ใจของปาณีกระตุกขึ้นมาทันที
ทำไมวันนี้ถึงได้รู้สึกว่านภดลทำตัวแปลก ๆ นะ?
และก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่ามีความลับอยู่ในใจหรือเปล่า ปาณีจึงค่อนข้างเป็นกังวลว่าเมื่อกี้เขาจะได้ยินอะไรหรือเปล่า ชั่วขณะหนึ่งจึงเกิดความหวาดระแวงขึ้นมาเล็กน้อย
นภดลจ้องมองปาณีทีหนึ่ง แล้วก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเธอมีความหวาดระแวงอยู่ ในดวงตาจึงมีแววไม่พอใจพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง
หวาดระแวงเหรอ?
ผู้หญิงคนนี้เกิดความหวาดระแวงขึ้นมากับตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
หรือว่าเธอจะเริ่มคบหากับผู้ชายอื่นแล้วจริง ๆ ก็เลยกะว่าจะรักษาระยะห่างกับเขาเหรอ?
พอคิดได้แบบนี้ ใจของนภดลก็รู้สึกไม่ค่อยเป็นสุขขึ้นมาเลย
“นี่เป็นเสื้อผ้าที่มอบให้คุณ จะไปนัดดูตัวไม่ใช่เหรอ? ต้องแต่งตัวให้มันสวย ๆ หน่อยซิ”
พูดจบ นภดลก็เอาชุดกระโปรงที่อยู่ในมือโยนออกไปเลย จนตกมาครอบอยู่บนหัวของปาณีทันที และก็ไม่สนใจว่าทำแบบนี้ต่อหน้าลูกน้องของเธอแล้วจะทำให้ปาณีเสียหน้าหรือเปล่า ในเมื่อตอนนี้ในใจของเขานั้นก็ค่อนข้างไม่เป็นสุขเลย
“อ๊าย!”
ปาณีโดนปาใส่เต็ม ๆ พอตรงหน้ามืดลง ก็กรีดร้องขึ้นมาคำหนึ่ง จากนั้นก็รีบร้อนเอาชุดกระโปรงลงมาจากหัว และมองไปเล็กน้อยทีหนึ่ง แล้วยังจะไปมีเงาของนภดลซะที่ไหน?
ผู้ชายคนนี้นี่เหมือนกับผีจริง ๆ พูดว่าไปก็ไปเลย
ปาณีรู้สึกหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย
พัณณิตาและคนอื่น ๆ อีกสามคนมองสบตากันเล็กน้อย แล้วก็ไม่พูดอะไร แต่ว่าสีหน้าของพัณณิตานั้นกลับดูแย่มาก
นี่เป็นชุดกระโปรงแบบใหม่ล่าสุดของชาเนลเลยนะ ยังไม่พูดถึงราคา ได้ยินมาว่าทำออกมาเพียงแค่สามร้อยตัวเท่านั้น และเพิ่งจะวางขายก็โดนรุมแย่งซื้อไปจนหมดแล้ว ไม่มีทางที่จะสั่งจองได้เลย คิดไม่ถึงว่านภดลจะซื้อมาให้กับปาณีได้ชุดหนึ่ง และยังมอบให้กับปาณีง่าย ๆ แบบนี้ด้วย
ถ้าจะบอกว่านภดลไม่ได้คิดอะไรกับปาณีนั้น ตีให้ตายเธอก็ไม่เชื่อหรอก
ในทางกลับกันปาณีกลับขมวดคิ้วจ้องมองชุดกระโปรงที่อยู่ในมือ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจทีหนึ่ง
ชุดกระโปรงนี้มันก็สวยอยู่ แต่ว่าอีกเดี๋ยวเธอไม่ได้จะไปนัดดูตัวจริง ๆ แต่จะไปพบคุณนายตระกูลจันทรวงศ์เท่านั้น จำเป็นที่จะต้องแต่งตัวดีขนาดนี้ด้วยเหรอ?
