นภดลมองท่าทางขุ่นเคืองของปาณี ในใจก็ค่อนข้างอึดอัดทันที
เธออยากไปขนาดนั้นเชียว?
แต่ปากนภดลพูดขึ้นเรียบๆ “ฉันบอกเธอแล้ว และเอารูปให้เธอแล้วด้วย ทุกคนในอาณาจักรรัตติกาลก็เห็นกันหมด”
“คุณพูดไร้สาระ”
ในความทรงจำปาณีไม่มีเรื่องนี้เลยสักนิด
นภดลมองปาณี แววตาแฝงความเฉียบคม ปาณีก็ค่อนข้างขี้ขลาดทันที
หรือเขาเคยบอกตนจริงๆ?
เธอขมวดคิ้วพยายามคิด เริ่มคิดตั้งแต่นภดลกลับมา คิดจนถึงก่อนตัวเองหมดสติไป ดูเหมือนว่านภดลจะพูดอะไรบางอย่างในตอนสุดท้ายเธอฟังไม่ชัดเจน
ปาณีถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ “หลังจากที่ฉันแบกของวิ่งสิบกิโลเมตรเสร็จ คุณพูดอะไรกับฉันใช่ไหม?”
คราวนี้นภดลขี้เกียจสนใจเธอ หยิบโทรศัพท์ออกมา หาฟังก์ชันการบันทึกเสียง เลือกแล้วโยนการบันทึกให้ปาณี
“กลับไปอาบน้ำนอนให้เต็มที่ จริงสิ คุณนายให้ฉันเอานี่ให้เธอ พรุ่งนี้เช้าเจ็ดโมงครึ่ง ที่ร้านกาแฟบลูเมา”
เสียงชัดเจนของนภดลดังออกมาจากโทรศัพท์
ปาณีรู้สึกผิดเล็กน้อยทันที
ก็ได้ นภดลบอกเธอแล้วจริงๆ
โทษเธอเอง ก่อนจะสลบไปทำไมไม่ได้ยินคำพูดนี้ล่ะ?
เธอเห็นปากนภดลอ้าๆ หุบๆ จริงๆ แต่ไม่รู้เนื้อหา ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง
“ขอโทษนะ”
ปาณีรีบขอโทษ
นภดลทำเสียงฮึดฮัดเย็นชา ดึงโทรศัพท์ตัวเองมาทันทีแล้วยกเท้าเดินจากไป ทำให้ปาณีรู้สึกแย่มาก
ท่าทีของเขาที่มีต่อเธอดีหน่อยไม่ได้เหรอ?
แต่ปาณีก็ค่อนข้างหดหู่ ทำไมหลับลึกขนาดนั้นนะ?
เหนื่อยจริงๆ ไหม?
ปาณีไม่เข้าใจ แต่ไม่กล้ารอช้า วิ่งไปห้องนรมนทันที
บุริศร์กำลังป้อนรังนกให้นรมนดื่ม ปาณีก็เข้ามาโดยไม่ได้เคาะประตู เห็นภาพนี้ก็ค่อนข้างกระอักกระอ่วนอย่างช่วยไม่ได้
“ขอโทษค่ะ ประธานบุริศร์”
“ลืมนิสัยเข้ามาต้องเคาะประตูแล้วเหรอ?”
บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะปาณีสนิทกับนรมน เขาอาจจะโกรธแล้วก็ได้
ท่าทางเร่งรีบแบบนี้ แตกต่างจากนิสัยเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง
นรมนเห็นปาณีไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เงยหน้าดื่มรังนกจนหมดทันที จากนั้นก็ยัดชามให้บุริศร์ พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “คุณรีบไปซะ ฉันกับปาณีจะคุยกันเรื่องลับๆ ระหว่างผู้หญิง”
บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ในดวงตามีความหมดหนทางเคลื่อนผ่านไป
“นี่ฉันถูกคุณรังเกียจเหรอ?”
“ไม่งั้นล่ะ? เป็นสามีภรรยากันมาตั้งนาน อยู่ด้วยกันทุกวัน จะมีอะไรพูดคุยกับคุณเยอะกันล่ะ? โอ๊ย คุณรีบไปเถอะ”
นรมนพูดจบก็ผลักเขา
บุริศร์ส่ายหน้าด้วยสีหน้าซับซ้อนแฝงความหมดหนทาง ถึงได้เข็นรถเข็นออกไป
ปาณีค่อนข้างลังเลไม่เด็ดขาด
“คุณนาย ขอโทษนะคะ ฉันหลับลึกเกินไป ตื่นไม่ได้ ให้อีกฝ่ายรอไปเปล่าประโยชน์ ความผิดฉันเองค่ะ”
ปาณีรีบยอมรับข้อผิดพลาด
นรมนเห็นสีหน้าเธอดีมาก จึงถามอย่างอดไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้น? ช่วงนี้เหนื่อยมากเหรอ?”
