แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1463 ฉันเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเองนะ

บทที่ 1463 ฉันเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเองนะ

พอนภดลได้ยินเสียงปาณีวางสายไปแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ในหัวสมองคิดอยู่แต่เรื่องปาณีอยากจะดูหนังสยองขวัญ

เธอบอกว่าหนังสยองขวัญสามารถเพิ่มความสนิทสนมให้คนสองคนได้ เป็นเรื่องจริงเหรอ?

พอคิดแบบนี้แล้วก็เหมือนกับว่าจะไม่เลวเลยนะ

นภดลมองดูเล็กน้อย แล้วก็เลือกหนังสยองขวัญมาเรื่องหนึ่ง และยังจองที่นั่งและซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าด้วย

ตอนเที่ยงยังต้องกินข้าวอีก และก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ปาณีนัดกับผู้ชายคนนั้นไว้ที่ไหน แต่ว่าปาณีเหมือนจะชอบกินอาหารเสฉวนนะ

นภดลค้นหาไปครู่หนึ่ง แล้วก็เห็นร้านร้านอาหารสะพานหันที่ทั้งรีวิวและคอมเมนต์ล้วนติดอันดับหนึ่งก็รู้สึกว่าไม่เลว จึงจองที่ไว้เอาไว้

หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว นภดลก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก

อ๋อ ใช่แล้ว จะต้องซื้อดอกไม้สักช่อไหมนะ?

ได้ยินมาว่าผู้หญิงชอบดอกไม้กันทั้งนั้น ปาณีเองก็น่าจะชอบเหมือนกันมั้ง

เขาจำได้ว่าปาณีชอบดอกไวโอเล็ตสีม่วงใช่ไหม?

แล้วนภดลก็สั่งจองดอกไม้ช่อหนึ่งจากแอปพลิเคชัน จากนั้นถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็ควรจะต้องแต่งตัวสักหน่อยไหม?

แต่ว่าในตู้เสื้อผ้าก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าพิเศษอะไร ชุดที่ใหม่ที่สุดก็ยังเป็นชุดที่ปาณีช่วยซื้อให้เขา

พอคิดถึงเรื่องนี้แล้ว มุมปากของนภดลก็คลี่ขึ้นเล็กน้อย

อืม งั้นก็ใส่ที่เธอซื้อดีกว่า

นภดลใส่ชุดลำลองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็หาแฮกเกอร์คนหนึ่งมาแฮกเข้าเบอร์โทรศัพท์มือถือของผู้ชายคนนั้น แล้วก็ใช้เบอร์มือถือนั้นส่งข้อความที่อยู่ร้านอาหารและเรื่องนัดดูตัวไปให้ปาณี เอาเป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงให้หลังดีกว่า

เวลาหนึ่งชั่วโมงปาณีน่าจะแต่งตัวเสร็จแล้วมั้ง

หลังจากที่ทำเรื่องทั้งหมดนี้แล้ว นภดลก็ได้จัดแจงงานของช่วงบ่ายออกไป แล้วก็กะว่าจะตั้งใจไปนัดเดทกับปาณีสักหน่อย

ทางด้านปาณีทุกข์ใจจะแย่อยู่แล้ว เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา

เธอมองดูทีหนึ่ง เป็นเบอร์แปลก ๆ เบอร์หนึ่ง

อีกฝ่ายส่งตำแหน่งร้านอาหารและเวลานัดหมายมา

ปาณีอึ้งไปครู่หนึ่ง

ส่งผิดแล้วมั้ง?

เธอลองเช็กดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เบอร์นี้เป็นเบอร์ที่เพิ่งเห็นครั้งแรก ไม่รู้จักเลย

น่าจะส่งมาผิดแล้ว

เธอรีบส่งข้อความตอบกลับไป

“ส่งผิดหรือเปล่าคะ?”

พอนภดลเห็นก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

พอนึกขึ้นได้ว่าสถานที่ที่ปาณีกับผู้ชายคนนั้นนัดหมายกันไม่ได้อยู่ที่สะพานหัน จึงอดไม่ได้ที่จะตอบกลับไปว่า “ตำแหน่งนี้แหละ มาตามที่อยู่นี้เลย ผมจะรอคุณ”

หัวคิ้วของปาณีแทบจะขมวดเข้าด้วยกันอยู่แล้ว

นี่มันคนอะไรกัน?

ตอนนี้เธออารมณ์ไม่ดีเอามาก ๆ นภดลมีผู้หญิงที่ชอบแล้ว และความจริงที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เธอได้กระทบกระเทือนโดนเธอจนทำอะไรก็ไม่มีเรี่ยวแรง มาตอนนี้เธอได้เตือนอีกฝ่ายว่าส่งข้อความผิดแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่รู้ตัวอีก เธอเองก็ขี้เกียจที่จะพูดแล้ว

ปาณีได้ปิดเครื่องไปโดยตรงเลย จากนั้นก็ดูชุดกระโปรงที่อยู่ข้าง ๆ ทีหนึ่ง แล้วก็เอามันยัดใส่ในตู้ แล้วเอาชุดออกกำลังกายออกมาชุดหนึ่ง และรวบผมยาวมัดให้กลายเป็นหางม้า จากนั้นก็สวมใส่รองเท้าพื้นเรียบอย่างคล่องแคล่วแล้วก็เปิดประตูห้องเดินออกไป

“เปลี่ยนใจแล้ว ออกไปกินข้างนอกกัน เดี๋ยวฉันเลี้ยงพวกเธอเอง”

ตอนนี้ในใจปาณีรู้สึกเป็นทุกข์มาก แต่เธอรู้ว่าภารกิจในตอนบ่ายของเธอนั้นสำคัญมาก มักจะพูดกันว่าตอนที่อารมณ์ไม่ดีจะต้องไปซื้อ ซื้อ ซื้อ จะต้องกิน กิน กิน เธออยากจะลองดูว่าไปกินสักมื้อจะสามารถทำให้ความทุกข์ของตัวเองสลายไปได้หรือเปล่า

พอลูกน้องได้ยินว่าปาณีจะเลี้ยงข้าว แน่นอนว่าก็ต้องดีใจอยู่แล้ว มีแต่พัณณิตาที่ไม่รู้สึกดีใจอะไร แต่จะพูดว่าไม่ไปก็ไม่ได้

พวกคนทั้งหลายออกจากบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กไป

ปาณีพกโทรศัพท์ปฏิบัติงานออกมา แล้วก็ได้ทิ้งโทรศัพท์ของตัวเองไว้ในห้องเลย แถมยังทำให้อยู่ในสภาพปิดเครื่องด้วย

เธอส่งข้อความไปให้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ข้อความหนึ่ง

“ความลับที่เกี่ยวกับความเป็นความตายของนภดลคืออะไร?”

ข้อความของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์นั้นส่งออกไปตั้งนานแล้ว แต่ปาณีก็ไม่มีการตอบกลับมา เธอเลยเป็นกังวลมาตลอดว่าปาณีจะไม่ได้เป็นห่วงนภดลมากขนาดนั้น พอมาตอนนี้เห็นปาณีตอบข้อความกลับมาแล้ว คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็ยิ้มขึ้นมาทันที

“ฉันยังนึกว่าเธอจะอดทนได้ดีขนาดนั้นจริง ๆ ที่แท้มันก็แค่นั้น”

พูดจบเธอก็โทรศัพท์หาปาณีเลย

ชั่ววินาทีที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปาณีก็รับสายเลย

“เบอร์โทรของเธอเบอร์นี้แปลกดีนี่”

คำพูดของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ทำให้ดวงตาของปาณีเย็นลงเล็กน้อย

“สังคมสมัยนี้ คนคนหนึ่งจะมีเบอร์โทรศัพท์สองอันมันแปลกมากเหรอ?”

“มันก็ไม่ใช่ เพียงแต่ว่าฉันอยากจะเจอกับเธอเป็นการส่วนตัวสักหน่อย แค่เธอคนเดียว ห้ามบอกกับนภดล และให้เขารู้ไม่ได้ ถ้าหากเธอทำไม่ได้ละก็ พวกเราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเจอหน้ากันแล้ว”

น้ำเสียงของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ยังคงทำให้คนรู้สึกรังเกียจอยู่

ปาณีพูดอย่างเย็นชาขึ้นว่า “ได้ ฉันรับปากคุณ พอดีเลยตอนบ่ายนภดลมีธุระได้ออกไปแล้ว ไม่ได้อยู่ข้างกายฉัน เพราะฉะนั้นตกลงคุณจะให้ฉันไปไหนถึงจะยอมบอกความลับนี้กับฉัน? ฉันขอเตือนคุณนะ ทางที่ดีอย่ามาคิดตุกติก ไม่งั้นต่อไปนภดลจะต้องไม่มีทางปล่อยคุณไว้แน่”

ปาณีรู้ว่าตัวเองมีตัวตนอยู่ในสายตาคุณนายตระกูลจันทรวงศ์อย่างไร เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงพูดได้แค่แบบนี้

ครั้งนี้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ที่โดนข่มขู่กลับไม่โกรธ เธอยิ้มแล้วก็พูดขึ้นว่า “ฉันจะไปตุกติกอะไรได้? ตอนนี้ใจทั้งดวงของนภดลอยู่บนตัวเธอทั้งนั้น เพื่อเธอแล้วสามารถที่จะไม่สนใจความเป็นความตายของฉันได้เลย ฉันยังจะกล้าทำอะไรกับเธอได้? แต่ว่าฉันเองก็จะบอกความลับนี้กับเธอฟรี ๆ ไม่ได้ เธอจะต้องให้เงินฉันสักหน่อย”

“ฉันไม่มีเงินแล้ว”

ปาณีไม่ชอบความโลภของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์มากจริง ๆ

ผู้หญิงคนนี้นี่มันคือปลิงดูเลือดดี ๆ นี่เอง ถ้าไม่บีบคนให้ถึงตายก็จะไม่หยุดแบบนั้น

คุณนายตระกูลจันทรวงศ์กลับยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “เธอไม่มีเงิน แต่นรมนมี ตระกูลโตเล็กมี เธอสามารถที่จะไปยืมกับพวกเขาได้นี่”

“คุณไม่รู้สึกว่าคุณไร้ยางอายมากเหรอคะ? พวกเขาไม่ได้ติดค้างฉันไว้สักหน่อย!”

“นั่นเป็นเรื่องของเธอ ในเมื่อถ้าเธอไม่เอาเงินมาให้ฉัน ฉันก็ไม่มีทางบอกความลับนี้กับเธอแน่ ต่อไปถ้านภดลตายขึ้นมาจริง ๆ เธอยากจะมาถามฉันอีกมันก็สายไปแล้ว ทางที่ดีเธอคิดให้ดี ๆ นะ”

คำพูดของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์เป็นเหมือนกับมีดเล่มหนึ่งทิ่มเข้าไปในใจของปาณี

ถึงแม้เรื่องที่นภดลไม่ชอบเธอจะทำให้เธอเสียใจมาก แต่ว่าความรู้สึกที่เธอมีต่อนภดลนั้นไม่ใช่จะมาพูดว่าเก็บก็สามารถเก็บกลับมาได้ และที่สำคัญตอนนี้ร่างกายของนภดลก็ได้เกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว ปาณีไม่รู้ว่าคุณนายตระกูลจันทรวงศ์จับจุดนี้ได้แล้วถึงมาข่มขู่เช่นนี้หรือเปล่า และตอนนี้ก็เหมือนกับว่าไม่วิธีดี ๆ อย่างอื่นแล้วด้วย

“คุณต้องการเท่าไหร่?”

“หนึ่งล้าน”

คำพูดของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ทำให้ปาณีสูดลมเย็น ๆ เข้าไปทีหนึ่ง

“คุณบ้าไปแล้วใช่ไหม? ฉันเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเองนะ”

“ฉันไม่สน ในเมื่อยังไงฉันก็จะเอาหนึ่งล้าน หนึ่งล้านมาซื้อชีวิตของนภดล เธอคิดให้ดีนะว่าจะทำการแลกเปลี่ยนนี้หรือเปล่า ถ้าหากว่าคิดดีแล้ว ก็มาตามที่อยู่นี้ ฉันจะพบเธอแค่คนเดียว ถ้าเธอพาคนอื่นมาด้วย ก็อย่ามาโทษฉันว่าไม่เตือนเธอ และการแลกเปลี่ยนนี้ก็จะยกเลิกทันที”

คุณนายตระกูลจันทรวงศ์พูดจบก็วางสายไปเลย จากนั้นก็ส่งที่อยู่มาให้เธออันหนึ่ง

ปาณีเอาที่อยู่นั่นเปิดให้พัณณิตาดู

“ดูหน่อยซิ ที่อยู่นี่มันอยู่แถวบ้านเธอหรือเปล่า?”

พัณณิตาพยักหน้าเล็กน้อย

“ใช่ แต่ว่าที่นี่ช่วงนี้มีคนแปลกหน้าเข้ามาเยอะมาก และรู้สึกว่ามีฝีมือกันทั้งนั้น ถ้าหากคุณจะเข้าไปตัวคนเดียวละก็อาจจะไม่ค่อยปลอดภัยแน่ แต่ถ้าอยากจะพาพวกเราเข้าไปด้วยก็คงจะไม่ใช่ง่าย ๆ”

คำพูดของพัณณิตาทำให้ปาณีอึ้งไปเล็กน้อย

ถึงแม้คุณนายจะไม่ได้บอกว่าดร.ฐานทัตและคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ร่วมมือกับใครแล้ว แต่ว่าถ้าที่นี่เป็นฐานวิจัยในปัจจุบันของดร.ฐานทัตจริง ๆ แล้วละก็ และตอนนี้ก็มีคนชุดดำมาคุ้มกันอยู่อีกมากมาย งั้นก็มากพอที่บอกได้แล้วว่าเบื้องหลังพวกเขาจะต้องมีคนหนุนอยู่แน่

ตอนนี้อีกฝ่ายคือใครพวกเขาก็ไม่รู้ แล้วถ้ายอมให้พวกพัณณิตาเข้าไปง่าย ๆ ละก็ ไม่แน่อาจจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นก็ได้

หัวคิ้วของปาณีขมวดเข้าด้วยกันแน่น

จะทำยังไงดีนะ?

ชั่วขณะหนึ่งเธอไม่มีความคิดเห็นแล้ว

“กินข้าวก่อนเถอะ กินข้าวเสร็จแล้วค่อยว่ากัน”

ปาณีพาพวกเขามาถึงร้านอาหารธรรมดาร้านหนึ่ง

พวกพัณณิตาสั่งอาหารไป แล้วปาณีก็ไปเข้าห้องน้ำ แล้วเอาเรื่องนี้บอกกับนรมนไป

“คุณนายคะ ตอนนี้ฉันควรจะทำยังไงดีคะ?”

นรมนเองก็คิดไม่ถึงว่าความเร็วของอีกฝ่ายจะรวดเร็วมากขนาดนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปครู่หนึ่ง

“ตอนนี้เธออยู่ไหน?”

“กินข้าวอยู่ข้างนอกค่ะ”

“งั้นกินข้าวให้ดี ๆ สักมื้อก่อน เดี๋ยวฉันกับบุริศร์จะปรึกษากันสักหน่อย อีกเดี๋ยวค่อยส่งข่าวให้เธอนะ”

“ได้ค่ะ”

ปาณีจบการโทรสนทนา แล้วกลับมาที่โต๊ะอาหาร

บุริศร์เห็นท่าทางนรมนที่คิ้วขมวดกันแน่น ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง

“ทำไมเหรอ?”

“คนที่ติดต่อกับดร.ฐานทัตได้เริ่มลงมือแล้วค่ะ”

คำพูดของนรมรทำให้บุริศร์อึ้งไปเล็กน้อย ดวงตาก็เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย

“ตกลงอีกฝ่ายคือใครกันแน่?”

“ไม่ใช่คนของสมชัยและฉัตรพล คนของเราได้แอบเฝ้าจับตามองพวกเขาไว้อย่างดี และที่สำคัญพวกเขาก็ไม่มีเวลามายุ่งกับเรื่องนี้ด้วย เพราะฉะนั้นตกลงคนคนนี้คือใคร? ทำไมถึงได้สนใจเลือดของนภดลมากขนาดนี้นะ?”

นี่คือจุดที่นรมนครุ่นคิดอย่างหนักแต่ก็ไม่ได้คำตอบ

แล้วในเวลานี้เอง บุริศร์ก็ได้รับข้อความจากจณัตว์

“จณัตว์ส่งข่าวมาแล้ว”

“พี่ชายฉันว่ายังไงบ้างคะ?”

นรมนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แล้วอยากจะลุกขึ้นมา แต่กลับโดนบุริศร์กดตัวไว้ซะก่อน

“ถ้าหากคุณไม่สามารถรับประกันได้ว่าอารมณ์ของตัวเองจะไม่โดนกระทบกระเทือน งั้นต่อไปเรื่องทั้งหมดก็ห้ามคุณเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว”

“บุริศร์!”

นรมนรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ว่าตอนที่เห็นแววหนักแน่นและจริงจังในดวงตาบุริศร์นั้น เธอก็รู้แล้วว่าเรื่องนี้บุริศร์จะต้องไม่มีทางยอมอ่อนข้อแน่นอน

“เอาล่ะ เอาล่ะ ฉันจะสงบสติอารมณ์ลงสักหน่อยพอหรือยัง? คุณเองก็รู้ว่านภดลเป็นเพื่อนของฉัน แน่นอนว่าฉันต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว”

“ผมเป็นสามีคุณ ทำไมคุณถึงไม่เป็นห่วงว่าผมจะเป็นกังวลต่อร่างกายคุณหรือเปล่าล่ะ?”

บุริศร์หึงหวงขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว

วินาทีนี้เขาหวังเป็นอย่างมากว่าปาณีจะรีบเก็บนภดลไปให้เร็ว ๆ เลย

แต่เขาก็รู้ดี ถ้าเรื่องนี้ไม่จบ ใจของนรมนก็สงบลงมาไม่ได้

บุริศร์เปิดโทรศัพท์ออก ในตอนที่เห็นข้อความบนนั้นหัวคิ้วก็ขมวดเข้าด้วยกันแน่น

“เกิดอะไรขึ้นคะ? ตกลงเป็นข่าวอะไรคะ? ที่คุณขมวดคิ้วนี่หมายความว่าไงคะ? ทำคนร้อนใจจะตายอยู่แล้ว”

เพราะว่านรมนนอนอยู่จึงมองไม่เห็น แต่ว่าตอนที่เห็นปฏิกิริยาแบบนี้ของบุริศร์นั้นก็อดไม่ได้ที่ใจจะหนักอึ้งขึ้นมาเล็กน้อย

คงจะไม่ใช่ว่าอาการของนภดลจะไม่ดีหรอกมั้ง?

นี่พวกเขาเพิ่งจะเจาะเลือดของนภดลไป400CC ถ้าเกิดตอนนี้ก็ยืนหยัดไม่ไหวแล้วละก็ กลัวว่าเลือดคงจะไม่พอแน่

บุริศร์เอาโทรศัพท์ยื่นให้กับนรมน

นภดลเพิ่งจะดูดเลือดไป ถ้าจะส่งเลือดไปให้ถึงประเทศFเลยก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ซะเท่าไหร่ เขาจึงจัดแจงให้ป้องทำการตรวจหาองค์ประกอบของเลือดออกมา แล้วส่งผลค่าเลือดไปให้จณัตว์ไม่ถึงสิบห้านาที จณัตว์ก็ตอบข้อความกลับมาแล้ว นี่สำหรับบุริศร์แล้วรู้สึกว่าคิดไม่ถึงเล็กน้อย และในขณะเดียวกันก็รู้สึกหนักใจหน่อยด้วย

ข้อความของจณัตว์นั้นเรียบง่ายมาก มีเพียงแค่ไม่กี่ประโยค แต่ว่าดวงตาของนรมนก็ขรึมลงด้วยเหมือนกัน

“องค์ประกอบของเลือดอันนี้ถ้าถูกผู้ไม่ประสงค์ดีเอาไปใช้ แล้วรวมกับการวิจัยทางพันธุกรรม ไม่แน่อาจจะเกิดความโกลาหลขึ้นมาก็ได้ จะต้องปกป้องคุ้มครองเลือดของคนคนนี้ให้ดี ห้ามให้รั่วไหลออกแม้แต่หยดเดียว”

นรมนเอาโทรศัพท์คืนให้กับบุริศร์ แล้วก็ถามเสียงต่ำขึ้นว่า “ตัวอักษรพวกนี้ฉันรู้จักทุกตัว แต่ว่าทำไมพอเอามาต่อกันแล้วฉันถึงไม่เข้าใจเลยว่ามันหมายความว่ายังไง? พี่ชายฉันจะบอกว่ามีคนต้องการแย่งชิงเลือดของนภดลใช่ไหมคะ?”

“ใช่”

บุริศร์เองก็เคร่งขรึมมากเหมือนกัน

ถ้าหากอีกฝ่ายมาเพื่อเลือดของนภดล แล้วตอนนี้ก็ได้ร้วมมือกับดร.ฐานทัตแล้ว งั้นอย่างงั้นนภดลก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเป็นอย่างมากเลย

“แย่แล้ว ปาณีออกไปแล้ว เธอได้ติดต่อกับคุณนายตระกูลจันทรวงศ์แล้ว อีกฝ่ายจะใช้การบอกความลับของนภดลให้กับปาณีมาเป็นตัวล่อ เพื่อตั้งใจล่อปาณีไปก่อน จากนั้นค่อยจับตัวปาณีไว้แล้วบีบให้นภดลไปช่วยคนหรือเปล่าคะ?”

หัวสมองของนรมนหมุนวนไปอย่างรวดเร็ว พอคิดถึงความเป็นไปได้นี้แล้ว สีหน้าของเธอก็ขาวซีดขึ้นมาเลย

ถ้าหากว่าเป็นอย่างนี้ละก็ งั้นตอนนี้คนที่อยู่ในอันตรายก็ไม่ใช่นภดล แต่คือปาณีเอง

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท