บุลิน!
พฤกษ์ไม่ใช่คนโง่ คิดวิเคราะห์คลิปวิดีโอพวกนั้นติดต่อกัน แน่นอนว่าเขาเดาออกมาได้แล้วว่าเรื่องมันเป็นมายังไง
ตอนแรกเขานึกว่าบุลินแค่อยากได้เงินเพิ่มหน่อยเท่านั้น หนำซ้ำเยอะสุดก็เพื่อตำแหน่งคุณนายรัตติกรวรกุลถึงได้พยายามบีบคั้น แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเธอต่ำชั่วจนมาวางยาพิษใส่คมทิพย์ได้
ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ทำร้ายชีวิตของคมทิพย์นั้น พฤกษ์อดทนมาตลอด รอให้เด็กคลอดออกมาก่อนค่อยว่ากัน แต่ว่าตอนนี้เธอกลับมีความกล้าที่จะมาทำให้เมียของเขาตายเพื่อได้ขึ้นตำแหน่งลับหลังตัวเองไปแล้วใช่ไหม?
ตอนนั้นความรู้สึกของคมทิพย์จะเป็นยังไงบ้างนะ?
พฤกษ์เอาคลิปสุดท้ายมาดูซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ คมทิพย์นั่งอยู่ตรงนั้นเหมือนกับลูกหมาที่โดนคนหลงลืมไป เธอร้องไห้ไปหัวเราะไป อย่างกับเป็นคนบ้าคนหนึ่งยังไงอย่างงั้น
เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสภาพครั้งแรกตอนที่อยู่ในสุสานแล้วแบกคมทิพย์ลงมาจากเขา ในเวลานั้นเขารักและทะนุถนอมเธอเป็นอย่างมาก เพราะว่าอยู่ที่สุสานเห็นสภาพคมทิพย์ช่างโดดเดี่ยวเดียวดายซะขนาดนั้น ไร้ที่พึ่งซะขนาดนั้น จนทำให้ใจคนอ่อนระทวย แล้วก็อดไม่ได้ที่จมูกจะรู้สึกจี๊ดขึ้นมา
ในตอนนั้นคนที่รังแกคมทิพย์คือคนอื่น เขาเป็นแค่คนผ่านทาง ตอนนั้นเขารู้สึกเกลียดชังผู้ชายที่รังแกคมทิพย์จนถึงขีดสุด แต่ว่าตอนนี้ล่ะ?
คมทิพย์ยังคงโดดเดี่ยวเดียวดายไร้ที่พึ่ง แต่ว่าคนที่ทำร้ายเธอกลับเปลี่ยนเป็นเขาแล้ว!
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นคนลงมือเอง แต่ก็เป็นเพราะว่าการสนใจและไม่ดูดำดูดีของเขาทำให้เกิดขึ้นมา
ตอนนั้นเกลียดชังคนอื่นมากแค่ไหน มาวันนี้ก็เกลียดชังตัวเองมากเท่านั้น แถมยังแทบอยากจะเอาตัวเองให้ตายไปซะ
ถึงว่าล่ะคมทิพย์ถึงได้อยากจะหย่า!
ถ้าเขาเป็นคมทิพย์ เขาเองก็คงจะไม่เอาชีวิตแต่งงานแบบนี้หรอก ยิ่งไม่มีทางที่จะใช้ชีวิตต่อไปกับไอ้สารเลวแบบนี้ด้วย
ยังไงยากระตุ้นอันนี้ของบุริศร์ก็ถือว่าเกิดผลแล้ว
พฤกษ์เหมือนกับว่าโดนคนทุบที่หัวทีหนึ่งจนตื่น พอนึกย้อนกลับไปถึงการกระทำของตัวเองในช่วงที่ผ่านมา เขาก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับว่าโดนอะไรมาทำให้จิตใจลุ่มหลงไปยังไงอย่างงั้น จนชั่วช้าอย่างหาที่สิ้นสุดไม่ได้เลย
ว่ากันว่าน้ำตาลูกผู้ชายจะไม่ไหลออกมาง่าย ๆ แต่ว่ายังมีประโยคต่อไปอีกว่า นั่นก็คือแค่ยังไม่ถึงจุดที่เสียใจเท่านั้น
พฤกษ์นึกว่าชีวิตกับคมทิพย์ช่วงสองปีมานี้มักจะห่างกันบ่อยอยู่ด้วยกันน้อย แล้วความรู้สึกของทั้งสองคนยังไงก็คงจะต้องจืดจางไปบ้าง แล้วก็บวกกับไม่มีลูกมาผูกพันกันไว้ เพราะฉะนั้นบางครั้งในตอนที่คมทิพย์กลับมาแล้วเหนื่อยจนไม่อยากจะพูดอะไรเลยนั้น เขาก็มักจะคิดไปเรื่อยเปื่อย
ในเมื่อข้างนอกมีสิ่งเล้าโลมเยอะมากเกินไป แล้วคมทิพย์ก็หน้าตาไม่เลวด้วย และตอนนี้ก็มีชื่อเสียงโด่งดังแล้วด้วย ถ้าตัวเองไม่ได้อยู่ข้างกายเธอบ่อย ๆ จะมีผู้ชายคนอื่นมาสนใจเธอไหมนะ?
แล้วความเหน็ดเหนื่อยและความเย็นชาของคมทิพย์ก็ทำให้ชีวิตแต่งงานที่เคยเร่าร้อนดังไฟเข้าสู่ภาวะเย็นยะเยือก แล้วเขาเองก็ไม่อยากจะกักขังคมทิพย์ไว้ ให้เธอยอมทิ้งงานของตัวเองไปแล้วให้อยู่แต่บ้าน วัน ๆ เอาแต่เดินชอปปิ้งไปเสริมความงาม นี่ไม่ใช่นิสัยของคมทิพย์ จะต้องบีบคั้นจนคมทิพย์เป็นบ้าไปแน่ ๆ เพราะฉะนั้นเขาถึงได้อยากจะได้ลูกคนหนึ่ง
ของแค่มีลูกคนหนึ่ง คมทิพย์ก็จะมีเรื่องให้ทำแล้ว
เหมือนอย่างกับคุณนายนรมน ที่สามารถละยอมทิ้งหน้าที่การงานไปเพื่อลูก ๆ สามารถมาดูแลเอาใจใส่ลูกและสามีได้ พอเขาเลิกงานกลับมาทุกวันก็ไม่ได้มาเผชิญกับความเงียบเหงาทั้งห้องแล้ว เพราะฉะนั้นเขาก็เลยยึดติดในเรื่องลูกแบบนี้ แถมยังรู้สึกว่าขอแค่เด็กคลอดออกมาแล้ว พอคมทิพย์เห็นว่าเด็กน่ารัก แล้วอยู่กับลูกที่บ้านไม่กี่วัน ก็จะต้องชอบแน่ ๆ พอถึงตอนนั้นเธอก็อาจจะอยู่กับบ้านเหมือนอย่างที่ตัวเองหวังเอาไว้
แต่พอมาวันนี้ พอมาเห็นภาพที่คมทิพย์ไอเป็นเลือดออกมานั้น ใจก็เหมือนกับว่าโดนมีดเชือดเฉือน ความรู้สึกที่เคยนึกว่าเฉื่อยชาไปแล้วก็พุ่งขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ แล้วทุรนทุรายและโห่ร้องอยู่ในร่างกายของเขา เหมือนกับว่าจะฉีกกระชากเขาให้ขาดไปจริง ๆ
จนกระทั่งมาถึงตอนนี้พฤกษ์ถึงรู้สึกว่าตัวเองได้ทำความผิดที่ไม่สามารถให้อภัยได้มากแค่ไหนไป
เริ่มตั้งแต่ที่เขาโดนทำให้ลุ่มหลงอยากจะได้ลูกคนหนึ่งขึ้นมา เขาก็ได้ผลักคมทิพย์ออกไปแล้ว แถมยังหาผู้สมรู้ร่วมคิดคนหนึ่งกลับมาต่อกรกับคมทิพย์ด้วย
คนอย่างเขานี่ยังถือว่าเป็นสามีเธอได้อีกเหรอ?
เหอะ เหอะ!
พฤกษ์รู้สึกแต่เพียงความรู้สึกในอกเดือดพล่าน กลิ่นคาวเลือดที่อยู่ในปากก็ยิ่งฉุนมากยิ่งขึ้นแล้ว
เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ไปนานเท่าไหร่ และก็ไม่รู้ว่าน้ำตาไหลจนเหือดแห้งไปตั้งแต่เมื่อไหร่
เขารู้แต่เพียงว่าเขาทบทวนทุกอย่างตั้งแต่ที่รู้จักกับคมทิพย์มาตั้งแต่ต้นจนจบรอบหนึ่ง แล้วสุดท้ายถึงพบว่าคนที่เขาเป็นห่วงที่สุดก็ยังคงคือคมทิพย์
พฤกษ์เก็บโทรศัพท์ให้เรียบร้อย แล้วค่อย ๆ ลุกยืนขึ้น
เขาไม่รู้ว่าตัวเองมาถึงบ้านเพื่อนร่วมรบได้ยังไง ไม่รู้ว่าพูดกับภรรยาทหารยังไง รู้แต่เพียงว่าเขาเดินออกมาสะลึมสะลือ แล้วก็จองตั๋วเครื่องบินเที่ยวที่เร็วที่สุด แล้วบินกลับเมืองBไปเลย
ทั่วทั้งตัวของพฤกษ์โดนความอาฆาตที่เยือกเย็นห้อมล้อมเอาไว้ ราวกับเป็นยมทูตตนหนึ่ง ทำให้คนไม่กล้าที่จะเข้าใกล้
เขาตรงไปที่บริษัท เตะทีหนึ่งจนประตูห้องทำงานของบุลินเปิดออก กลับทำให้ผู้คนรอบข้างตกใจจนสะดุ้งทีหนึ่ง
ในบริษัททุกคนต่างก็รู้ว่าบุลินเป็นคนโปรดต่อหน้าพฤกษ์ ไม่ว่าบุลินจะทำความผิดใหญ่หลวงแค่ไหน พฤกษ์ก็จะไม่ต่อว่าอะไรเธอรุนแรง ส่วนบุลินเองก็เป็นคนที่มีความสามารถอยู่บ้างจริง ๆ ทำให้คนอิจฉาริษยาอยู่ต่างก็ตามกันไม่ทัน
แต่ตอนนี้อยู่ ๆ พฤกษ์ก็มาโหดเหี้ยมและรุนแรงแบบนี้ กลับทำให้คนทั้งหมดตกใจจนสะดุ้ง และนิ่งอึ้งไปเลย
และหนึ่งในนั้นคนที่ตกใจที่สุดก็คือบุลิน
อยู่ในใจของบุลินก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
“ประธานพฤกษ์ คุณกลับมาแล้วเหรอคะ?”
เธอรวบรวมอารมณ์กลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็เดินไปถามไถ่อย่างรวดเร็ว แต่กลับโดนพฤกษ์บีบคอไว้ ดวงตาที่แดงก่ำคู่นั้นเย็นเฉียบจนทำให้ใจคนหนาวสั่น
บุลินรู้สึกแต่เพียงว่าอากาศในปอดโดนคนดูดออกไปทีละนิดทีละนิด ทั้งตัวเกือบจะหายใจไม่ออกแล้ว
เธอตีมือของพฤกษ์แล้วตะเกียกตะกายไปไม่หยุด แต่ว่าพฤกษ์เป็นใครกัน?
เขาฝึกฝนมานานปีขนาดนั้นแน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถเทียบได้!
แขนนั่นราวกับเป็นโลหะที่ทำลายไม่ได้ยังไงอย่างงั้น ไม่มีทางที่จะสลัดหลุดออกมาได้เลย และน้ำเสียงที่เย็นเยียบของเขาก็เหมือนกับว่าเค้นออกมาจากไรฟัน
“เธอกลับสมคบคิดกับผู้ช่วยที่ฉันหาให้คมทิพย์มาลงมือกับคมทิพย์เลยเหรอ บุลิน ใครให้ความกล้านี้กับเธอ?”
พฤกษ์ก็เป็นคนที่เคยออกรบเคยฆ่าคนมาก่อน ตอนนี้พลังแสดงออกมาทั้งหมด จึงทำให้คนทั้งหมดตกใจไปหมดเลย บรรยากาศที่อึมครึมแบบนั้นกดทับให้ทุก ๆ คนต่างก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยเสียงดังออกมาสักคำ และยิ่งไม่มีใครเดินเข้าไปลากพฤกษ์ออกมา
ดวงตาของบุลินมีตื่นตระหนกเสี้ยวหนึ่งพาดผ่านไป แต่กลับรีบพูดขึ้นว่า “ฉันเปล่านะคะ! ประธานพฤกษ์ มีคนใส่ร้ายฉัน! ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ! จริง ๆ นะคะ! คุณต้องเชื่อฉันนะ!”
“เชื่อเธอเหรอ? เธอคิดว่าเธอเป็นตัวอะไร? ยังกล้ามาให้ฉันเชื่อเธอด้วยเหรอ? บุลิน ทำไมฉันถึงได้หาเธอมาช่วยฉันทำเรื่องนั้น ในใจของเธอเองไม่มีการประมาณสักหน่อยเหรอ? ระหว่างเธอกับฉันมันก็เป็นแค่การแลกเปลี่ยนครั้งหนึ่งเท่านั้น ฉันออกเงิน เธอออกตัว ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนไม่ติดค้างกัน แล้วก็ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ว่าเธอกลับกล้ามาทำร้ายภรรยาของฉัน แถมยังอยากจะเอาชีวิตภรรยาฉันด้วย เธอเชื่อหรือเปล่า วันนี้ฉันจะเอาชีวิตเธอก่อนเลย!”
คำพูดของพฤกษ์ทำให้บุลินอาบอายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตอนนี้ข้างนอกมีคนดูอยู่มากมายด้วย ในคนพวกนั้นมีคนที่ไม่พอใจเธออยู่มากมาย แถมยังอิจฉาริษยาเธอ จนแทบอยากจะปีนขึ้นมาที่ตำแหน่งของเธอนี้มาแทนที่เธอ
แล้วพอคิดถึงตั้งแต่ต้นจนจบของการแลกเปลี่ยนที่ตัวเองกับพฤกษ์ทำขึ้นมานี้ บุลินก็ยิ่งรู้สึกต่ำต้อย
ใช่
ใช่ เธอเป็นคนเข้าหาพฤกษ์เอง!
แม่ของเธอป่วยหนัก จำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อนใหญ่ออกไปผ่าตัดที่ต่างประเทศ จำเป็นที่จะต้องให้ศัลยแพทย์มือหนึ่งระดับโลกมาผ่าตัดด้วยตัวเองถึงจะมีโอกาสรอด แต่เธอที่เป็นคนตัวเล็ก ๆ แบบนี้ถ้าอยากจะติดต่อกับรมิดาศัลยแพทย์มือหนึ่งระดับโลกให้ได้นั้นช่างเป็นเรื่องที่เพ้อฝันเกินไปแล้ว เพราะฉะนั้นเธอจึงมาขอร้องพฤกษ์ นอกจากเงินแล้ว ยังขอให้พฤกษ์ใช้เส้นสายช่วยจัดแจงให้แม่ของเธอได้ผ่าตัดกับคุณหมอรมิดา และเธอรู้มาว่าระหว่างพฤกษ์และคมทิพย์นั้นไม่มีลูก ได้ยินมาว่าเพราะคมทิพย์เป็นนักแสดง และอยู่ในช่วงหน้าที่การงานกำลังรุ่งไม่สามารถมีลูกได้จึงทำให้แบบนี้ เธอเป็นผู้หญิง จากสายตาของพฤกษ์เธอสามารถมองออกได้ถึงความต้องการมีลูกของพฤกษ์ เพราะฉะนั้นเธอก็เลยเอามดลูกของตัวเองมาเป็นตัวล่อพฤกษ์
เธอเป็นคนพูดว่าจะคลอดลูกให้พฤกษ์คนหนึ่งเอง ไม่ต้องการสถานะ ไม่ต้องการความรัก พอคลอดลูกเสร็จเธอก็จะไปต่างประเทศ แล้วไม่กลับมาอีกเลย แถมยังจะไม่มาเจอหน้าลูกอีก ถือว่าเป็นการตอบแทนที่พฤกษ์ช่วยเหลือเธอ
ตอนแรกเธอกะว่าแค่จะลองเสี่ยงดูสักตั้ง คิดไม่ถึงว่าพฤกษ์กลับหวั่นไหวขึ้นมาได้จริง ๆ