ว่าไปแล้วเขาก็ควรที่จะขอบคุณเจ้าเด็กกานต์คนนี้
ก็เป็นอย่างที่คิดว่าลูกชายของบุริศร์นั้นสุดยอด!
ถ้าเกิดว่าได้เป็นลูกเขยของตัวเองก็จะยิ่งดีไปอีก
ธเนศพลคิดในใจอย่างมีความสุข
กานต์กับชมพูไม่รู้เลยแม้แต่นิดเดียวว่าผู้ใหญ่ทั้งสองคนกำลังคิดอะไรอยู่ ทั้งสองคนรีบติดตามหาร่องรอยของคนที่ติดตามมา
ผ่านไปไม่นานกานต์ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคือใคร
ค้นเคยเส้นทางขนาดนี้ถ้าไม่ใช่จิ้งจอกเงินแล้วจะเป็นใครได้อีกละ?
ไม่คิดเลยว่าจิ้งจอกเงินจะปกปิดตัวตนให้เขาอีกครั้ง ดังนั้นเรื่องเมื่อกี้ของเขาจิ้งจอกเงินก็รู้ด้วยใช่ไหม?
ในเมื่อรู้แล้วแต่ว่าก็ไม่ได้ห้าม เพราะว่าเกี่ยวกับแด๊ดดี้รึเปล่านะ?
สมองของกานต์ทำงานอย่างรวดเร็ว เขาขอแป้นพิมพ์เนี่ยว่างไว ผ่านไปไม่นานก็มีสัญลักษณ์รูปยิ้มมาจากจิ้งจอกเงิน
“ไอ้เจ้านี่ !ใช้โค้ดเพื่อส่งข้อความหาฉันด้วย”
ความหมายของคนนั้นก็คือ “พอแล้ว ถอยเถอะ”
จิ้งจอกเงินก็รีบตอบอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นชมพูก็พูดอย่างรีบร้อนว่า “พี่กานต์ อีกฝ่ายจะหนีไปแล้ว!”
“ตาม!”
กานต์ออกคำสั่ง แล้วชมพูก็รีบเปลี่ยนโค้ดอย่างรวดเร็ว
คุณท่านขวัญชัยดูแล้วก็ไม่เข้าใจ แต่ก็รู้ว่าตอนนี้เป็นตอนที่สำคัญมาก ร่างกายของเขาก็ขยับเข้าไปใกล้ชมพูในทันที
“หาตำแหน่งของอีกฝ่ายเจอไหม ?”
ชมพูชะงักไปครู่หนึ่ง กลิ่นไม้จันทน์จางๆ ลอยเข้ามา ทำให้เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่
คุณปู่เข้ามาใกล้เกินไปแล้ว
แต่ว่าเธอก็ตอบอย่างรวดเร็วมากกว่า “น่าจะได้นะคะ แต่ว่าอีกฝ่ายก็เจ้าเล่ห์มาก เทคนิคก็ค่อนข้างเก่ง”
“ เทคนิคเก่งอ่ะช่างมันเถอะ ระดับของเธอก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน”
คำชมเชยจากกานต์ทำให้คุณท่านขวัญชัยเลิกคิ้ว
เขาเคยได้ยินมาว่ากานต์เป็นคนที่หยิ่งมาก และแน่นอนกานต์เป็นคนที่มีความเย่อหยิ่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะชมชมพูได้
และคุณท่านขวัญชัยก็ได้ยินมาว่าในระหว่างการฝึกกานต์ก็ดูแลชมพูเป็นพิเศษ
ดังนั้น……
ดวงตาของคุณท่านขวัญชัยก็ค่อยๆ หรี่ลง
ถ้าเกิดว่าตระกูลโตเล็กกับตระกูลธนเกียรติโกศลได้เกี่ยวดองสมรส ในอนาคตยังจะมีอะไรให้ต้องเป็นห่วงอีกละ
ข้อคิดได้แบบนี้แล้ว มุมปากของคุณท่านขวัญชัยก็ยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
ไม่มีใครรู้จักลูกชายตัวเองดีไปกว่าพ่อของเขา
คุณท่านขวัญชัยมีความคิดแบบไหน ธเนศพลก็ต้องรู้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้ทั้งสองคนจะมีความคิดเหมือนกันก็ตาม แต่ว่าธเนศพลกลับรู้สึกไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่นัก
เขาอยากให้กานต์มาเป็นลูกเขยของตัวเองเพราะว่าเขาชอบลูกสาวของตัวเองจริงๆ อยากให้คนที่ดีที่สุดได้อยู่ข้างลูกสาวของเขา แต่มันไม่เหมือนกับที่คุณท่านขวัญชัยคิด
หรือว่าเมื่อคนเราได้ขึ้นตำแหน่งสูงก็จะเปลี่ยนไปอย่างนั้นเหรอ?
ธเนศพลไม่รู้หรอก แต่ว่าตอนนี้เขาก็รู้สึกเกิดความไม่พอใจเล็กน้อย
แต่เขาก็รู้ดีว่า ถ้าเกิดว่าตัวเองไม่ได้ขึ้นไปตำแหน่งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือว่าน้ำหรือแม้แต่ชมพู ก็ไม่มีทางจะมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยสมบูรณ์
การเกิดมาอยู่ในครอบครัวแบบนี้ เขาไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว !
ดวงตาของธเนศพลดูมีความสุขเศร้า
กานต์กับชมพูร่วมมือกันได้อย่างดีมาก ตอนที่สุดท้ายแล้วทั้งสองคนหาIPของอีกฝ่ายตรงข้ามเจอแล้วนั้น จู่ๆ คอมก็กลายเป็นสีดำไปในทันที
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“อีกฝ่ายออฟไลน์แล้ว แต่ว่าพวกเราก็สามารถหาที่อยู่ของอีกฝ่ายได้สำเร็จแล้ว”
“ที่ไหน?”
“531.”
ตอนที่กานต์พูดออกมา คุณท่านขวัญชัยก็โมโหเป็นอย่างมาก
“ไอ้531นี่คิดจะทำอะไรกันแน่? ฉันเคยส่งคนไปคุยกับพวกนั้นไม่ต่ำกว่าหนึ่งครั้งแล้ว หวังว่าพวกเขาจะร่วมงานกับพวกเราได้ แต่ว่าตอนนี้พวกเขากลับมาเจาะระบบความปลอดภัยของพวกเราซะได้ ข้อมูลหายรึเปล่า? ”
“เปล่าค่ะ ข้อมูลมีไฟร์วอลล์ป้องกันอยู่ อีกฝ่ายยังไม่ทันจะเปิดไฟร์วอลล์ได้”
ชมพูรีบตอบอย่างรวดเร็ว
มือของเธอเหงื่อออกเล็กน้อย
จะให้คุณปู่รู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพี่กานต์
ความประหม่าและกังวลทำให้เธอดูเหมือนคนที่เอาแต่ตอบว่าได้แต่เพียงอย่างเดียว
คุณท่านขวัญชัยมองดูท่าทางของชมพู ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ชอบเล็กน้อย
“ลูกหลานของตระกูลธนเกียรติโกศลมีอะไรก็ต้องพูดแบบนั้น ต้องมีความมั่นใจ แล้วตอนนี้ดูท่าทางของเธอซิ? ทำท่าทางเหมือนลูกสะใภ้ที่เอาแต่ตอบว่าได้อย่างเดียว หลานเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลธนเกียรติโกศล ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เชิดหน้าขึ้นหน่อย!”
คำพูดของคุณท่านขวัญชัยเท่ากับยอมรับตัวตนของชมพูทางอ้อม
กลับมานานขนาดนี้แล้ว ธเนศพลก็พยายามมาตลอด แต่ว่าคุณท่านขวัญชัยก็ไม่ยอมปล่อยเลย แต่ว่าตอนนี้กลับเป็นเพราะว่าเห็นว่าชมพูมีฝีมือในการแฮค ก็เลยยอมรับว่าเธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลธนเกียรติโกศล ช่างน่าขำเสียจริง
ธเนศพลยิ้มมุมปาก แล้วก็มองไปที่คุณท่านขวัญชัยด้วยสายตาดูถูก
ไม่ใช่ว่าคุณท่านขวัญชัยไม่เห็นสายตาที่ดูถูกของธเนศพล แต่แล้วมันยังไงกันล่ะ?
ชมพูเป็นคนที่มีพรสวรรค์ แล้วก็เป็นเลือดเนื้อของตระกูลธนเกียรติโกศลของพวกเขา สิ่งพวกนี้ทำให้เขายอมรับในตัวตนของเธอ
ตระกูลธนเกียรติโกศล ไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ
คุณท่านขวัญชัยทอดถอนใจอยู่ภายในใจ แล้วก็โบกมือให้กานต์พาชมพูออกไปข้างนอก แล้วก็เหลือเขาอยู่กับธเนศพลเพียงสองคน
ธเนศพลเองก็ไม่พูดอะไร เอาแต่ยืนอยู่แบบนั้น ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและน่ากลัว
“ฉันรู้ว่าแกไม่ชอบที่ฉันทำแบบนี้ แต่ว่าในฐานะที่ฉันอยู่ตำแหน่งนี้ฉันมีเรื่องให้ต้องคิดเยอะ รอให้แกมาอยู่ในตำแหน่งเดียวกับฉันเมื่อไหร่แล้วแกก็จะเข้าใจ ไปเตรียมงานรวมญาติให้เจ้าชมพูนั่นเถอะ”
น้ำเสียงของคุณท่านขวัญชัยอ่อนโยนขึ้นมาก
“ยอมรับหลานสาว แต่ไม่ยอมรับลูกสะใภ้เหรอครับ? ”
คำพูดของธเนศพลนั้นแข็งทื่อมาก จนทำให้คุณท่านขวัญชัยรู้สึกโมโหจนเจ็บหน้าอก
“ถ้าฉันบอกไม่ยอมรับแกจะเชื่อฟังฉันไหม? ”
“แล้วผมสามารถตัดสินใจเรื่องงานแต่งงานของผมเองได้ไหม? ”
“ไสหัวออกไปซะ!”
ถึงแม้ว่า คุณท่านขวัญชัยจะไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าธเนศพลก็รู้ดีว่าเรื่องแต่งงานของเขากับน้ำนั้นสมหวังแล้ว
ธเนศพลก็เผยรอยยิ้มออกมา
“ขอบคุณครับพ่อ”
คำว่า “พ่อ” นี้ธเนศพลไม่ได้เรียกตั้งหลายปีมากแล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?
เหมือนกับว่าจะเป็นตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้นกับเขาในกองทัพ และพ่อของเขาไม่ยื่นมือเขามาช่วย เขาก็เลยเรียกแกว่าคุณท่าน
ผ่านไปหลายปีมากแล้ว คุณท่านขวัญชัยได้ยินธเนศพลเรียกเขาแบบนี้อีกครั้ง จู่ๆ ดวงตาก็แดงขึ้นมา
“รีบออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”
เขาอยู่ในตำแหน่งที่สูงมานานมากแล้ว ไม่อยากให้คนอื่นเห็นจุดที่อ่อนแอของตัวเอง ก็เลยรีบหันหน้าไปทางอื่น
แต่ว่าธเนศพลกลับไม่ได้ออกไป จะได้แต่กระซิบถามว่า “พ่อ ตอนนี้พวกเราเป็นพ่อลูกกัน พวกเรามาพูดอะไรกันอย่างตรงไปตรงมากันเถอะ เรื่องการหายตัวไปของภาณเกี่ยวข้องอะไรกับพ่อหรือเปล่า? ”
คุณท่านขวัญชัยชะงักไปในทันที “แกหมายถึงใคร? ใครหายตัวไป? ”
“ภาณ ลูกชายคนเล็กของบุริศร์กับนรมน เด็กที่มีดวงตาสีฟ้าตั้งแต่แรกเกิด และถูกพ่อเฝ้าติดตามมาตั้งนานไง”
คุณท่านขวัญชัยขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นลม
“เด็กคนนั้นหายตัวไปอย่างนั้นเหรอ?”
ท่าทางของคุณท่านขวัญชัยดูไม่ได้เสแสร้งเลยแม้แต่นิดเดียว หรือว่าเขาไม่รู้จริงๆ อย่างนั้นเหรอ?
“พ่อ ไม่ต้องแสดงแล้ว พ่อคอยจับตาดูตระกูลโตเล็กมาโดยตลอด ผมไม่เชื่อหรอกว่าพ่อจะไม่รู้เรื่องนี้”
ธเนศพลพูดจาอย่างเปิดเผย สายตาของคุณท่านขวัญชัยก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน หลังจากนั้นก็พูดด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “แกคิดว่าฉันเป็นคนทำเหรอ? ”
“ผมไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ว่าก็อดไม่ได้ที่จะคาดเดาแบบนี้ ถ้าเกิดว่าพ่อเป็นคนทำจริงๆ ก็ควรจะใกว้างหน่อย เด็กทารกคนหนึ่งควรค่าแก่การให้พ่อต้องไปสนใจขนาดนั้นเลยเหรอ? ”
การที่ธเนศพลเรียกอย่างเคารพ ทำให้คุณท่านขวัญชัยรู้สึกประหลาดใจ ยังไงลูกคนนี้มันก็ดื้อรั้นมาโดยตลอด แต่ว่าการคาดเดาของเขาทำให้คุณท่านขวัญชัยรู้สึกทุกข์ใจ
“ถ้าเกิดว่าแกคิดแบบนี้จริงๆ แสดงว่าแผนร้ายของอีกฝ่ายนั้นสำเร็จ”
“อีกฝ่ายงั้นเหรอ? ใครกัน? ”
ธเนศพลอดไม่ได้ที่จะช็อกไป
หรือว่ายังมีใครที่สามารถทำให้คุณท่านขวัญชัยจนปัญญาด้วยงั้นเหรอ?