แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1465 โสดได้ด้วยความสามารถจริง ๆ

บทที่ 1465 โสดได้ด้วยความสามารถจริง ๆ

ในเมื่อรู้ความต้องการของพวกเขาแล้ว นภดลก็ไม่ค่อยเป็นกังวลแล้ว ถึงแม้ว่าคุณนายตระกูลจันทรวงศ์จะจับตัวปาณีไว้ แต่ว่าการฝึกฝนพิเศษของปาณีในระยะเวลาที่ผ่านมานภดลก็ได้เห็นด้วยตาตัวเองอยู่ ก่อนที่เขายังไปไม่ถึง แค่ปาณียืนหยัดไว้ได้ คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็ไม่กล้าทำอะไรกับเธอ

หลังจากที่นภดลวางสายแล้วก็โทรศัพท์หาบุริศร์เลย

“ประทานบุริศร์ครับ ปาณีโดนจับตัวไปแล้ว”

“ฉันรู้แล้ว ทำไมนายถึงปิดเครื่องไป?”

พอพูดถึงเรื่องนี้นภดลก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ตอนแรกกะว่าจะอยู่ด้วยกันสองต่อสองกับปาณีดี ๆ สักหน่อย แต่คิดไม่ถึงว่าเพราะเรื่องที่ตัวเองปิดเครื่องจะทำให้กระทบต่อเรื่องอื่นมากขนาดนี้

“เป็นความผิดของผมเอง ต่อไปจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วครับ คุณนายตระกูลจันทรวงศ์โทรศัพท์มาหาผม และบอกว่าได้จับตัวปาณีไปแล้ว จะให้ผมไปหาสักเที่ยว เป้าหมายของพวกเขาน่าจะเป็นเลือดของผม แต่ทางคุณนายก็ต้องการเหมือนกัน คุณว่าผมควรจะทำยังไงดีครับ?”

นภดลไม่อยากจะให้เลือดกับคุณนายตระกูลจันทรวงศ์เลยแม้แต่หยดเดียว แต่ว่าปาณีอยู่ในกำมือของพวกเขา ยังไงเขาก็ต้องไปสักหน่อย

มาตอนนี้เรื่องนี้จำเป็นจะต้องบอกกับบุริศร์และนรมน เพราะในตอนที่จำเป็นเขาต้องการให้อาณาจักรรัตติกาลมาช่วยเหลือ

พอบุริศร์เห็นว่านภดลได้รู้เรื่องแล้ว ก็พูดขึ้นว่า “เรื่องที่ปาณีโดนจับตัวไปนั้นคือวิธีแผนซ้อนแผนของพวกเรา ตอนนั้นติดต่อนายไม่ได้ เพราะฉะนั้นพวกเราก็เลยตัดสินใจกันก่อนแล้ว”

“แผนซ้อนแผนเหรอครับ?”

พอนภดลได้ยินคำสามคำนี้ ก็รู้สึกโล่งใจไปทีหนึ่งอย่างบอกไม่ถูก แต่ว่าก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี

“ตกลงทำไมปาณีจะต้องไปหาคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ด้วย?”

“เป็นแผนการ เพราะว่าพวกเราได้รับข่าวมาว่า มีคนมาเชื่อมสัมพันธ์กับดร.ฐานทัต และอยากจะได้เลือดของนายไปทำการวิจัยทางพันธุกรรม เพราะฉะนั้นคุณนายตระกูลจันทรวงศ์มาเข้าหาปาณี ปาณีก็เลยใช้แผนซ้อนแผน นายไม่ต้องเป็นกังวลมากนักหรอก ปาณีมียาถอนพิษที่ป้องให้ไว้ น่าจะไม่ได้ตกหลุมพราง เป้าหมายของเรานั้นง่ายมาก ก็คือลากตัวคนที่อยู่เบื้องหลังดร.ฐานทัตออกมา แล้วก็ถอนรากถอนโคนซะ”

บุริศร์ปิดบังไปส่วนหนึ่ง แต่ว่าก็ถือได้ว่าได้บอกเรื่องราวไปพอประมาณแล้ว

นภดลเข้าใจความหมายของนรมนและบุริศร์ขึ้นมาทันที จะถอนรากถอนโคนที่พวกเขาว่ามานี้ก็เพื่อตัวเขาทั้งนั้น

ในใจจึงอดไม่ได้ที่จะมีความอบอุ่นพาดผ่านไปเสี้ยวหนึ่ง

“ประธานบุริศร์ ขอบคุณครับ”

“พูดเรื่องพวกนี้ทำไม? ตอนนี้นายอยู่ไหน? จะตรงไปเลยหรือว่าจะยังไง?”

“แน่นอนว่าจะต้องตรงไปเลยอยู่แล้ว ในเมื่อเป้าหมายของพวกเขาคือผม ถ้าผมไม่ปรากฏตัวไปก็เหมือนกับว่าจะไม่ค่อยดีซะเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าประธานบุริศร์คุณมีแผนอยู่แล้วใช่ไหมครับ?”

“อืม ใช่ นายไปเป็นเหยื่อล่อก่อน รอบนอกฉันได้วางกำลังคนไว้หมดแล้ว ขอแค่พวกเขาลงมือ พวกเราก็จะเคลื่อนไหวได้ทุกเมื่อเลย”

บุริศร์ได้วางแผนไว้ตั้งนานแล้ว

ในเมื่อในเมืองชลธีนี้ เป็นที่ของเขา ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้เขาเองก็เงียบหายไปนานมาก และอีกอย่างคนของธเนศพลก็อยู่ ถ้าเวลานี้จะใช้คนของธเนศพลก็ไม่มีอะไรที่จะทำไม่ได้

“ได้ครับ ผมจะฟังประธานบุริศร์”

พอนภดลวางสายโทรศัพท์แล้วก็ลุกยืนขึ้นมา

จ้องมองร้านอาหารที่ครึกครื้นแต่ตอนนี้กลับมีคนอยู่แค่ไม่กี่คนแล้ว และการนัดดูตัวของเขากับปาณีก็ถือได้ว่าล้มเหลวแล้ว

พอคิดถึงช่วงเวลาแบบนี้ ปาณีอาจจะยังไม่ได้กินข้าว นภดลก็ให้คนทำข้าวราดแกงใส่กล่องให้ปาณีชุดหนึ่งแล้วก็เอาไปด้วยเลย

เขามาขึ้นรถ พอเอาข้าวราดแกงวางไว้เรียบร้อยแล้ว ถึงได้ขับรถไปตามตำแหน่งที่คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ส่งมาให้ตัวเอง

พอมาถึงที่นี่ นภดลก็พบว่าที่นี่มียามรักษาการณ์อยู่อย่างแน่นหนา หนำซ้ำพวกบอดี้การ์ดพวกนั้นแต่ละคนยังมองดูเขาด้วยสายตาที่ร้อนแรง

นภดลไม่เข้าใจว่าตกลงความหมายในดวงตาของพวกเขาคืออะไร แต่พอนึกถึงแผนการที่ของบุริศร์วางไว้ เขาก็ได้สงบนิ่งลงมา พอจอดรถเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้ามา

พอคุณนายตระกูลจันทรวงศ์เห็นนภดลเดินเข้ามาอย่างสงบนิ่งขนาดนี้ ก็อดไม่ได้ที่ขมวดคิ้วขึ้น

“แกนี่เป็นสัตว์เลือดเย็นตัวหนึ่งจริง ๆ ลูกสาวของฉันต้องตายเพื่อแก แกยังไม่หลั่งน้ำตาให้สักเท่าไหร่ มาตอนนี้ปาณีคนนี้โดนฉันจับตัวมาเพราะแก แต่แกกลับไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ฉันนึกว่าแกจะรีบมาอย่างรวดเร็ว แต่แกกลับใช้เวลาไปตั้งครึ่งชั่วโมง นภดล ในเนื้อแท้ของแกนี่เป็นคนเลือดเย็นจริง ๆ คนอื่นสำหรับแกแล้วก็ไม่ถือว่าเป็นอะไรเลยใช่ไหม?”

การซักถามของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ทำให้ในใจของนภดลนั้นไม่ชอบใจมาก

เขาเลือดเย็นเหรอ?

ตอนที่ฉัตรยาตายนั้นเขาแทบอยากจะตายตามไปด้วย เพียงแต่ว่าคนอย่างเขานั้นแสดงออกไม่เก่ง บางครั้งน้ำตาไม่ไหลก็ไม่ได้แปลว่าไม่เสียใจ แต่ว่าเห็นได้ชัดว่า ปัญหาพวกนี้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำ

“ตัวปาณีล่ะ?”

ตอนนี้นภดลแค่อยากจะยืนยันว่าปาณีปลอดภัยดีหรือเปล่า

คุณนายตระกูลจันทรวงศ์กลับยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “แกมาคนเดียวใช่ไหม?”

“ไม่งั้นล่ะ?”

คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ยังคงไม่ค่อยมั่นใจ แล้วก็ให้คนไปตรวจสอบดูสักหน่อย ก็พบว่านภดลมาตัวคนเดียวจริง ๆ ในที่สุดคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ถึงได้วางใจลงสักที

“ในเมื่อแกเป็นห่วงเธอซะขนาดนี้ หรือไม่แกก็เขามาดูเองดีกว่าไหม?”

นภดลมองเห็นในดวงตาของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์มีประกายระยิบระยับอยู่ นั่นคือความดีใจแบบหนึ่ง เป็นแววตาแบบหนึ่งที่จะแสดงออกมาทุกครั้งที่เธอทรมานเขา

พอนึกถึงเป้าหมายของพวกเขาแล้ว นภดลก็ค่อย ๆ หรี่ตาลงครู่หนึ่ง

“พาตัวเธอออกมา ไม่งั้นละก็……”

“แกจะไปทำอะไรได้?”

คุณนายตระกูลจันทรวงศ์เห็นเขามาตัวคนเดียว แต่ทางเธอนั้นมีคนมากมาย เธอไม่เชื่อหรอกว่านภดลจะสามารถติดปีกบินหนีไปได้?

นภดลยิ้มอ่อน ๆ ทีหนึ่ง จากนั้นจู่ ๆ ก็เปิดเสื้อออก ในเสื้อนั้นมีแต่ระเบิด จนคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ตกใจร้องกรี๊ดออกมาคำหนึ่งแล้วถอยหนีไปหลายก้าวเลย

“นี่แกบ้าไปแล้วใช่ไหม?”

“ใช่ ผมบ้าไปตั้งนานแล้ว คุณรู้หรือเปล่า? ผมขอเตือนคุณนะ ทางที่ดีทำตามที่ผมบอก ไม่งั้นผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำเรื่องอะไรออกมาได้บ้าง ตอนนี้ผมจะเจอปาณี”

นภดลทำตัวเฉยเมย อย่างกับว่าชีวิตของตัวเองนี้สำหรับเขาแล้วไม่มีความสำคัญอะไรเลย แต่ว่าคุณนายตระกูลจันทรวงศ์กลับรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว

เธอไม่เพียงแค่กลัวนภดลตาย แถมยังกลัวว่านภดลจะไม่สนใจอะไรเลยด้วย

แล้วก็ในเวลานี้พอดี น้ำเสียงของดร.ฐานทัตก็ลอยออกมาจากข้างใน

“ให้เขาเจอกับปาณีสักหน่อยก็ไม่เป็นอะไร ที่สำคัญคือเขาจะต้องมีชีวิตอยู่! และอีกอย่างเลือดจะสิ้นเปลืองไปไม่ได้!”

คำพูดนี้ทำให้ดวงตาของนภดลหรี่ลงครู่หนึ่ง

ในความทรงจำของเขานั้น ดร.ฐานทัตเอาแต่จมอยู่กับการวิจัยมาตลอด และพูดน้อยมาก ไม่ว่าคุณนายตระกูลจันทรวงศ์จะทำอะไรลงไปเขาก็ไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ ตอนแรกนึกว่าเขาเป็นนักวิชาการคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ดูท่าเขาคงจะคิดผิดไปแล้ว

บางทีตั้งแต่เริ่มต้นมาดร.ฐานทัตก็คงจะทำงานเพื่อใครมาแล้ว เพียงแต่แค่พวกเขาไม่รู้เรื่องเท่านั้น

มาตอนนี้น้ำเสียงของดร.ฐานทัตนั้นเย็นชามาก ไม่ได้เรียบเฉยเหมือนอย่างแต่ก่อนแล้ว กลับทำให้นภดลคิดมากขึ้นมาอีกหน่อย

พอคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ได้ยินคำพูดของดร.ฐานทัต ก็รีบหยุดฝีเท้าลง แล้วก็พูดกับคนอื่น ๆ ขึ้นว่า “ไปเอาตัวยัยเด็กปาณีนั่นออกมาซิ”

ดูจากท่าทีของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์แล้ว เธอดูมีความเกรงกลัวต่อดร.ฐานทัตอยู่เล็กน้อย

เป็นไปได้ยังไงกัน?

พอคิดถึงการกระทำที่คุณนายตระกูลจันทรวงศ์มีต่อดร.ฐานทัตมาในหลายปีมานี้ ใช้คำว่าทำชั่วได้ตามอำเภอใจมาเปรียบเทียบก็คงจะไม่เกินไปเลย แล้วนี่แค่ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่เท่าไหร่เอง คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ก็กลัวดร.ฐานทัตขึ้นมาแล้วเหรอ?

เป็นเพราะว่าคนที่อยู่เบื้องหลังดร.ฐานทัตเหรอ?

หัวสมองของนภดลหมุนวนไปอย่างรวดเร็ว

คุณนายตระกูลจันทรวงศ์จดจ้องนภดลไว้ตลอด อย่างกับกลัวว่าจู่ ๆ เขาจะจุดระเบิดขึ้นมา

นภดลกลับรออยู่ตรงนั้นอย่างไม่สนใจ แต่ในใจกลับรู้สึกร้อนใจขึ้นมาเล็กน้อย

ในตอนที่ปาณีโดนคนพาออกมานั้น แววตาของนภดลก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ตอนแรกนึกว่ามีการข่มขู่ของตัวเองแล้ว คุณนายตระกูลจันทรวงศ์จะไม่กล้าทำอะไรปาณี แต่ว่าพอมองเห็นรอยแส้บนตัวปาณีนั้น ดวงตาของนภดลก็มองไปทางคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ทันที

“นี่คุณกล้าตีเธอเลยเหรอ?”

วินาทีนี้ นภดลรู้สึกโกรธขึ้นมาแล้ว

คุณนายตระกูลจันทรวงศ์มองเห็นแววอำมหิตจากดวงตาของนภดล จึงถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างอัตโนมัติ แต่ว่าผู้คนมากมายที่อยู่รอบข้างนี้ล้วนเป็นคนของตัวเอง จึงอดไม่ได้ที่จะมีความกล้าเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย

“ฉันตีเธอแล้วจะทำไม? ยัยเด็กนี่ทำให้ฉันขายหน้าไปหมดตอนที่อยู่ที่ห้าง ถ้าฉันไม่ตีเธอในใจของฉันก็คงจะไม่ได้ระบายความโกรธนี้ออกไป แล้วอีกอย่าง ตั้งแต่ที่แกโทรมาแล้วฉันก็ไม่ได้ตีเธออีก ไม่งั้นฉันต้องตีนังตัวดีนี่ให้ตายแน่”

คุณนายตระกูลจันทรวงศ์พูดแล้วก็จะเงื้อมมือไปตบปาณี แต่กลับได้ยินนภดลพูดขึ้นอย่างโหดเหี้ยมว่า “คุณกล้าแตะต้องเธอดูอีกซิ”

บางทีน้ำเสียงของนภดลอาจจะโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว หรือบางทีคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ยังมีอย่างอื่นให้ต้องคำนึงถึงอีก เธอจึงลดแขนลงทันที แล้วจ้องมองนภดลและพูดขึ้นว่า “ในเมื่อแกเป็นห่วงเธอ ทางที่ดีก็ทำตามที่ฉันพูด ไม่งั้นละก็……”

“ปาณี คุณนี่โง่หรือไง? ถึงได้ยอมให้เธอตีคุณแบบนี้ได้? ช่วงที่ผ่านมาคุณไปเล่นบนเกาะมาเหรอ?”

พอนภดลเห็นสีหน้าที่ขาวซีดของปาณี ใจก็เจ็บปวดขึ้นมาทันที แต่ว่าน้ำเสียงก็ยังไม่ค่อยดีนัก

ปาณีไม่สามารถที่จะตื่นขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว นี่เป็นแผนการของบุริศร์ เพราะฉะนั้นตอนที่คุณนายตระกูลจันทรวงศ์ตีเธอนั้น เธอจึงต้องกัดฟันอดทนไว้เพื่อไม่ให้ร้องออกมา แล้วถ้าเอาตามเวลาที่กะไว้ตอนนี้เธอก็น่าจะตื่นได้แล้ว เพราะฉะนั้นถึงได้ยอมปล่อยให้คนพวกนี้พาเธอออกมา

ในวินาทีที่เห็นนภดลนั้น ปาณีก็ถือได้ว่าวางใจได้แล้ว แต่ว่านภดลเจ้าผู้ชายซื่อบื้อคนนี้จะทำให้ปาณีบ้าตายแล้วจริง ๆ

นี่เขากลับตะคอกใส่เธอเลยเหรอ?

ปาณีรู้สึกน้อยใจขึ้นมาทันที ขอบตาก็เริ่มแดงขึ้นมาเล็กน้อย ของเหลวที่อุ่นร้อนก็เต็มไปหมด ยิ่งกระตุ้นโดนนภดลมากขึ้น

“คุณยังมีหน้ามาร้องไห้อีก? แค่คนน่าเกลียดไม่กี่คนนี่ คุณยังรับมือไม่ไหวอีกเหรอ? นี่กลับยังให้ผู้หญิงที่ชั่วช้าขนาดนั้นมาใช่แส้ตีคุณได้อีก คุณไม่รู้เหรอว่ารอยแส้มันรักษาหายยากน่ะ? ถ้าไม่ระวังดี ๆ ก็จะเกิดเป็นแผลเป็นขึ้นมาได้นะ”

คำพูดของนภดลทำให้ปาณีโกรธจนเจ็บหน้าอกไปหมด

“คุณหุบปากไปเลย! ฉันจะเป็นแผลเป็นก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ”

“ทำไมจะไม่เกี่ยว? ผมลูบไปแล้วมันจะไม่สบายมือนะ!”

พอคำพูดของนภดลพูดออกมา ปาณีก็เกือบจะสำลักตายเลย สีหน้าก็แดงขึ้นมาเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัวด้วย และกลับทำให้สีหน้าที่ขาวซีดของเธอสวยขึ้นมาหลายเท่าเลย

“คุณลูบกับผีนะซิ ใครจะให้คุณลูบกัน?”

“ห้ามพูดคำหยาบคายนะ”

ตอนนี้นภดลกับปาณีกำลังเธอพูดคำหนึ่งฉันพูดคำหนึ่งอยู่ โดยไม่ได้สนใจผู้คนที่อยู่รอบข้างเลย จนทำให้คุณนายตระกูลจันทรวงศ์โมโหแทบตายขึ้นมาทันที

“พวกเธอยังจะเอาหน้าอยู่ไหมเนี่ย? คนอยู่กันเยอะแยะขนาดนี้ พวกเธอมาพูดคำพูดลามกอะไรอยู่?”

“คุณหุบปากให้ผมไปเลย!”

นภดลมีไฟโกรธอยู่เต็มอก พอเห็นบาดแผลที่อยู่บนตัวปาณีเขาก็ยิ่งโกรธจนเสียสติไปแล้ว

แรงมือของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์นั้นเขารู้ชัดเจนดี ช่วงหลายปีมานี้สิ่งที่ตัวเองเจอมามากที่สุดก็คือแส้ของคุณนายตระกูลจันทรวงศ์ มาตอนนี้ร่างกายที่บอบบางของปาณีจะมาทนรับไหวได้ยังไง?

ถึงจะบอกว่าเป็นแผน แต่ว่าแผนก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้ตัวเองมาบาดเจ็บหรอกมั้ง

ที่สำคัญแส้นั่นยังตีลงบนร่างกายช่วงบนของปาณี ซึ่งใกล้กับหน้าอกซะขนาดนั้น เขาเจ็บปวดใจจนจะตายอยู่แล้วจริง ๆ

พอคุณนายตระกูลจันทรวงศ์เห็นว่านภดลถึงกับกล้าตะคอกใส่ตัวเองแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะโกรธจนระเบิดขึ้นมาเลย

“พวกแกเป็นคนตายไปหมดแล้วหรือไง? ยังไม่รีบมาจับตัวคนไว้ให้ฉันอีก”

ผู้คนรอบข้างรีบรุดหน้าเข้ามา ก็เห็นนภดลเอารีโมตออกมาจากกระเป๋า แล้วพูดเรียบ ๆ ขึ้นว่า “ใครกล้าเข้ามาแตะต้องฉันดูซิ”

วินาทีนี้ ปาณีเองก็เห็นรีโมตและระเบิดที่อยู่บนตัวนภดลแล้ว จึงอดไม่ได้ที่ตาจะเบิกกว้างขึ้นมาทีหนึ่ง

“นภดล นี่คุณจะทำอะไรน่ะ?”

“คุณเองก็หุบปากไปเลย! อย่าให้ผมได้ยินเสียงคุณอีกนะ ยัยผู้หญิงโง่”

คำพูดของนภดลทำให้ปาณีโกรธจนอยากจะกระทืบเขาให้ตายไปเลย

ผู้ชายคนนี้นี่เป็นโสดด้วยความสามารถจริง ๆ

เธอเองก็ไม่ค่อยเข้าใจขึ้นมาหน่อยแล้ว นี่สมองของเธอโดนลาเตะมาหรือยังไง? ทำไมถึงได้ชอบผู้ชายซื่อบื้อแบบนี้ได้

นี่เธอโดนคนจับตัวมานะ!

เขาไม่ควรที่จะต้องปลอบโยนเธอ ให้เธอไม่ต้องเป็นกังวล เขาจะต้องช่วยตัวเธอออกไปเหรอ? นี่ถึงควรจะเป็นการดำเนินพล็อตเรื่องไปตามปกติไม่ใช่เหรอ?

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท