ชินทรหรี่ตาลง
ตุลธรกำลังเดิมพันอยู่ เดิมพันความสำคัญของภาณที่มีต่อชินทร
ว่ากันว่าคนที่ทำงานอยู่นอกบ้านเป็นเวลานานจะเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นต่อครอบครัวมากที่สุด เพราะว่ารู้สึกผิดต่อคนในครอบครัวมาก ดังนั้นก็เลยสามารถทำเพื่อครอบครัวได้ทุกอย่าง
ตอนนี้ชินทรก็เป็นแบบนี้อยู่
“ทางที่ดีคุณควรรับประกันความปลอดภัยของหลานชายผม ไม่ยังงั้นผมสาบานเลยว่าจะตัดคอของคุณออกและแขวนไว้หน้าประตู คุณก็รู้ ว่าผมสามารถทำได้! อายุผมขนาดนี้แล้ว คุณงามความดีอะไรก็ไม่สำคัญกับผมอีกต่อไปแล้ว”
ชินทรพูดออกมาเน้นทีละคำ ทำให้หัวใจของตุลธรจมดิ่งลงในทันที
ขอแค่เขาพูดออกไป ก็จะสามารถขวางไม่ให้ธเนศพลเข้าไปได้ ถ้าเกิดว่าธเนศพลไม่เข้าไป ตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรก็ยังพอมีความหวังอยู่
ชินทรรู้สึกว่าการกระทำของตุลธรมันค่อนข้างจะน่าขำ
คิดจริงๆ เหรอว่าถ้าธเนศพลไม่เข้าไปแล้วตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรจะสามารถรับทั้งหมดไหว?
ถ้าใครที่กล้าแตะต้องหลานชายของชินทรแล้วยังสามารถกลับไปได้อย่างครบถ้วน แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน?
ชินทรเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา หลังจากนั้นก็ไปหยุดอยู่ข้างๆ ธเนศพลแล้วพูดว่า “คุณชายธเนศพล ยังไงตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรก็เป็นบ้านที่มีคุณงามความดี พาคนหลายคนบุกเข้าไปแบบนี้คงจะไม่ดีเท่าไหร่นัก แล้วอีกอย่างมันก็ไม่เป็นไปตามกฎด้วย หรือว่าคุณชายธเนศพลกลับไปก่อนดีกว่าไหมครับ? แล้ววันหน้าค่อยมาใหม่? ”
ธเนศพลขมวดคิ้วเข้าหากัน
ถึงแม้จะรู้ว่าตุลธรจะต้องให้ชินทรมาพูดอะไรเพื่อหยุดเขา แต่ว่าเขาก็ไม่คิดว่าชินทรก็ห้ามไม่ให้เขาเข้าไปจริงๆ
“ท่านชินทร นี่คุณทำอะไร? ”
“ คุณชายธเนศพล ผมแค่เตือนด้วยเจตนาดี”
ดวงตาของธรรศนั้นใสสะอาดมาก ทันใดนั้นก็ทำให้เริ่มไตร่ตรอง กานต์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งนั้นไม่รู้ว่าพวกเขากำลังเล่นปริศนาอะไรกันอยู่ แต่ก็อยู่เงียบๆ ได้แต่ถ่ายรูปใบหน้าของตุลธรเอาไว้เหมือนไม่ได้ตั้งใจ
“ในเมื่อท่านชินทรพูดขนาดนี้แล้ว ผมจะฝืนเข้าไปก็คงจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก คุณชายตุลธร ขอโทษที่ล่วงเกินนะครับ!”
ธเนศพลโบกมือ แล้วคนของเขาก็หยุดลงในทันที
ตุลธรก็รู้สึกสบายใจขึ้นในทันที
“คุณชายธเนศพล อายุยังน้อยควรจะอารมณ์ร้อนให้น้อยลงหน่อย แล้วฝึกฝนให้มากขึ้นถึงจะดี”
ถึงแม้ว่าตุลธรจะพูดคุยและยิ้มแย้ม แต่ว่าคำพูดเหล่านี้มันค่อนข้างรุนแรงและเกินจริง
ใครไม่รู้บ้างว่า ตุลธรสบายขนาดนี้เพราะว่านอนอยู่บนคุณงามความดีที่บรรพบุรุษสร้างเอาไว้
ธเนศพลมีประสบการณ์ในการทหารมาตั้งหลายปี คำพูดนี้เมื่อมาพูดต่อหน้าธเนศพลแล้ว ช่างไม่กลัวเข้าตัวเลยจริงๆ
กานต์ขมวดคิ้วเข้าหากัน รู้สึกไม่ชอบคนคนนี้ในทันที
ธเนศพลกลับพูดด้วยสีหน้าที่ไม่ปกติว่า “ผมจดจำคำพูดที่แสนมีค่าของคุณชายตุลธรเอาไว้แล้ว ไป!”
ธเนศพลออกคำสั่ง แล้วคนของเขาก็กระจายตัวออกไปในทันที
ถึงแม้ว่ากานต์จะรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย แต่ว่าครั้งนี้กลับได้ตัวปาณีมา ก็ไม่ถือว่าคว้าน้ำเหลว
เขามองไปที่ชินทรด้วยสายตาเป็นกังวล แล้วก็เห็นชินทรกะพริบตาให้กับเขา สายตาที่บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงทำให้เขารู้สึกสบายใจ แต่ว่าก็มีความสงสัยเกิดขึ้นในหัวใจของเขา
สรุปแล้วคุณตากับคุณชายตุลธรมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่?
หลังจากที่คนของธเนศพลออกไปแล้วนั้น ชินทรก็มองไปที่ตุลธร แล้วก็พูดว่า “คุณชายตุลธร หลานผมอยู่ที่ไหน? ”
“ ท่านชินทร พวกเรามาคุยกันหน่อยดีไหม? ”
“เชิญ!”
หลังจากที่ตามตุลธรขึ้นรถไปแล้วนั้น คนของชินทรก็ยังคงอยู่ที่เดิม
ตุลธรขมวดคิ้วเข้าหากัน
“นี่ ท่านชินทรหมายความว่ายังไง? ”
“ป้องกันเอาไว้ก่อนน่ะครับ ถึงแม้ว่าผมจะกล้าพาคุยคนเดียว แต่ก็ต้องแน่ใจว่าผมจะสามารถพาหลานของผมกลับมาได้อย่างปลอภัย ถ้าเกิดว่าคุณชายตุลธรไม่สามารถรักษาสัญญาแล้วเอาหลานคืนมาให้ผมได้ ผมก็จะเผยแพร่ภาพวิดีโอสิ่งที่อยู่ห้องใต้ดินของสนามฝึกคุณชายตุลธรให้ประชาชนได้ดูกัน”
ชินทรเผชิญหน้ากับตุลธร
“คุณ!”
หน้าอกของตุลธรกระเพื่อมขึ้นลงในทันที
เขาลืมไปแล้ว ว่าคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดายอมหักไม่ยอมงอ
“ได้! ผมจะพาคุณไป! แต่ว่าชินทร คุณควรจะจำเอาไว้นะ ว่าอีกสามวันคุณก็ปลดประจำการแล้ว ถ้าเกิดว่าทำให้ผมคับข้องใจ ต่อไปพวกตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะไม่มีอะไรให้กินเอานะ”
“ผมสามารถตัดสินได้ไหมว่าตอนนี้ คุณชายตุลธรกำลังขู่ผมอยู่? ”
ชินทรรู้สึกสบายๆ มาก เขาไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เขาปลดประจำการ ทำให้ตุลธรรู้สึกรำคาญหัวใจ
“หึ!”
เขาสะบัดแขนเสื้อ แล้วก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่น
เขากลัวว่าตัวเองจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้และอยากจะฆ่าชินทร!
ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะเขาได้ เขาไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองต้องมาโกรธแบบนี้อย่างแน่นอน
แล้วคนกลุ่มหนึ่งก็มาที่บ้านของ ตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรอย่างรวดเร็ว
มองดูคฤหาสน์ขนาดเล็กตรงหน้าของเขา แล้วชินทรก็ขมวดคิ้ว แต่ว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไร
คนของตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรไม่รู้จักเจียมตัวเลยแม้แต่นิดเดียว เกรงว่าจะเดินมาถึงจุดสิ้นสุดแล้วจริงๆ
ตุลธรเข้ามาที่คฤหาสน์ ตุลธรโบกมือไปทางซ้ายและขวา แล้วก็พูดกับชินทรอย่างเย็นชาว่า “หลายปีที่ผ่านมาคุณลืมไปแล้วเหรอว่าใครเป็นคนซ่อนคุณและพี่น้องสัตว์ประหลาดของคุณ? ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตระกลูสิทธิรัตน์สุนทรของพวกเรา คุณกับพี่น้องสัตว์ประหลาดของคุณโดนจัดการไปตั้งนานแล้ว! แต่ว่าตอนนี้คุณกลับมาขู่ผมต่อหน้าผมอีกยังงั้นเหรอ? ”
ชินทรหรี่ตาลง แสงสีแดงวาบผ่านดวงตาของเขา ทำให้ตุลธรถอยหลังไปโดยอัตโนมัติ
“คุณจะทำอะไร? ผมจะเตือนอะไรให้นะ ถ้าเกิดว่าคุณทำอะไรผม ผมจะไม่เกรงใจต่อหลานของคุณแล้วนะ”
ชินทรเห็นท่าทางหวาดกลัวของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วก็พูดอย่างนิ่งเรียบว่า “คุณอยากพูดกับผมเกี่ยวกับเรื่องของผมและพี่น้องกลายพันธุ์ของผมในหลายปีที่ผ่านมาอย่างนั้นเหรอ? ได้สิ ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ พวกเรามาคุยกันดีๆ ดีไหม? ”
“คุยอะไร? ถ้าเกิดว่าไม่ใช่ผม คุณกับพี่น้องสัตว์ประหลาดของคุณตายไปนานแล้ว!”
“ใช่ ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะคุณ พวกเราก็คงจะตายไปนานแล้ว ถ้าเกิดว่าตายไปตอนนั้ พวกเราก็ยังคงเป็นผู้เสียสละ เป็นฮีโร่ที่น่านับถือ ศพของเราจะถูกฝังในสุสานผู้พลีชีพ และได้รับความเคารพจากคนรุ่นต่อไป แต่ว่าคุณพาพวกเรากลับมา ตอนที่ใช้ยีนส์กลายพันธุ์ทำการวิจัยเกี่ยวกับเราน่ะ คุณยังจำได้ไหมว่าตัวเองก็เป็นทหาร? เชษฐ์จะมีกำลังมากขนาดนั้นที่ไหน? ที่ซื้อเกาะเพียงคนเดียว เพียงเพื่อทำการทดลอง ตอนนั้นเขามีชื่อเสียงจากตระกูลโตเล็กแล้ว ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะว่ามีแรงสนับสนุนจากคุณและตระกลูสิทธิรัตน์สุนทร เขาจะไปมีเงินทุกทำเรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน? ”
ชินทรตบฝ่ามือลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
ชินทรที่กำลังโมโหนั้นสีตาของเขาก็เปลี่ยนสี ทำให้ตุลธรกลัวจนรีบพูดออกมา
“คุณอย่ามายุ่งวุ่นวายนะ! ต่อให้ตอนนั้นผมให้เงินทุนกับเชษฐ์จริง แต่ว่าคุณเองก็ได้รับผลประโยชน์ไม่ใช่เหรอ? ลองดูคุณตอนนี้สิ ความสามารถต่อสู้เก่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป แถมยังมีอายุยืนยาวกว่าพวกเขาอีก ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าผมทำกับคุณแบบนั้นในตอนนั้น คุณจะได้มีโอกาสได้อยู่กับคิมอีกยังงั้นเหรอ? จะได้เห็นลูกสาวของตัวเองได้แต่งงานและครอบครัวตัวเองไหม? ชินทร เรื่องทุกเรื่องมันต่างมีข้อดีและข้อเสีย ถ้าเกิดว่าตอนนั้นคุณตายไป คุณจะไม่ได้เห็นแม้แต่ญาติของตัวเอง เรื่องนี้คุณควรรู้สึกขอบคุณผมนะ”
“ขอบคุณคุณงั้นเหรอ? ขอบคุณที่คุณทำให้ผมมีชีวิตที่ตายซะยังดีกว่าอยู่งั้นเหรอ? ขอบคุณที่คุณทดลองผมเหมือนหนูตะเภาในหลายปีที่ผ่านมา ให้ผมได้เห็นพี่น้องในทีมของผมที่สุดท้ายแล้วเหลืออยู่สิบกว่าคน เห็นพวกเขาดิ้นทุรนทุรายยังงั้นเหรอ? พวกเขาก็เป็นลูกที่มีพ่อมีแม่เหมือนกัน คุณเคยนึกถึงความรู้สึกของพ่อแม่พวกเขาบ้างไหม? เชษฐ์ถูกลงโทษแทนคุณ แล้วคุณกลับเป็นคนที่ได้คุณงามความดี และพ่อแกก็ได้เป็นข้าราชการอยู่ข้างๆ คุณท่านขวัญชัย คุณคิดว่าคุณสามารถเพิกเฉยไม่สนใจทุกอย่างได้ยังงั้นเหรอ? ตอนนั้นที่คุณลักพาตัวพวกเรานั่นจงใจไม่ใช่เหรอ? เป็นเพราะเลือดของเราหรือปัญหาทางพันธุกรรมใช่ไหม? ดังนั้นเหตุผลที่คุณจับตัวหลานชายของผมมาก็เพราะว่าแบบนี้รึเปล่า? ”