แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1502 ไอ้คนหน้าไม่อาย

บทที่ 1502 ไอ้คนหน้าไม่อาย

“นภดล!”

ด้วยสถานการณ์ที่เร่งด่วนบุริศร์จึงตะโกนออกมา แต่ร่างกายกลับไม่กล้าอืดอาด รีบหลบไปด้านข้างทันที

ร่างของนภดลชะงักเล็กน้อย ดวงตาที่แดงก่ำคู่นั้นจ้องไปที่บุริศร์เหม่อลอยไปเพียงชั่วครู่ แล้วโจมตีไปที่บุริศร์อย่างรวดเร็วอีกครั้ง

คิมกับชินทรตามเข้ามาแล้ว ตอนที่เห็นนภดลกับบุริศร์กำลังประมือกันก็ตกใจเล็กน้อย ชินทรจึงพูดขึ้นทันที: “เข้าไปดึงดูดความสนใจของนภดล ปกป้องบุริศร์ให้ดี”

คนรอบๆข้างรีบตามขึ้น ความกดดันของบุริศร์จึงลดลง

ชินทรถือโอกาสดึงตัวของบุริศร์ออกมา

“พ่อครับ——”

บุริศร์สีหน้าสับสน ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร สถานการณ์ก็นอกเหนือจากที่เขาจะพูดอะไรได้ นภดลแรงเยอะมาก จัดการคนพวกนี้จนกระเด็นออกไปหมด

ในตอนนี้เอง ไม่รู้ว่าจณัตว์ออกมาจากไหน ในมือกำลังถือเข็มฉีดยา กระโจนเข้าไปที่ด้านหลังของนภดลอย่างรวดเร็ว แล้วแทงเข็มฉีดยาไปที่เขาทันที

“อ๊าก——”

นภดลร้องออกมาอย่างคลุ้มคลั่งราวกับสัตว์ร้าย เตะจณัตว์กระเด็นออกไป ดวงตาที่แดงก่ำมากขึ้นทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว

บุริศร์ใจเต้นตึกตัก ไม่ทันคิดแล้วว่าทำไมจณัตว์ก็อยู่ที่นี่ อดไม่ได้ที่จะเข้าไปช่วย แต่กลับเห็นนภดลโซเซอยู่ชั่วครู่ แล้วล้มลงไปบนพื้น ทั้งยังหลับตาอีกด้วย

ตอนนี้ทุกคนจึงคลายกังวลลงได้

บุริศร์ค่อนข้างงุนงง แต่กลับได้ยินจณัตว์ตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด: “น้องเขย นายมาช่วยพยุงฉันหน่อย โอ้ย ซี่โครงฉันแทบหัก”

ได้ยินอย่างนี้ บุริศร์จึงยกมุมปากเล็กน้อย

ถ้าซี่โครงหักจริงๆเสียงเขาจะเป็นอย่างตอนนี้เหรอ?

บุริศร์เดินเข้าไป ดึงจณัตว์ขึ้นมา เห็นบนมือของเขามีบาดแผลไม่น้อยเลย จึงอดไม่ได้ที่จะชะงักเล็กน้อย

“นายไม่มีอะไรทำก็เลยเจาะเลือดตนเองเล่นงั้นเหรอ?”

“นายคิดว่าฉันเหมือนนายหรือไง? ฉันไม่ทรมานตัวเองหรอกนะ”

จณัตว์ปัดๆเศษดินบนร่างกาย พูดขึ้น: “ฉันเจาะเลือดเพื่อให้เลือดกับนภดล กรุ๊ปเลือดของฉันกับเขาตรงกันพอดี ของคนอื่นๆใช้ไม่ได้”

พูดถึงนภดล แววตาของบุริศร์ก็ลุ่มลึกขึ้นเล็กน้อย

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ไหนบอกว่าเขาไม่มีอาการคลุ้มคลั่งไม่ใช่เหรอ?”

“ถ้าไม่พูดอย่างนี้ นรมนจะสบายใจไหมล่ะ?”

จณัตว์ถอนหายใจ แต่กลับทำให้บุริศร์เข้าใจอะไรขึ้นมาแล้ว

ชินทรกับคิมพวกเขาสั่งคนให้พานภดลเข้ามาในห้องทดลองชั้นใต้ดิน บุริศร์ก็ตามไปด้วย

ประตูห้องทดลองของที่นี่เป็นกระจกที่ป้องกันการแตกกระจายทั้งหมด แต่บุริศร์กลับพบว่าตอนนี้มีประตูบานหนึ่งที่โดนเตะจนเปลี่ยนรูปทรงไปแล้ว ไม่แปลกใจสักนิด ที่นภดลเป็นคนทำทั้งหมด

ดูแล้วพละกำลังการทำลายล้างกับพละกำลังในการฆ่าคนของนภดลรุนแรงเกินไป

ไม่ง่ายเลยกว่าที่นภดลจะสงบลง เมื่อรอบๆด้านเชื่อมต่อระบบความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ทุกคนจึงคลายกังวลลงได้

เห็นนภดลโดนขังอยู่ที่นี่ราวกับเป็นตัวอันตราย ในใจของบุริศร์ก็กลัดกลุ้ม เขารู้ ถ้านรมนเห็นล่ะก็ คงจะยิ่งเสียใจ วินาทีนี้เขาจึงเข้าใจพวกชินทรแล้วว่าทำไมถึงต้องปิดบังนรมนเรื่องนี้ด้วย

“ปกปิดความจริงไม่ได้หรอกครับ ช้าเร็วนรมนก็ต้องรู้”

คำพูดของบุริศร์ทำให้ทุกคนเงียบกันหมด

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เซลล์ในร่างกายของนภดลไม่ควรคลุ้มคลั่งขึ้นมาเร็วขนาดนี้ไม่ใช่เหรอครับ?”

ก่อนหน้านี้บุริศร์เชื่อคำพูดของพวกเขาจริงๆ ตอนนี้เห็นสภาพของนภดลเป็นเช่นนี้ เขาจึงเป็นกังวลมาก

คิมให้บุริศร์นั่งลงก่อน แล้วให้คนไปรินน้ำมาแก้วหนึ่ง ชินทรมองบุริศร์ พูดขึ้นเบาๆ: “เดิมทีน่าจะไม่มีปัญหา แต่……”

เห็นชินทรหยุดพูด จณัตว์จึงพูดต่อ

“ผมพูดเองครับ ในห้องทดลองการทหารที่ประเทศF นภดลไม่มีอาการคลุ้มคลั่งจริงๆ ทุกอย่างเหมือนกับที่พวกเราบอกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นแผนวางกับดักอย่างหนึ่ง แต่หลังจากเขามาที่นี่กลับคลุ้มคลั่งขึ้นมา ทั้งยังมีอาการอย่างรวดเร็วจนรับมือไม่ทัน”

ได้ยินจณัตว์พูดอย่างนี้ บุริศร์ก็พอจะเข้าใจอะไรบ้างแล้ว

“เป็นเพราะห้องทดลองระเบิดหรือเปล่า? สัตว์ร้ายรอบๆจึงพากันติดเชื้อไปหมด นภดลก็พลอยติดเชื้อไปด้วย?”

จณัตว์พยักหน้า

“แต่ทำไมพวกคุณถึงไม่เป็นอะไรล่ะ? นภดลกับพวกคุณไม่เหมือนกันเหรอ?”

อย่างรวดเร็วบุริศร์ก็จับจุดสำคัญได้

จณัตว์มองเขา แล้วพูดขึ้น: “เดิมทีในร่างกายของนภดลก็มียีนของสัตว์ร้ายอยู่แล้ว ฉันคิดว่าตอนแรกหลังจากที่ดร.ฐานทัตพัฒนายีนพวกนี้แล้วจะฉีดเข้าไปในร่างกายของมนุษย์ ว่ากันว่าหลังจากที่แม่ของนภดลโดนฉีดยาก็เสียสติไปเลย เอาแต่ทำร้ายตนเอง ดร.ฐานทัตจึงต้องส่งคนไปดูแลทำให้เธอคลอดนภดลได้อย่างราบรื่น

แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ ตอนที่นภดลเพิ่งคลอดออกมายังคงอาการร่อแร่ ดร.ฐานทัตจึงใช้ยาทุกชนิดเพื่อช่วยชีวิต ครึ่งปีให้หลังถึงได้มีสัญญาณชีพ ดังนั้นโลกภายนอกจึงได้พูดกันว่าเลือดของนภดลต่อให้มีเงินก็ซื้อไม่ได้แม้แต่หยดเดียว เพราะใช้พืชสมุนไพรและยาเม็ดที่มีค่าที่สุดในโลกบำรุงร่างกายให้รอดมาได้

แต่ตอนนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นสมุนไพรหรือยาตัวไหนที่มีสภาวะเป็นกลางกับยีนในร่างกายของเขากันแน่ เกรงว่าดร.ฐานทัตเองก็ยังไม่เคยวิจัยผลลัพธ์นี้ออกมา ตอนนี้ห้องทดลองระเบิด ปัจจัยด้านในกับประสิทธิภาพของยาในร่างกายของเขาที่ก่อให้เกิดการต่อต้าน ทำลายขอบเขตสภาวะความเป็นกลางนี้ไปในทันที ดังนั้นระดับความคลุ้มคลั่งในร่างกายของเขาควบคุมไม่อยู่แล้ว หมดหนทางแล้วเราถึงได้ขังเขาเอาไว้”

ได้ฟังถึงตรงนี้ แม้บุริศร์จะไม่ได้เข้าใจมาก แต่ก็เข้าใจว่าพวกเขามีความจำเป็นที่ต้องทำอย่างนี้ ส่วนที่คิมกับชินทรปิดบังพวกเขา ก็คงเป็นเพราะนรมน

อันที่จริงนรมนได้รับความช่วยเหลือจากนภดล ถ้าไม่มีนภดลก็ไม่มีนรมนในตอนนี้ ถ้าเธอรู้สถานการณ์ของนภดลในตอนนี้คงจะเป็นกังวล และเดิมทีสุขภาพของเธอก็ไม่ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะนภดลกับจณัตว์เกิดเรื่อง ตอนนี้นรมนคงจะอยู่ดูแลลูกในท้องอย่างปลอดภัยที่คฤหาสน์ตระกูลโตเล็กแล้ว

บุริศร์มองชินทรกับคิม พูดขึ้นเบาๆ: “วางใจเถอะครับ เรื่องนี้ผมจะไม่บอกนรมน แต่ก็คงปิดไว้ได้ไม่นาน”

“ปิดได้นานเท่าไหนก็เท่านั้น สุขภาพของเธอตอนนี้แม่เป็นห่วงจริงๆ”

คิมสีหน้าเจ็บปวด

ตอนที่ลูกสาวต้องการตนเองที่สุดเธอกลับไม่อยู่ข้างๆ ตอนนี้ได้อยู่ข้างๆกันแล้ว แต่กลับคุยกันตรงๆไม่ได้ ความรู้สึกอย่างนี้แย่มากจริงๆ

ชินทรจับมือของคิมเอาไว้ พูดขึ้น: “เดี๋ยวก็ผ่านไป ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”

พูดจบเขาก็หันไปมองจณัตว์

“จณัตว์ ลุงขอร้องล่ะแกต้องช่วยนภดลให้ได้นะ”

จณัตว์ชะงักเล็กน้อย

ชินทรเป็นทหาร ทั้งยังฉลาดเฉียบแหลมวิสัยทัศน์กว้างไกลอีกด้วย เขารู้ดีกว่าใครทั้งนั้นว่าความอันตรายของนภดลรุนแรงขนาดไหน ถ้าโดนคนตั้งใจหลอกใช้ นภดลก็เป็นเครื่องเก็บเกี่ยวชีวิตดีๆนี่เอง ตามหลักความเฉียบแหลมของชินทรแล้วตอนที่ไม่มีทางเลือกควรจะบอกให้ทำลายนภดลไม่ใช่เหรอ?

ถึงทำอย่างนี้จะไร้มนุษยธรรมมาก แต่มองจากสถานการณ์ทั้งหมดแล้วก็ไม่ได้ผิดนี่นา ด้วยท่าทีแปลกๆที่ชินทรมีต่อนภดล ต่อให้ออกคำสั่งอย่างนี้ก็ไม่มีความผิดจนจะเป็นที่วิจารณ์อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?

แต่ตอนนี้ชินทรกลับบอกว่าต้องรักษานภดลให้ได้ เป็นเพราะนรมนงั้นเหรอ?

ไม่ใช่สิ!

ต่อให้มีบุญคุณกับนรมน ชินทรก็ไม่ควรเสี่ยงเก็บนภดลเอาไว้เพื่อให้ทุกคนอยู่กับความอันตราย หรือตอนนี้ยังมีเรื่องอะไรที่ปกปิดเอาไว้อีก?

“คุณลุงครับ ผมไม่กล้ารับปาก ถ้าหมดหนทางจริงๆ พวกเราคงทำได้เพียง……”

“ไม่ได้!”

จู่ๆชินทรก็ตะโกนออกมาด้วยเสียงเย็นยะเยือก ทำให้จณัตว์ตกอกตกใจ

“คุณลุง มันก็เป็นวิธีที่หมดทางเลือกนะครับ”

เขาไม่เชื่อว่าจะบังคับให้ชินทรพูดความในใจออกมาไม่ได้

ในใจของชินทรมีความลับ และความลับนี้เกี่ยวกับนภดล นี่เป็นลางสังหรณ์ของจณัตว์ แต่ความลับที่ทำให้ชินทรอดกลั้นเอาไว้ไม่ยอมพูดออกมาคืออะไรกันแน่?

ตอนนี้ทำได้เพียงบีบบังคับเขาอย่างหมดหนทาง

ชินทรมองจณัตว์ ราวกับมีอะไรอยากพูด แต่สุดท้ายแล้วยังคงอดกลั้นเอาไว้

“ไม่ว่าจะต้องสูญเสียอะไรไป ฉันก็จะไม่ยอมให้นภดลเกิดเรื่องทั้งนั้น”

“ถึงจะรวมชีวิตของทุกคนไปด้วยงั้นเหรอครับ?”

จณัตว์ก้าวเข้าไปใกล้ๆ สายตาที่แข็งกร้าวทำให้ชินทรไม่ค่อยอยากสบตา

เขาหันไป พูดอย่างเย็นชา: “ถึงต้องสูญเสียทั้งหมด ก็ต้องรักษานภดลเอาไว้ให้ได้”

คำพูดนี้ทำให้จณัตว์กับบุริศร์ตะลึงไปตามๆกัน

จณัตว์มองชินทร

นี่คือคุณลุงของเขา เป็นญาติของเขา เป็นพี่ชายของพ่อที่หน้าตาเหมือนกันมากๆ แต่ทำไมตอนนี้เขามองแล้วกลับรู้สึกแปลกหน้าอย่างนั้นล่ะ?

นี่ชินทรก็เกิดความสนใจในวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับพันธุกรรมเหรอ? เขาอยากจะกลายเป็นเชษฐ์คนที่สองงั้นเหรอ?

หรือจะบอกว่าเขาก็อยากครอบครองนภดลไว้เป็นของตนเอง?

ตอนที่ความคิดอย่างนี้แล่นเข้าไปในหัวของจณัตว์ จู่ๆสีหน้าของเขาก็ซีดลงเล็กน้อย ร่างกายก็ถอยหลังไปอย่างควบคุมไม่ได้

บุริศร์ประคองเขาอยู่ที่ด้านหลัง พูดขึ้นเบาๆ: “ถึงยังไงก็เป็นถึงพันตรี ควบคุมอารมณ์หน่อยได้ไหม?”

จณัตว์ถลึงตาใส่เขา อารมณ์ไม่ดีเอามากๆ

เขายังอยากพูดอะไรอีก แต่กลับโดนบุริศร์ดึงเอาไว้

“นรมนคงจะใกล้ตื่นแล้ว สุขภาพของเธอไม่ค่อยดี ที่นายมียาบำรุงอะไรบ้างไหม? ขอให้ฉันสักสองเม็ดสิ”

คำพูดของบุริศร์ยิ่งทำให้จณัตว์โมโห

“นายคิดว่าฉันเป็นที่ซื้อยาหรือไง? ถึงจะได้พกยาบำรุงติดตัว?”

“งั้นนายทำให้ฉันสองเม็ดสิ นายก็ไม่ใช่ว่าไม่มีวัตถุดิบนี่นา”

คำพูดนี้ของบุริศร์ทำให้จณัตว์อยากตอบโต้แต่ก็ทำไม่ได้

“ไปๆ ถึงยังไงก็เป็นน้องสาวนาย นายใส่ใจหน่อยได้ไหม? อย่างมากที่สุดลูกฉันคลอดออกมาแล้วจะให้นายยืมเล่นบ้าง”

คำพูดของบุริศร์ทำให้จณัตว์เดือดดาล

“นายหมายความว่าไง? เยาะเย้ยที่ฉันไม่มีลูกใช่ไหม? บุริศร์ฉันจะบอกให้นะ อย่าโอ้อวดว่าลูกนายเยอะ พี่ไม่ต้องการเองต่างหาก ไม่งั้นจะทารุณนายให้ตายในทุกนาทีเลย”

“ครับๆๆ นายเจ๋งสุดๆ ยอดเยี่ยม นายมีลูกได้อยู่แล้ว ทักษะนี้เดี๋ยวสอนฉันด้วยนะ ฉันก็ไม่อยากให้นรมนลำบากขนาดนั้นแล้ว”

คำพูดของบุริศร์ทำให้จณัตว์อยากเตะเขาให้กระเด็นทันที

“ฉันไม่เข้าใจเลย นรมนถูกใจนายตรงไหนกันแน่?”

“อาจจะเป็นเพราะฉันค่อนข้างหล่อมั้ง?”

คำพูดของบุริศร์ทำให้หมัดของจณัตว์ต่อยเข้าไปทันที

“นายต้องอายบ้างไหม? แต่ก่อนนิสัยเก็บตัวกับความเย็นชาของนายแสร้งทำออกมาหรือไง? ความเป็นจริงนายมันก็แค่คนหน้าไม่อาย”

ทั้งสองคนออกไปจากห้องทดลองใต้ดินแล้วต่อล้อต่อเถียงกันไปตลอดทาง

คิมมองด้านหลังของทั้งสองคนที่เดินออกไป ยิ้มมุมปากเล็กน้อย แต่ทันทีที่หันกลับมาก็เห็นชินทรกำลังจ้องมองนภดลที่หลับสนิทอยู่

แววตาของเขาร้อนผ่าว ค่อนข้างทำให้คนที่เห็นไม่เข้าใจ แต่กลับทำให้คิมเป็นห่วง

หรือที่จณัตว์พูดจะเป็นความจริง?

ชินทรอยู่บนเกาะมาหลายปี สิ่งที่ต้องเผชิญหน้าทุกวัน ได้ยินว่าล้วนแต่เป็นการวิจัยพันธุกรรม คงไม่ได้มีความคิดอื่นๆกับนภดลใช่ไหม?

นึกถึงความสัมพันธ์ของนภดลกับนรมน คิมจึงจับชินทรเอาไว้ แล้วพูดขึ้นอย่างประหม่า: “ชินทร เขาเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตลูกสาวคุณเอาไว้นะ! คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท