แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1590 ตอนนี้เธอเป็นลูกมีพ่อมีแม่

บทที่ 1590 ตอนนี้เธอเป็นลูกมีพ่อมีแม่

หลังจากบุริศร์เห็นนรมนกลับมา จิตใจเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก็รู้ว่าเธอกำลังคิดถึงเรื่องเจตต์ เขาฉวยโอกาสตอนไม่มีคน กระซิบข้างหูนรมนเบาๆ ว่า “ฝั่งเจตต์ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรหรอก อันที่จริงคุณท่านขันธ์ชัยไปประเทศข้างๆ ไม่ใช่แค่โรครูมาตอยด์ แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับสุขภาพ ผมได้ยินมาว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ ต่อไปคุณท่านขันธ์ชัยน่าจะยกกิจการให้เจตต์ ครั้งนี้เลยพาเขาออกไปเปิดหูเปิดตาด้วย และถือโอกาสพาขวัญตามาแก้เบื่อ คุณไม่ต้องคิดมากหรอก”

เมื่อได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ นรมนอดอึ้งไม่ได้

“นายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”

“ผมให้คนไปสืบ ตอนพวกเขาจะมา”

นรมนอดถามไม่ได้ว่า “นายสืบเรื่องคุณท่านขันธ์ชัย ไม่กลัว……”

“ถ้าเรื่องนี้ไม่มีผมกับเจตต์ส่งข่าวกันทั้งนอกและใน คุณคิดว่าผมจะแทรกแซงเข้าไปในเส้นทางเดินเรือของตระกูลปวนะฤทธิ์ได้เหรอ”

นรมนเข้าใจทันที เมื่อได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้

โอเค ถ้านี่คือความต้องการของเจตต์ ยังไงเธอก็ต้องเคารพการตัดสินใจ ของลูกพี่ลูกน้อง

นภดลถูกส่งตัวเข้ามาในตำหนัก จณัตว์ไม่อยากลุกจากเตียงของหงส์ แต่เมื่อคิดถึงอาการของนภดล กินยาพวกนั้นเข้าไป ไม่รู้จะเกิดปฏิกิริยาอะไรบ้าง เขาจึงสวมเสื้อและลุกขึ้น

หงส์ยื่นมือมากอดเขาจากข้างหลัง ร่างกายอันอวบอิ่ม ทำให้จณัตว์ไม่อยากไป

“อย่ากวน! นภดลรออยู่”

“อืม นายจัดการเสร็จ รีบกลับมานะ”

หงส์ยังคงอาลัยอาวรณ์

เกือบสองปีแล้ว ตอนนี้จณัตว์กลับมาข้างกายอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนความฝัน ถึงขนาดที่กลัวว่า เมื่อลืมตาขึ้นมา จณัตว์จะหายตัวไป ราวกับว่าต้องใช้มือสัมผัส ถึงจะสบายใจ

จณัตว์รู้ว่าหงส์รู้สึกอย่างไร เขาสัมผัสมือเธอ แล้วพูดว่า “ผมรับรองว่าจะรีบกลับมา”

“จูบฉันหน่อย”

หงส์ทำปากจู๋ เหมือนเด็กน้อย

เธอเป็นอย่างนี้ จณัตว์จะปฏิเสธได้อย่างไร

เขากดตัวเธอลงกับเตียง จากนั้นจึงจูบอย่างแรง แทบอยากจะอยู่กับเธอแบบนี้ตลอดไป

ขณะที่หงส์รู้สึกหายใจไม่ออก จนแทบจะเป็นลม ได้ยินเสียงจณัตว์พูดเบาๆ ว่า “รอผมกลับมานะ”

พูดจบ ก็รู้สึกหนาวกาย จณัตว์ออกไปแล้ว

เธอรู้สึกเหมือนความอบอุ่นทั้งหมดหายไป ความรู้สึกโดดเดี่ยว ยากที่จะอธิบายออกมา

หงส์เอามือกอดอก คิดไปคิดมา เธอจึงเก็บเตียงของตัวเอง เธอรู้สึกปวดขาสองข้างมาก อดยิ้มมุมปากไม่ได้

ผู้ชายคนนี้ยังคงดุดันเหมือนแต่ก่อนไม่มีผิด

นรมนเห็นจณัตว์ออกมา เธออึ้งเล็กน้อย เธอคิดว่าเขาจะไม่ออกมาตอนนี้ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเขา ก็รู้ว่าเขาได้รับความพึงพอใจแล้ว

“พี่ นภดลทานยาของพี่แล้ว ตอนนี้อยู่ในห้องปฏิบัติการ”

“ฉันกำลังจะไปดู ถ้าพวกเธอไม่มีอะไร อย่าตามเข้ามา”

เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ต้องทำให้เกิดความเสี่ยงน้อยที่สุด

นรมนพยักหน้า บุริศร์ไม่อยากให้นรมนเข้าไปอยู่แล้ว

และไม่รู้ว่าจณัตว์จะทำอะไรกับนภดล ตอนนี้นรมนอุ้มลูกเข้ามาในห้อง ราเชนดูไม่วางใจ จึงเรียกหมอมาดู เป็นอาการเหนื่อยล้าหลังเมาเรือจริงๆ นรมนกับบุริศร์จึงโล่งใจ

กานต์ได้พักผ่อนหนึ่งคืน จึงทำให้สบายตัวขึ้น แต่สีหน้ายังไม่ค่อยดี ราเชนบอกให้คนทำโจ๊กให้เขาทาน โดยมีนรมนดูแลอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา

เพราะต้องดูแลลูกชาย บุริศร์จึงโดนละเลยไปไม่น้อย ชินทรจึงใช้โอกาสนี้ นัดบุริศร์ไปข้างนอก

“พ่อหาผม มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”

“ได้ยินว่าอรรณพจัดการเรื่องนิวัฒน์แล้ว ตอนนี้กำลังเจรจาเรื่องส่งตัวกับเบื้องบน นายอย่าออกโรง ทำเหมือนไม่รู้เรื่องนี้ อรรณพเลือกนายออกไป นายอย่าไปยุ่งในนั้น”

คำพูดของชินทร ทำให้บุริศร์อึ้งเล็กน้อย แต่เขาก็พยักหน้า

“ครับ”

เมื่อเห็นลูกเขยรับฟัง ชินทรจึงมองเขา

ตอนนรมนแต่งกับบุริศร์ ชินทรไม่อยู่ เพราะตอนนั้นตัวเองไม่รู้ว่านรมนเป็นลูกสาว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อะไรกับลูกเขยคนนี้

ความรู้สึกที่บุริศร์มีให้ลูกสาวเขา ทำให้เขาพอใจ แต่เมื่อได้ยินว่าก่อนหน้านี้ นรมนต้องลำบาก เพราะบุริศร์ คนเป็นพ่ออย่างเขาก็เจ็บใจและโมโห

“ต่อไปก็ดีกับนรมนหน่อย ถ้าให้เธอลำบากเหมือนเมื่อก่อน อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ ตอนนี้เธอเป็นลูกมีพ่อมีแม่”

“พ่อ แต่ก่อนผมทำผิดไป ตอนนี้ไม่มีทางเป็นเหมือนแต่ก่อน”

บุริศร์รู้ว่าพ่อตาคิดบัญชีย้อนหลัง จึงรีบพูดสำนึกผิด

เมื่อเห็นเขาดูเป็นคนดี ชินทรจึงถอนหายใจ แล้วพูดว่า “ว่ากันตามเหตุผล ฉันไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องตระกูลโตเล็กของนาย แต่เมื่อเกี่ยวกับลูกสาวกับหลานชายฉัน ฉันจำเป็นต้องพูด”

“พ่อพูดมาได้เลยครับ”

ตอนนี้บุริศร์มีท่าทีนอบน้อม พร้อมรับคำสอน ทำให้ชินทรรู้สึกสบายใจ

“อืม ฉันได้ยินว่าตระกูลโตเล็กของนาย เป็นตระกูลใหญ่ มีธุรกิจมากมาย นายยังไม่คิดออกจากเมืองชลธี แต่นายขยายกิจการไปต่างประเทศแล้วใช่ไหม หรือโยกย้ายแล้วใช่หรือเปล่า นายเห็นว่าราเชนเป็นราชาประเทศF อรรณพเป็นนายน้อยประเทศR ถ้านายอยากลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเส้นสายหรืออะไรก็ตาม ล้วนเกี่ยวกับฐานะเงินทองทั้งนั้น”

เมื่อได้ยินชินทรพูดเช่นนี้ บุริศร์รู้ว่าชินทร รู้ถึงสถานการณ์ของเขาในตอนนี้

นี่แหละที่เรียกว่าตกเป็นเป้าโจมตี

ตอนนี้ตระกูลโตเล็กโดดเด่นมาก แถมยังมีตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านดารายนอีก ถึงแร่โลหะจะเป็นของประเทศ เขาให้ความร่วมมือในการขุด แต่เพราะเป็นกิจการของหมู่บ้านดารายน และการเลี้ยงหนอนกู่เป็นเรื่องลึกลับ อีกทั้งยังพัวพันกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ตระกูลพรโสภณ เบื้องบนต้องไม่วางใจแน่นอน

ครั้งนี้มีเรื่องของลูกชายเป็นตัวอย่างแล้ว ถ้าเป็นคนทั่วไป อย่าว่าแต่ลูกตาสีฟ้าเลย ถึงตาสีแดงก็ไม่น่าจะมีใครสนใจ

เมื่อคิดเช่นนี้ บุริศร์เริ่มมีความคิดที่จะย้ายกิจการ

ชินทรเห็นเขาครุ่นคิด จึงพูดเบาๆ ว่า “ฉันรู้ว่านายมีสัมพันธ์อันดี กับคุณชายธเนศพล ตอนนี้ยังช่วยคุณชายธเนศพลจัดการเรื่อง แต่เราไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่า คุณชายธเนศพลจะได้ตำแหน่งหรือเปล่า ตั้งแต่โบราณคนในตำแหน่งนั้น ล้วนหัวเดียวกระเทียมลีบ แต่ฉันไม่ขัดข้อง ที่นายจะทำงานกับคนใหญ่คนโต แล้วมีความอันตราย แต่อย่าพาลูกสาวกับหลานชายฉันไปด้วย ฉันกะว่าจะเกษียณแล้ว ต่อไปตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเหลือเพียงอาสาม ถึงอำนาจของคุณท่านตนุวรยังอยู่ แต่หลังจากร้อยปี ก็ไม่มีผู้สืบทอด ตระกูลเรามีโอกาสพัฒนา มีเพียงตระกูลโตเล็กที่โดดเด่น และอยู่ในช่วงที่กำลังผลัดเปลี่ยนสิ่งเก่าสู่สิ่งใหม่ นายลองคิดดูดีๆ แล้วกัน”

พูดจบ ชินทรตบไหล่บุริศร์ แล้วเดินจากไป เหลือเพียงบุริศร์ที่กำลังยืนครุ่นคิด แววตาของเขาดูเคร่งขรึม

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท