แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1505 ภรรยา ผมกลับมาแล้ว

บทที่ 1505 ภรรยา ผมกลับมาแล้ว

เสียง “ติ๊ง” ดังขึ้น บุริศร์เพิ่งจะกดเปิดไฟล์ คอมพิวเตอร์ก็ส่งเสียงเตือนออกมา ตามมาด้วยเสียงร้อนรนของกานต์ที่ลอยมาจากด้านนั้น

“คุณบุริศร์ ไฟล์นี้มีระบบทำลายตัวเอง แด๊ดดี้มีเวลาแค่ 25 วินาที หลังจาก 25 วินาทีไฟล์จะทำลายตัวเองโดยอัตโนมัติ ถึงขั้นที่คอมพิวเตอร์ของแด๊ดดี้ก็อาจจะรักษาเอาไว้ไม่ได้”

ได้ยินที่กานต์พูด สีหน้าของบุริศร์จึงเปลี่ยนไป

จณัตว์ใจเต้นตึกตัก

ไฟล์สำคัญอะไรไม่นึกว่าจะติดตั้งระบบทำลายตัวเองเอาไว้ด้วย?

และไฟล์นี้เกี่ยวข้องกับเขา ดังนั้น……

จณัตว์ประหม่าสุดๆ

แต่บุริศร์กลับไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว ถือโอกาสในช่วงสิบกว่าวินาทีสุดท้ายนี้คัดลอกไฟล์แล้วย้ายออกมาอย่างรวดเร็ว

ตอนที่1%สุดท้ายเกือบจะเสร็จสมบูรณ์ เสียง “บึ้ม” ก็ดังขึ้น คอมพิวเตอร์ตรงหน้าของบุริศร์ระเบิด

ในช่วงเวลาเสี่ยงตายจณัตว์ได้ปกป้องบุริศร์เอาไว้ ทั้งสองคนพุ่งตัวล้มลงไปที่พื้นด้วยกัน จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ

“กานต์ ลูกเป็นไงบ้าง?”

บุริศร์รีบโทรหากานต์

กานต์ตอบในทันที: “ผมไม่เป็นไรครับ”

ใจของบุริศร์จึงคลายกังวลลงได้

เพราะคอมพิวเตอร์ระเบิด ระบบป้องกันจึงเปิดเองอัตโนมัติ ทำให้เสียงเตือนดังขึ้นทั่วทุกที่

จณัตว์ฝืนยิ้มพูดขึ้น: “ซวยแล้ว คุณลุงต้องฆ่าพวกเราแน่ๆ”

“ไม่นะ เขาจะฆ่านาย แต่ไม่ฆ่าฉัน”

บุริศร์พูดจบก็ลุกขึ้นยืน

จณัตว์จึงถามด้วยความสงสัย: “หมายความว่าไง?”

บุริศร์พลางพูดพลางเดินออกไปข้างนอก: “หมายความว่านายจณัตว์อยากรุกล้ำไฟล์ที่เป็นความลับขั้นสูงสุดของประเทศ แต่สุดท้ายกลับทำให้คอมพิวเตอร์ระเบิด ส่วนฉันแค่เดินผ่านมา”

“เล่นบ้าอะไร?”

จณัตว์ตอบโต้กลับไปทันที ก็เห็นบุริศร์เปิดประตูวิ่งออกไป แล้วยังปิดประตูไว้ด้วย

“แม่ง!”

น้อยมากที่จณัตว์จะกลุ้มใจอย่างนี้ บุริศร์เขาจำไว้แล้วนะ

แปลกใจที่เมื่อกี้ตนเองซาบซึ้งขนาดนั้น สุดท้ายผู้ชายคนนี้ก็แค่คนหลอกลวง!

ตอนที่จณัตว์กำลังคิดว่าถ้าตนเองออกไปตอนนี้จะทันไหม ก็ได้ยินเสียงบุริศร์ลอยเข้ามาจากด้านนอก

“พ่อครับ เกิดอะไรขึ้น? อะไรระเบิดเหรอครับ?”

คำพูดนี้แทบทำให้จณัตว์กระอักเลือด

อะไรระเบิดเขาไม่รู้เหรอ?

มองไม่ออกเลยนะ ไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะมีความสามารถในการใส่ร้ายอย่างยอดเยี่ยม ช่างเหมือนคนถ่อยจริงๆ

ชินทรกับคิมรีบตามมา เห็นบุริศร์อยู่ด้านนอก ส่วนที่ระเบิดน่ะอยู่ในห้องของจณัตว์ เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว สีหน้าสับสน

“ให้ทุกคนปิดระบบรักษาความปลอดภัย ไม่ต้องมารวมตัวอยู่กันตรงนี้แล้ว ส่วนบุริศร์ แกเข้ามา”

ชินทรรีบออกคำสั่ง และเข้ามาในห้องพร้อมคิมกับบุริศร์

จณัตว์ยิ้มเหยเก แต่กลับถลึงตาใส่บุริศร์อย่างดุดัน

ชินทรพูดขึ้นเบาๆ: “บุริศร์ ปิดประตูด้วย”

“ครับ”

บุริศร์รีบล็อกประตูห้อง

หลังจากทุกคนนั่งลงแล้ว ชินทรจึงมองไปที่จณัตว์ แววตาที่สับสนทำให้จณัตว์ค่อนข้างรู้สึกผิด

“คุณลุง ผม……”

“รู้เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ชินทรถามออกไปตรงๆ

จณัตว์ตะลึงเล็กน้อย รู้ว่าตนเองปิดไม่อยู่แล้ว จึงพูดขึ้น: “ตอนที่ให้เลือดนภดลครับ”

ชินทรถอนหายใจพูดขึ้น: “ก็ถือว่าแกรู้สึกตัวได้ไวนะ ลุงสิกลับไม่รู้เรื่องเลยไม่นึกว่าแกจะทำเรื่องมากมายอยู่ใกล้ๆลุงขนาดนี้ ดูแล้วที่เบื้องบนให้ความสนใจแกคงมีเหตุผลจริงๆ”

คำพูดนี้ทำให้ร่างกายของจณัตว์แข็งทื่อขึ้นมาทันที

ตอนนี้เขาอ่อนไหวกับคำพูดนี้เป็นพิเศษ

ชินทรมองเขา พูดขึ้น: “อย่าเพิ่งตื่นเต้น เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่แกคิด ประเทศก็ไม่ได้วางแผนจะเลี้ยงดูแกให้กลายเป็นเครื่องมือฆ่าคน

แกเป็นลูกของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกลุง แกเกิดเรื่องอย่างนี้ เบื้องบนต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องแก แต่ก็กำลังวิจัยส่วนประกอบเลือดของแกอยู่จริงๆ ในสถานการณ์ที่ไม่ทำร้ายร่างกายของแกแต่เลี้ยงดูแกให้กลายเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อประเทศ แน่นอนว่านี่ต้องเป็นความสมัครใจของแกเอง เบื้องบนจะไม่บีบบังคับแก

เดิมทีเรื่องนี้ไม่คิดจะให้แกรู้ แต่ตอนนี้ในเมื่อพวกแกทำให้ข้อมูลความลับทำลายตัวเองไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ไม่ควรพูดอีกแล้ว อันที่จริงตั้งแต่วินาทีที่ระเบิดขึ้นมา บนโลกนี้ก็ไม่มีร่องรอยใดๆที่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับเลือดของแกอีกต่อไป”

พูดจบ ชินทรก็มองบุริศร์ สายตานั้นทำให้บุริศร์ทำตัวไม่ถูก

เมื่อกี้ท่านพ่อตาพูดว่าพวกแก ไม่ใช่จณัตว์คนเดียว นั่นแสดงว่าในใจของชินทรชัดเจนดี เรื่องนี้เขาก็มีส่วนร่วมด้วย