“ก็ไม่ใช่หรอกค่ะ คือเมื่อวานนภดลให้ฉันไปฐานอาณาจักรรัตติกาลเพื่อชี้แนะเด็กฝึกหญิงไม่กี่คน ก็ไม่รู้ไปทำอะไรให้เขาโกรธ ให้เราแบกของวิ่ง หลังจากฉันวิ่งกลับมาก็หลับไปเลย ไม่คิดว่าพอตื่นขึ้นมาก็เวลานี้แล้ว”
ปาณียิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกผิด แต่ไม่ได้บอกเรื่องที่นภดลให้เธอแบกของวิ่งสิบกิโลเมตร เธอปกป้องนภดลโดยไม่รู้ตัว กลัวนรมนจะตำหนินภดล
“คือคุณนายคะ นภดลคิดว่าระหว่างเด็กฝึกหญิงกับเขาไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวกัน เลยให้ฉันไปชี้แนะ”
ถ้าปาณีไม่พูดประโยคสุดท้ายก็ยังได้ ผลสุดท้ายหลังจากพูดออกมานรมนก็อยากหัวเราะ
เรื่องเมื่อวานเธอก็รู้ ชัยยศกลับมาพูดเสริมให้ฟังอีกรอบแล้ว และหลังจากปาณีหมดสติไปก็ถูกนภดลอุ้มเข้าห้องโดยตรง นี่คือเรื่องที่ทุกคนเห็นกันหมด มีแค่ปาณีเท่านั้นที่ไม่รู้
ในเมื่อภายในอาณาจักรรัตติกาลมีเด็กฝึกหญิง และข้างกายเธอก็มีนักโภชนาการ ดังนั้นปาณีจะอยู่หรือไม่อยู่ข้างกายเธอก็ไม่เป็นไร นอกจากนี้นภดลพาเธอไปชี้แนะเด็กฝึกหญิงที่อาณาจักรรัตติกาล คงอยากเอาเธอไปปกป้องต่อหน้าต่อตา
นรมนยอมช่วยเหลือให้ประสบความสำเร็จ แค่นภดลต้องเอ่ยปากต้องการเธอก็พอ
เธอชื่นชมนภดลคนคนนี้ ไม่อยากให้ปาณีไปนัดบอดก็พูดตรงๆ สิ ทำให้เธอเหนื่อยจนหมดสติไป จนพลาดเวลาการนัดบอด เรื่องนี้มีแค่ผู้ชายที่ไม่กล้าแสดงออกถึงความรู้สึกภายในอย่างนภดลเท่านั้นที่ทำออกมาได้
นอกจากนี้ปาณีไม่รู้ทำไมหลับลึกขนาดนั้น แต่นรมนรู้
นภดลใส่น้ำมันหอมระเหยในอ่างอาบน้ำปาณี น้ำมันหอมระเหยแบบนั้นสามารถบรรเทาความเมื่อยล้า แต่แฝงธรรมชาติให้นอนหลับสบาย แน่นอนว่าจะทำให้ปาณีนอนอย่างมืดฟ้ามัวดิน
แต่เธอไม่อยากบอกปาณี
เธออยากดูว่านภดลจะอดไม่ได้ที่จะสารภาพกับปาณีตอนไหน
นภดลเป็นคนไม่แสดงออกถึงความรู้สึกเกินไป ปาณีขี้ขลาดเกินไป ดังนั้นสองคนนี้ถ้าไม่มีใครก้าวออกมาก่อน คาดว่าต้องลำบากแล้ว
นรมนเห็นเรื่องตื่นเต้นแล้วอยากทำให้เรื่องใหญ่ขึ้น จึงรีบพูด “พลาดไปแล้วก็พลาดไป ในมือฉันยังมีคนยอดเยี่ยมอีกมากมาย วันนี้พักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้เราค่อยไปนัดบอดอีกครั้ง”
เห็นนรมนกระตือรือร้นแบบนี้ ไม่ได้โกรธอะไรมากที่ตนเบี้ยวนัดเขา ในใจปาณีก็รู้สึกเกรงใจมาก
นรมนมีฐานะอะไร?
อีกฝ่ายที่สามารถแนะนำให้ตนได้ต้องเป็นชายที่ดีอันดับต้นๆ ตนเบี้ยวนัดอีกฝ่ายแบบนี้ ต้องทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่านรมนไม่น่าเชื่อถือแน่ๆ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ปาณีก็รู้สึกผิดเป็นพิเศษ เก็บไว้ในใจ เธอรีบพยักหน้า
“ค่ะ คราวนี้ฉันจะไม่นอนหลับเด็ดขาด”
“อืม กลับไปพักผ่อนให้เต็มที่เถอะ สองสามวันนี้ก็ไม่มีธุระอะไร ถ้าเธอไม่มีธุระก็ไปอาณาจักรรัตติกาลช่วยนภดลพาคนใหม่ได้ อีกสองสามวันกิมจิก็มาแล้ว กองกำลังบางส่วนต้องทำให้เป็นระเบียบ อาจจะค่อนข้างยุ่ง เธอก็รู้ ตอนนี้ร่างกายฉันวิ่งไปไหนมาไหนไม่ได้ เธอกับนภดลช่วยฉันดูแลอาณาจักรรัตติกาลให้ดีก็พอ อีกอย่างฉันได้ยินมาว่าตอนนี้ฝีมือเธอก็ไม่เลว ไปเป็นครูก็ได้ เรื่องนี้เดี๋ยวฉันคิดอีกที”
นรมนเปิดเผยรายละเอียดกับปาณีล่วงหน้า ถึงตอนนั้นปาณีจะได้รับไหว
ปาณีตกตะลึง จากนั้นก็พยักหน้า
หลังจากออกมาจากห้องนรมน ปาณีรู้สึกว่าสองวันนี้ตัวเองแสดงออกได้ไม่ดีอย่างมาก เธออยากออกไปเดินสักหน่อยอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ไปเจอนภดลอีกครั้ง
นึกถึงตัวเองเพิ่งเข้าใจผิดว่านภดลไม่ได้บอกเรื่องนัดบอดกับตน เธอจึงรีบเดินเข้าไป
“นภดล คือ……”
เธอเพิ่งเอ่ยปาก นภดลก็เหมือนไม่เห็นเธอ เดินผ่านเธอไปทันที ทำให้ปาณีพูดต่อไปไม่ได้ในชั่วขณะหนึ่ง
ช่างเป็นผู้ชายใจแคบจริงๆ
เธอไม่ได้ตั้งใจเลยโอเคไหม
ทันใดนั้นปาณีก็รู้สึกแย่มาก
เธอรู้สึกในบ้านหายใจไม่ค่อยออก จึงหยิบกุญแจรถออกจากบ้าน ตั้งใจจะออกไปเดินเล่น หรือไม่ก็ซื้อของนิดหน่อยอาจจะทำให้ตนอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
อีกอย่างตกลงกับนรมนไปแล้วว่าวันมะรืนจะไปนัดบอด เธอไม่มีชุดกระโปรงสวยๆ เลย ไปซื้อสักชุดดีกว่า
คิดแบบนี้ปาณีก็ไปห้างสรรพสินค้า
คนที่ห้างสรรพสินค้าเยอะมาก
ปาณีเดินไปเดินมาที่หน้าร้านสองสามร้าน นึกถึงคนที่นรมนแนะนำให้เธออาจจะเป็นคนมีฐานะ ถ้าตนซื้อชุดตามแผงลอยสวมไปอาจจะทำให้นรมนเสียหน้า เธอจึงตัดสินใจไปเดินดูที่ร้านค้าพิเศษ
นรมนให้เงินเดือนเธอค่อนข้างสูง เธอไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไร ในตอนนี้เอาเงินออกมาซื้อกระโปรงสักชุดก็น่าจะได้
คิดแบบนี้ หัวใจปาณีที่เจ็บปวดก็บรรเทาลง
คนที่ร้านค้าพิเศษก็ไม่น้อย ปาณีดูทุกที่ เสื้อผ้าที่ชอบมีไม่น้อย แต่เมื่อเห็นป้ายราคาเธอก็วิตกกังวลอย่างมาก
ชุดกระโปรงชุดเดียวสองหมื่นกว่า โกงกันแล้วล่ะ
ปาณีกำลังคิดจะออกไป ก็ได้ยินเสียงดังโวยวาย เสียงนั้นคุ้นหูมาก
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย หันกลับไปก็เห็นคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ทะเลาะกับท่านผู้หญิงคนหนึ่ง
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ ก็คือแม่ของฉัตรยา คราวก่อนหลังจากทำให้นรมนและบุริศร์ไม่พอใจก็ออกไปจากเมืองชลธี ทำไมตอนนี้ปรากฏตัวที่เมืองชลธีอีก?
อีกอย่างดูท่าทางคุณนายตระกูลจันทรวงศ์จะถูกข่มเหง
ปาณีลังเลนิดหน่อย
เพราะเธอชอบนภดลจึงถูกคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ไม่ชอบมาตลอด ถึงขนาดเป็นหนามในสายตาด้วยซ้ำ ในเวลานี้ถ้าตนเข้าไปอาจจะยิ่งทำให้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์โกรธ
คิดแบบนี้แล้วปาณีก็ตั้งใจจะออกไป แต่สายตาแหลมคมของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์เห็นเธอเข้า และตะโกนขึ้นมา
“ปาณี!”