พอคิดมาถึงตรงนี้ ปาณีก็เก็บชุดกระโปรงให้เรียบร้อย แล้วก็พูดเสียงต่ำว่า “การปฏิบัติการตอนบ่ายนี้ถือได้ว่าเป็นความลับระดับสูง ตอนเที่ยงก็กินข้าวที่นี่กันให้หมด ลงไปเตรียมตัวกันหน่อยก่อนเถอะ ทางที่ดีก็ใส่ชุดออกกำลังกายที่เคลื่อนไหวได้สะดวกดีกว่า”
พูดจบปาณีก็ถือชุดกระโปรงไว้แล้วก็กลับห้องของตัวเองไป
ดวงตาของพัณณิตามีแววอิจฉากะพริบขึ้น แต่กลับโดนคนอื่นลากไปด้วยเลย
หลังจากที่ปาณีกลับมาถึงห้องแล้ว ก็เอาชุดกระโปรงมาทาบตัวอยู่หน้ากระจกครู่หนึ่ง แล้วก็รู้สึกว่าสวยมากจริง ๆ
สำหรับสินค้าแบรนด์หรูหรานั้นเธอไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ ปกติแล้วก็ใส่แต่ชุดที่สบายตัวเป็นหลัก และที่สำคัญบนตัวเธอก็ไม่ได้มีเงินเยอะเท่าไหร่ ปกติไปซื้อกระโปรงร้อยสองร้อยที่แผงขายข้างทางก็รู้สึกว่าแพงมากแล้ว ตอนนี้คุณภาพชุดกระโปรงนี้จับดูแล้วก็รู้สึกดีมาก ในใจของปาณีนั้นรู้สึกหอมหวานอย่างกับกินน้ำผึ้งเข้าไป มุมปากก็คลี่ยิ้มขึ้น แต่ว่าดีใจอยู่ได้แค่สามวินาที ใบหน้าของปาณีก็แห้งเหี่ยวลงมาแล้ว
เมื่อกี้เธอบอกกับนภดลว่าตัวเองจะไปดูตัวนะ แต่ปรากฏว่านภดลกลับมอบชุดกระโปรงมาให้เธอชุดหนึ่ง นี่หมายความว่าเขาไม่มีความรู้สึกต่อเธอจริง ๆ ใช่ไหม?
ในเมื่อจะมีผู้ชายคนไหนที่ตอนที่ได้ยินว่าผู้หญิงที่ตัวเองชอบจะไปนัดดูตัวแล้วยังมาช่วยแต่งตัวให้อีก? แถมยังมอบชุดกระโปรงให้เธอใส่ไปนัดดูตัวอีก?
พอคิดแบบนี้แล้ว ปาณีก็รู้สึกว่าในใจนั้นไม่สบายใจเอามาก ๆ เลย แม้แต่ชุดกระโปรงที่อยู่ในมือก็ไม่หอมหวานแล้ว และก็ไม่สวยแล้ว
ที่แท้นี่ก็คือความหมายที่นภดลที่อยากจะแสดงออกนั่นเอง?
เธอยังจะคาดหวังอะไรอีก?
ปาณีนั่งอยู่บนเตียงอย่างรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย และในใจก็เป็นทุกข์อย่างมากด้วย
ส่วนนภดลที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็มาถึงห้องชัยยศ และเคาะประตูเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไป
“เอ๊ะ? นภดล? นายมาหาฉันมีธุระอะไรเหรอ?”
ชัยยศกำลังยุ่งกับการจัดการเรื่องราวบางอย่างอยู่ ตอนนี้เขายุ่งแทบตายอยู่แล้ว
ในตอนที่บุริศร์ไม่อยู่นั้น เขาที่เป็นผู้ช่วยคนนี้ก็จะต้องร่วมจัดการงานต่าง ๆ ของบริษัทร่วมกับพวกรองประธาน พอตอนนี้บุริศร์กลับมาแล้ว เขานึกว่าตัวเองจะได้มีเวลาว่างขึ้นมาบ้าง แต่คิดไม่ถึงว่านรมนจะเกิดตั้งท้องขึ้นมา พอมาแบบนี้บุริศร์ก็ยิ่งไม่สนใจงานของบริษัทแล้ว
ชัยยศยุ่งจนแทบจะบินได้แล้ว
นภดลมาถึงตรงหน้าเขา แล้วเคาะโต๊ะเล็กน้อย จนทำให้ชัยยศต้องหยุดทำงานที่อยู่ในมือลงแล้วมามองดูเขา
“ทำอะไรน่ะ?”
“นายมีข้อมูลของผู้ชายคนที่จะมานัดดูตัวกับปาณีตอนบ่ายนี้หรือเปล่า?”
คำพูดของนภดลทำให้ชัยยศนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
“บ่ายวันนี้เหรอ? ไหนว่านัดดูตัวพรุ่งนี้ตอนสายไม่ใช่เหรอ?”
ดวงตาของนภดลหรี่ลงครู่หนึ่ง
ปาณีบอกว่าบ่ายนี้ชัด ๆ หรือว่าเธอรอไม่ไหวแล้ว จึงเปลี่ยนเวลาเหรอ?
พอคิดได้แบบนี้ ดวงตาของนภดลก็ขรึมลงมาหลายส่วนอีกครั้ง
“ตกลงนายมีข้อมูลหรือเปล่า?”
“มีซิ ทำไมจะไม่มีล่ะ? ตอนนี้เรื่องพวกนี้ฉันเป็นคนจัดการทั้งนั้น ถ้าไม่มีข้อมูลฉันจะจัดการกับผีเหรอ”
ชัยยศพูดไปด้วยแล้วก็หาข้อมูลของผู้ชายคนนั้นออกมาด้วยเลย
“นี่ คนนี้แหละ หน้าที่การงานไม่เลวเลยนะ หน้าตาก็โอเคนะ เป็นหมอคนหนึ่ง เมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็น่าจะมีเรื่องที่พูดคุยกับปาณีไปได้เลยนะ”
ชัยยศบอกเรื่องราวที่ตัวเองรู้มาออกไปรอบหนึ่ง
ดวงตาของนภดลหรี่ลงเล็กน้อย จากนั้นก็หมุนตัวแล้วเดินจากไป
“นี่ นายจะเอาข้อมูลนี้ไปทำอะไร? ว่าแต่นายกับปาณีนี่ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่? ไม่ชอบคนเขาจริง ๆ เหรอ? ฉันจะบอกอะไรนายให้นะ นภดล ถ้าครั้งนี้ปาณีดูตัวสำเร็จนะ ก็คงจะไม่มีอะไรเกี่ยวกับนายแล้วจริง ๆ ผู้หญิงที่ดีแบบนี้นายยังไม่รู้จักรักษาไว้อีก ต่อไปมีเรื่องให้นายได้ร้องไห้แน่”
ชัยยศพูดพร่ำบ่นไปเรื่อย แต่นภดลกลับเหวี่ยงประตูปิดใส่ทันที แล้วก็ปิดกั้นคำพูดของเขาไว้เลย
ปาณีเป็นผู้หญิงที่ดีหรือเปล่านั้น ยังต้องให้เขามาพูดอีกเหรอ?
ตัวเองยังเป็นคนโสดอยู่เลย ยังมีหน้ามาว่าเขาอีก
ในใจนภดลแอบคิดเสริมไป จากนั้นก็ดูข้อมูลที่อยู่ในมือไปเล็กน้อย แล้วก็รู้สึกอัดอั้นขึ้นมาหน่อยทันที
ดูท่าผู้ชายคนนี้จะมีคุณสมบัติไม่เลวเลยจริง ๆ
ไม่เลวจนทำให้เขารู้สึกขัดหูขัดตาเล็กน้อย
นภดลกลับมาที่ฐานที่มั่นของอาณาจักรรัตติกาล จากนั้นก็ตามลูกน้องมาหลายคน แล้วก็เอาข้อมูลของชายหนุ่มโยนออกไป แล้วพูดเรียบ ๆ ขึ้นว่า “ฉันไม่สนว่าพวกนายจะใช้วิธีอะไรหรือกระบวนการอะไร ยังไงวันนี้ตอนบ่ายจะต้องทำให้คนคนนี้อยู่แต่ในโรงพยาบาลเท่านั้น ทางที่ดีก็ให้ยุ่งจนปลีกตัวออกไม่ได้เลย ทำได้หรือเปล่า?”
พวกลูกน้องนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
“หัวหน้าครับ นี่คือภารกิจเหรอครับ?”
“เป็นการทดสอบครั้งหนึ่งของพวกนาย ถ้าหากว่ามีคุณสมบัติผ่าน พรุ่งนี้ฉันจะเลื่อนให้พวกนายไปอยู่ทีมทางการของอาณาจักรรัตติกาลเลย”
พอคำพูดนี้ของนภดลพูดออกมา อยู่ ๆ พวกลูกน้องก็มีกำลังวังชาขึ้นมาอย่างกับได้ฉีดยากระตุ้นเข้าไปแล้วก็รีบพยักหน้ากันทันที
“หัวหน้า คุณวางใจได้เลย คนคนนี้อย่าว่าแต่บ่ายวันนี้เลย พวกเราจะทำให้เขาออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ไปสามวันเลย”
จะทำให้หมอคนหนึ่งยุ่งจนแยกร่างออกมาไม่ได้นั้น ยังไม่ง่ายอีกเหรอ?
แค่พวกเขาหาคนปลอมตัวไปเป็นคนไข้แล้วหาแต่หมอคนนั้นเลยก็พอแล้ว ถ้ายังไม่พออีกก็ให้พวกคนไข้หนักไม่กี่คนดักรอแต่หมอคนนั้นก็ได้แล้ว แค่ไปให้แรงกดดันกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลนิดหน่อย รับรองว่าภารกิจสำเร็จแน่
แล้วพวกลูกน้องหลายคนก็รีบร้อนวิ่งออกไปเลย
ตัวของนภดลพิงอยู่กับเก้าอี้ทำงาน ดวงตาดำลึกซึ้งหรี่ลงครู่หนึ่ง มุมปากคลี่ยิ้มที่ได้ใจออกมาอันหนึ่ง
นัดดูตัวเหรอ?
ได้ซิ!
เขานภดลชีวิตนี้ยังไม่เคยไปนัดดูตัวมาก่อนเลย หรือไม่จะลองสัมผัสดูสักครั้งก็ได้?
ถ้าหากว่าอีกฝ่ายคือปาณีละก็ ก็น่าจะไม่เลวเลยนะ
และที่สำคัญชุดกระโปรงชุดนั้นสวมใส่อยู่บนตัวปาณีจะต้องสวยมากแน่
พอคิดมาถึงตรงนี้ นภดลก็รีบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหาชัยยศทันที
“นายเป็นอะไรอีกแล้ว? พี่ชาย ตอนนี้ฉันกำลังยุ่งอยู่นะ”
พอชัยยศเห็นสายโทรเข้าของนภดล ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากจะต่อยคนขึ้นมา
แต่นภดลกลับพูดขึ้นเรียบ ๆ ว่า “ปกติผู้ชายที่ไปนัดดูตัวถ้าถูกใจกันแล้ว จะทำอะไรต่อบ้าง?”
“อะไรทำอะไร?”
ชัยยศรู้สึกฟังไม่ค่อยเข้าใจ
“นายคงไม่ใช่แล้วมั้ง? นภดล ถึงนายจะไม่ชอบปาณี แต่คนเขาไปนัดดูตัว นายอย่าตามไปก่อกวนจะได้ไหม? ถ้าคนเขาถูกใจกันแล้ว ก็ไปดูหนัง ไปกินข้าว ไปช้อปปิ้งกัน หรือว่านายยังจะมาวางแผนให้คนเขาอีกเหรอ? ฉันว่าตกลงนายคิดยังไงกับปาณีกันแน่? ไม่ชอบคนเขา แต่กลับเหมือนเป็นพ่อคนหนึ่งคนเข้าไปนัดดูตัวก็ยังจะเข้าไปแทรกอีก นายคงไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง? ไอ้น้องชาย เรื่องความรู้สึกนี้ ไม่มีถูกผิดหรอกนะ
ถ้านายไม่ชอบปาณีจริง ๆ นายไม่สนใจคนเขาก็พอแล้ว สำหรับปาณีจะสามารถเดินออกมาจากความลุ่มหลงที่มีต่อนายได้หรือเปล่านั้น ก็เป็นเรื่องของเธอเองแล้ว นายว่านายนี่ไม่อยากจะยอมรับความรู้สึกของคนอื่นเขา แต่ก็อยากจะเป็นคนดีต่อหน้าเขา แล้วไปจัดแจงชีวิตต่อไปของคนอื่นเขาให้เรียบร้อยอีก เรื่องนี้มันไม่จำเป็นที่จะต้องไปดูแลจริง ๆ นะ”
ชัยยศพูดพร่ำบ่นไปตั้งครึ่งวัน นภดลกลับวางสายโทรศัพท์ไปโดยตรงเลย
ในสมองของเขามีคำพูดอยู่แค่ไม่กี่ประโยค
หลังจากที่นัดดูตัวถูกใจกันแล้ว ก็จะไปกินข้าว ดูหนัง และช้อปปิ้งเหรอ?
ถึงแม้จะรู้สึกไร้สาระอยู่บ้าง แต่ถ้าเป็นการไปเป็นเพื่อนปาณีละก็ เขาก็จะฝืนไปด้วยสักครั้งก็ได้
นภดลก็เปิดแอปพลิเคชันขึ้นมา แล้วดูรายการหนังที่เพิ่งเข้าโรงมาใหม่ นอกจากหนักตลกแล้วก็มีหนังสยองขวัญ
เพราะฉะนั้นจะเลือกอะไรล่ะ?
นภดลรู้สึกยากลำบาก
แล้วเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาปาณีอีกครั้ง
ปาณียังคงหงุดหงิดอยู่ ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา พอดูก็เป็นสายโทรเข้าของนภดล ตอนนี้เธอรู้สึกไม่อยากจะรับสายจริง ๆ
แต่ว่าอย่างน้อยคนเขาก็ยังมอบชุดกระโปรงชุดหนึ่งมาให้เธอใส่ไปนัดดูตัว ถ้าไม่รับก็เหมือนกับว่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ
ปาณีสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง จากนั้นก็รูดหน้าจอรับสายขึ้นมา
“มีธุระเหรอ?”
“มีอะไรจะถามคุณหน่อยนะ เด็กผู้หญิงอย่างพวกคุณถ้าจะไปดูหนังละก็ หนังตลกเรื่องหนึ่ง กับหนังสยองขวัญเรื่องหนึ่ง ปกติแล้วพวกคุณจะเลือกหนังแนวไหนกัน?”
คำพูดของนภดลทำให้ปาณีอึ้งไปเล็กน้อย
เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ที่นภดลเริ่มสนใจเรื่องไร้สาระอย่างเด็กผู้หญิงชอบดูหนังเรื่องแนวอะไรแบบนี้?
“คุณรู้จักเด็กผู้หญิงคนใหม่เหรอ?”
“ถือว่าใช่มั้ง”
นภดลตอบกลับอย่างกำกวม
หัวใจของปาณีเจ็บจี๊ดขึ้นมาทีหนึ่ง
เป็นเรื่องราวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
เธอกลับไม่รู้เรื่องสักนิดเลย
พยายามอดกลั้นความปวดใจเอาไว้ แล้วปาณีก็ถามขึ้นว่า “ทำไมต้องมอบชุดกระโปรงให้ฉันด้วย?”
“ก็คุณจะไปนัดดูตัวไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันไปนัดดูตัวแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ? ทำไมคุณจะต้องมาให้ชุดกระโปรงกับฉันด้วย?”
น้ำเสียงของปาณีในตอนนี้มีความเย็นชาอยู่เล็กน้อย ดวงตาก็แดงก่ำขึ้นมาแล้ว
ชั่วขณะหนึ่งนภดลก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี จึงอดไม่ที่จะพูดขึ้นว่า “ก็คุณจะไปซื้อเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ? แล้วโดนคุณนายตระกูลจันทรวงศ์มาทำพังไป เสื้อผ้าก็ไม่ได้ซื้อ เงินก็เสียไปอีก ผมจะมอบชุดกระโปรงให้คุณสักชุดแล้วจะทำไม?”
ฉะนั้นเป็นเพราะว่าคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ทำให้เธอลำบาก เขาถึงได้ซื้อชุดกระโปรงมาแสดงความเสียใจเหรอ?
การรับรู้แบบนี้ทำให้ใจของปาณียิ่งเจ็บปวดมากขึ้น
สิ่งที่เธอต้องการไม่เคยเป็นความรู้สึกผิดของนภดล!
ตอนนี้มาดูชุดกระโปรงในมืออีกครั้ง ปาณีก็รู้สึกว่ายิ่งดูก็รู้สึกทิ่มแทงตา ดวงตาโดนน้ำตาที่อุ่นร้อนเคืองตาจนปวดแสบไปหมด แต่เธอกลับกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น กลัวว่าแค่เอ่ยปากออกมาก็อาจจะร้องไห้ออกมาทันที
ปาณีนะปาณี นภดลแสดงออกชัดเจนขนาดนี้แล้ว เธอยังจะเพ้อฝันอะไรอีก?
เขาไม่ได้เป็นคนที่ถูกกำหนดมาเพื่อเธอ ควรจะยอมแพ้ได้แล้วมั้ง?
แต่ว่าความรู้สึกปวดใจนั้นมันยากที่จะทนไหวแล้วจริง ๆ
นภดลไม่ได้ฟังการตอบกลับของปาณี จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนใจขึ้นมา
“เด็กผู้หญิงที่ผมรู้จักมีไม่เยอะ และก็ไม่รู้ว่าตกลงเด็กผู้หญิงเขาคิดกันยังไง คุณแค่บอกผมมา ถ้าเป็นคุณระหว่างหนักตลกกับหนังสยองขวัญ คุณจะเลือกแบบไหน?”
น้ำตาของปาณีไหลผ่านใบหน้าเรียว ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งตัวเองจะต้องมาช่วยผู้ชายที่ตัวเองรักวางแผนเพื่อผู้หญิงคนอื่น
เธออดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “หนังสยองขวัญมั้ง?”
“ทำไมล่ะ?”
“เพราะว่าหนังสยองขวัญจะต้องเกิดความกลัว ถ้ากลัวขึ้นมาก็จะหาความปกป้องจากตัวผู้ชายไง พอถึงตอนนั้นก็จะสามารถเพิ่มความสนิทสนมของทั้งสองคนขึ้นมาได้”
พูดจบปาณีก็วางสายไปเลย
นี่ถือได้ว่าเธอส่งมอบนภดลออกไปเองกับมือหรือเปล่านะ?
พอนึกภาพผู้หญิงคนหนึ่งกรีดร้องแล้วโผเข้าไปในอกของนภดล และนภดลก็ลูบหลังปลอบโยนผู้หญิงคนนั้นไปอย่างรักใคร่เอ็นดูเป็นอย่างมาก ปาณีก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีมีดหลายเล่มเชือดเฉือนอยู่ในใจของเธอ เจ็บจนทำให้คนหายใจไม่ออก