มันแปลกที่เขาวิ่งออกไปข้างนอกโดยที่คิดว่าตนเองฉลาด

บุริศร์พูดขึ้นด้วยความเคอะเขิน: “พ่อครับ ผมก็กลัวจณัตว์จะฟุ้งซ่านก็เลย……”

“บุกรุกเข้าไปในระบบความปลอดภัยระหว่างประเทศ ความกล้าหาญของแกนี่มันมากขึ้นเรื่อยๆเลยนะ”

ชินทรมองเขา ถึงจะไม่ได้ต่อว่า แต่น้ำเสียงค่อนข้างเข้มงวด

บุริศร์ยอมรับผิดทันที “พ่อครับ ผมยอมรับผิดแล้วครับ”

ประธานบุริศร์หนึ่งในสี่คุณชายผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองชลธี เมื่ออยู่ต่อหน้าชินทรก็ราวกับเด็กที่จำนนต่อความผิด ทำให้จณัตว์อารมณ์ดีขึ้นเยอะเลย

“นายคิดว่าตัวเองฉลาดแล้ว ฉันรู้ว่าความสามารถเอง นายเป็นอัจฉริยะคอมพิวเตอร์เรื่องนี้ทั้งเขตทหารไม่มีใครไม่รู้หรอก นอกจากนายแล้วแค่ฉันเองจะเข้าไปในระบบรักษาความปลอดภัยได้งั้นเหรอ? ทำไมไม่ลองคิดดูบ้างล่ะ?”

ในที่สุดจณัตว์ก็ได้โอกาสถากถางบุริศร์แล้ว

บุริศร์ชำเลืองมองเขาอย่างเย็นชา ช่างเถอะ เขาไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับคนโง่

เห็นสายตาเหยียดหยามของบุริศร์ จู่ๆจณัตว์ก็อยากต่อยคนขึ้นมา

ชินทรเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาสองคน จึงคลายกังวลลงได้

บุริศร์ก็ทำเพื่อจณัตว์ เขาจะตำหนิอะไรได้อีกล่ะ?

“เอาเถอะ วันนี้วุ่นวายกันมาค่อนคืนแล้ว พวกแกก็ไม่กลัวเหนื่อยกันเลยนะ เก็บกวาดที่นี่ให้เรียบร้อยแล้วรีบๆไปพักผ่อนซะ บุริศร์ เรื่องพวกนี้แกไม่ต้องบอกให้นรมนรู้นะ เธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”

“ครับ”

บุริศร์พยักหน้า

ชินทรมองจณัตว์ พูดอย่างชัดเจน: “จณัตว์ แกเป็นลูกหลานของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ถึงคำสั่งสอนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะให้ถือว่าประเทศเป็นครอบครัวของตนเอง

แต่ถ้ามีคนทำร้ายหรือคุกคามแกจริงๆ ต่อให้คนๆนั้นจะเป็นเบื้องบน คนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็จะไม่นิ่งดูดาย ดังนั้นไม่ต้องกังวลเกินไป สุขภาพของแกแข็งแรงดี เพียงแค่ตอนนี้เลือดเปลี่ยนเป็นกรุ๊ปเลือดหายาก ไม่ได้มีผลกระทบต่อร่างกายของแก บางทีถ้าแกมีลูก กรุ๊ปเลือดที่หายากของแกก็จะแผ่ขยายออกไป กลายเป็นกรุ๊ปเลือดชนิดหนึ่งที่บันทึกข้อมูลเอาไว้ แกกับนภดลไม่เหมือนกัน เรื่องปีนั้นต่อให้ฉันบอกแกมันก็ไม่เกิดอะไรขึ้น”

ชินทรพูดเรื่องของจณัตว์ออกมา

บุริศร์ฟังแล้วรู้สึกว่าสมชัยนี่มันไม่ใช่คนจริงๆ ถ้าไม่ใช่ว่าตอนนี้ตายไปแล้ว เขายังอยากให้สมชัยได้สัมผัสความรู้สึกที่โดนเป็นหนูทดลองจริงๆว่าจะเป็นยังไง

นี่เองจณัตว์ถึงได้รู้ความลับของร่างกายตนเอง

“งั้นจะบอกว่าน้ำยาทดลองนั้นกับพิษในร่างกายของผมมีสภาวะเป็นกลางแล้วเหรอครับ?”

“ตามนั้นแหละ”

แววตาของจณัตว์ประกายความดีอกดีใจออกมาเล็กน้อย

“งั้นส่วนประกอบในเลือดของนภดลก็สามารถควบคุมให้เป็นกลางได้ใช่ไหมครับ? เลือดของผมก็ได้ผล แต่เพราะปริมาณน้อย จึงไม่เพียงพอที่จะทำให้อาการคลุ้มคลั่งของเขาเป็นกลางได้ แต่กลับทำให้เขาหลับสนิท งั้นถ้ารู้ว่าปีนั้นผมโดนพิษอะไรก็จะวิจัยสิ่งที่ยับยั้งหรือทำให้อาการคลุ้มคลั่งในร่างกายของนภดลเป็นกลางลงได้ใช่ไหมครับ?”

พูดถึงสิ่งที่ตนเองเชี่ยวชาญ จณัตว์จึงตื่นเต้นมาก

ชินทรยิ้มพูดขึ้น: “เรื่องนี้แกคงต้องไปถามพ่อแกเองนะ”

“หมายความว่าไงครับ?”

จณัตว์ชะงักเล็กน้อย แล้วเข้าใจในทันที

เริ่มแรกสมชัยวางยาพิษบุญทิวา และเพราะนงลักษณ์กับบุญทิวามีความสัมพันธ์กันจนมีลูก จึงทำให้พิษถ่ายทอดมาที่ทายาท ดังนั้นก็บอกได้ว่า……

“ตอนนี้ในร่างกายของพ่อผมยังมีพิษประเภทนี้อยู่ใช่ไหมครับ?”

“น่าจะใช่ ลุงได้ยินมาว่าสุขภาพของเขาแย่มาก รักษาตัวอยู่ที่เมืองหลวงตลอด แต่ได้ผลน้อยมาก อีกอย่างจิตใจของพ่อแกก็โดนทำร้ายด้วย ระยะนี้พวกเขามุ่งเน้นไปที่การผ่อนคลายความเครียดในใจ ส่วนด้านสุขภาพคาดว่าแกคงต้องไปดูเอาเอง”

ได้ยินชินทรพูดอย่างนี้ จู่ๆจณัตว์ก็ค่อนข้างเสียใจ

ชีวิตนี้ของพ่อแม่ขรุขระมากเกินไป เขาในฐานะที่เป็นลูกชายกลับช่วยเหลือได้น้อยมากๆ

“แต่ด้านนี้……”

“ด้านนี้มีลุงกับคุณป้าของแก แกกับบุริศร์นรมนกลับเมืองหลวงไปเถอะ อีกอย่างพวกลุงอยู่ที่นี่สัมผัสไม่ถึงโลกภายนอกจริงๆ เรื่องมากมายยังต้องการให้พวกแกไปค้นหา เช่นตัวตนของยายพวกแก แล้วก็ตำแหน่งที่อยู่ของนิวัฒน์”

ชินทรถอนหายใจ: “ถึงพวกเราจะวางแผนสร้างกับดักไว้แล้ว แต่จนกระทั่งวันนี้นอกจากนิวัฒน์จะส่งกองกำลังหลายกลุ่มมาสืบเสาะหาที่อยู่ของนภดล แต่ก็ยังไม่ได้เข้ามาถึงภายในอาณาเขตสำคัญของป่าดำ ทั้งยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้น

ลุงคิดว่าถ้าไม่ใช่เขารู้สึกถึงแผนการของพวกเรา ก็คงมีเรื่องอื่นที่ทำให้เขาลงมือไม่สะดวก ที่ลุงนี่ไม่ได้มีสัญญาณตลอด ทั้งยังมีการปิดกั้นอีกด้วย เพื่อป้องกันเผ่าพันธุ์ที่เปลี่ยนไปพวกนั้น ที่นี่ไม่ควรโดนใครบุกรุกและพบเข้า ดังนั้นมีเรื่องราวมากมายที่ต้องจัดการแต่กำลังไม่เพียงพอ หลังจากพวกแกออกไปก็ตรวจสอบดูหน่อยสองวันนี้มีข่าวรอบโลกอะไรที่สำคัญๆบ้าง บางทีอาจจะมีเบาะแส”

บุริศร์ฟังถึงตรงนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะถาม: “พ่อแม่ครับ พวกคุณไม่กลับไปกับพวกเราเหรอ?”

“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา รอหลังจากเรื่องนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วพวกเราจะกลับไป ตอนนี้หน้าที่ของพวกเราคือปกป้องที่นี่ ดังนั้นทั้งหมดนี้ต้องไหว้วานพวกแกแล้วนะ”

จณัตว์พยักหน้า

บุริศร์พาชินทรกับคิมกลับไปที่ห้อง ได้ยินคิมพูด: “บุริศร์ แม่รู้ว่านรมนอยู่ข้างกายลูกๆก็จะปกป้องเธอได้อย่างดี แต่ตอนนี้ร่างกายเธอหนัก บางครั้งอารมณ์ไม่ค่อยดี ลูกอย่าคิดเล็กคิดน้อยกับเธอเลยนะ”

“ไม่หรอกครับ แม่ จริงๆนรมนไม่ต้องได้รับความลำบากอย่างนี้ มันเป็นเพราะผมทั้งนั้น” บุริศร์แค่นึกถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกปวดใจแล้ว

คิมยิ้ม: “ผู้หญิงคนหนึ่งที่สมัครใจจะมีลูกและอบรมเลี้ยงดูลูกให้ผู้ชายคนหนึ่ง นั่นแสดงว่าผู้หญิงคนนี้รักผู้ชายคนนี้สุดหัวใจ แม่รู้ว่าลูกก็ดีกับนรมน แค่หวังว่าวันเวลาที่เหลืออยู่ของพวกลูกจะราบรื่น ปลอดภัยก็พอแล้ว”

“ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วครับ”

บุริศร์ยิ้ม แล้วออกไปจากห้องของชินทร

เขาไม่เคยร้อนรนอยากเจอนรมนอย่างวินาทีนี้เลย

ยิ่งผ่านอะไรมามาก ก็ยิ่งทะนุถนอมความรู้สึกของกันและกัน นี่ชาติก่อนจับมือกันผ่านเรื่องราวต่างๆไปกี่รอบกันแน่ ถึงทำให้ชีวิตนี้ถึงจะล้มลุกคลุกคลานแต่ก็ยังคงรักสุดหัวใจ?

บุริศร์แทบจะรอกลับไปที่ห้องนอนไม่ไหว ตอนที่เขาเห็นนรมนนั่งถือหนังสือบำรุงร่างกายอยู่ที่หน้าเตียง ความรู้สึกกังวลไม่สบายใจทั้งหมดของเขาก็สลายหายไป ในใจสงบเป็นพิเศษ

“ภรรยา ผมกลับมาแล้ว”

บุริศร์พูดขึ้นเบาๆ แล้วเดินเข้าไปกอดนรมนเอาไว้ กลิ่นเฉพาะตัวจางๆทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างมีความสุข

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท