แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1690 ลูกได้ยินเข้าจะโกรธเอานะ

บทที่ 1690 ลูกได้ยินเข้าจะโกรธเอานะ

“พี่ว่าอะไรนะ? พี่ไปสนามรบต่างประเทศ? พี่รองถอนตัวออกมาแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“พฤกษ์เป็นหัวหน้าทีมของทีมย่อยในการดำเนินการครั้งนี้ แต่กลับไม่รู้ว่าเป็นตายยังไง เขากับเจตต์จึงตามมาดูด้วยตนเอง ตอนนี้พฤกษ์บาดเจ็บหนัก เพิ่งโดนส่งเข้ามาที่โรงพยาบาลเขตสนามรบ บุริศร์กับพี่ฉันจึงไปที่อาณาเขตของศัตรูแทนเขา”

นรมนรีบเล่าสถานการณ์ของที่นี่อย่างคร่าวๆให้อรรณพฟัง รวมถึงเรื่องลูกหลานของตระกูลนนท์สัจทัศน์ด้วย

หลังจากอรรณพฟังจบจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา

“อาณาเขตศัตรู? อาณาเขตของศัตรูตอนนี้คุ้มกันแน่นหนายากที่จะบุกเข้าไปได้ เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”

“เขาไม่ได้บ้า! เขาแค่รู้ถึงภารกิจสำคัญกับความรับผิดชอบของตนเอง สงครามครั้งนี้ถ้าประเทศของพวกเราแพ้ เขตแดนต่างประเทศก็จะไม่มีเรื่องอะไรของประเทศพวกเราแล้วจริงๆ สถานการณ์ภายในประเทศตอนนี้นายก็รู้ ถ้าสูญเสียสนามรบต่างประเทศไป ธเนศพลที่คิดจะขึ้นไปสู่ตำแหน่งนั้นก็อาจจะเป็นไปไม่ได้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงการละทิ้งความรู้สึกส่วนตัวเลย เดิมทีเขตแดนต่างประเทศก็หายไปจากประเทศพวกเราเมื่อหลายปีก่อนแล้ว ตอนนี้ประชาชนของที่นี่โดนอาณาเขตศัตรูควบคุมอยู่ คนจำนวนมากอยากกลับสู่ประเทศของตนเองจะแย่อยู่แล้ว บุริศร์กับพี่ฉันเป็นทหาร ในเมื่อถอนตัวออกมาแล้ว พวกเขาก็ยังเป็นทหารกองหนุนได้ เป็นทหารครั้งหนึ่ง ต้องเตรียมตัวให้พร้อมตลอดชีวิต ฉันเข้าใจเขา”

คำพูดของนรมนทำให้อรรณพตะลึงงัน

ก่อนหน้านี้เขายังรู้สึกว่านรมนไม่เหมาะสมกับบุริศร์ แม้จะไม่ได้พูดออกไป แต่ในใจกลับไม่ได้รู้สึกดีด้วย เพียงแต่ในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิท เขาเคารพความรู้สึกกับการตัดสินใจของบุริศร์ก็เท่านั้น ตอนนี้เขาถึงได้มองนรมนเปลี่ยนไปอย่างเป็นทางการแล้ว

องค์ประกอบของผู้หญิงคนหนึ่งไม่นึกว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ต้องบอกว่าพี่รองสายตาเฉียบแหลมจริงๆ

อรรณพมองรมิดาที่ยังหลับสนิทอยู่ ปรากฏสีหน้าอ่อนโยนออกมา

ถ้าบนโลกนี้ไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด คงทำให้หัวใจของคนเราเหน็บหนาวจริงๆ

“พี่มนอยากให้ผมทำอะไร?”

อรรณพเอ่ยปากขึ้นทันที

แม้ว่านรมนจะเตรียมใจเอาไว้แต่แรกแล้ว แต่ตอนที่ได้ยินอรรณพพูดอย่างนี้ก็ยังคงชะงักงัน

“ถ้าฉันดึงประเทศของนายเข้ามาพัวพันด้วย นายคงไม่โทษฉันใช่ไหม?”

“โทษอะไรล่ะ? ผมก็เติบโตที่ประเทศZ สำหรับผม ประเทศZก็เป็นบ้านเกิดของผม ตอนนี้พวกพี่รองกำลังลำบาก สิ่งที่ผมเสียดายที่สุดในชีวิตนี้ก็คือไม่สามารถเป็นทหารอยู่ที่ประเทศZเหมือนพวกเขาสามคน ตอนนี้มีโอกาสได้ช่วยเหลือพวกเขาอีกแรง ผมจึงไม่มีอะไรต้องลังเล อีกอย่าง ต่อไปประเทศนี้ผมเป็นใหญ่ที่สุด ผมอยากทำอะไรใครจะกล้าพูดอะไรได้”

อรรณพยังคงมีน้ำใจต่อมิตรสหายเสมอ ทำให้นรมนซึ้งใจเหลือเกิน

“วางใจเถอะ ต่อไปประเทศFก็จะยืนอยู่ข้างนาย”

คำพูดนี้ของนรมนโดยหลักแล้วเท่ากับคำพูดของราเชน

อรรณพรู้ แค่นรมนพูด ราเชนต้องทำตามแน่นอน ถึงยังไงเขาก็เอ็นดูน้องสาวขนาดนี้

ดังนั้นไม่ว่าจะสำหรับประเทศชาติหรือสำหรับเรื่องส่วนตัว อรรณพก็ไม่รู้สึกว่าครั้งนี้เป็นเรื่องที่ฝืนใจ

นรมนบอกแผนการของตนเองให้อรรณพฟัง

อรรณพสวมเสื้อผ้าในเดี๋ยวนั้น เรียกประชุมทหารในทันที

ตอนที่รอให้อรรณพเริ่มดำเนินการโจมตี นรมนก็กำลังจัดการเหล่าคนเจ็บ

เธอแบ่งคนเจ็บออกเป็นสามกลุ่ม อาการค่อนข้างเบาเอาไว้ท้ายสุด เจ็บหนักสุดจะเป็นกลุ่มแรกที่ออกเดินทาง

แผนการของนรมนคือให้อรรณพพากำลังทหารจากบริเวณรอบนอกเข้าไปในวังอาณาเขตศัตรู ตอนที่กำลังดึงดูดความสนใจของพวกเขา เธอจะให้คนของอาณาจักรรัตติกาลทยอยส่งคนเจ็บออกไปเป็นกลุ่มๆ

ตอนนี้ทางด้านนี้ไม่สามารถไปทางเฮลิคอปเตอร์ได้ ทำได้เพียงเดินทางทางน้ำเท่านั้น

อรรณพเป็นคนจัดเตรียมเรือ หลังจากพวกเขาขึ้นเรือแล้วคนของอาณาจักรรัตติกาลจะคุ้มกันจนถึงที่สนามบินอำเภอน้ำสาย นั่งเครื่องบินส่งพวกเขากลับประเทศ

หลังจากจัดการทั้งหมดเสร็จแล้ว นรมนก็โทรหาธเนศพล ให้เขาจัดเตรียมคนมารับภายในประเทศ

ธเนศพลก็กำลังกังวลว่าคนเจ็บจะกลับมายังไง กำลังทหารของด้านนี้ไม่มีเวลาดูแลคนเจ็บอยู่แล้ว แต่ได้รับข่าวนี้จากนรมน จึงอดไม่ได้ที่จะคลายกังวล

“อื้ม ผมจะรีบจัดการ”

ทางด้านธเนศพลก็เริ่มจัดการ

ทั้งสามตระกูลเริ่มลงมือในเวลาเดียวกัน

พวกโสธรเพิ่งถึงอาณาเขตศัตรูก็ได้ยินเสียงห่ากระสุนปืนของแนวหน้า จึงตะลึงงัน

รองหัวหน้ามองไปทางประเทศ พูดขึ้น: “เริ่มรบกันอีกแล้วเหรอ?”

“สำหรับพวกเรามันเป็นเรื่องดี ถือโอกาสนี้ให้คนของพวกเรารีบเข้าไป ภายในครึ่งชั่วโมงต้องเข้าไปในอาณาเขตศัตรูให้ครบทั้งหมด”

สายตาที่เฉียบแหลมของโสธรราวกับนกเหยี่ยวทรงพลังที่กำลังบินฉวัดเฉวียนอยู่บนสวรรค์

สองปีนี้เขาเติบโตขึ้นมากจริงๆ

รองหัวหน้ารีบตอบรับ คนของอาณาจักรรัตติกาลทั้งหมดกำลังรีบเข้าไป

ทางด้านนี้นรมนส่งคมทิพย์กับพฤกษ์กลับไปเป็นกลุ่มแรก

เดิมทีคมทิพย์กับพฤกษ์อยากจะอยู่ช่วยเหลือนรมนจนถึงที่สุด แต่อาการบาดเจ็บของพฤกษ์สาหัส นรมนจึงแสดงความเด็ดขาดออกมาอีกครั้ง ให้พวกเขากลับไป

