บุริศร์ไม่ได้สับสนเหมือนนรมน แต่สีหน้าเขากลับเคร่งขรึม
เขาพอรู้เรื่องนี้มาบ้าง
เมื่อแปดปีก่อน มีช่วงหนึ่งที่ในทะเลไม่สงบสุข ตอนนั้นธเนศพล ยังอยากหาคนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อมา จู่ๆ ในทะเลก็กลับมาสงบสุขเป็นปกติ
ตอนนั้นไม่ได้คิดอย่างละเอียด ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีคนจงใจสร้างเรื่อง
ให้คนสร้างความวุ่นวายกับเส้นทางเดินเรือตามปกติ เพื่อให้ทุกคนพุ่งเป้าไปที่เส้นทางเดินเรือของตระกูลปวนะฤทธิ์ บุริศร์ยังจำได้ ตอนนั้นคุณท่านขันธ์ชัยไปหาคริชณะด้วยตัวเอง เป็นฝ่ายพูดว่าเอาเส้นทางเดินเรือรวมอยู่ในเส้นทางความร่วมมือระดับชาติ และทุกรอบต้องแบ่งให้ประเทศ 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นความร่วมมือทางธุรกิจ จึงทำให้เส้นทางการเดินเรือของตระกูลปวนะฤทธิ์ กลับมาเป็นปกติ
ต้องชมความคิดและไหวพริบของคุณท่านขันธ์ชัย ไม่ยึดติดกับเงินทอง เป็นฝ่ายไปหาเบื้องบนด้วยตัวเอง ไม่งั้นจากสถานการณ์ตอนนั้น ถึงเบื้องบนไม่ลงมือ ตระกูลใหญ่ตระกูลอื่น ต้องบีบให้ตระกูลปวนะฤทธิ์ยอมจำนน ตระกูลปวนะฤทธิ์ไม่มีทางยอม เพราะต้องการปกป้องเส้นทางเดินเรือ ที่บรรพบุรุษรุ่นก่อนบุกเบิกมาอย่างยากลำบาก
ดูเหมือนว่าตอนนั้นทวีไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ตระกูลปวนะฤทธิ์ แต่เพื่อเส้นทางการเดินเรือ แต่เขาคิดไม่ถึงว่าคุณท่านขันธ์ชัย จะตัดสินใจไปหาเบื้องบนทันที เพราะฉะนั้นเรื่องนี้หยุดลงชั่วคราว อีกทั้งเบิร์ดไม่ใช่ตัวเลือกเดียวของพวกเขาด้วย
“ตอนนั้นนายยังมีหน้าที่อื่นหรือเปล่า ฉันถามใหม่ก็ได้ นอกจากนายติดต่อตระกูลธีรกุลภักดี ยังมีคนอื่นไหม”
“มี แต่เรื่องนี้ฉันไม่ต้องลงมือเอง คนนั้นไปทำ พวกเขาเป็นพวกลูกคนรวย ชอบรวมตัวกันดื่มกิน แค่เขาคุยกับเบิร์ด พวกลูกคนรวยก็รู้ข่าวทันที และเอาข่าวไปบอกคนในตระกูล”
พนอไม่ได้ปิดบัง
ตอนนี้เรื่องชัดเจนแล้ว ตอนนั้นทวีวางแผน ให้พนอกระจายข่าวในนั้น และให้คนสร้างความวุ่นวายในทะเล บังคับให้ไม่สามารถใช้เส้นทางเดินเรือได้ตามปกติ ดังนั้นทุกคนจึงพุ่งเป้าไปที่ตระกูลปวนะฤทธิ์
ถ้าตระกูลปวนะฤทธิ์แบกรับความกดดันไม่ไหว หรือถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา จะโดนประชาชนโจมตี จนยอมมอบเส้นทางการเดินเรือ และถอนตัวจากวงการที่อยู่มานาน ไม่แน่คนที่ได้รับผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง อาจจะเป็นทวี
แต่คุณท่านขันธ์ชัยตัดสินใจเด็ดขาด ทำเรื่องที่คนคาดไม่ถึง ทำให้แผนของพวกเขาวุ่นวาย จึงรอดจากอุปสรรคได้ ตอนนี้สินค้าของตระกูลเบิร์ดเกิดปัญหา ไม่แน่อาจเป็นฝีมือของคุณท่านขันธ์ชัย
สามารถทำให้สินค้าของตระกูลธีรกุลภักดีเกิดปัญหาได้ แต่สาวไม่ถึงตระกูลปวนะฤทธิ์ เรียกได้ว่าคุณท่านขันธ์ชัยมีความสามารถ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ บุริศร์ถอนหายใจเบาๆ แล้วถามว่า “ตอนนี้คุณท่านขันธ์ชัยอยู่ไหน”
“เราไม่รู้ เอาจริงๆ ไม่มีใครรู้เลย ตระกูลปวนะฤทธิ์ออกทะเล เขาเป็นใหญ่ในทะเล แค่ไม่ขึ้นบนบก ก็ไม่มีใครทำอะไรพวกเขาได้ คุณท่านขันธ์ชัยตัดการติดต่อจากโลกภายนอก เราทำถึงขนาดซื้อตัวคนของตระกูลปวนะฤทธิ์ วางพิษกู่ใส่พวกเขา แต่ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าคุณท่านขันธ์ชัยอยู่ไหน น่าจะยังอยู่ในทะเล”
คำพูดของพนอทำให้รู้ว่าการตายของคนใช้ตระกูลปวนะฤทธิ์ เกี่ยวข้องกับพวกเขา
“พวกนายวางพิษกู่ใส่คนของตระกูลปวนะฤทธิ์เหรอ”
“ทวีเป็นคนทำ”
ได้ยินชื่อทวีหลุดออกมาจากปากพนอเรื่อยๆ นรมนอดถามไม่ได้ว่า “ทวีเป็นใครกันแน่ จะติดต่อเขาได้ยังไง”
“เราไม่สามารถติดต่อเขาได้ เขาเป็นฝ่ายมาหาเราเอง”
พนอก็รู้สึกหดหู่ใจ
อันที่จริงเขาอยากใช้ข้อมูลจำนวนมาก แลกกับชีวิตของตัวเอง แต่บางเรื่อง เขาไม่สามารถรู้ได้จริงๆ
เขามองออกว่าตอนนี้ มีเพียงบุริศร์กับนรมน ที่จะปกป้องชีวิตเขาได้
บุริศร์ไม่พูดอะไร นรมนก็เงียบเช่นกัน บรรยากาศเงียบลง จนทำให้รู้สึกกลัวจนตัวสั่น
พนอกลัวตายมาก หรือหลังจากผ่านช่วงความเป็นความตาย ทำให้เขาอยากมีชีวิตอยู่ ทว่าตอนนี้บุริศร์กับนรมนพากันเงียบ จึงทำให้พนอกลัวมาก เขาพยายามนึกย้อน แล้วพูดว่า “บางที ฉันมีวิธีหาตัวทวี”
“หืม?”
น้ำเสียงเย็นยะเยือกของบุริศน์ ทำให้คนจิตใจวุ่นวาย
พนอรีบพูดว่า “ตอนนี้เจตต์ยังอยู่กับฉัน ฉันได้ยินว่าวันนี้ทวีจะมาเอาตัว ถ้าพวกนายอยากจับเขา พวกนายต้องรีบจัดการตอนนี้”
บุริศร์หรี่ตาลง แววตาอันแหลมคมมองไปยังพนอ
“คิดว่าเราไม่รู้เหรอว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ พนอ นายอยากเห็นฉันสู้กับทวี นายจะได้ฉวยโอกาสหนีสินะ”
ถ้าพนอพูดเรื่องนี้ ตั้งแต่ตอนที่บอกว่าเจตต์โดนขัง บางทีบุริศร์อาจคิดว่าเขาซื่อสัตย์ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้ พนอแค่อยากพึ่งพวกเขา เพื่อยื้อทวี ทำให้ตัวเองมีเวลาหนี
เมื่อคิดได้เช่นนี้ บุริศร์แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “มีเรื่องหนึ่งที่ฉันยังไม่ได้บอกนาย”
“อะไร”
จู่ๆ พนอเริ่มมีลางสังหรณ์ไม่ดี
บุริศร์ไม่สนว่าเขาจะคิดยังไง พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ถึงหนอนกู่ในร่างกายนาย โดนพวกเราเอาออกมาแล้ว แต่ไข่หนอนมีหนึ่งหรือสองตัว ไม่แน่อาจจะมีสามหรือสี่ตัว ซึ่งไม่มีใครรู้ ตัวหนึ่งเติบโตเป็นหนอน ตัวอื่นจะหยุดการเจริญเติบโตชั่วคราว ตอนนี้เราเอาหนอนกู่ออกมาตัวหนึ่ง ตอนนี้ตัวที่เหลืออาจเริ่มเจริญเติบโต เพราะฉะนั้น นายจะมีชีวิตอีกนานแค่ไหน เราไม่รู้”
เมื่อพูดออกมา สีหน้าของพนอซีดเผือด
“อะไรนะ นี่มัน……”
“ดังนั้นนายไม่ต้องมาเจรจาเงินทุนกับเรา นายช่วยเราจับตัวทวี ไม่แน่เราอาจช่วยเอาหนอนที่เหลือ ออกจากตัวนาย ไม่งั้นนายก็รอความตายเถอะ”
บุริศร์พูดจบ ก็ลุกขึ้นยืน นรมนยืนขึ้นเช่นกัน แต่พนอตะโกนด้วยความตกใจ
“ประธานบุริศร์ คุณชายบุริศร์ ช่วยฉันด้วย! ฉันไม่อยากตาย! จะให้ฉันทำอะไร ฉันยอมทุกอย่าง ช่วยฉันด้วย”
บุริศร์ไม่สนใจ และเดินออกจากห้องใต้ดิน พร้อมกับนรมน
เสียงอ้อนวอนของพนอดังอยู่ข้างหลัง นรมนออกมาเจอสีหน้าไม่สู้ดีของเบิร์ด เธอรู้ว่าเบิร์ดได้ยินทั้งหมด
“ตอนนี้ยังคิดว่าน้ำทำร้ายตระกูลธีรกุลภักดีหรือเปล่า”
คำพูดของบุริศร์ ทำให้เบิร์ดหน้าซีดเผือด 2-3 ปีมานี้น้ำทำงานเพื่อตระกูลธีรกุลภักดีโดนไม่บ่นสักคำ แต่เขากลับทำไม่ดีกับชมพูและน้ำ
เบิร์ดลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “ฉันขอเจอน้ำได้ไหม”
“นายคิดว่าไงล่ะ”
บุริศน์แสยะยิ้มเย้ยหยัน
ไม่ใช่ทุกคนที่มีโอกาสชดใช้ความผิด คำขอโทษอาจไม่ได้รับการให้อภัยทุกครั้ง โดยเฉพาะตอนนี้ ธเนศพลเห็นน้ำสองแม่ลูก เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ เบิร์ดไปตอนนี้ เท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