แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1689 พวกเธอคืนดีกันแล้ว

บทที่ 1689 พวกเธอคืนดีกันแล้ว

คมทิพย์กับพฤกษ์อยู่ในห้องจนเบื่อสักพักแล้ว เมื่อได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ก็วิ่งออกมาโดยสัญชาตญาณ จึงเห็นนรมนยืนอยู่บนที่โล่งกำลังมองเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ไกลๆบนท้องฟ้า สีหน้าท่าทางเคร่งขรึม จึงอดไม่ได้ที่จะชะงักงัน

“เป็นอะไรไป? เกิดเรื่องอะไรเหรอ?”

“ไม่มีอะไรหรอก ให้โสธรออกไปดูรอบๆเฉยๆน่ะ ถึงยังไงที่นี่ก็ไม่ใช่ในประเทศ สถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้ในชั่วพริบตา อีกอย่างที่นี่มีแต่คนเจ็บ ฉันต้องรับประกันความปลอดภัยของพวกเขา”

นรมนในตอนนี้ไม่อยากให้คมทิพย์รู้อะไรสักนิดเลย ถึงยังไงตอนนี้เธอก็ท้องอยู่ด้วย ได้อยู่ดูแลพฤกษ์ใช้ชีวิตเรียบง่ายกันสองคนก็ไม่เลวแล้ว ถ้าเป็นไปได้ นรมนอยากส่งพวกเขากลับประเทศด้วยซ้ำ

กลับประเทศ?

จู่ๆนรมนก็รู้สึกว่าหนทางนี้เป็นไปได้

ตอนนี้คนเจ็บพวกนี้ต้องหยุดอยู่ที่นี่ก่อนเป็นเพราะคนเจ็บบางคนไม่เหมาะสมที่จะเคลื่อนย้าย อีกอย่างเป็นเพราะที่นี่โดนปิดกั้น ตอนนี้ลูกหลานของตระกูลนนท์สัจทัศน์อยากให้คนเจ็บพวกนี้กลับประเทศจะแย่แล้วสินะ ดังนั้นถือโอกาสส่งคนเจ็บพวกนี้กลับก็อาจจะเป็นเรื่องดี

เพราะคนเจ็บพวกนี้โสธรจึงให้เธออยู่ที่นี่ แต่ถ้าคนเจ็บพวกนี้ไม่อยู่แล้วล่ะ?

นรมนตบๆไหล่ของคมทิพย์ ยิ้มพูดขึ้น: “เธอนี่เป็นดาวนำโชคของฉันจริงๆ”

“ห๊ะ?”

คมทิพย์ไม่เข้าใจ แล้วก็ไม่รู้ว่าประโยคไหนของตนเองที่ทำให้นรมนดีใจ แต่ถึงยังไงได้เห็นท่าทางมีความสุขของนรมน เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย

“ฉันมีเรื่องจะบอกเธอ ฉันกับพฤกษ์พวก……”

“ฉันรู้ พวกเธอคืนดีกันแล้ว”

คำพูดของนรมนทำให้คมทิพย์เข้าใจได้ในทันที

“ดีนักนะ เธอแอบฟังพวกเราคุยกัน! นรมน เธอแอบฟังอยู่ที่มุมกำแพงได้ยังไง? เธอคือคุณนายนะ! ระวังตัวตนของเธอหน่อยดีไหม?”

พูดๆอยู่เธอก็จะเข้าไปจั๊กจี้นรมน แต่นรมนกลับหลบไปได้

“ฉันแอบฟังที่ไหนล่ะ? เธอเสียงดังจนได้ยินกันทั้งทางเดินแล้ว ฉันฟังอย่างโจ่งแจ้งเลยเข้าใจไหม?”

“เธอยังมีหน้ามาพูดอีก!”