ตอนนี้ปาณีอยากออกไปก็เป็นไปไม่ค่อยได้แล้ว
นภดลเคยสัญญาว่าจะดูแลคุณนายตระกูลจันทรวงศ์และดร.ฐานทัตเป็นอย่างดี นั่นคือความปรารถนาสุดท้ายของฉัตรยา นึกถึงความรู้สึกที่นภดลมีต่อฉัตรยา สุดท้ายปาณีก็ไม่สามารถใจดำออกมาได้
ถือว่าทำเพื่อนภดลแล้วกัน
เธอปลอบตัวเองแบบนี้ จากนั้นก็หันตัวเดินไปหาคุณนายตระกูลจันทรวงศ์
“เกิดอะไรขึ้นคะ?”
เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรเรียกคุณนายตระกูลจันทรวงศ์อย่างไรดี คราวก่อนทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างไม่มีความสุข เธอไม่รู้ว่าควรจัดการความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาอย่างไร
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์เห็นเธอไม่ได้ทักทาย ก็ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ แต่เพราะร้องขอปาณี จึงระงับความโกรธทันที พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ที่ตัวมีเงินไหม? ฉันอยากซื้อชุดนี้ แต่เงินไม่พอ”
คุณนายฝั่งตรงข้ามรีบพูดขึ้น “เงินไม่พอก็อย่าเป็นหมาหวงก้าง สภาพเธอแบบนี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่าสวมชุดระดับสูงไม่ได้หรอก ยังจะแย่งฉันอีก รีบปล่อยมือซะ”
ปาณีถึงได้เห็นคุณนายตระกูลจันทรวงศ์และท่านผู้หญิงกำลังดึงปลายผ้ากันอยู่ ไม่มีใครปล่อยมือ และพนักงานก็พูดขึ้นอย่างร้อนใจเล็กน้อย “คุณทั้งสองคะ พวกคุณเบาๆ หน่อย เสื้อผ้าตัวนี้วัตถุดิบมันบางมาก ถ้าขาดขึ้นมาใครจะรับผิดชอบคะ?”
“เธอให้หล่อนปล่อยก่อนสิ!”
ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน
ปาณีก็ถือว่ามองออก วันนี้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ต้องซื้อชุดนี้ให้ได้ ถ้าเธอไม่ออกเงิน ไม่แน่ว่าเสื้อผ้านี้อาจจะขาดจริงๆ ก็ได้ ถึงตอนนั้นเกิดปัญหาขึ้นมาจะยิ่งจัดการไม่ได้
นภดลไปฝึกพิเศษที่เกาะร้าง ยากมากที่ช่วงนี้จะไม่วุ่นวายรู้สึกแย่เพราะเรื่องของพ่อแม่ตระกูลจันทรวงศ์คู่นี้ เธอไม่อยากให้นภดลรู้สึกแย่ขึ้นมาอีกเพราะเรื่องเสื้อผ้าตัวเดียว
“เท่าไรคะ? ฉันจ่ายให้”
ปาณีเอ่ยปาก
คุณนายตระกูลจันทรวงศ์พูดขึ้นอย่างหยิ่งผยองทันที “เห็นหรือยัง? ลูกสะใภ้ฉันมีเงิน รีบปล่อยมือ!”
“ลูกสะใภ้” ที่พูดออกมาทำให้ปาณีตกตะลึงเล็กน้อย ไม่รู้ควรใช้อารมณ์ไหนมาตอบสนอง รีบหยิบบัตรธนาคารออกมา แล้วพูดกับพนักงาน “รูดบัตรค่ะ”
“ได้ค่ะ คุณผู้หญิง ทั้งหมดหนึ่งแสนหยวน”
เมื่อพูดคำนี้ออกมา ปาณีก็ตกตะลึงทันที
เสื้อผ้าตัวเดียวหนึ่งแสนหยวน?
นี่จังหวะปล้นเงินเหรอ?
เธอกระชับมือที่จับบัตรธนาคารเล็กน้อย
หนึ่งแสนหยวน!
ในบัตรนี้ของเธอมีเงินแค่หนึ่งแสนหยวนเท่านั้น หลังจากจ่ายให้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ตัวเองก็ใช้ซื้อไม่ได้แล้ว
ในเวลานี้ คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็รีบผลักเธอ พูดขึ้นอย่างรีบร้อน “รีบจ่ายเงินสิ นภดลหาเงินได้ตั้งมากมายก็ให้นังจิ้งจอกอย่างเธอ ทำไม? เธอไม่เต็มใจซื้อเสื้อผ้าให้ฉันเหรอ?”