นรมนส่งข้อความไปให้กิมจิ หวังว่ากิมจิจะช่วยเหลือ
ซึ่งกิมจิก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่พฤกษ์จากไปคมทิพย์ก็เริ่มทำตัวให้กระปรี้กระเปร่า เธอไล่ผู้ช่วยคนเก่าออก แล้วรับผู้ช่วยคนใหม่เข้ามา จัดการวางแผนเรื่องงาน
สำหรับเรื่องที่คลับเฮาส์ เธอลืมมันไปโดยอัตโนมัติ แต่ทุกคืนกลางดึกที่เงียบสงัดเธอยังร้องไห้จนตื่นขึ้นมาตลอด
นรมนที่ด้านนี้ก็ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ คนของกิมจิทำกระเป๋าเอกสารของทนายปวินตกลงไปในน้ำโดยไม่รอช้า ใบหย่าเปียกโชกไปหมด ทำให้มองไม่เห็นลายเซ็นอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นใบหย่านี้ก็เชื่อถือไม่ได้แล้ว
ตอนที่ทนายปวินอยากบอกเรื่องนี้ให้พฤกษ์รู้ โทรศัพท์ของพฤกษ์กลับกลายเป็นหมายเลขที่ติดต่อไม่ได้ ตั้งแต่ตอนนี้จึงไม่มีใครรู้ว่าพฤกษ์อยู่ที่ไหนอีกแล้ว
นรมนเห็นคมทิพย์ไม่ย่อท้อ ใช้ชีวิตอย่างกระตือรือร้น เธอจึงกลับไปเล่าเรื่องที่คลับเฮาส์ให้บุริศร์ฟัง แล้วฝากให้บุริศร์ช่วยกู้วิดีโอที่หายไปส่วนนั้นคืนมา
แม้คมทิพย์จะไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีก แต่นรมนไม่สบายใจ เธอต้องหาผู้ชายเฮงซวยที่รังแกคมทิพย์ให้เจอให้ได้
เรื่องนี้สำหรับบุริศร์แล้วง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ
เขาปฏิบัติการเพียงชั่วครู่ ก็กู้วีดีโอกลับมาได้แล้ว ตอนที่นรมนเห็นว่าคนในวิดีโอคือพฤกษ์ก็ชะงักงันเล็กน้อย
“เป็นพฤกษ์ได้ยังไง?”
“ถ้าไม่ใช่เขาจะเป็นใครได้? คมทิพย์ไปเจอเขาไม่นาน เบื้องบนก็ส่งคนมาคุ้มกันเขาออกไป แค่เรื่องนี้ไม่มีคนรู้เท่านั้นเอง”
ผลลัพธ์อย่างนี้บุริศร์ไม่แปลกใจเลยสักนิด
เขาให้วิดีโอที่กู้คืนมาแล้วแก่นรมน นรมนจึงส่งไปให้คมทิพย์ทันที
ตอนที่คมทิพย์รู้ว่าคนที่ตนเองไปมีอะไรด้วยคือพฤกษ์ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มทั้งน้ำตา ทั้งดีใจ ทั้งปวดใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เธอคงไม่เซ็นใบหย่าหรอก แต่ตอนนี้ยังดี ที่ทั้งหมดกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว
คมทิพย์สูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามเริ่มต้นใช้ชีวิต ถ่ายละครด้วยความกระตือรือร้น สำหรับข่าวของพฤกษ์ที่ออกมาก็ยอมรับอย่างเปิดเผย ถึงกับยอมรับว่าตนเองไม่ได้ทำหน้าที่ของภรรยาให้เต็มที่ ในเวลาเดียวกันเธอก็หวังว่าทุกคนจะไม่รบกวนชีวิตส่วนตัวของเธอจนเกินไป
เพราะตามปกติคมทิพย์มีมนุษยสัมพันธ์ที่ไม่เลว ดังนั้นเรื่องนี้ในอินเทอร์เน็ตจึงสงบลงได้อย่างรวดเร็ว บวกกับบุริศร์และนรมนที่คอยประคองอยู่ข้างหลัง งานของคมทิพย์จึงไม่ได้รับผลกระทบไปด้วย
ธเนศพลรับน้ำกลับเมืองหลวงแล้ว แต่ได้ยินว่าทางด้านนั้นไม่ยอมรับน้ำสักเท่าไหร่ เพื่อน้ำสองแม่ลูก ธเนศพลต้องแบกรับความกดดันมากมาย สุดท้ายจึงถอนตัวออกจากการเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้ดูแลทันที นี่ทำให้คุณท่านขวัญชัยโมโหมาก
แต่ธเนศพลผ่านช่วงวัย17-18ปีที่วู่วามมาแล้ว ไม่ว่าคุณท่านขวัญชัยจะโน้มน้าวยังไง เขามีแค่เงื่อนไขเดียว นั่นก็คือต้องยอมรับน้ำสองแม่ลูก ไม่งั้นเรื่องทั้งหมดก็ไม่ต้องพูดถึง
ในช่วงนี้ ธเนศพลพาน้ำสองแม่ลูกไปอยู่ในที่ที่ไม่มีใครรู้ ในเวลาเดียวกันก็มีกานต์อีกคนที่หายไปด้วยกัน
ในฐานะที่กานต์เป็นครูฝึกตัวน้อยของชมพูจึงโดนพาตัวไปด้วย เรื่องนี้บุริศร์กับนรมนไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ
กมลที่ได้รู้ว่าพี่ชายของตนเองต้องแยกตัวไปฝึกฝนเป็นเวลานานก็เศร้าใจอยู่บ้าง แต่โตขึ้นแล้วจึงค่อยๆเข้าใจได้
ด้วยการชี้แนะของมิลินกิจจาเริ่มคึกคักที่จะได้เข้าร่วมในมหาวิทยาลัยแพทย์ใหญ่ๆหลากหลายแห่งและได้ประชุมทางการแพทย์ด้วย ไม่นานทั้งเมืองชลธีก็รู้ว่าลูกชายคนโตของตระกูลโตเล็กเป็นอัจฉริยะทางการแพทย์ ด้วยเหตุนี้คนมากมายก็พรั่งพรูกันเข้ามาแย่งชิงเป็นอาจารย์ของกิจจา แต่กลับโดนบุริศร์กับนรมนปฏิเสธไปอย่างนุ่มนวลแล้ว
ลูกชายสองคนโดนนรมนรับไปดูแลอยู่ข้างกาย และจ้างพี่เลี้ยงมาดูแล ในเวลาเดียวกันเธอก็เริ่มออกแบบรถยนต์แล้ว
ไม่นานนรมนได้ออกแบบรถแข่งรุ่นหนึ่งให้ชญตว์ สำหรับใช้แข่งรถโดยเฉพาะ ในช่วงเวลาสั้นๆก็มีชื่อเสียงจนเป็นที่สนใจ
สำหรับความยอดเยี่ยมของภรรยาบุริศร์ปลื้มใจมาก ในขณะเดียวกันก็ย้ายทรัพย์สินของตนเองไปที่ต่างประเทศ ทั้งยังให้ชัยยศย้ายตามไปจัดการด้วย
ช่วงที่เพิ่งเริ่มต้นชัยยศก็จัดการไม่ไหว แต่ตามที่บุริศร์ฝึกสอนให้ตัวต่อตัว ครึ่งปีผ่านไปชัยยศก็สามารถจะรับผิดชอบคนเดียวได้แล้ว
หลังจากแยกกันครั้งที่แล้วก็ไม่ได้ข่าวคราวของเจตต์กับขวัญตาอีกเลย แต่ทว่าเส้นทางเดินเรือของตระกูลปวนะฤทธิ์ยังดำเนินการตามปกติ จนถึงตอนนี้บุริศร์กับนรมนก็ถือว่าคลายกังวลได้มากแล้ว
ด้วยการรักษาพยาบาลของจณัตว์สุขภาพของหงส์ค่อยๆดีขึ้น ถึงขั้นเริ่มวางแผนอยากจะมีลูกแล้ว ตอนที่หงส์ได้ยินก็ดีใจจนน้ำตาไหล
ส่วนคมทิพย์หลังจากที่พฤกษ์จากไปได้หนึ่งเดือนก็พบว่าท้องแล้ว เพื่อลูกเธอจึงยิ่งขยันทำงาน เผชิญหน้ากับการใช้ชีวิตด้วยความกระตือรือร้น
เมื่อเห็นชีวิตของทุกคนเหมือนกับเข้าสู่เส้นทางที่ถูกต้องแล้ว นรมนกับบุริศร์ก็มีความสุข
หลังจากที่นรมนได้ออกแบบรถแข่งให้ชญตว์ก็ได้หวนกลับมาอย่างเป็นทางการ ทำให้ในแต่ละวันมีงานไม่น้อยเลย คุณท่านตนุวรกลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป จึงเป็นฝ่ายรับผิดชอบดูแลเด็กๆเอง เห็นลูกชายสองคนดีอกดีใจที่ได้อยู่กับคุณตา นรมนก็ค่อยๆยิ้มออกมา
ในช่วงนี้ ราเชนเผยแพร่ข่าวดีออกมา เขากำลังจะแต่งงานแล้ว ว่าที่เจ้าสาวคือน้องสาวของซินดี้ ตามที่เล่ากันว่าตอนที่ราเชนกำลังจะโดนลอบสังหารก็ได้เธอเข้ามาขวางเอาไว้ จนบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล ภายในโรงพยาบาลความรู้สึกของทั้งสองคนก่อตัวมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ในที่สุดราเชนก็ตัดสินใจแต่งงานโดยไม่สนใจความคิดเห็นใดๆ
ด้วยเหตุนี้นรมนกับบุริศร์จึงส่งคำอวยพรที่แสนจริงใจมาให้ คุณท่านตนุวรก็มาที่ประเทศFเพื่อร่วมงานแต่งของราเชน แน่นอนว่าเรื่องนี้คนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็มาถึงแล้ว รวมไปถึง นงลักษณ์กับบุญทิวาด้วย
ชีวิตนี้ของบุญทิวาไม่ง่ายเลย ตอนที่เขาเห็นจณัตว์น้ำตาก็ไหลออกมาด้วยความซึ้งใจ
ยังไงก็คิดไม่ถึงว่าชีวิตนี้ของตนเองจะยังได้เจอลูกชายของตนเองอีก
จณัตว์เห็นบุญทิวาแล้วก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน
“พ่อครับ!”
เสียงเรียกของจณัตว์ทำให้นงลักษณ์หันหน้ามาทันที ดวงตาชุ่มชื้น
แต่บุญทิวากลับกอดจณัตว์ร้องไห้โฮอยู่ตรงนั้น
ถ้าไม่มีเรื่องพวกนั้น เขาจะพลัดพรากจากลูกชายคนนี้ไปได้ยังไง?
ชีวิตนี้ เขาไม่มีโอกาสได้เห็นการเติบโตของลูกชายอีกแล้ว ไม่รู้ว่าท่าทางตอนที่จณัตว์หัดเดินเตาะแตะเป็นยังไง ไม่รู้ว่าคำแรกที่อ้าปากพูดออกมาคือคำว่าอะไร ไม่รู้ว่าตอนที่เขาหกล้มร้องไห้เพราะเจ็บเคยตำหนิพ่ออย่างเขาบ้างหรือเปล่า
จณัตว์ก็ตื่นเต้น แต่เทียบกับบุญทิวาแล้ว เขายังถือว่าสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้
“พ่อครับ นี่พ่อเป็นเฒ่าทารกก่อนวัยอันควรมันจะไม่ดีหรือเปล่าครับ? ลูกสะใภ้ของพ่อยืนดูอยู่ข้างๆนะ”
คำพูดนี้ของจณัตว์ทำให้ความรู้สึกทั้งหมดของบุญทิวาสงบลงได้
จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าสภาพของตนเองตอนนี้คงแย่มากแน่ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะปล่อยจณัตว์ออก ใบหน้าของคนแก่แดงระเรื่อ
นงลักษณ์ถลึงตาใส่จณัตว์ พูดขึ้น: “ทำไมพูดกับพ่ออย่างนี้? อยู่ต่อหน้าคนนอกกลับไม่รู้จักไว้หน้าพ่อแกบ้างเลยนะ”
ตอนนี้ในสายตาของนงลักษณ์มีแค่สามีเท่านั้นที่สำคัญที่สุด
จณัตว์ยิ้มเบิกบานพูดขึ้น: “ครับๆๆ ลูกผิดไปแล้ว พ่อครับ พ่อพลาดตอนที่ผมเกิดตอนที่ผมเติบโตมันไม่เป็นไรหรอกครับ พ่อยังเป็นคนที่เห็นหลานของพ่อเติบโตได้ครับ! ต่อไปผมกับหงส์คงจะยุ่งมาก ถ้าคลอดลูกแล้วก็ต้องรบกวนพ่อกับแม่ช่วยพวกเราเลี้ยงลูกด้วยนะครับ”
แค่พูดออกไป นงลักษณ์กับบุญทิวารวมไปถึงทุกคนก็พากันตะลึงงัน
“หงส์ท้องแล้วเหรอ?”