คมทิพย์ไม่รู้ว่าตนเองร้องไห้ไปนานเท่าไหร่ แต่ร้องไห้จนเสียงแหบไปหมด รู้สึกเวียนหัวจนทนไม่ไหว จึงต้องสงบจิตสงบใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วขับรถกลับบ้าน
นี่เป็นบ้านของเธอกับพฤกษ์ เคยเป็นเรือนหอของพวกเขา ในห้องนอนยังแขวนภาพงานแต่งงานของพวกเขาอยู่เลย ตอนนั้นพวกเขายิ้มอย่างมีความสุขชื่นมื่น เหมือนกับโลกทั้งใบอยู่ในรอยยิ้มของพวกเขา แต่ตอนนี้กลับทำให้ในใจเจ็บปวดจนทนไม่ได้
คมทิพย์ฝืนตัวเองหลับไปได้ครู่หนึ่ง กินอาหารไปเล็กน้อย ทนายปวินก็มาที่บ้าน
“คุณนายรัตติกรวรกุลครับ นี่เป็นของที่คุณพฤกษ์ให้ผมมอบให้คุณ คุณช่วยเซ็นรับด้วยนะครับ”
“ใครให้คุณคุณก็เอาไปให้คนนั้นสิคะ ฉันไม่สนใจ”
คมทิพย์หลบเลี่ยงทนายปวินทันที ทำให้ทนายปวินทำตัวไม่ค่อยถูก
“นี่เป็นสัญญาการโอนทรัพย์สินครับ คุณนายรัตติกรวรกุล คุณพฤกษ์……”
“ยังมีธุระอะไรอีกไหมคะ?”
คมทิพย์ตัดบทคำพูดของทนายปวินทันที พูดอย่างเมินเฉย: “ขอโทษนะคะ ฉันจะออกไปข้างนอก ถ้าคุณจะกลับแล้วอย่าลืมช่วยปิดประตูให้ฉันด้วยนะคะ”
พูดจบคมทิพย์ก็เดินออกไปเลย
เธอไม่สนใจว่าในใจของทนายปวินจะคิดยังไง แค่รู้สึกว่าในใจอึดอัดจนทนไม่ไหวแล้ว
หย่างั้นเหรอ?
ตนเองไม่เคยคิดมาก่อนเลย แต่ตอนนี้พฤกษ์ทำเช่นนี้เธอจึงไม่รู้ว่าควรทำยังไงแล้ว
เลิกกัน เธอทำไม่ได้หรอก เหมือนพฤกษ์ยังเลวไม่ถึงจุดนั้น แต่ถ้าไม่เลิก ในใจจะก้าวเท้าผ่านหลุมนี้ไปได้ยังไง ถึงกับรู้สึกว่าการนอนอยู่บนเตียงแต่งงานที่เคยเป็นของตนเองกับพฤกษ์มันทำให้เธอคิดฟุ้งซ่าน
ในใจยุ่งเหยิงถึงที่สุด
คมทิพย์ขับรถไปที่โรงพยาบาล
ตำรวจกำลังคุ้มกันอยู่ที่หน้าประตู คมทิพย์จึงบอกตัวตนของเธอออกไป อีกฝ่ายจึงใช้สิทธิ์ในการตรวจสอบดู
ตอนที่คมทิพย์เข้าไปก็เห็นบุลินกำลังต่อว่าพยาบาลคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าฉีดยาแล้วทำให้เธอเจ็บหรือว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงยังไงก็ระเบิดอารมณ์ออกมาจนน่าหวาดกลัว
บุลินเห็นคมทิพย์มา จึงอดไม่ได้ที่จะเบิกตาโพลง ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นเหมือนอยากจะกินคนเข้าไปอย่างนั้นแหละ
“เธอมาทำไม? มาหัวเราะเยาะฉันหรือไง? คมทิพย์ ฉันประเมินเธอต่ำเกินไปจริงๆ ฉันคิดมาตลอดว่าเธอมันก็แค่ลูกพลับนิ่มๆ คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นราชสีห์ที่ซ่อนตัวเอาไว้ แล้วทำให้ฉันพ่ายแพ้อย่างเงียบๆ ฉันบอกเธอไว้เลยนะ ฉันไม่ยอมแพ้หรอก! ฉันไม่ยอม! ประธานพฤกษ์เฝ้ารอคอยที่จะมีลูกขนาดนั้น ชีวิตนี้เธออย่าคิดจะมีลูกให้เขาอีกเลย!”
เห็นอาการบ้าคลั่งของบุลิน คมทิพย์ไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด
เธอพูดขึ้นเบาๆ: “ของที่ไม่ใช่ของเธอ คนที่ไม่ใช่ของเธอ เธอไม่ควรมีความคิดจะยึดครองโดยพลการตั้งแต่แรก เธอเองนั่นแหละที่เดินทางผิด ไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลย บุลิน ฉันไม่สนใจจะแย่งอะไรกับเธออยู่แล้ว”
“เธอไม่สนใจจะแย่งอะไรกับฉันเพราะว่าเธอมีทุกอย่างแล้วไงล่ะ เธอรู้ไหมว่าลูกของครอบครัวที่ยากจนต้องแบกรับภาระมากมายขนาดไหน? พ่อแม่ฉันเป็นชาวนากันทั้งคู่ ไม่มีเงิน พวกเขาต้องดิ้นรนทั้งชีวิตถึงหามาให้ฉันได้ ฉันไม่สามารถหาผู้ชายธรรมดาๆที่มีเงินเดือนปานกลางเพื่อใช้ชีวิตอยู่ได้! ฉันต้องการตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูฉันมา ฉันอยากพาพวกเขาไปกินของที่พวกเขาไม่เคยได้กิน ได้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่เคยได้ใส่”
บุลินพูดๆแล้วก็ร้องไห้ออกมา
แต่คมทิพย์กลับไม่มีความรู้สึกสงสารใดๆเลย
“เธออยากกตัญญูต่อพ่อแม่ของเธอมันไม่ผิดหรอก แต่ความต้องการทั้งหมดของเธอมันอยู่บนชีวิตการแต่งงานของคนอื่น อาศัยการทำลายชีวิตการแต่งงานของผู้อื่นเพื่อบรรลุเป้าหมายของเธอนั่นมันค่อนข้างน่าอับอายนะ บุลิน ทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว เธอทำอะไรในใจของตัวเองรู้ดีที่สุด เธอจะแย่งผู้ชายของฉันโดยไม่สนใจขอบเขตของศีลธรรมเลยก็ได้ แต่เธอไม่ควรแตะต้องกฎหมาย ตอนนี้ได้รับจุดจบอย่างนี้มันไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลย เธอทำด้วยตัวเองทั้งหมด ในฐานะที่เป็นผู้หญิง ฉันเห็นใจเธอ แต่ในฐานะคุณนายรัตติกรวรกุล ฉันเกลียดเธอ”
คมทิพย์พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไป คำพูดพวกนี้เธออยากพูดตั้งนานแล้ว เพียงแต่ไม่อยากเจอ บุลินเลย ตอนนี้ลูกของบุลินไม่อยู่แล้ว ในใจของคมทิพย์ก็ไม่สบายใจ เธอไม่เคยคิดอยากให้เด็กคนนี้เป็นอะไรไปเลยจริงๆ
พฤกษ์รอคอยลูกคนนี้มาก เธอรู้ดี ก็เพราะรู้นี่แหละ เธอถึงกับเคยภาวนาให้ลูกของบุลินคลอดออกมาอย่างปลอดภัย แค่วินาทีนั้นที่เด็กได้คลอดออกมา ความรักและการแต่งงานของเธอกับพฤกษ์ก็คงมาถึงจุดจบ แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ พฤกษ์ก็จะสมปรารถนา เธอเองก็สามารถปล่อยมือได้อย่างสบายใจ แต่ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?
บุลินยังตะโกนอยู่ที่ด้านหลัง แต่คมทิพย์ไม่คิดจะหยุดลงแล้ว
หลังออกมาจากโรงพยาบาลก็ไม่รู้ว่าตนเองควรทำอะไรดี
จะกลับบ้านก็ไม่รู้ว่าทนายปวินกลับไปหรือยัง คมทิพย์จึงหาคลับเฮาส์แห่งหนึ่ง ตีเทนนิสไปชั่วโมงกว่า แล้วเข้าไปอาบน้ำ จากนั้นก็ไปที่เคาน์เตอร์บาร์สั่งวิสกี้มาดื่มขวดหนึ่ง
ปกติเธอไม่ดื่มเหล้า แต่วันนี้เธอต้องการเอาแอลกอฮอล์มายับยั้งตนเอง กระตุ้นตนเองสักหน่อย ไม่งั้นใจของเธอคงเจ็บจนหายใจไม่ออก
ผู้ชายที่เธอรักที่สุดสร้างเรื่องจนเป็นอย่างนี้ ในใจของเธอรู้สึกไม่ดีเลย แต่เธอกลับไม่รู้ว่าตนเองควรทำอะไร แล้วสามารถทำอะไรได้
ไม่รู้เลยว่าจะมีวันหนึ่งที่ทำให้ตนเองกลายเป็นอย่างนี้
คมทิพย์ไม่รู้ว่าตนเองดื่มเหล้าไปมากเท่าไหร่แล้ว จนกระทั่งเสียงที่คุ้นเคยสะท้อนเข้ามาในม่านตา แย่งแก้วเหล้ากับขวดเหล้าในมือของเธอไป ทำให้เธองงงัน
“ชญตว์?คุณมาได้ยังไงอีก? ไม่สิ คุณส่งคนมาคอยติดตามฉันใช่ไหม? ไม่งั้นทำไมฉันไปที่ไหนถึงได้เจอคุณตลอดเลย? คุณอยู่ที่ประเทศFไม่ใช่เหรอ? คุณก็มีเรื่องด่วนถึงกลับมาเหรอ?”
คมทิพย์ สะอึกออกมา แล้วขมวดคิ้วด้วยความทรมาน
ชญตว์รีบให้คนชงน้ำผึ้งมาแก้วหนึ่งแล้วส่งให้เธอ
“นี่คลับเฮาส์ของผม”
“ของคุณเหรอ? งั้นฉันไม่จ่ายเงินแล้ว จะได้ชดเชยกับเรื่องหนังสือท้าทายที่ใช้ร่างกายของฉันพอดี ฉันจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคุณแล้วก็ได้”
คมทิพย์ดันแก้วน้ำผึ้งของชญตว์ออกไป ตอนนี้เธอไม่ต้องการของสิ่งนี้อยู่แล้ว เธอต้องการดื่มให้เมา ไม่อยากคิดอะไรเลย แล้วกลับบ้านไปนอนให้หลับ
แค่นอนหลับ ใจก็จะไม่เจ็บปวดขนาดนั้นแล้ว
ชญตว์ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดขึ้น: “หลอกใช้คุณให้เอาหนังสือท้าทายไปให้รุ่นพี่ผมผมผิดเอง ผมขอโทษ”
“ช่างเถอะ คุณเป็นรุ่นน้องของจณัตว์ เขาไม่คิดจุกจิกแล้ว ฉันจะคิดจุกจิกอะไรได้? ถึงฉันจะไม่ชอบผู้ชายคนนั้นเท่าไหร่ แต่เขาก็เป็นพี่ชายของนรมน ซึ่งนรมนน่ะใส่ใจคนในครอบครัวที่สุด ฉันก็จะยอมเขาแล้วกัน เพียงแต่ต่อไปเรื่องแตกหักของพวกคุณอย่าดึงฉันเข้าไปเกี่ยวข้องอีก คุณรีบไปเถอะ ฉันยังอยากดื่มเหล้าต่อ”
พูดๆแล้วคมทิพย์ก็จะไปหยิบขวดเหล้า แต่กลับโดนชญตว์ดึงแขนเดินไปทางห้องส่วนตัว
“คุณไม่รู้สถานะของตัวเองหรือไง? ดื่มจนเมาหัวปักหัวปำแบบนี้ พาดหัวข่าวพรุ่งนี้คงเป็นคุณแน่ๆ สามีของคุณสร้างเรื่องน่าตื่นเต้นขนาดนั้น ตัวคุณเองก็ต้องเป็นที่จับจ้องบ้างอยู่แล้วนะ ทำไมไม่นึกถึงตัวเองที่เป็นคนมีชื่อเสียงสักนิดเลย?”
ชญตว์ค่อนข้างโมโห เขาเองก็ไม่รู้ว่าตนเองโมโหเพราอะไรกันแน่ บางทีอาจจะเริ่มตั้งแต่ที่หลอกใช้ผู้หญิงคนนี้จึงรู้สึกละอายใจ วันนี้ได้ยินว่าสามีของเธอเกิดเรื่อง เขาจึงรีบตามมาทันที มาดูผู้หญิงโง่ๆคนนี้ว่าเป็นยังไงบ้าง อย่างที่คาดเอาไว้เธอกำลังดื่มเหล้าแก้ทุกข์ใจอยู่
คนเลวๆคนหนึ่งคุ้มค่าที่จะทำให้เธอเสียใจเช่นนี้งั้นเหรอ?
ชญตว์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาริษยาเกลียดชังขึ้นมา ถึงขั้นที่ยังมีความรู้สึกอย่างอื่นร่วมอยู่ด้วย แต่กลับโดนเขาเพิกเฉย