“น่าจะอยู่ในคฤหาสน์ของอรรณพ”
“งั้นแสดงว่า…..”
นรมนคิดถึงคนรู้จักอย่าง น้ำ กับธเนศพล ที่อาศัยอยู่ในนั้น เธอเข้าใจทันที
“คุณชายธเนศพลพากานต์มาที่นี่! เพราะชมพูอย่างนั้นเหรอ”
“คงใช่ เพราะพวกเขาอายุเท่ากัน”
บุริศร์ขมวดคิ้ว
“ฉันจะไปรับลูกชายด้วยตัวเอง”
เมื่อนรมนรู้ว่ากานต์อยู่ที่นี่ เธอถึงกับนั่งไม่ติด คนไม่ได้เป็นแม่ คงไม่รู้หรอกว่าความทรมาน ตอนคิดถึงลูกเป็นยังไง ตอนแรกคิดว่ากานต์อยู่ ประเทศ Z แม้จะคิดถึง แต่ก็ไม่สามารถเจอได้ ตอนนี้รู้ว่าอยู่ในเมืองเดียวกัน นรมนจะอดทนได้อย่างไร
บุริศร์มองแววตาคาดหวังของนรมน เขาอดใจอ่อนไม่ได้
“โอเค เดี๋ยวผมพาคุณไปเจอเขา”
ถึงการหึงลูกชายจะไม่ดี แต่ตอนนี้บุริศร์แทบอยากจะถีบลูกชายอย่างกานต์ กลับประเทศ
จริงๆ เลย ฝึกอยู่ในประเทศดีๆ ไม่ชอบ ทำไมต้องออกมาแย่งภรรยากับเขาด้วย
ถึงบุริศร์คิดในใจเช่นนี้ แต่ก็ไม่กล้าให้นรมนรู้ ทำได้เพียงเดินออกไปกับนรมน และขับรถไปยังคฤหาสน์ของอรรณพ
บอดี้การ์ดไม่วางใจ จึงตามอยู่ไกลๆ
เมื่อนรมนกับบุริศร์ถึงหน้าคฤหาสน์ เห็นไอรา ลูกสาวของอรรณพยืนอยู่หน้าประตู โดยมีกานต์ยืนอยู่ตรงข้าม ด้วยสีหน้าไม่พอใจ ข้างหลังกานต์คือชมพู ที่ดูหวาดระแวง
จู่ๆ นรมนอยากเม้าท์ขึ้นมา
“นายว่าลูกชายเราจะเลือกใคร ฉันไม่เคยเห็นเจ้าเด็กคนนี้ปกป้องผู้หญิงคนไหน นอกจากกมล แต่ตอนนี้เขาปกป้องชมพู เขาสนใจเด็กผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า”
บุริศร์ได้ยินนรมนพูดเช่นนั้น เขาถึงกับมุมปากกระตุก
“กานต์เพิ่งเจ็ดขวบ ถ้าตอนนี้เขาชอบใคร นั่นคือป็อปปี้เลิฟ ที่รัก ความรักแบบป็อปปี้เลิฟ เป็นอะไรที่เร็วเกินไป”
นรมนโบกมือไปมา “โอ๊ย เด็กผู้ชายจะมีป๊อปปี้เลิฟ ก็มีไปสิ แต่ต้องบอกเขาว่าอย่าแตะต้องตัวผู้หญิง เรื่องอื่นพูดกันได้”
บุริศร์มุมปากกระตุกอีกครั้ง
“แล้วถ้าตอนนี้เขาชอบกมลล่ะ”
“ฉันจะตีขาเจ้าเด็กชายนั่นเอง”
นรมนพูดอย่างไม่ลังเล จู่ๆ บุริศร์เข้าใจทันที ลูกสาวและลูกชายบุญธรรม ไม่เหมือนกัน
ยังดีที่ครอบครัวของเขามีลูกชายสี่คน คอยเฝ้าลูกสาวหนึ่งคน
อืม ลูกสาวของเขา คงไม่โดนใครชิงสุกก่อนห่าม
บุริศร์คิดอยู่ในใจ แต่นรมนกลับดูอย่างเมามัน
กานต์คิ้วขมวดจนเป็นปม
เกิดมาเจ็ดขวบ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยากต่อยผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงตรงหน้า
อ้อ ไม่สิ เธอไม่ถือว่าเป็นผู้หญิง เรียกว่าเป็นสาวห้าวก็แล้วกัน
กานต์พอเดาได้ว่าเมื่อไอราโตขึ้น จะท่าทางเป็นอย่างไร
ผู้หญิงที่สามารถยกถังน้ำได้ด้วยมือเดียว สาวห้าวที่สามารถหักคอคนอื่นได้
แต่เขาไม่สนใจสาวห้าวแบบนี้
ซึ่งเรื่องน่าแปลกก็คือ เมื่อกานต์เห็นเธอ เขามักจะนึกถึงเรื่องเมื่อสองปีก่อน ที่โดนเธอมองตอนเขากำลังโป๊ เขาคิดว่าตัวเองโดนเอาเปรียบ แต่การที่ผู้ชายคิดเล็กคิดน้อยกับผู้หญิง ดูเหมือนจะใจดำเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่ชอบไอรามาก
“เธอมาทำไม”
กานต์ทนความเงียบของไอราไม่ไหว จึงชิงพูดก่อน
ว่ากันตามเหตุผล ไอราเป็นคนอารมณ์รุนแรง อรรณพโอ๋เธอมาก ยิ่งทำให้เธอไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น แต่เธอกระโดดลงจากรถ แล้ววิ่งมายืนเงียบต่อหน้าเขา นี่ทำให้กานต์รู้สึกสงสัย
แต่ระหว่างที่รู้สึกสงสัย เขาก็หวาดระแวง เพราะเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก
เหมือนไอราตั้งสติได้ เธอมองชมพูที่อยู่ด้านหลังกานต์
ถึงผู้หญิงคนนั้นสูงไม่เท่ากับเธอ แต่ดูสวยมาก ตอนนี้แววตาหวาดระแวง เหมือนคนอย่างไอรา เป็นคนเลวร้าย ทำให้ไอราไม่พอใจมาก และน้ำเสียงหวาดระแวงของกานต์ ก็ทำให้ไอราเจ็บปวด
ตอนมองเห็นกานต์จากในรถ เธอมีความสุขและตื่นเต้น และให้คนขับรถจอดรถ จากนั้นจึงวิ่งลงมาอย่างบ้าคลั่ง แต่คิดไม่ถึงว่าเขากำลังพูดกับผู้หญิงอย่างอบอุ่น แถมยังถามว่าอยากกินถังหูลู่ไหม
เขาเอาถังหูลู่ให้เด็กผู้หญิงคนอื่น!
ไอรารู้ว่ากานต์มีท่าทีเย็นชากับเด็กผู้หญิงคนอื่น แต่เขากลับมีความอดทนกับเด็กผู้หญิงคนนี้ จึงทำให้ไอราตกใจ และมองชมพูใกล้ๆ คิดไม่ถึงว่ากานต์จะโมโห
“นี่เป็นคฤหาสน์ของแด๊ดดี้ฉัน”
ไอราเก็บอารมณ์ และพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ชมพูตกใจ และรีบพูดว่า “ขอโทษ ฉันไม่รู้ว่านี่คือคฤหาสน์ของตระกูลพวกเธอ แค่หม่ามี้ฉัน พักอยู่ที่นี่ชั่วคราว น้านรมนให้เราพักที่นี่”
ไอรารู้ว่า น้านรมนเป็นใคร
กานต์เข้าใจว่าไอราจะกลั่นแกล้งชมพู จึงเดินเข้าไปหาไอรา และจูงมือไอราเดินออกมา
“เธอไปกับฉัน ฉันมีเรื่องคุยกับเธอ”
น้ำเสียงของกานต์เย็นชามาก แฝงไปด้วยความโมโหด้วย
ไอราอึ้งไป เธอมองกานต์จูงมือเธออย่างตกตะลึง มุมปากของเธอมีรอยยิ้ม
อิอิ นี่เรากำลังจับมือกันอยู่เหรอ
มือของกานต์อุ่นกว่าสีหน้าเขาตั้งเยอะ แถมยังรู้สึกชื้นนิดหน่อย
ชมพูไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นอะไรกัน แต่เมื่อเห็นกานต์จูงมือไอราออกไป เธอพอรู้ว่าพวกเขาอาจเป็นเพื่อนกัน และคิดถึงความสัมพันธ์ของนรมน บุริศร์และอรรณพ ชมพูจึงถอยหลังอัตโนมัติ และยืนพิงกำแพงรอ
ตอนนี้เธอหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเกม สีหน้าดูเย็นชา
ไอรายังคงมีความสุขไม่หาย กานต์จูงมือเธอมาใต้ต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นจึงปล่อยมือเธอ คิ้วของเขายังคงขมวดอยู่ อีกทั้งน้ำเสียงเย็นชาพอใช้ได้
“ไอรา ฉันไม่สนหรอกนะว่าแด๊ดดี้กับหม่ามี้จะโอ๋เธอยังไง และไม่สนด้วยว่าเธอเป็นใคร ทางที่ดีเธอไม่ควรวุ่นวาย”
“อะไรนะ”
ไอราอึ้งไป
เธอวุ่นวายอย่างนั้นเหรอ
แต่กานต์ไม่ให้โอกาสเธอได้พูด เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ชมพูเจอเรื่องทุกข์มาไม่น้อย ตอนนี้เพิ่งหาแด๊ดดี้เจอ อย่าเห็นว่าชมพูมีความสุข แล้วจะกลั่นแกล้งชมพู ได้ยินไหม ถึงคฤหาสน์นี้เป็นของตระกูลพวกเธอ แต่ถ้าเธอไม่เต็มใจให้ชมพูอยู่ที่นี่ ฉันจะบอกคุณอาธเนศพลให้รีบซื้อคฤหาสน์ และย้ายออก แต่ตอนนี้เธอห้ามกลั่นแกล้งชมพู!”
ในประโยค กานต์เอาแต่ย้ำคำว่ากลั่นแกล้ง เหมือนไอราเกิดมาเพื่อกลั่นแกล้งคนอื่นอย่างไรอย่างนั้น ถึงไอราจะฟังไม่ค่อยชัดเจนว่ากานต์พูดอะไร แต่สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้นมาก
“กานต์ ฉันทำอะไรให้ ทำไมถึงคิดว่าฉันจะแกล้งเธอ”
สีหน้าของไอราก็เคร่งขรึมเหมือนกัน
ไม่เจอกันสองปี เธอพยายามปรับตัวให้เข้ากับฐานะและสิ่งแวดล้อม เธอต้องแบกรับความกดดันไม่น้อย ถึงขนาดที่สองปีนี้ เธอไม่มีเวลากลับมาเมืองชลธี และไม่ได้เจอกานต์ ทำให้ตอนที่เธอเจอกานต์เมื่อครู่ จึงตื่นเต้นมาก ไม่คิดว่ากานต์จะมีท่าทีแบบนี้กับเธอ
ไอรารู้สึกปวดใจ และโมโหมาก!
กานต์มองเธอด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดว่า “รอให้เธอทำก็คงสายไปแล้ว นี่ฉันกำลังเตือนเธอ”
“นายมีสิทธิ์อะไรมาเตือนฉัน นายเป็นใครไม่ทราบ”
สองปีมานี้ ไอราได้รับการอบรมมารยาท เธอรู้ว่าควรเก็บอารมณ์อย่างไร หนึ่งปีมานี้เธอแทบจะไม่ระเบิดอารมณ์ออกมาเลย แต่เมื่อเจอท่าทีของกานต์ ความโกรธจุกอยู่ที่อกของเธอ และอยากระบายมันออกมามาก
กานต์ตกใจกับคำถามของไอรา แต่เมื่อคิดถึงท่าทางของไอราก่อนหน้านี้ ผู้หญิงที่ตามไปดูเขาในห้องน้ำชาย เพราะเขาหน้าตาดี จะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เหรอ
น่าขำชะมัด!
เธอนิสัยก้าวร้าว ชอบกร่างจนเป็นนิสัย กานต์ไม่เชื่อว่าเธอจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้
“ฉันพูดแค่นี้ ถ้าเธอแกล้งชมพู อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ”
กานต์พูดจบ ก็หันหลังเดินออกไป
จู่ๆ ไอรารู้สึกน้อยใจ
เธอทำอะไรงั้นเหรอ
เธอแค่ดีใจที่เจอเขา แล้ววิ่งลงจากรถ เพื่อมาทักทาย ทำไมถึงกลายเป็นคนไม่ดีไปได้ล่ะ
อีกอย่าง การที่เขาปกป้องชมพู จำเป็นต้องมาพูดให้เธอหลีกเลี่ยงเขาด้วยเหรอ เหมือนเธอเป็นปีศาจร้ายอย่างไรอย่างนั้น
ดวงตาของไอราแดงระเรื่อ แต่เธอกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เธอพยายามฝืนตัวเอง แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “กานต์ ในเมื่อนายเอาแต่พูดว่าฉันกลั่นแกล้งชมพู ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง คงรู้สึกผิดที่นายเห็นฉันเป็นคนแบบนี้”
พูดจบ ไอราเดินไปหาชมพู
กานต์รู้สึกหัวคิ้วกระตุก เขาลงมือกับไอราอย่างไม่คิด
ชมพูน่าสงสารพอแล้ว ระหว่างทางมา เขาได้ยินเรื่องที่ชมพูต้องเจอ ตอนที่วิสุทธิ์รายงานให้ธเนศพลฟัง อีกอย่างธเนศพลมีบุญคุณกับเขา เขาพูดกับตัวเองว่า ต่อไปนี้ต้องปกป้องชมพู เหมือนปกป้องกมล คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ไอราจะทำร้ายชมพู!
ผู้หญิงที่มีพละกำลังอย่างไอรา จะทำร้ายผู้หญิงอ่อนแออย่างชมพู นี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทนได้!
ไอราก็คิดไม่ถึงว่ากานต์จะลงมือกะทันหัน จากการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาสองปี ทำให้เธอจู่โจมกลับเป็นอันดับแรก
สองปีก่อน ไอราพ่ายแพ้ให้กานต์ ทำให้เธอไม่พอใจมาตลอด ผ่านมาสองปี ในที่สุดก็มีโอกาสนี้ ไอราไม่สนใจเรื่องอื่น ใช้ความสามารถทั้งหมดเพื่อต่อสู้กับกานต์ เธอแทบจะใช้วิชาที่อาจารย์ศิลปะการต่อสู้สอน ออกมาจนหมด
กานต์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ฝีมือของสาวห้าวคนนี้พัฒนาขึ้นมาก
นรมนเห็นกานต์ทำร้ายไอรา เธออดกังวลไม่ได้
“บุริศร์ ลูกชายนายเป็นผู้ชายสวะหรือเปล่า ทำร้ายผู้หญิงด้วย ฉันจะไปจัดการเด็กนั่นเอง”
พูดพลาง นรมนถกแขนเสื้อ กำลังจะไปห้ามไม่ให้ทะเลาะกัน แต่โดนบุริศร์รั้งเอวเอาไว้
“ที่รัก ให้เด็กๆ จัดการเรื่องของตัวเองดีไหม”
“เขาทำร้ายผู้หญิงนะ!”
นรมนคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะเป็นคนให้กำเนิดเขามา
ในโลกของเธอ ผู้ชายที่ทำร้ายผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย!
บุริศร์กลุ้มใจ ถ้าไม่มีอะไร เขาจะมาหากานต์ทำไม ตอนนี้ทำให้ภรรยาโกรธอีก แถมยังให้แด๊ดดี้อย่างเขาไปปกป้องอีก ไอ้เด็กนี่จะเกินไปละนะ!