“เกิดอะไรขึ้นคะ”
ปาณีเห็นสีหน้านภดลเคร่งขรึม อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจ
“ไม่รู้สิ คุณไปห้องของคุณนายก่อน ผมจะออกไปดูหน่อย”
นภดลพูดจบก็วิ่งออกไป แต่พอวิ่งไปถึงหน้าประตูก็กลับมา จูบที่หน้าผากของปาณี พูดเสียงอ่อนโยน”ปกป้องคุณนายกับตัวเองให้ดี อย่าทำให้ผมเป็นห่วง”
ปาณีรู้สึกเพียงกระแสไฟฟ้าไหลเวียนในตัว ได้ยินเสียงอื้ออึงในหู แต่ไม่ได้ยินชัดนภดลพูดอะไร เธอพยักหน้าไปตามสัญชาตญาณ ก็เห็นนภดลวิ่งออกไปอีกครั้ง
เธอไม่กล้าขวางเขา รีบออกไปทางห้องนรมน
“คุณนายคะ นภดลให้ฉันมาดูแลคุณค่ะ”
ตอนนี้บุริศร์ออกไปแล้ว น่าจะกังวลเช่นกัน เพราะสภาพร่างกายนรมนจึงออกไปไม่ได้ แต่ก็ร้อนใจทีเดียว
“ปาณี เธอมาพอดี ไปดูเร็วเกิดอะไรขึ้น เมื่อกี้เหมือนมีเสียงระเบิด”
“เสียงระเบิดหรือคะ”
ปาณีตกอกตกใจ
“กลางวันแสกๆ อีกฝ่ายเป็นใครกัน ถึงได้เหิมเกริมขนาดนี้”
นรมนสีหน้าเคร่งขรึม
“เกรงว่าคงจะมาเพราะดร.ฐานทัต”
“คุณหมายความว่า… นภดล…”
ปาณีรู้สึกเป็นกังวลขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอก มีอาณาจักรรัตติกาลอยู่ เขาจะต้องไม่เป็นไร อีกอย่างตอนนี้นภดลว่องไวมาก คนทั่วไปจับเขาไม่ได้”
นรมนรู้สึกปวดท้อง แต่ไม่ได้ร้องออกมา เธอรู้ว่าตอนนี้ปาณีเป็นห่วงนภดลมาก ถ้าตัวเองทำให้ปาณีเป็นห่วงอีกเกรงว่าเธอจะรับไม่ไหว
ตอนนี้เองมิลินก็เดินเข้ามา
“คุณนาย ทำไมสีหน้าไม่สู้ดีคะ”
คำพูดของมิลินทำให้ปาณีตอบสนองทันที
“คุณนาย ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ”
ขณะที่ถามปาณีก็รีบรินน้ำอุ่นให้นรมน ส่วนมิลินก็จับชีพจรของนรมน แต่น้ำของปาณียังไม่ทันส่งถึงมือนรมน ก็เกิดเสียงดังสนั่นดัง “ปัง” อีกครั้ง พื้นสั่งสะเทือนครู่หนึ่ง ปาณีถือแก้วน้ำไม่มั่นคง น้ำอุ่นหกใส่หลังมือของปาณี ร้อนไม่น้อยทีเดียว
“ปาณี เธอไม่เป็นอะไรนะ”
นรมนเห็นแล้วก็เป็นห่วง
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่น้ำอุ่น”
ปาณีสะบัดมือ หลังมือแดงนิดหน่อย
นรมนอยากจะลุกขึ้น แต่ถูกมิลินกดตัวไว้
“คุณนาย จะทำอะไรคะ”
“ฉันจะออกไปดูหน่อย”
“ไม่ได้ค่ะ”
มิลินห้ามทันที
นรมนกังวลมาก
“ไม่รู้ข้างนอกเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้วุ่นวายอย่างนี้ ฉันไม่ออกไปดูก็ไม่วางใจ”
“แต่ตอนนี้ร่างกายคุณเคลื่อนไหวไม่ได้ บอกแล้ว หน้าที่ของฉันคือดูแลไม่ให้คุณลงจากเตียง”
มิลินไม่ยอมสักนิด
นรมนเลื่อนสายตาไปมองปาณี
ปาณีพูดอย่างลำบากใจ “นภดลให้ฉันปกป้องคุณ ดังนั้นคุณนาย อย่าออกไปเลยค่ะ ข้างนอกมีประธานบุริศร์กับนภดล ไม่มีทางเกิดเรื่องค่ะ”
“ตอนนี้บุริศร์ยังไม่หายดี”
พูดไปแล้ว นรมนคนที่เป็นห่วงก็คือบุริศร์
ปาณีรีบพูด “นภดลจะปกป้องเขาค่ะ”
“พวกเธอ…”
นรมนมองผู้หญิงสองคนตรงหน้าสายตาโกรธ ขี้เกียจจะพูดอะไร
ปาณีรินน้ำอุ่นให้เธอใหม่ มิลินก็รีบฝังเข็มให้เธอ
นรมนรู้สึกปวดท้อง กระทั่งมีของเหลวเบาๆ ไหลออกมา เธออดเป็นห่วงไม่ได้
“ลูกของฉันไม่เป็นไรใช่มั้ย”
“วางใจเถอะ ฉันจะต้องรักษาเขาไว้ได้”
มิลินยิ้มบาง
นรมนใจเต้น
“ฉันไม่ได้ลงจากเตียง”
“ฉันรู้ค่ะ แต่คุณนายร่างกายของคุณทนไม่ไหวจริงๆ และปัจจัยภายนอกอาจทำให้คุณแท้งได้ ฉะนั้นช่วงสามเดือนแรกสำคัญมาก ถ้าหากไม่ได้มีเรื่องใหญ่คุณต้องระวังให้ดี อย่าขยับเขยื้อนตามอำเภอใจอีก”
คำพูดมิลินทำให้นรมนกลัว รีบพยักหน้า
ปาณีเป็นพยาบาล ย่อมคอยดูแลอยู่ข้างๆ
ข้างนอกวุ่นวายมาก ทุกอย่างโกลาหล ไม่รู้ใครเป็นใคร
ปาณีป้องกันเหตุไม่คาดฝัน จึงปิดล็อกประตูห้อง
ตอนที่บุริศร์ออกมาก็เจอกับชัยยศที่กลับมาพอดี สีหน้าเคร่งเครียด
“เกิดอะไรขึ้น”
“คุณชายบุริศร์ มีคนช่วยดร.ฐานทัตไปแล้ว”
เรื่องนี้บุริศร์คาดไว้อยู่แล้ว
เขาถามเสียงเย็น “คนที่ตามไปล่ะ”
“ตามไปแล้วครับ เดิมทีนภดลคิดจะนำทีมไปตามเอง แต่ผมกลัวว่าอีกฝ่ายจะลักพาตัวนภดลไปด้วย ก็เลยห้ามไว้ ตอนนี้คนของกิมจิกำลังตามไปครับ”
คำพูดของชัยยศทำให้บุริศร์ตะลึง
“กิมจิหรือ”
“ครับ เพิ่งถึง นภดลเป็นคนติดต่อ วางแผนจะรวมอาณาจักรรัตติกาลเก่าเข้าด้วยกัน”
ชัยยศคิดว่าบุริศร์รู้เรื่องนี้ แต่ตอนนี้ดูท่าทางแล้วบุริศร์ยังไม่รู้ เขารีบอธิบาย
บุริศร์ไม่ได้รู้สึกอะไร เพียงแต่ถามขึ้น “คนของนภดลล่ะ”
“ไปห้องทดลองครับ”
“เขาไปห้องทดลองทำอะไร”
บุริศร์แปลกใจ
ชัยยศส่ายหน้า
ความวุ่นวายข้างนอกหยุดแล้ว แต่ทั้งเมืองชลธียังวุ่นวาย เสียงรถตำรวจดังเข้ามา ทุกที่มีเสียงปฏิบัติการ
บุริศร์ถูกชัยยศเข็นรถพามาที่ห้องทดลอง
นภดลกำลังอ่านข้อมูล ขมวดคิ้วแน่น เมื่อเห็นบุริศร์มาก็อดชะงักไม่ได้
“ประธานบุริศร์ ทำไมมาถึงนี่ละครับ”
“นายกำลังทำอะไร”
บุริศร์ดึงรายงานข้อมูลมาจากในมือนภดล มองดูแวบหนึ่ง ก็เห็นว่าเป็นข้อมูลใหม่ล่าสุดที่จณัตว์ส่งมาก
บุริศร์อ่านข้อมูลไม่เข้าใจ แต่เห็นสีหน้านภดลไม่สู้ดี ก็อดถามไม่ได้ “นายอ่านเข้าใจหรือ”
“ไม่เข้าใจครับ แต่พอจะเข้าใจข้อมูลพวกนี้บ้าง”
นภดลใช้ปากกาวงข้อมูลสองสามจุด บุริศร์ถึงเห็นว่าตัวเลขสูงขึ้นเรื่อยๆ
“มีปัญหาอะไรเหรอ”
“ไม่แน่ใจครับ แต่ผมคิดว่าดร.ฐานทัตน่าจะรู้ ก่อนเขาไปได้มาที่นี่ ของพวกนี้ไม่ได้เอาไป แต่น่าจะเห็นแล้ว”
คำพูดของนภดลทำให้บุริศร์หรี่ตาลง
“นายหมายความว่าอีกฝ่ายน่าจะเกี่ยวข้องกับประเทศFงั้นหรือ”
“ก็เป็นไปได้ ในเมื่อสมชัยกับฉัตรพลแต่แรกก็โน้มน้าวจณัตว์มาตลอดไม่ใช่หรือ เป้าหมายที่พวกเขาดึงเขามาเป็นพวกไม่ใช่เพื่อศึกษาเรื่องทหารหรือ ตอนนี้ถ้าหากเพิ่มเรื่องเลือดของผมเข้าไป ไม่แน่อาจจะสนใจมากขึ้น”
ตอนนี้นภดลพูดเหมือนกำลังพูดถึงคนอื่น ทำให้บุริศร์รู้สึกแปลกใจ
“นายไม่กังวลตัวเองจะเป็นอะไรหรือไง”
“มีปัญหาก็ยังมีพวกคุณไม่ใช่หรือครับ”
คำตอบของนภดลที่เหมือนเป็นเรื่องปกตินั้นแฝงด้วยความเชื่อมั่นไม่น้อย นี่เป็นเรื่องที่บุริศร์คาดไม่ถึง นี่เท่ากับมอบทุกอย่างของตัวเองให้กับเขาและนรมน
เขาเห็นพวกเขาเป็นเหมือนญาติสนิท
ดวงตาบุริศร์อุ่นนิดๆ
“จริงสิ นายยังมีพวกเรา ไม่ว่าเมื่อไหร่ ไม่ว่านายจะเป็นยังไง พวกเราจะไม่ทิ้งนาย”
“ขอบคุณครับ”
นภดลคลี่ยิ้ม ดวงตาสีน้ำเงินเข้มราวกับดวงดาวงดงาม ส่องแสงประกาย
“กลับกันก่อนเถอะ เดี๋ยวพวกนรมนจะเป็นห่วง”
“ก็ดี”
นภดลนึกถึงปาณี บุริศร์ก็นึกถึงนรมน
พวกเขากลับมาถึงห้อง ก็เห็นนรมนสีหน้าซีดเซียว บุริศร์ก็ใจเต้นเร็ว
“เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่เป็นอะไรค่ะ เพราะปัจจัยภายนอกกระทบกระเทือน คุณนายอารมณ์ไม่คงที่ ก็เลยเลือดไหนนิดหน่อย ฉันห้ามเลือดแล้ว ไม่ต้องกังวลค่ะ”
มิลินรีบอธิบาย
นรมนมองบุริศร์ค่อนข้างกลัว กระซิบ “ฉันเป็นห่วงพวกคุณ ก็เลยอยากออกไปดู ฉันสาบานได้ไม่ได้ขยับเลย”
เห็นนรมนเป็นอย่างนี้ บุริศร์จะตำหนิเธอได้อย่างไร
เขาถอนหายใจ “มีคนมาช่วยดร.ฐานทัตไปแล้ว ขนมาทัพใหญ่ขนาดนี้ อีกฝ่ายต้องไม่ธรรมดาแน่ เพียงแต่พวกเราไม่รู้ว่าใครก็เท่านั้น นภดลสงสัยจะเกี่ยวข้องกับประเทศF ผมจะให้พวกจณัตว์ระวังหน่อย ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วง และก็รู้ด้วยคุณอยู่เฉยไม่ได้ ลำบากคุณแล้ว”
บุริศร์นอกจากจะไม่บ่นนรมน กลับรู้สึกสงสาร นี่ทำให้นรมนเขินอาย
“โอ๊ย คนอยู่กันเยอะแยะ คุณอย่าประเจิดประเจ้อ”
นภดลกับปาณีรู้สึกเก้อเขิน ชัยยศก็รีบเผ่นไปแล้ว
ปาณีมองนภดลแวบหนึ่ง นภดลกุมมือ พูดเสียงเบา “ประธานบุริศร์ คุณนาย พวกเราขอตัวนะครับ”
“อึม”
บุริศร์พยักหน้า
ในห้องเหลือแค่นรมนกับบุริศร์สองคนแล้ว เขาเดินมาตรงหน้านรมน ลูบท้องเธอ พูดเสียงแผ่วเบา “เสียใจมั้ย ถ้าคุณเสียใจ ตอนนี้ยังทัน”
“ไม่ค่ะ”
นรมนตีหลังมือบุริศร์ พูดอย่างเคืองๆ “อย่าคิดทำอะไรลูกฉัน ฉันรับรองจะคลอดเด็กออกมาอย่างปลอดภัยค่ะ”
บุริศร์เห็นท่าทางนรมนปกป้องลูก ก็อดยิ้มไม่ได้ แต่ก็รู้สึกสงสาร
“ถ้าตอนนี้คุณไม่ท้อง บางทีพวกเราคงจะไปประเทศFกำจัดพวกสมชัยแล้ว”
“คุณอย่าชักจูงฉัน ตอนนี้ต่อให้คุณพูดอะไรฉันก็จะไม่ยอมทิ้งเด็ก”
นรมนถลึงตาใส่บุริศร์ เธอรู้ดีบุริศร์เป็นห่วงสุขภาพของเธอ แต่ความถือมั่นนี้ไม่อาจปล่อยวางได้ง่ายๆ
เห็นนรมนยืนกรานเช่นนี้ บุริศร์ก็ได้แต่ถอนหายใจ พูดยิ้มๆ “วางใจเถอะ นอกจากดร.ฐานทัตหนีไปได้ ไม่มีใครบาดเจ็บ และไม่มีความเสียหายร้ายแรงอะไร คนของเราติดตามไปแล้ว อีกไม่นานคงจะมีข่าวคราว”
“หวังว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะจบเร็วๆ พวกเราจะได้ใช้ชีวิตกันสงบๆ เสียที”
นรมนพูดเช่นนี้ทำให้บุริศร์รู้สึกเช่นเดียวกัน
“จะต้องเป็นอย่างนั้น ผมเชื่อว่าอีกไม่นานแล้ว”
สองคนกุมมือกันแน่น
ปาณีถูกนภดลกุมมือลากออกมาจากห้องนรมนแล้ว ก็ย่นคิ้วนิดหนึ่ง พาปาณีไปห้องตัวเอง
นี่เป็นครั้งแรกที่ปาณีมาห้องของนภดล ก็อดไม่ได้ที่จะทำตัวไม่ถูก
“คุณพาฉันมาห้องคุณทำไมคะ”
“ทายา”
นภดลพูดจบก็หากล่องยาออกมา หยิบไอโอดีนกับยาฆ่าเชื้อออกมา สายตามองหลังมือปาณีที่แดง
ปาณีอึ้งไป เขาสังเกตเห็นแผลเล็กๆ แค่นี้หรือ
“ฉันทาเองก็ได้ค่ะ”
“นั่งลง”
นภดลให้ปาณีนั่งลง
เขาทายาให้ปาณีเบามือ ปาณีมองท่าทางตั้งอกตั้งใจในใจก็รู้สึกอบอุ่น
ผู้ชายคนนี้แม้จะแมนๆ ไปหน่อย แต่ก็รู้จักดูแลคนอื่น ยิ่งทำให้รู้สึกอบอุ่น
ปาณีเม้มริมฝีปาก ขณะที่มีความสุขกับช่วงเวลานี้ก็ได้ยินนภดลจู่ๆ พูดขึ้น “ปาณี ผมมีเรื่องจะพูดกับคุณ”
“คะ”
ปาณีคิดว่าเขาจะพูดเรื่องพวกเขาสองคน กลับเห็นนภดลเงยหน้าขึ้น พูดจริงจังมาก “ผมจะไปประเทศF