหมือนตอนนี้พฤกษ์จะเข้าใจนรมนอย่างถ่องแท้
มีบุริศร์อยู่ นรมนก็คือผู้หญิงตัวเล็กอ่อนโยน บางครั้งก็ออดอ้อน วาดภาพทิวทัศน์บ้าง เพื่อเป็นการฆ่าเวลาในแต่ละวันเท่านั้น แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับบุริศร์ พริบตาเดียวเธอกลายร่างเป็นนักรบหญิง กลายเป็นคนที่สามารถให้พักพิงกับคนที่ตนเองรัก
และการวางแผนเหล่านี้ของนรมนนอกจากเธอใครก็ไม่มีความสามารถเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นน่านน้ำสากลและการมาบรรจบกันของทหารคริชณะ หลังจากนั้นกลับเมืองชลธีโดยผ่านเส้นทางทะเลของตระกูลปวนะฤทธิ์ คนเหล่านั้นต่างรู้จักนรมน
ถ้าคุณอาธรรศไม่ได้เห็นนรมน ต้องเป็นห่วงไม่จบไม่สิ้น ไม่รู้ว่าจะทำสงครามอย่างสบายใจหรือเปล่า ส่วนเจตต์ถ้าไม่ได้เห็นนรมน เกรงว่าคงจะไปยืนยันความปลอดภัยของนรมนทันที ถึงแม้สิ่งเหล่านี้สามารถติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์ได้ แต่ช่วงเวลาสำคัญของการทำสงครามโทรศัพท์ไร้สายจะเปิดเผยตำแหน่งของทั้งสองฝ่าย เช่นนั้นการจัดการแบบนี้ไร้ประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้นการไปบรรจบกัน ถ้าไม่มีพฤกษ์อยู่กับพวกเขา นรมนอาจจะไม่มีความสามารถปกป้องบุริศร์กับมิลิน
ดังนั้นคำที่นรมนพูดออกมาได้ผ่านการคิดอย่างรอบคอบแล้ว ไม่มีทางหนีทีไล่ให้เขาโต้แย้งเลยแม้แต่น้อย
พฤกษ์ท้อถอย
ตนเองอยู่กับบุริศร์มานาน มีพฤติกรรมเหมือนบุริศร์สุดๆ แต่การระดมกำลังคนเหล่านี้จากทุกด้านภายในระยะเวลาอันสั้น เกรงว่าเขาจะไม่สามารถทำได้ และในฐานะที่นรมนเป็นคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ตระกูลพรโสภณกับตระกูลโตเล็ก ข้างกายยังมีเจตต์ที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง รวมถึงตระกูลปวนะฤทธิ์ด้วยต่างกลายเป็นความช่วยเหลือของเธอ
ความรู้สึกที่เป็นเด็กน้อยของกลุ่มไม่ใช่ทุกคนจะมีได้
พฤกษ์พูดอย่างเป็นห่วง “แต่ที่นี่พวกเรามีนักบินคนเดียว”
“มีคนของคุณชายอรรณพในนี้ขับเครื่องบินได้ ฉันเพิ่งจะถามไป”
ความจริงแล้วตอนนั้นนรมนไม่คิดว่าคุณชายอรรณพจะจัดคนมาคุ้มครองตลอดทาง ตอนนั้นเธอคิดว่าจะลงจอดในสถานที่ที่ไม่รู้จัก และอาศัยจ้างนักบินด้วยเงินเดือนสูง แม้เรื่องความปลอดภัยจะไว้ใจไม่ค่อยได้ แต่คนของอาณาจักรรัตติกาลสามารถควบคุมนักบินได้
แต่ตอนนี้มีคนของคุณชายอรรณพ พวกเขาช่วยคุ้มครองความปลอดภัยไม่น้อย
พฤกษ์เห็นนรมนแก้ไขปัญหาแม้แต่เรื่องนี้ ก็อดเสียใจไม่ได้ ถ้าบุริศร์ฟื้นขึ้นมารู้ว่าตนเองทำให้นรมนตกอยู่ในอันตรายเพียงลำพัง ไม่รู้ว่าจะถลกหนังเขาออกหรือเปล่า
นรมนกลับไม่สนว่าพฤกษ์จะคิดอย่างไร กล่าวอย่างเรียบเฉย “ไปเตรียมการ คนของสมชัยใกล้มาถึงแล้ว”
“ครับ”
เวลานี้พฤกษ์ก็รู้ว่านรมนตัดสินใจถูกต้อง
เขาไปหาคนของคุณชายอรรณพ ส่วนนรมนมาที่ห้องบุริศร์
บุริศร์ยังคงไม่ได้สติ ครั้งนี้เขาบาดเจ็บหนักเกินไป ถึงแม้อยากให้ฟื้นขึ้นมาเร็วๆ ก็ดูไม่น่าจะเป็นไปได้
มิลินเห็นนรมนเข้ามา รู้ว่านรมนอาจมีเรื่องพูดกับบุริศร์ จึงลุกขึ้นจะเดินออกไปอย่างรู้งาน กลับถูกนรมนเรียกเอาไว้
“มิลิน”
มิลินชะงักไปเล็กน้อย มองนรมนด้วยใบหน้าฉงน
นรมนกล่าวอย่างเรียบเฉย “เห็นแก่ที่เธอช่วยชีวิตบุริศร์ ฉันจะปล่อยวางอดีตทั้งหมด เธอยังคงเป็นอาจารย์ของกิจจา แต่เงื่อนไขแรกคือหลังจากนี้ไม่อนุญาตให้เธอทำสองอย่างในเวลาเดียวกันต่อบุริศร์และกิจจา”
ไม่ใช่ว่านรมนจะไม่รู้สถานการณ์ของมิลิน ในฐานะผู้หญิงเธอสามารถเข้าใจได้ แต่ในฐานะนายหญิงต้องพูดบางอย่างที่ควรพูด กฎระเบียบบางอย่างยังต้องปฏิบัติ
“ฉันจะไม่ทำ”
มิลินละอายใจ
นรมนกล่าวเสียงเบา “หลังจากบุริศร์ฟื้นจะลงโทษเธอยังไงฉันจะไม่แทรกแซง เนื่องจากหมู่บ้านมีระเบียบเป็นของตนเอง ไม่ว่าเธอจะมีความอึดอัดใจอะไร การทรยศหมู่บ้าน ไม่สนความปลอดภัยของผู้ใหญ่บ้าน เรื่องนี้หาเหตุผลไม่ลงโทษเธอไม่ได้ หมู่บ้านดารายนยังมีคนอื่นอยู่ เดี๋ยวจะให้เธอได้เจอ”
“ไม่ว่าจะลงโทษอย่างไรฉันยอมรับทุกอย่าง”
“งั้นรบกวนเธอคุ้มกันบุริศร์กลับเมืองชลธีด้วย”
นรมนมองบุริศร์อย่างอาลัยอาวรณ์
มิลินกลับแปลกใจ
“คุณนาย คุณไม่กลับไปกับพวกเราเหรอคะ?”
“คนของสมชัยไล่ตามมาแล้ว ทุกสิ่งที่มันทำกับบุริศร์ฉันจะเอาคืนกลับให้มันทั้งหมด เธอกับพฤกษ์ไปก่อนเลย ฉันจะตามไปทันทีหลังจากนั้น มิลิน ฉันเชื่อใจเธอได้ใช่ไหม?”
คนที่นี่ต่างเป็นคนของนรมน มีเพียงมิลินที่ยังไม่แน่ใจ เป็นปัจจัยไม่มั่นคง ตอนนี้นรมนจะถามคำถามนี้กับมิลินก็ว่าอะไรไม่ได้
“ได้ค่ะ! ฉันจะปกป้องผู้ใหญ่บ้านด้วยชีวิต”
มิลินพูดอย่างมุ่งมั่น เธอรู้ว่าไม่ง่ายเลยที่จะมีคนเชื่อใจตนเอง แต่เธอเชื่อมั่นว่าขอแค่ตนเองจริงใจพอ ทุกคนจะมองเห็นเอง
นรมนพยักหน้า หันตัวเดินจากไป
“คุณนาย คุณจะไม่พูดอะไรสักหน่อยกับผู้ใหญ่บ้านเหรอคะ?”
“เขาได้ยินด้วยเหรอ? ถ้าไม่ได้ยินฉันพูดไปจะได้อะไร?”
นรมนรู้ว่าบุริศร์อาจไม่ได้ยินทุกอย่างที่ตนเองพูด แต่ตอนนี้เธอก็ไม่อยากพูดกับเขา แค่มาดูว่าอาการบาดเจ็บของเขาเป็นอย่างไรบ้าง
หลังพูดจบนรมนก็เดินออกไป มิลินกลับสงสัยท่าทางของนรมน
นรมนไม่คิดจะอธิบายกับใครใดๆ
เมื่อเธอกลับมา พฤกษ์ก็จัดการเรียบร้อยแล้ว
“คุณนาย คนของคุณชายอรรณพยืนยันว่ามีเครื่องบินตามหลังพวกเรามา ถ้าคุณต้องการ พวกเขารอรับคำสั่งได้ทุกเมื่อ”
“เข้าใจแล้ว ดูแลเขาให้ดี”
พูดจบนรมนก็เดินออกไป
พฤกษ์ยังคิดจะพูดอะไร แต่มองแผ่นหลังที่ว่องไวของนรมน สุดท้ายจึงกลืนคำที่กำลังจะพูดลงไป
บางครั้งเรื่องระหว่างสามีภรรยาคนนอกก็เข้าไปยุ่งไม่ได้ เพียงแต่หวังว่าครั้งนี้คุณชายบุริศร์จะไม่พ่ายแพ้จนน่าสงสารเกินไป
หลังจากนรมนออกมาก็มองสภาพอากาศด้านนอก กล่าวเสียงเบา “เหมาะสมกับการบินไหม”
“เหมาะสมครับ”
ในตอนแรกไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นมายืนอยู่ข้างเธอตั้งแต่เมื่อไหร่
“คุณชื่ออะไร?”
นรมนไม่สามารถเรียกนามสกุลของคนอื่นโดยตลอด
ฝ่ายชายยิ้มตอบ “ผมชื่อชนุดม ครับ คุณนายบุริศร์”
“ชนุดม ลำบากคุณหน่อยนะ ตอนนี้รบกวนพวกคุณนำเครื่องบินมาเดี๋ยวนี้ พวกเราต้องออกศึกแล้ว”
“ครับ”
ดูเหมือนชนุดม จะเป็นทหารที่ฝึกฝนมาอย่างยอดเยี่ยม นรมนมองเห็นคุณสมบัติพิเศษบางอย่างของบุริศร์บนตัวเขา แต่เขาไม่ใช่คนของคุณชายอรรณพหรือไง? คุณชายอรรณพคือเฮียของอาณาจักรรัตติกาล พูดตามความจริงคือเป็นคนสีเทา ตอนนี้คนสีเทาก็มีทหารที่มีคุณสมบัติพิเศษแล้วเหรอ?
นรมนไม่เข้าใจ แต่เรื่องของอรรณพเธอไม่มีความคิดจะไปสืบเสาะ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เขาคือพี่น้องของสามี ตอนนี้ยิ่งเป็นความช่วยเหลืออันมีค่า เธอแค่จดจำความดีของเขาก็พอแล้ว ส่วนเรื่องอื่นเธอไม่สนใจจริงๆ
ชนุดม ว่องไวมาก เครื่องบินของคุณชายอรรณพซุกซ่อนอยู่ด้านหลังพวกเขามาตลอด นรมนไม่คิดว่าจะไม่สังเกตเห็น แม้กระทั่งเครื่องบินของพวกเขาบินขึ้นทุกคนก็ไม่สังเกตเห็น แม้จะเป็นเพราะการผ่าตัดของบุริศร์จึงทำให้ทุกคนเลยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่นรมนจำต้องยอมรับมาตรฐานการบินและทักษะการบินของอีกฝ่าย
“เริ่มการแสดงได้ พี่น้องทุกคน ทำให้คนของสมชัยพุ่งเป้ามาที่พวกเรา พาพวกมันไปที่น่านน้ำสากลให้ถึงที่สุด ฉันคิดว่าฉันจะเข้าไปในน่านน้ำสากลจัดการพวกมัน พวกมันก็ต้องคิดเหมือนกัน ในเมื่อน่านน้ำสากลสามารถฆ่าคนได้อิสระไม่ต้องรับผิดชอบอะไร”
คำพูดของนรมนทำให้ชนุดม และคนอื่นๆ ยิ้มขึ้นมา
แน่นอน นี่เป็นความคิดของทั้งสองฝ่าย เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูความกล้าเท่านั้นที่จะเอาชนะได้
“ออกเดินทาง!”
นรมนเหลือบมองไปทางบุริศร์เป็นครั้งสุดท้าย
เธอเข้าใจความรู้สึกตอนที่เขาพยายามซื้อเวลาให้เธอออกไป แต่ทิ้งตนเองไปในสภาพหัวเดียวกระเทียมลีบเช่นนี้ นรมนไม่เห็นด้วย อยู่ด้วยกันสองคนยังสามารถมีโอกาสรอด ทำไมต้องแบกรับทุกอย่าง?
ถึงแม้เธอจะรู้ว่าบุริศร์รักเธอ รักมากกว่าชีวิตตัวเองด้วยซ้ำไป แต่ความรู้สึกเจ็บปวดใจแบบนี้เธอทรมานจริงๆ
หันหน้ากลับมา นรมนระงับความเศร้าโศกทั้งหมด พาความเป็นผู้หญิงแกร่งและหยิ่งผยองขึ้นเครื่องบินไป
พฤกษ์เห็นเธอขึ้นเครื่องบิน จึงพูดกับคนอาณาจักรรัตติกาล “พวกเราก็นำเครื่องขึ้น แต่บินให้ต่ำเข้าไว้ อย่าทำให้เรดาร์ของสมชัยตรวจเจอ”
“ครับ”
เครื่องบินสองลำบินขึ้นพร้อมกัน
คนในหมู่บ้านเห็นพวกเขาจากไปก็อดโล่งอกไม่ได้ สำหรับพวกเขา ชีวิตของพวกเขาปลอดภัยแล้ว
คนของสมชัยก็พบนรมนและคนอื่นทันที ในเมื่อนรมนทำตัวโจ่งแจ้งเช่นนี้
“ชนุดม นี่คือเครื่องบินรบใช่ไหม?”
“ใช่ครับ คุณนายบุริศร์”
ชนุดม ตอบทุกคำถาม
นรมนยิ้ม “อีกสักพักฉันขอดูอานุภาพของเครื่องบินรบหน่อย”
“ไม่มีปัญหาครับ อีกไม่นานจะถึงเขตน่านน้ำสากลแล้ว สงครามของพวกเรากำลังจะเริ่มขึ้น คุณนายบุริศร์ คุณต้องระวังความปลอดภัยนะครับ”
“วางใจได้ ไม่มีทางให้พวกคุณกลับไปโดยไร้ผลงาน”
นรมนยิ้งบางๆ แววตามีความมั่นใจ
เมื่อเครื่องบินขับเข้าไปในเขตน่านน้ำสากล คนของสมชัยทำการจู่โจมอย่างที่คิดเอาไว้ นรมนให้ชนุดม ตอบโต้ ส่วนตนเองส่งข้อความหาคริชณะกับธรรศ
ในไม่ช้าบนท้องฟ้าน่านน้ำสากลปรากฏความวุ่นวายขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การต่อสู้ดำเนินไปไม่ถึงห้านาทีก็จบลง ไม่ว่าจะเป็นคนของสมชัยหรือคนจากกองกำลังอื่นต่างลงเอยในน่านน้ำสากลนี้
นรมนชี้ให้คนของชนุดม ขับเครื่องบินรบลงจุดจอดบริเวณใกล้เคียง มาบรรจบกับคริชณะและธรรศอย่างราบรื่น
เจตต์มองเห็นนรมนก็แทบจะโผเข้าหาทันที กอดเธอเอาไว้
สัมผัสได้ว่านรมนยังอยู่จริงๆ หัวใจที่กังวลของเขาถึงจะสงบลง เมื่อเห็นนรมนได้รับบาดเจ็บ สีหน้าไม่ชอบใจทันที
“บุริศร์เป็นพ่อพระหรือไง? คิดไม่ถึงว่าจะทำให้เธอบาดเจ็บแบบนี้?”
“พี่คะ เขาแทบจะไปเจอพญายม”
นรมนยังพูดแก้ตัวให้บุริศร์
เจตต์ได้ยินเช่นนี้ คิ้วขมวดเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดถึงความผิดของบุริศร์อีก
“รักษาบาดแผลหรือยัง? อักเสบหรือเปล่า? อีกสักพักไปเจอภาวินี พี่จะให้คุณหมอตรวจเธออีกครั้ง พี่พาป้องมาด้วย เธอวางใจได้ พี่รับรองว่าเธอจะไม่มีรอยแผลเป็น” ’
เจตต์สงสารจับใจ
นรมนรู้สึกว่าการถูกคนเอาใจใส่แบบนี้ช่างดีจริงๆ เธอไม่ได้เจอเจตต์นานมากแล้ว ตอนนี้ได้เห็นเขารู้สึกว่าเจตต์น้ำหนักขึ้นไม่น้อย
“พี่คะ ดูเหมือนช่วงที่ไม่เจอกัน พี่จะอาศัยข้ออ้างล้างพิษตีเนียนกินฟรีไปไม่น้อยเลยนะ”
“ตีเนียนกินฟรีอะไรกัน พี่สะใภ้ของเธอดูแลดี พูดจาเป็นไหมเนี่ย?”
เจตต์เอื้อมมือมาดีดหน้าผากของนรมน แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและพึงพอใจ
นรมนเห็นว่าวันนี้ในที่สุดเขาก็ได้รับการเติมเต็ม จึงอดโล่งอกไม่ได้ ทันใดนั้นเอง ธรรศเดินเข้ามาด้วยสีหน้าสงสัย
“นรมน จณัตว์ล่ะ? เธอติดต่อกับเขาได้ไหม?”