คมทิพย์กอดนรมนเอาไว้ พูดสะอึกสะอื้น: “ฉันจะรอเธอกลับมาอยู่ในประเทศนะ ถ้าเธอไม่กลับมาฉันจะไม่คลอดเด็กคนนี้”

“เพ้อเจ้อ ลูกได้ยินเข้าจะโมโหเอานะ”

ในใจของนรมนอบอุ่น ความรู้สึกที่โดนเป็นห่วง มันดีจริงๆ

“ฉันพูดจริงนะ”

สายตาของคมทิพย์แน่วแน่จนผิดปกติ มีความหมายว่าถ้าเธอไม่กลับมาฉันจะไม่คลอดลูกจริงๆ

พฤกษ์เธออย่างเป็นกังวล แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่นรมนก็รู้ พฤกษ์กำลังเป็นห่วงบุริศร์

“วางใจเถอะหน่า ฉันจะพาคุณบุริศร์ของฉันไปดื่มเหล้าฉลองที่ลูกของพวกเธอครบหนึ่งเดือนแน่ๆ”

มีคำพูดนี้ของนรมน คมทิพย์กับพฤกษ์ถึงคลายกังวลได้

“คุณนาย ก่อนหน้านี้เป็นเพราะปกปิดเรื่องลูกจึงทำให้คุณกับคมทิพย์โมโห ขอโทษนะครับ”

คำขอโทษของพฤกษ์สำหรับนรมนกลับไม่ได้รู้สึกอะไร เธอแค่มองพฤกษ์ พูดขึ้น: “นี่เป็นครั้งแรกเพียงครั้งเดียว ถ้ามีอีกครั้ง ไม่ว่าคมทิพย์จะรักนายขนาดไหน ฉันก็จะพาเธอหนีไป”

“ผมจะไม่มอบโอกาสนี้ให้คุณแน่นอนครับ”

พฤกษ์พูดอย่างเด็ดขาด

“งั้นก็ดี รีบไปเถอะ”

นรมนออกแรงดันคมทิพย์

คมทิพย์อยากร้องไห้ แต่กลับกลั้นเอาไว้ เธอประคองพฤกษ์ขึ้นรถด้วยความอาลัยอาวรณ์ มุ่งหน้าไปทางท่าเรือ

นรมนเห็นพวกเขาไปแล้ว ใจที่เป็นกังวลในที่สุดก็สงบลงได้

เพียงแค่คนเจ็บกลับประเทศได้อย่างปลอดภัย เธอก็สามารถมุ่งตามหาบุริศร์ได้เต็มที่

ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ นรมนจึงรีบโทรไปหาธเนศพล

“หลังจากคนเจ็บกลับประเทศแล้วต้องกักตัวสิบสี่วัน แล้วให้หมอทำการตรวจร่างกาย เพื่อยืนยันว่าสุขภาพของพวกเขาไม่มีปัญหาจากนั้นค่อยให้พวกเขากลับไปนะคะ”

“หมายความว่าไง?”

ธเนศพลไม่ค่อยเข้าใจ

นรมนพูดขึ้น: “เพื่อป้องกันลูกหลานของตระกูลนนท์สัจทัศน์ยังมีทางหนีทีไล่อื่นอีก พวกเราต้องป้องกันไว้ก่อน”

“คุณไม่ได้จัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ?”

“พวกเขาเจ้าเล่ห์เกินไป ฉันกลัวว่าจะจัดการได้ไม่เรียบร้อยพอ ดังนั้นรอบคอบอีกหน่อยคงไม่เป็นไรหรอก”

คำพูดของนรมนทำให้ธเนศพลพยักหน้าเล็กน้อย

การเคลื่อนย้ายคนเจ็บออกมากำลังดำเนินการอย่างเป็นระเบียบ ส่วนทางชายแดนของประเทศในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ลูกหลานของตระกูลนนท์สัจทัศน์สิบสองคนนั้นก็กลับมาแล้ว

สมจิตมองพวกเขาอย่างเย็นชา เห็นจรัลที่เป็นหัวหน้าครอบครัวของตระกูลนนท์สัจทัศน์ในขณะนี้กำลังต้อนรับพวกเขาด้วยความกระตือรือร้น เธอถอยหลังมาสองก้าวโดยสัญชาตญาณ ทิ้งระยะห่างจากคนพวกนี้ แต่สองก้าวที่ถอยออกมาก็หยุดชะงัก

ไม่ได้!

ถ้าตนเองแสดงออกชัดเจนจนเกินไป แผนการของนรมนคงหมดหนทางที่จะประสบความสำเร็จ

คิดอย่างนี้ สมจิตจึงกลับมายืนที่ตำแหน่งเดิม แต่หลบสายตาลง ใครก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท