คมทิพย์ขับรถเคลื่อนที่ไปตามทางหลวง ในหัวสมองก็หมุนวนอย่างรวดเร็วขึ้นมา
คนที่ชญตว์อยากจะตามหาคือจณัตว์ นี่กลับทำให้เธอคิดไม่ถึงจริงๆ แต่ว่าจณัตว์เป็นลูกพี่ลูกน้องของนรมน ดูจากระดับความห่วงใยที่นรมนมีต่อเขาแล้วเธอก็รู้สึกกลุ้มใจขึ้นมาเล็กน้อย
เรื่องนี้มันยุ่งวุ่นวายจนน่าเบื่อมากจริง ๆ
ทำไมชญตว์ถึงได้สืบเจอความสัมพันธ์ของเธอกับนรมน รวมทั้งของนรมนกับจณัตว์ด้วยล่ะ?
เธอจำได้ดีนะว่านรมนและบุริศร์โดนกักตัวตรวจสอบไปหนึ่งปีกว่า แต่เพราะอะไรนั้นตัวเธอเองก็ไม่รู้ แต่ว่าในเวลานั้นได้ยินมาว่าคุณชายของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้เสียชีวิตไป แล้วทำไมถึงได้ฟื้นคืนชีพกลับมาได้นะ? แต่ว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆ นี่ก็หมายความว่าการฟื้นคืนชีพของเขาเป็นความลับน่ะซิ และที่สำคัญเธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขาชื่อจณัตว์ มาก่อนนี่
เพราะฉะนั้น เรื่องที่เป็นความลับแบบนี้แต่ชญตว์กลับสืบรู้เรื่องมาได้ ก็มากพอที่จะบอกได้ว่าพลังอำนาจที่อยู่เบื้องหลังชญตว์นั้นจะต้องไม่ธรรมดา แน่ๆ
หัวคิ้วของคมทิพย์ขมวดกันแน่นขึ้นมา
เรื่องนี้จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก เธอไม่สามารถแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเลยได้
พอคิดมาถึงตอนนี้ คมทิพย์ก็ขับรถกลับเข้าไปในวังเลย และเพราะว่านี่คือรถในวัง คมทิพย์ก็เลยไม่ได้โดนสกัดกั้น
เธอตรงไปที่ห้องวิจัยของจณัตว์เลย แต่กลับไม่เห็นจณัตว์ ในระหว่างทางที่กลับออกมาจากห้องวิจัยนั้น คมทิพย์ก็เห็นจณัตว์กำลังอยู่กับหงส์อยู่ ทั้งสองคนแววตาหวานชื่น ท่าทางที่กะหนุงกะหนิงกันมากแบบนั้นทำให้เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงความทรวจำที่สวยงามในอดีตของเธอกับพฤกษ์ขึ้นมา
คนที่ดีงามขนาดนั้นคนหนึ่งทำไมถึงได้เปลี่ยนไปได้นะ?
ใจของคมทิพย์ค่อย ๆ ขมขื่นขึ้นมา แต่ก็ยังคงยกฝีเท้าก้าวเดินไปทางจณัตว์
“คุณจณัตว์ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณหน่อย จะได้ไหมคะ?”
หงส์จ้องมองคมทิพย์แวบหนึ่ง แต่กลับรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง
เธอรู้จักคมทิพย์ ถึงแม้จะไม่ได้คบกันลึกซึ้งมาก แต่ว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทของนรมน ตอนที่นรมนคลอดลูกนั้นเธอเคยเจอมาก่อน เพียงแต่แค่ไม่ได้เจอกันไม่นานเท่าไหร่เอง ทำไมถึงได้ดูทรุดโทรมแบบนี้ไปได้ล่ะ?
หงส์รู้สึกเป็นกังวลแล้วถามขึ้นว่า “คุณคมทิพย์ สุขภาพคุณยังโอเคอยู่ไหมคะ?”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ ขอยืมตัวสามีคุณสักครู่ จะเป็นอะไรไหมคะ?”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
ในดวงตาของหงส์เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
เมื่อก่อนเธอก็เคยเชื่อมั่นพฤกษ์มากเหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้กลับไม่ได้รับความรักกลับมา เธอรู้สึกว่าตัวเองอยู่ที่นี่ก็เหมือนกับการมาหาเหาใส่ตัว
จณัตว์เห็นแววตาของคมทิพย์เปลี่ยนแปลงไป แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ร่างกายของเธอต้องการบำรุงรักษาสักหน่อย อีกเดี๋ยวคุณก็ต้องกินยาจีนสักชุดนะรู้ไหม? เดี๋ยวผมให้คนรับใช้ต้มมาให้คุณ”
“ฉันยังต้องกินอีกเหรอคะ?”
“อืม”
จณัตว์ยื่นนิ้วมือออกไปแล้วดีดหน้าผากเธอเบา ๆ ทีหนึ่ง หัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “ผมไปทำงานสักครู่ อย่าคิดถึงผมมากเกินไปล่ะ”
“รีบไสหัวไปเถอะ”
หงส์หัวเราะแล้วก่นด่าขึ้น จากนั้นก็ผลักจณัตว์ออกไป
“ไปเถอะ”
จณัตว์พาคมทิพย์เดินไปทางห้องวิจัย แล้วก็เจอเข้ากับนรมนพอดี
นรมนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน
“พี่? คมทิพย์? พวกคุณจะไปไหนกันคะ?”
“ไปตรวจร่างกายให้เธอสักหน่อย”
คำพูดของจณัตว์ทำให้นรมนรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย
“ไหนว่าไม่มีอันตรายต่อร่างกายไงคะ?”
“นั่นมันก็ต้องรู้ส่วนผสมนี่”
“ฉันยังมียาที่ยังกินไม่หมดอยู่”
คมทิพย์ล้วงขวดเล็ก ๆ อันหนึ่งออกมาจากกระเป๋า
นรมนเกิดความสงสัยขึ้นเล็กน้อย นี่เธอยังต้องพกยาติดตัวอยู่ตลอดเหรอ?
พอเห็นนรมนเป็นห่วง คมทิพย์ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “วางใจเถอะ ฉันไม่ได้กินแล้ว”
“ห้ามกินอีกนะ”
นรมนอยากจะแย่งยาไป แต่กลับโดนจณัตว์แย่งไปซะก่อน
เขาใช้จมูกดมเล็กน้อย ในดวงตามีแววครุ่นคิดปรากฏขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง
คมทิพย์มองเห็นท่าทางจณัตว์ ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “คุณจณัตว์ รู้จักยานี้ใช่ไหมคะ?”
“ถือว่าใช่มั้ง ยาของคุณนี่คนของตระกูลธนปารกุลเป็นคนให้มาใช่ไหม?”
“คนตระกูลธนปารกุลเหรอ?”
นรมนรู้สึกสงสัยเล็กน้อย เธอจึงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงชญตว์ที่เพิ่งรู้จักเมื่อไม่นานนี้ นามสกุลของคนคนนั้นก็คือธนปารกุล นี่?
จะเกี่ยวข้องอะไรกันไหมนะ?
ชญตว์เป็นผู้จัดละคร ถ้าจะรู้จักกับคมทิพย์ก็ไม่มีอะไรน่าแปลก แต่ว่าระหว่างที่พูดกันเพียงไม่กี่คำนั้นชญตว์ ก็ไม่พบว่าเขากับคมทิพย์จะสนิทสนมกันเท่าไหร่นี่?
แล้วในตอนที่นรมนรู้สึกสงสัยอยู่นั้น คมทิพย์ก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ใช่ค่ะ ชญตว์เป็นคนให้ฉันเอง”
นรมนนิ่งอึ้งไปทันทีเลย
“เป็นเขาจริง ๆ เหรอ?”
“ไปพูดในห้องวิจัยของฉันดีกว่า”
จณัตว์เห็นว่าเป็นระเบียงที่ผู้คนเดินไปเดินมา แล้วก็พูดขึ้นเรียบ ๆ ราวกับว่าไม่ได้รู้สึกแปลกใจในตัวชญตว์คนนี้เลยแม้แต่น้อย
นรมนและคมทิพย์ตามจณัตว์เข้าไปในห้องวิจัยพร้อมกัน
“นภดลล่ะ?”
นรมนกลับมาครั้งนี้ยังไม่เคยได้เห็นหน้านภดลเลย และในห้องวิจัยก็หาเขาไม่เจอด้วย ครั้งที่แล้วก็อยากจะถามแล้ว เพียงแต่มัวกังวลอาการป่วยของคมทิพย์ก็เลยไม่ทันได้ถาม
จณัตว์พูดขึ้นเรียบ ๆ ว่า “ร่างกายของเขาอ่อนแอมาก จึงส่งไปพักฟื้นที่บ้านพักแล้ว อีกเดี๋ยวเธอพาคมทิพย์ไปดูสักหน่อยซิ”
“ฉัน? ไปดูนภดลเหรอ?”
คมทิพย์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
นรมนก็เลยเอาความเกี่ยวข้องของนภดลและตระกูลเจริญไชยบอกให้กับคมทิพย์ไป
พอฟังจบแล้วคมทิพย์กลับรู้สึกแปลกใจขึ้นมา
“นี่เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันเหรอ?”
“อืม พ่อฉันพูดเองก็ปาก ไม่มีทางผิดไปได้หรอก”
สองปีมานี้เกิดเรื่องขึ้นมามากมาย นรมนยังไม่ทันได้บอกกับคมทิพย์อย่างละเอียดเลย
ในใจของคมทิพย์มีความตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย ตอนแรกนึกว่าตระกูลเจริญไชยเหลือแต่พวกเธอสองพี่น้องแล้ว คิดไม่ถึงว่ายังจะมีลูกพี่ลูกน้องเหลืออยู่อีกคนหนึ่ง และที่สำคัญคุณลุงใหญ่ก็ยังมีความรู้สึกที่เหนี่ยวแน่นขนาดนั้นกับพ่อของนรมนอีก เพราะฉะนั้นที่นรมนมารู้จักกับเธอ และช่วยเหลือเธอจนเรียนจบมหาลัยได้ก็คงจะถือได้ว่าสวรรค์มีตาแล้ว
เรื่องวาสนานี่ไม่มีทางที่จะคาดเดากันได้จริง ๆ
คมทิพย์รวบรวมความคิดกลับมา แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “ตอนนี้ชญตว์อยู่ในประเทศF เป้าหมายของเขาก็คือต้องการใช้ฉันมาล่อคุณจณัตว์ออกมา ฉันไม่รู้ว่าคุณจณัตว์กับตระกูลธนปารกุลมีความสัมพันธ์กันยังไง แต่ว่าในเมื่อเรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะฉัน ฉันก็มีหน้าที่เอาเรื่องนี้มาบอกกับพวกคุณ และที่สำคัญเขาก็ยังรู้เรื่องความสัมพันธ์ของคุณจณัตว์และนรมนด้วย และรู้เรื่องที่คุณจณัตว์ทำกับฉันที่สุสานเมื่อหลายปีก่อนด้วย เรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องที่เป็นความลับมาก แล้วเขามารู้เรื่องได้ยังไงกันคะ?”
พอได้ยินคมทิพย์พูดแบบนี้ นรมนก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันทีเลย
สถานะของจณัตว์นั้นเป็นเรื่องที่พวกปิดไว้เป็นความลับอย่างมาก แล้วตอนนี้อยู่ ๆ ก็โดนคนสืบค้นออกมาได้ นี่มันแปลว่าเบื้องบนก็รู้เรื่องแล้วใช่ไหม?
นรมนคว้าขวับจับมือของจณัตว์ไว้ แล้วพูดขึ้นว่า “พี่ เรื่องนี้พวกเราจำเป็นที่จะต้องบอกกับพวกบุริศร์ และพี่รองนะคะ”
“ไม่ต้องตื่นตระหนกไป ชญตว์ไม่มีทางเปิดตัวฉันหรอก” จณัตว์กลับสงบนิ่ง
นรมนจะโดนเขาทำให้โมโหจนตายแล้ว
“ที่เขาทำแบบนี้จะต้องมีจุดประสงค์แน่ แต่ไม่ว่าจุดประสงค์ของเขาจะเป็นอะไร ขอแค่ไม่เกี่ยวข้องกับพี่ก็ได้แล้ว”
สำหรับท่าทีที่ปกป้องของนรมน จณัตว์กลับรู้สึกชื่นชอบเป็นอย่างมาก
“นรมนของเราเป็นห่วงฉันมากขนาดนี้เลยเหรอ?”
“พี่อย่ามัวแต่เล่นอยู่เลย รีบคิดหาวิธีเถอะนะ”
“คิดหาวิธีอะไร? ถึงชญตว์จะอยากวางกับดักใส่ฉันก็ยังไม่มีสิทธิ์นั้นหรอก และอีกอย่างเขาก็ไม่ถึงกับว่าวางกับดัก จะพูดยังไงดีนะ? ถือเป็นการท้าทายมั้ง ยานี่ถือว่าเป็นหนังสือประกาศสงครามกับฉันมั้ง?”
พอได้ยินจณัตว์พูดแบบนี้ นรมนและคมทิพย์ต่างก็อึ้งไปเลย
“หนังสือประกาศสงครามเหรอ?”
จณัตว์พยักหน้าให้เล็กน้อย
“อธิบายแบบนี้ดีกว่า เขาหลอกล่อให้คมทิพย์ทดลองยา ถึงแม้ว่ายานี่จะไม่ได้มีอันตรายร้ายแรงอะไรกับร่างกายมนุษย์ แต่ก็มีอันตรายแอบแฝงอยู่เสี้ยวหนึ่ง นั่นก็คือภาวะมดลูกร้อนเกินไป เรื่องภาวะมดลูกร้อนเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิงนั้นจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก แล้วฉันเป็นพี่ชายเธอ แน่นอนว่าจะต้องไม่มีทางปล่อยร่างกายของคมทิพย์ไว้เฉย ๆ แน่ เพราะฉะนั้นฉันจะต้องช่วยแก้อาการภาวะมดลูกร้อนเกินไปนี้แน่ แต่ว่าสิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือตัวคมทิพย์มีภาวะมดลูกเย็นรุนแรงมากอยู่แล้ว ฤทธิ์ยานี้ก็เลยมาทำให้อาการภาวะมดลูกเย็นเกินไปของเธอสมดุลขึ้นได้พอดี ไม่งั้นเธอจะทรมานมากแน่”
พอได้ยินจณัตว์พูดแบบนี้ คมทิพย์ก็โกรธเคืองขึ้นมาทันที
นี่เจ้าชญตว์นี่เอาร่างกายของเธอมาคิดเป็นสนามรบเหรอ? นี่ถ้าจณัตว์แก้ไม่ได้ งั้นเธอก็จะต้องซวยแล้วซิ?
ก่อนหน้านี้เธอยังรู้สึกขอบคุณเขาด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้……
หึ!