เพราะเรื่องของพฤกษ์คมทิพย์จึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ หยอกเย้ากับนรมนอยู่สักพักก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว จึงนั่งพักอยู่บนเก้าอี้

มองเมฆขาวที่ขอบฟ้า คมทิพย์พูดอย่างสบายใจ: “ฉันไม่เคยสังเกตเลยว่าท้องฟ้าด้านนี้มันฟ้าดีจัง”

นรมนก็นั่งอยู่ข้างเธอ ยิ้มพูดขึ้น: “นั่นเป็นเพราะคนที่เธอเป็นห่วงไม่อยู่ไง จึงไม่ได้สังเกตสิ่งเหล่านี้เลย”

อย่างเช่นเธอในตอนนี้

เพราะบุริศร์ไม่อยู่ เธอมองอะไรก็ไร้สีสันไปหมดเลย โดยเฉพาะตอนนี้ไม่รู้ว่าบุริศร์เป็นยังไงบ้าง

ราวกับฟังความคิดถึงที่อยู่ในคำพูดของนรมนออก คมทิพย์ชะงักเล็กน้อย นึกถึงเฮลิคอปเตอร์ก่อนหน้านี้อยู่สักพัก จู่ๆก็พูดขึ้น: “บุริศร์เกิดเรื่องแล้วใช่ไหม?”

นรมนชะงักไปทันที คิดจะปฏิเสธ แต่เห็นดวงตาที่เข้าใจทุกอย่างแล้วคู่นั้นของคมทิพย์ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มพูดขึ้น: “ไม่มีเรื่องอะไรหรอก เธออย่าคิดมาก”

“ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ เธอคงไม่มีสีหน้าท่าทีอย่างนี้หรอก นรมน เธอกับฉันไม่ได้เป็นเพื่อนกันมาปีสองปีนะ บุริศร์ไปอาณาเขตของศัตรูแทนพฤกษ์ของฉัน ถ้าเกิดเรื่องจริงๆ คนร่าเริงสดใสอย่างพฤกษ์ คงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต เธออยากทำอะไรก็ไปทำ ถึงฉันจะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่แค่เธอสั่งมา ตอนนี้ฉันยังพอจะทำได้”

เห็นสีหน้าของคมทิพย์ จู่ๆนรมนก็รู้สึกอบอุ่นใจ

เธอจับมือของคมทิพย์เอาไว้ พูดขึ้น: “เขาไม่เป็นอะไรจริงๆ อย่าคิดมาก ฉันแค่กังวลว่าอาณาเขตศัตรูที่ด้านนั้นจะลงมือกับคนเจ็บที่อยู่กับพวกเรา ถึงยังไงสถานการณ์สงครามที่แนวหน้ายังเอาชนะกันไม่ได้ ใครก็ไม่รู้ว่าวินาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนคนเจ็บที่ด้านนี้เป็นกลุ่มที่เปราะบางจริงๆ”

กำลังทหารทั้งหมดอยู่ที่แนวหน้า ไม่มีกำลังทหารที่พอจะสามารถเจียดเวลาออกมาดูแลที่ด้านนี้ได้เลย ถ้าเธอเป็นเขตของศัตรู ไม่แน่อาจจะให้ที่นี่เป็นเป้าหมายโจมตีก็ได้ ดังนั้นการครุ่นคิดของโสธรน่าจะถูกต้อง

คมทิพย์ได้ยินนรมนพูดอย่างนี้จึงตกตะลึงไปชั่วครู่

ตอนที่เธอแค่คิดว่าจะพยายามช่วยคนเจ็บด้วยแรงอันน้อยนิดของตนเอง นรมนกลับนึกไปถึงสถานการณ์ของสงครามแล้ว นี่อาจจะเป็นช่องว่างระหว่างเธอกับนรมนสินะ

จู่ๆคมทิพย์ก็รู้สึกว่านรมนที่รู้จักเมื่อก่อนราวกับค่อยๆเปลี่ยนแปลง ทำให้เธอรู้สึกสูงส่ง รู้สึกอบอุ่น รู้สึกปลอดภัย

มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่แค่มีนรมนอยู่ เธอก็จะสบายใจ

คมทิพย์จับมือของนรมนพูดขึ้นทันที: “เธอวางแผนจะทำยังไง?”

“บาดแผลของพฤกษ์สาหัส แต่บาดแผลของเหล่าสมาชิกทีมที่ส่งเขากลับมายังพอไหว ฉันจึงวางแผนจะให้พวกเธอพาคนเจ็บพวกนี้กลับประเทศ”

“กลับประเทศ? ที่นี่โดนปิดกั้นไม่ใช่เหรอ?”

“งั้นก็ฉีกบาดแผลเดิมที่ติดกันอยู่สิ แทนที่จะรอให้คนอื่นมาคิดบัญชีพวกเรา สู้พวกเราหาทางออกด้วยตนเองดีกว่า”

แววตาของนรมนในตอนนี้มาพร้อมกับความหนักแน่น ทำให้ใครก็มองข้ามไม่ได้

คมทิพย์มีเลือดร้อนๆฮึกเหิมขึ้นมาทันที

“เธอมีแผนแล้วเหรอ?”

“อืม แต่ว่าต้องใช้เวลาหน่อย เธอเข้าไปคุยๆกับพวกพฤกษ์ก่อน ฉันจะจัดการครู่หนึ่ง”

“ได้”

เดิมทีคมทิพย์คิดจะลุกขึ้น แต่กลับมองนรมน แล้วพูดอย่างจริงจัง: “ไม่ว่าตอนไหน เธอต้องใส่ใจความปลอดภัยของตัวเองนะ ไม่งั้นชีวิตนี้ฉันจะไม่ให้อภัยเธอเลย”

คำพูดนี้คุ้นหูขนาดนั้น เหมือนเธอเพิ่งจะพูดกับโสธรไปไม่นาน ตอนนี้ได้ยินคมทิพย์พูดอย่างนี้ นรมนจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

“ฉันรู้แล้วหน่า รีบไปเถอะ”

บางทีแค่มีคนที่ใส่ใจถึงได้ข่มขู่อีกฝ่ายอย่างนี้สินะ

หลังจากคมทิพย์ออกไป นรมนก็หยิบมือถือออกมา โทรไปหาอรรณพ

ตอนนี้ถ้าโทรหาธเนศพลคงไม่ทันการณ์แล้ว และทางนี้ค่อนข้างใกล้กับทางอรรณพมากกว่า

หลายปีมานี้ ประเทศYรักษาความเป็นกลางระหว่างประเทศมาโดยตลอด แต่ทว่าหลังจากอรรณพกลับไปรับช่วงต่อการบริหารประเทศ กลับมีความตั้งใจที่จะรักษามิตรภาพอันดีกับภายในประเทศเอาไว้

ตอนนี้เธอกลับไม่จำเป็นต้องใช้เรื่องของประเทศกับประเทศมาขอร้อง เพียงแค่เรื่องของบุริศร์เรื่องเดียวอรรณพก็คงเคลื่อนกำลังพลมาช่วยเหลือแล้ว

อรรณพทางนั้นรับสายอย่างรวดเร็ว

“พี่มน ทางผมนี่เพิ่งจะตีห้าเองนะ พี่จะไม่ให้เวลาผมได้มีช่วงเวลาสนุกกับภรรยาของผมหน่อยเหรอ?”

เสียงของอรรณพยังคงแหบพร่า ชัดเจนว่าเพิ่งตื่นขึ้นมา

นรมนยิ้มพูดขึ้น: “ฉันไม่มีคนให้นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มน่ะ ถ้านายนอนกอดภรรยาของนายอยู่ ฉันยิ่งไม่สบายใจ ไม่โทรหานายตอนดึกดื่นก็ดีแค่ไหนแล้ว”

“พี่มนนิสัยไม่ดีนะ”อรรณพหาวไปพูดไป

นรมนได้ยินเขาพูดกับรมิดาที่อยู่ข้างๆเบาๆ: “คุณนอนต่ออีกหน่อยนะ ผมไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงก่อน”

“อืม”

ชัดเจนว่ารมิดายังไม่ตื่น

นรมนค่อนข้างรู้สึกผิด แต่ทว่าตอนนี้ก็ทำได้เพียงเท่านี้แล้ว

อรรณพถือโทรศัพท์ไปที่ระเบียง เปิดหน้าต่าง ลมเย็นๆที่พัดเข้ามากลับทำให้ตื่นตัวได้ไม่น้อยเลย

“พี่มน โทรมาเช้าขนาดนี้มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า? ไม่มีคนให้นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มงั้นเหรอ แล้วพี่รองล่ะ?”

“เขาไปสนามรบแล้ว ตอนนี้ฉันอยู่ในโรงพยาบาลเขตสนามรบที่สนามรบต่างประเทศ”

แค่พูดคำนี้ออกไป อรรณพก็ตะลึงงันไปทันที

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท