“ไปคิดเอาเองเถอะ ฉันคงอยู่ตำแหน่งนี้ได้อีกไม่นานเท่าไหร่นัก ไม่ช้าหรือเร็วมันก็ต้องกลายเป็นของแก แต่ว่าแกมีความสามารถพอที่จะอยู่ได้หรือไม่นั้นมันอยู่นอกเหนือการควบคุมของฉัน!”
พอคุณท่านขวัญชัยพูดจบก็โบกมือไล่ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากจะพูดกับธเนศพลต่ออีกแล้ว
ธเนศพลขมวดคิ้วเข้าหากัน แต่ว่าสุดท้ายก็เดินถอยออกไป
พอออกมาแล้วก็เห็นกานต์ที่ยืนรอเขาอยู่ด้านนอก
“รอฉันมีอะไรรึเปล่า?”
“ เรื่องของจิ้งจอกเงินคือคำสั่งของคุณใช่ไหมครับ? ”
กานต์คิดอยู่ครู่หนึ่ง คนที่สามารถระดมกำลังของจิ้งจอกเงินได้นั้น นอกจากธเนศพลแล้วก็ไม่มีคนอื่นที่สามารถทำได้อีกแล้ว
ธเนศพลมองกานต์ แล้วก็ตอบรับอย่างเรียบง่ายพร้อมกับพูดว่า “เรื่องของชมพูวันนี้ต้องขอบคุณหนูมากนะ”
“ผมแค่ไม่ชอบเห็นเธอถูกเมินเฉย ความจริงแล้วทักษะทางคอมพิวเตอร์ของเธอก็ค่อนข้างสูงใช้ได้เลยนะครับ”
กานต์พูดอย่างสบายๆ ดูไม่ออกว่าเป็นการปกป้องหรือว่าอะไร แต่ว่าธเนศพลก็รู้สึกไม่เลวเลย
“แน่นอน ลูกสาวของฉันยอดเยี่ยมอยู่แล้ว”
กานต์เบะปากแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาไม่ได้ต้องการมีส่วนร่วมในหัวข้อนี้
พ่อของตัวเองก็ต้องคิดว่าลูกของตัวเองดีอยู่แล้ว คุณบุริศร์ของเขาก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ? พอคิดได้แบบนี้แล้ว กานต์ก็เริ่มรู้สึกเป็นห่วงแด๊ดดี้บ้างแล้ว
“คุณบุริศร์ของบ้านผมอยู่ในสนามรบที่ต่างประเทศยังโอเคดีอยู่ใช่ไหมครับ? ”
“วางใจเถอะ คุณบุริศร์ของหนูเนี่ยเกิดมาเพื่อสมรภูมิ ไม่มีทางเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นหรอก”
คำพูดของธเนศพลทำให้กานต์สบายใจขึ้นเยอะ
ทั้งสองคนเดินกลับไปพร้อมกัน ไม่นานก็เข้าไปในห้องทำงานของธเนศพล
ธเนศพลล็อคประตูห้อง กานต์ก็รีบตรวจสอบที่มืดภายในห้องทันที เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่พบเครื่องดักฟังหรือกล้องแอบถ่ายถึงได้รู้สึกโล่งใจ
“ช่วงนี้จิตใจของคุณว้าวุ่นรึเปล่าครับ?”
คำพูดของกานต์ทำให้ธเนศพลชะงักไป มีภาพหลวงตาเหมือนกับว่าบุริศร์กำลังยืนอยู่ตรงนั้นเขาในตอนนี้
“หนูพูดถึงฉันเหรอ?”
“ไม่อย่างนั้นจะอะไรซะอีกล่ะครับ?ผมจะพูดถึงตัวเองหรือไง?”
กานต์กลอกตาใส่เขาและพูดว่า “ไม่รู้ว่าการที่ชมพูมีพ่อแบบนี้คือโชคดีหรือเปล่า ต่อไปคนที่จับตามองมาที่เธอน่าจะต้องมีเยอะมากแน่เลย”
เพราะเห็นว่ากานต์เป็นห่วงชมพู ธเนศพลก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาในทันที
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรบกวนให้คุณชายกานต์คอยดูแลเราล่ะ”
“ไม่ต้องคิดเลยครับ ผมไม่สนใจเป็นลูกเขยของคุณหรอกนะ”
กานต์ความคิดของธเนศพลตั้งแต่แรกแล้ว เลยใช้โอกาสในวันนี้พูดออกมาตามตรง
ธเนศพลก็ชะงักไป
“ทำไมเหรอ? ลูกสาวของฉันไม่คู่ควรกับหนูงานเหรอ?”
“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คู่ควรหรือไม่ควรหรอกครับ”
“ถ้าอย่างนั้นปัญหามันคืออะไรล่ะ?”
“ปัญหาอยู่ที่ว่าผมจะชอบหรือไม่ชอบ”
คำพูดของกานต์ทำให้ธเนศพลเริ่มรู้สึกสนใจแล้ว
“ลูกสาวของฉันอบอุ่นและน่ารัก แถมยังเป็นแฮกเกอร์เหมือนกับหนูอีก ฉันก็ดูออกนะว่าหนูชอบเธอ ไม่ใช่เหรอ? ”
“ผมเห็นเธอเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น แล้วอีกอย่างผมก็ไม่ชอบผู้หญิงที่อยู่ในสายเดียวกับผม”
“เพราะอะไรล่ะ?”
“เพราะว่าถ้าอยู่ในสายเดียวกัน ถ้าเกิดว่าผมเป็นที่หนึ่งเธอต้องรู้สึกไม่มีความสุขแน่ๆ แต่ว่าถ้าเกิดให้ผมไปเป็นที่สอง ผมก็จะรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ว่าถ้าเกิดว่าเป็นน้องสาวจะไม่เหมือนกัน ไม่ว่าผมจะเป็นที่หนึ่งหรือว่าเป็นที่สอง ผมก็จะรู้สึกดีใจทั้งนั้น ถ้าเกิดว่าได้เป็นที่หนึ่ง ผมก็จะสามารถปกป้องเธอได้ ทำให้ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเอง แต่ว่าถ้าเกิดว่าผมเป็นที่สอง ผมก็จะเป็นตัวประกอบให้เธอได้ ทำให้เธอดูโดดเด่นขึ้น ดังนั้นเป็นน้องสาวนี่แหละดีมากแล้ว”
กานต์พูดถึงปัญหาด้านอารมณ์ความรู้สึกของผู้ใหญ่อย่างมีเหตุมีผล จนทำให้ธเนศพลบื้อไปเลย
“ถ้าเกิดว่าหนูไม่ได้มีร่างกายของเด็ก 7 ขวบ ฉันคงจะคิดว่าหนูเป็นอสูรพันปี ฉลาดมาก เข้าใจเกี่ยวกับปัญหาเรื่องอารมณ์ความรู้สึกบ้าบออะไรพวกนี้ด้วย
คําสบถของธเนศพล กานต์ได้ยินแล้วก็แค่ยกยิ้มมุมปากเท่านั้น แต่ว่าไม่ได้พูดอะไร แล้วก็เปลี่ยนทิศทางไปในทันที
“คนที่ลักพาตัวน้องชายของผมคือใครเหรอครับ?”
“ไม่รู้เหมือนกัน พ่อฉันก็ไม่รู้ หนูคงต้องไปสืบหาเองแล้วแหละ แต่ว่าอย่าให้คนอื่นพบตำแหน่งของหนูนะ”
คำพูดของธเนศพลทำให้คิ้วของกานต์ขมวดเข้าหากัน
อย่าให้คนอื่นพบตำแหน่งของตัวเองอย่างนั้นเหรอ?
นี่ธเนศพลคิดว่าตัวเขาเป็นมนุษย์ล่องหนอย่างนั้นเหรอ?
แต่ว่าเมื่อธเนศพลให้เขาไปสืบเอง กานต์ก็รู้สึกสบายใจขึ้นนิดหน่อย
“ผมอยากไปเจอตาทวด”
“คาดว่าน่าจะเป็นไปไม่ได้ ว่ากันว่าคุณท่านตนุวรถูกพ่อของฉันกักตัวเอาไว้อยู่ ปากนะบอกว่าปกป้อง แต่จริงๆ แล้วก็แทบจะไม่ต่างอะไรกับการกักตัวไว้ที่บ้านเลย ดูจากหนูในตอนนี้ เข้าไปไม่ได้หรอก”
คิ้วของกานต์ขมวดเข้าหากันแน่นยิ่งกว่าเดิม จู่ๆ เขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
“ตาเฒ่าบ้านคุณนี่ชอบหาเรื่องจริงๆ เลยนะ”
“แค่กๆ !”
ธเนศพลยังไม่ทันจะได้ดื่มน้ำเข้าไปก็สำลักออกมาแล้ว
คาดว่าคำพูดนี้มีแต่กานต์เท่านั้นที่จะกล้าพูด
“คำพูดนี้พูดแค่ในนี้เท่านั้นนะ ออกไปข้างนอกอย่าพูดไปเรื่อยเปื่อย”
“ผมก็ไม่ได้โง่นะครับ”
พอกานต์พูดในสิ่งที่ตัวเองอยากพูดจบก็เดินออกไป
ธเนศพลยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง สุดท้ายคิดไปคิดมาแล้วก็ล้มเลิกไป รอให้โตขึ้นเมื่อไหร่ก็จะรู้ถึงความดีของลูกสาวของเขาเองแหละ
ส่วนฝั่งของคุณท่านขวัญชัย พอธเนศพล ก็มีพ่อบ้านแก่ๆ เดินเข้ามา
“ คุณท่านขวัญชัย คุณทำงานอย่างหนักเพื่อปูทางให้คุณชายธเนศพล เกรงว่าคุณชายธเนศพลจะไม่รู้ถึงความดีที่คุณทำให้เลยนะครับ”
“เขาจะรู้หรือไม่รู้ฉันไม่สนใจหรอก ตำแหน่งของฉันถ้าเขาอยากจะขึ้นมานั่งด้วยความสามารถของตัวเองมันเป็นไปไม่ได้หรอก ในขณะที่ฉันยังอยู่ เราสามารถช่วยกำจัดคู่ต่อสู้เพื่อเขาได้ ด้านขวัญชนกยอมเปิดปากหรือยังล่ะ ?”
ดวงตาของคุณท่านขวัญชัยหรี่ลงในทันที
พ่อบ้านคนนั้นส่ายหน้าและตอบว่า “ขวัญชนกปากแข็งมาก ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ง้างออกมาไม่ได้”
“ให้ป้องไป”
คำพูดของคุณท่านขวัญชัยทำให้พ่อบ้านอึ้งไปในทันที
“ป้องงั้นเหรอครับ? เขาเป็นคนของตระกูลพรรณโรจน์ จะเชื่อถือได้เหรอครับ?”
“เขาก็เป็นคนของธเนศพล”
คุณท่านขวัญชัยหรี่ตาลง หลังจากนั้นก็ยกข้อมือขึ้นหยิบพู่กันและเริ่มฝึกเขียนตัวอักษร
และพ่อบ้านก็เข้าใจในทันที
“ครับ เดี๋ยวผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
“ขอติดตามตำแหน่งที่ตั้งของบุคคลนั้นอย่างใกล้ชิด จำเป็นต้องตามหาลูกชายคนเล็กของบุริศร์ให้เธอให้ได้ ถ้าเกิดว่าลูกชายคนเล็กของเขาเป็นอะไรไป บุริศร์ก็จะอาละวาด ถ้าเอาพลังอำนาจของเขา มารวมกับพลังอำนาจของบ้านภรรยาเขา ต่อให้ไม่ได้มาโจมตีเรา แต่ก็ยังสามารถทำให้พวกเราได้รับผลกระทบได้ ถ้าเกิดว่าไม่เริ่มสงครามได้ก็จะดีมาก”
“ครับ”
“แล้วทางด้านฝั่งของพฤกษ์มีข้อมูลอะไรบ้างไหม?”
พ่อบ้านส่ายหน้าและตอบว่า “พวกเราก็เหมือนฝั่งของคุณชายธเนศพลนั่นแหละครับ ตามหาร่องรอยของพฤกษ์ไม่เจอเลย ผมเดาว่าเขาน่าจะกำลังซ่อนตัวอยู่ สาเหตุที่ไม่ติดต่อพวกเราในตอนนี้ บางทีอาจจะเป็นเพราะเขาก็รู้สึกว่าทางด้านฝั่งของพวกเราก็ไม่ปลอดภัยเหมือนกัน”
ดวงตาของคุณท่านขวัญชัยมืดมนลงไปหลายเท่า
“พฤกษ์คือคนของฉัน ไม่ว่าจะยังไงต้องรับรองความปลอดภัยของเขา และอีกอย่างฉันได้ยินมาว่าภรรยาของเขาไปสมรภูมิรบที่ต่างประเทศเหรอ?”
“ใช่ครับ คมทิพย์เป็นดารา ตอนแรกนึกว่าความสัมพันธ์กับพฤกษ์มาถึงจุดสิ้นสุด แต่ใครจะไปรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งขนาดนั้น ว่ากันว่าเธอตั้งท้องอยู่อีกด้วยนะครับ”
พอได้ยินพ่อบ้านพูดแบบนี้ ท่าทางของคุณท่านขวัญชัยก็ดูเป็นกังวลเล็กน้อย
“ส่งคนไปคุ้มครองเธอ ต้องรับรองความปลอดภัยของเธอกลับเด็กในท้องของเธอให้ได้ ไม่อย่างนั้นคงทำให้จิตใจของชาวกองทัพคนอื่นๆ หนาวสั่น”
“คุณท่านขวัญชัยครับ เธอมีคนของตระกูลโตเล็กกับอาณาจักรรัตติกาลอยู่ด้วย คนของพวกเราเข้าใกล้ไม่ได้เลยครับ”
พอได้ยินพ่อบ้านพูดแบบนี้ คุณท่านขวัญชัยถึงได้นึกถึงความสัมพันธ์ของคมทิพย์กับนรมนขึ้นมาได้
ตอนแรกเขาก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงที่ชื่อนรมนเท่าไหร่นะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามีคนหลายคนกับเรื่องหลายเรื่องมาล้อมรอบตัวเธอเยอะแล้ว
พอคิดได้แบบนี้แล้ว จู่ๆ คุณท่านขวัญชัยก็พูดขึ้นมาว่า “ใบเกษียณอายุของชินทรได้รับการอนุมัติหรือยัง?