แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1634 วันนี้เขาดื่มไปเยอะ

บทที่ 1634 วันนี้เขาดื่มไปเยอะ

“เงยหน้าขึ้น!”

เสียงของนรมนไม่ดัง แต่กลับน่าเกรงขามมาก

อีกฝ่ายชะงักเล็กน้อย แล้วทุ่มของในมือไปทางนรมนอย่างรวดเร็ว

นรนมจึงป้องกันตัวด้วยสัญชาตญาณ ทั้งยังตะโกนออกมาในทันที

“องครักษ์! ขวางผู้หญิงคนนั้นไว้!”

ผู้หญิงคนนั้นกระโดดหนีไปทางหน้าต่าง องครักษ์จึงรีบไล่ตามออกไป

บุริศร์ได้ยินเสียงพวกเขาก็รีบตามเข้ามา

“เกิดอะไรขึ้น?”

เขารีบดึงนรมนเอาไว้ ตรวจสอบร่างกายของเธออย่างละเอียดว่าได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า

นรมนส่ายหน้าพูดขึ้น: “ฉันไม่เป็นไร เมื่อกี้มีคนจะเข้าไปหานภดล แล้วโดนฉันเห็นเข้าโดยบังเอิญ”

“นภดล?”

บุริศร์หรี่ตาลงเล็กน้อย คมทิพย์กับปัญญ์รีบตามออกมา ตอนที่ได้ยินคำพูดของนรมนก็ชะงักไปชั่วครู่

“ปาณีหรือเปล่า?”

คมทิพย์รู้เรื่องทั้งหมด ดังนั้นจึงเดาถึงปาณีทันที

นรมนส่ายหน้า

“ไม่ใช่ รูปร่างส่วนสูงของปาณีฉันจำได้ ผู้หญิงคนนั้นเสียงแหบพร่า ส่วนสูงกับรูปร่างไม่เหมือนปาณีด้วย”

“งั้นจะเป็นใคร?”

ทุกคนพากันสงสัยสาวใช้คนนี้

ราเชนได้ยินว่ามีคนที่ตัวตนไม่แน่ชัดเข้ามาในวัง จึงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เพียงแต่สาวใช้คนนั้นเหมือนกับจู่ๆก็หายตัวไป ใครๆก็ไม่พบร่องรอยใดๆเลย

“ไม่ว่ายังไงเส้นทางที่เดินผ่านไปก็ต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้บ้าง แต่สาวใช้คนนี้กลับทำให้ไม่สามารถรับรู้ตำแหน่งและการมีตัวตนของเธอได้เลย บอกได้แค่ว่าถ้าไม่ได้อยู่ในวังนี้ ก็ต้องคุ้นเคยกับที่นี่เป็นพิเศษ”

บุริศร์เห็นด้วยกับคำพูดของเจตต์มาก

จณัตว์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“หลักๆแล้วตอนนี้นภดลไม่มีปัญหาอะไร อีกฝ่ายมาหานภดลเพื่ออะไร? อยากตรวจสอบสถานการณ์ของนภดลงั้นเหรอ? หรือว่าอยากได้อะไรจากบนร่างกายของนภดลอีก?”

“ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร ก็ต้องย้ายนภดลออกไปแล้ว”

ชญตว์รีบรับคำ “ไปบ้านผมเถอะ ผมไม่เชื่อว่าจะมีคนกล้ามาที่ตระกูลธนปารกุลของพวกผม”

ทุกคนตะลึงงัน

แต่จณัตว์กลับยิ้มพูดขึ้น: “แหงสิ ที่ประเทศFก็ไม่มีใครกล้าไปที่ตระกูลธนปารกุลจริงๆ นอกจากจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว”

“ทำไมถึงพูดอย่างนี้”

นรมนค่อนข้างสงสัย

ชญตว์จึงพูดขึ้นอย่างภูมิใจ: “เพราะพวกเราเป็นตระกูลที่มีพิษเฉพาะตัว”

“เฉพาะตัวอะไรนะ?”

คมทิพย์ฟังไม่เข้าใจ จึงถามกลับไปทันที ทำให้ชญตว์เบ้ปากนิดหน่อย

“คุณนี่เป็นดาราอย่างสมภาคภูมิจริงๆ เวลาไหนก็อยากได้ความเฉพาะตัวสินะ? ผมพูดถึงพิษที่เป็นการใช้พิษโดยเฉพาะน่ะ ตระกูลของผมอยู่ในคฤหาสน์ ทางเข้าคฤหาสน์ของพวกผมมีพืชสมุนไพรอยู่ ถ้าไม่ใช่คนของตระกูลผม เข้ามาเพียงสามเมตรก็จะหมดสติ และโดนพิษทันที”

ได้ยินชญตว์พูดอย่างนี้ นรมนจึงเบิกตาโพลง

“น่าอัศจรรย์ขนาดนี้เลยเหรอ?”

“แน่นอน ตระกูลธนปารกุลของพวกผมเป็นตระกูลขุนนางมาหลายชั่วอายุคนแล้ว”

เห็นท่าทางโอ้อวดของชญตว์ คมทิพย์ก็รู้สึกขัดตาเหลือเกิน จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น: “ตระกูลมีพิษหลายชั่วอายุคนหรือเปล่า? นายอย่าได้สบประมาทตระกูลขุนนางเชียวนะ”

“คมทิพย์ นี่คุณจะหาเรื่องใช่ไหม?”

“ใช่น่ะสิ นายจะสู้ใช่ไหม? มาเลย! ตอนนี้ฉันมีสองคน จะสู้กับฉันก็ลองสิ!”

คมทิพย์ยื่นท้องไปอย่างเก่งกาจ ทำให้ชญตว์กลุ้มใจขึ้นมาทันที

“ผม ผมไม่ต่อล้อต่อเถียงกับคนท้องหรอกนะ”

“เชอะ! พูดอย่างกับนายเถียงชนะฉันงั้นแหละ!”

คมทิพย์กับชญตว์ต่อปากต่อคำกันโดยไม่สนใจคนรอบข้าง นรมนเห็นปฏิกิริยาระหว่างพวกเขาแล้ว ก็ค่อนข้างประหลาดใจ

ส่วนบุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

เจตต์นึกถึงพฤกษ์ที่ตอนนี้เป็นตายยังไงก็ไม่รู้ แล้วยังมาเห็นคมทิพย์ลับฝีปากกับชญตว์อีก จู่ๆก็รู้สึกไม่สบอารมณ์

“เฮ้ ชญตว์ นายอายุเท่าไหร่? แต่งงานหรือยัง?”

ชญตว์ที่โดนเจตต์ถามอย่างนี้ ชะงักเล็กน้อย แล้วพูดด้วยความหงุดหงิด: “ทำไมที่ไหนๆก็มีแต่คนเร่งให้แต่งงาน? อีกอย่างนะ เราสนิทกันหรือไง? คำถามนี้นายไม่รู้สึกว่ามันล้ำเส้นไปหน่อยเหรอ?”

“ฉันไม่รู้สึกนะ ฉันแค่รู้สึกว่านายสนิทสนมกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเช่นนี้มันดูไม่ค่อยดีมากกว่า”

เจตต์พูดตรงไปตรงมา ก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องหวาดหวั่นอะไร แม้เริ่มแรกจะต่อต้านพฤกษ์มาก ไม่ชอบสหายคนนี้เลย แต่หลังจากได้รู้ว่าชีวิตของพฤกษ์ผ่านอะไรมาบ้าง ยิ่งได้เห็นพฤกษ์ทำทุกอย่างเพื่อบุริศร์แล้ว สหายอย่างพฤกษ์ เจตต์จึงยอมรับได้เลย

ถึงยังไงก็โดนเขาเรียกว่าพี่ชายมาตั้งหลายปี ตอนนี้เขาจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ แต่น้องสะใภ้กลับเข้ากับผู้ชายอื่นได้ดีเช่นนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะโมโห

นรมนกับคมทิพย์รวมไปถึงทุกๆคนพากันตกใจคำพูดของเจตต์ที่แทบจะถือว่าเป็นคำปลุกปั่นก็ว่าได้

ขวัญตาดึงๆเจตต์ พูดขึ้นเบาๆ: “คุณพูดเหลวไหลอะไรเนี่ย?”

“ขอโทษที”

เจตต์พูดไปแล้วก็รู้สึกว่าไม่ค่อยดีจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่สบเข้ากับสายตาประหลาดใจและลำบากใจของคมทิพย์ เขาก็รู้ว่าตนเองวู่วามไปแล้ว

บางทีคงเป็นเพราะห่วงพฤกษ์เกินไป

ตอนนี้จึงทนเห็นผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจลับฝีปากกับผู้ชายอื่นโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยไม่ได้ แต่เขาก็รู้ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะบอกข่าวพฤกษ์ให้คมทิพย์รู้

ชญตว์ไม่รู้เรื่องพวกนี้ ตอนที่ได้ยินคำพูดนี้ของเจตต์สีหน้าจึงอึมครึมขึ้นมา

“ขอโทษอะไร? นายเป็นผู้ชายหรือเปล่า? ตอนที่พูดไม่คิดก่อนหรือไง? คิดว่าตอนนี้ยังเป็นสังคมสมัยโบราณ ที่ระหว่างชายหญิงแค่ต่อปากต่อคำกันก็ไม่ได้งั้นเหรอ? ฉันกับคมทิพย์เป็นยังไงเหรอ? ฉันกับเธอบริสุทธิ์! พวกเราสนิทกัน เป็นเพื่อนกัน แล้วมันทำไม? พูดง่ายๆก็คือยังต้องเป็นภรรยาที่มีศีลธรรมใช่ไหมล่ะ? ฉันขัดตานาย? หรือคมทิพย์ขัดตานายกันแน่? ถ้าอยากปะทะก็พูดให้มันชัดเจน”

แม้ปกติชญตว์จะเป็นคนไม่ค่อยใส่ใจอะไร แต่ตอนที่จริงจังขึ้นมาก็ต้องมีความโมโหปะปนอยู่ด้วย

เดิมทีเจตต์ก็รู้สึกว่าตนเองพูดอย่างนั้นมันค่อนข้างวู่วาม แต่เพราะเขาเป็นห่วงพฤกษ์ ในใจจึงค่อนข้างโมโห ตอนนี้ตนเองขอโทษแล้ว แต่ชญตว์ยังไม่ยอมโอนอ่อนผ่อนตามอีก ความโมโหในใจจึงพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที

“ปะทะงั้นเหรอ? นายสู้ฉันได้ไหมล่ะ?”

“ลองสิ!”

สงครามของทั้งสองคนกำลังจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ

แม้คมทิพย์จะไม่รู้ว่าวันนี้เจตต์เป็นอะไร แต่ก็ไม่อยากสร้างความวุ่นวายในงานแต่งที่กำลังจะเกิดขึ้นของราเชน เธอจึงรีบก้าวขึ้นไปดึงชญตว์กลับมา

“ลองอะไรล่ะ? สภาพคุณอย่างนี้ยังคิดจะต่อสู้อีก? คุณสามคนบวกกับอีกหนึ่งส่วนก็อาจจะสู้กับเขาไม่ได้นะ”

คำพูดนี้จริงๆก็ธรรมดามากๆ แต่วันนี้เจตต์ฟังไม่เข้าหูซะแล้ว จึงโพล่งออกไปทันที: “ไม่ทันไรก็ปกป้องกันซะแล้ว?”

“เจตต์!”

ขวัญตาเห็นเขาไม่เข้าท่าขึ้นเรื่อยๆแล้ว จึงลากเจตต์กลับมา แล้วยิ้มพูดกับคมทิพย์อย่างรู้สึกผิด: “ขอโทษด้วยนะคะ วันนี้เขาดื่มเยอะน่ะค่ะ”

“ดื่มเยอะงั้นเหรอ? ดื่มเยอะแล้วจะพูดเหลวไหลยังไงก็ได้ใช่ไหม? เจตต์ คุณหมายความว่าไง? ฉันล่วงเกินคุณหรือไง? หรือฉันทำอะไรคุณ? วันนี้คุณพูดกับฉันแปลกๆ พ่นคำสกปรกใส่ฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะอะไร? คุณไม่พอใจฉันใช่ไหม?”

สีหน้าของคมทิพย์ก็เคร่งขรึม ดวงตาคู่นั้นจ้องไปที่เจตต์ บรรยากาศในห้องโถงค่อนข้างหายใจลำบากและน่าอึดอัดขึ้นมาทันที

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท