แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1706 ยอมเสียอะไรไปโดยไม่มีสาเหตุ

บทที่ 1706 ยอมเสียอะไรไปโดยไม่มีสาเหตุ

“คนของเรานี่!”

ในขณะที่ถูกพยุง เจตต์ก็มองเห็นเฮลิคอปเตอร์ที่ลอยอยู่บนฟ้ามีสัญลักษณ์สหภาพQTกับอาณาจักรรัติกาล เขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

โสธรเองก็เช่นเดียวกัน

ดูเหมือนรองหัวหน้าจะหาวินเซนต์แห่งสหภาพQTเจอแล้ว?

“ฉันให้วินเซนต์ไปตามหาคนของอาณาจักรรัติกาลเองล่ะ”

ราวกับบุริศร์รู้ว่าโศธรกำลังคิดอะไรในใจ เขาตบไหล่ของโสธร แล้วพูดเสียงเบาว่า “ผู้หญิงคนนี้สำคัญกับนายมากใช่ไหม?”

สำคัญ?

โสธรนิ่งไปเล็กน้อย

ใช่

เธอสำคัญกับเขามาก!

เหมือนเป็นคนในครอบครัวคนหนึ่ง!

ทว่าบุริศร์กลับพูดออกมาว่า “ดูแลเธอให้ดีๆหน่อยนะ ที่ออกมาตกระกำลำบากเพื่อปฏิบัติภารกิจข้ามประเทศกับนายขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ในสายเลือด ก็คงไม่ทำถึงขนาดนี้หรอก ถ้านรมนรู้ว่านายมีแฟนต้องดีใจมากแน่ๆ นายสบายใจได้ ฉันจะหาหมอที่ดีที่สุดมารักษาเธอ รับรองว่าจะไม่ให้มีโรคแทรกซ้อนแน่นอน”

จู่ๆโสธรก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

เขามองมาที่บุริศร์ เขาค้นพบว่าตัวเองไม่สามารถปกปิดความรู้สึกที่มีต่อนรมนได้เลยจากสายตาที่ส่อแแววชัดเจนของบุริศร์

บางทีเขาอาจจะปิดบุริศร์ไม่ได้ตั้งแต่เริ่มเลยด้วยซ้ำ

เขารู้ดีว่าบุริศร์ขี้หึงมากขนาดไหน แต่ถึงจะรู้อย่างนั้นอีกฝ่ายก็ไม่เคยเผยพิรุธ ยังคงปฏิบัติกับเขาเหมือนอย่างเคย นั่นหมายความว่าบุริศร์เชื่อใจเขาและเชื่อใจนรมน

ใช่

ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนไม่มีใครสามารถเข้าไปแทรกได้อยู่แล้ว

เขารู้อยู่แล้วว่าความฝันที่เขามี สักวันก็ต้องมีคนมาปลุกให้ตื่น เพื่อกลับสู่ความเป็นจริง

“ผมรู้ ผมจะดูแลเธอให้ดี”

“โสธร ชีวิตของคนเราแตกต่างกันก็จริง แต่ในทางความรู้สึกล้วนแล้วแต่เหมือนกันหมด บนโลกใบนี้ไม่มีใครยอมเสียอะไรไปโดยไม่มีสาเหตุหรอกนะ ก็เหมือนตอนที่นายแฝงตัวเข้าไปในถิ่นของศัตรูแล้วจงใจให้ตัวเองถูกตัดกำลังเพื่อช่วยนรมน ผู้หญิงคนนี้เองก็ยอมพุ่งเข้าหาความตายเพื่อนายไม่ใช่เหรอ?”

คำพูดของบุริศร์ทำให้โสธรช็อก

ที่แท้เขาก็โป๊ะแตกตั้งแต่ครั้งนั้นแล้วหรอกเหรอ

น่าเสียดายที่ในตอนนั้นเขายังไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงไม่สนสิ่งใดขนาดนั้น ถึงตอนที่รู้ตัวก็ไม่รู้ว่าต้องเอ่ยพูดอย่างไรแล้ว

“ขอบคุณนะ ประธานบุริศร์”

“คนกันเองทั้งนั้น จะมาขอบคุณอะไรเล่า ถ้าจะให้พูดจริงๆ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณนาย ขอบคุณที่นายห้ามไม่ให้นรมนมา และขอบคุณที่นายเสี่ยงอันตรายมาหาพวกฉัน”

“แต่ว่าพวกคุณไม่จำเป็นต้องให้พวกผมช่วยเหลือด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกผมวิ่งเข้ามาทำแผนของประธานเจตต์กับคุณพัง…..”

โสธรไม่ได้โง่ เขามองออกว่าถ้าไม่ใช่เพราะตัวเอง เจตต์ก็สามารถทนจนถึงตอนที่บุริศร์มาถึงได้

เขาแทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสถานการณ์มันเป็นยังไง

บุริศร์ตบไหล่ของเขาแล้วพูดว่า “ไม่หรอก นายทำดีมาก”

ทุกคนถูกพากลับมาที่ชายแดน

สงครามต่างแดนจบไปอย่างราบเรียบเพราะการเจรจาของบุริศร์และเจตต์

เมื่อข่าวนี้ถูกส่งต่อมาในประเทศ หัวใจที่แขวนอยู่ตลอดเวลาของธเนศพลก็วางลงในที่สุด

เขารู้ว่าเจ้าบุริศร์เก่งกล้าสามารถอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด!

น่าเสียดายที่เขาไม่อยู่ในกองทหารแล้ว

เจตต์ด้วยอีกคน

ธเนศพลส่งข้อความไปหาเจตต์ หวังให้เจตต์กลับเข้ากองทหารเพื่อมาช่วยเขา แต่น่าเศร้าที่เจตต์ปฏิเสธ

อีกฝ่ายบอกว่าตอนนี้ทนมองภาพนองเลือดไม่ได้ ทั้งยังใจอ่อนง่าย คงไม่เหมาะกับการทำสงครามแล้ว

ใครจะไม่อยากอยู่กับลูกกับเมียบ้าง?

จะว่าไป เมียของเจตต์ก็ท้องแล้วนี่นา

ธเนศพลรู้สึกเสียดาย แต่ยังดีที่มีพกฤษ์อยู่อีกคน

ขณะเดียวกันตระกูลนนท์สัจทัศน์ก็ได้ทราบข่าวนี้เช่นเดียวกัน

สีหน้าของฟองน้ำย่ำแย่เป็นอย่างมาก เธอมองมาที่ผู้เป็นพ่อ แล้วเอ่ยพูดเสียงเบาว่า “พ่อ เราอุตส่าห์วางแผนมาตั้งนาน แต่สุดท้ายกลับถูกบุริศร์ทำแผนล่มไม่เป็นท่า ตอนนี้ทางผู้นำของประเทศWออกคำสั่งให้ตามจับตัวเราแล้ว เราต้องหนีไปจากที่นี่”

“หนี? สามสิบปีก่อนฉันเคยหนีจากประเทศZมาที่นี่ จนค่อยๆได้ทำหน้าที่เป็นมือซ้ายและมือขวาของผู้นำประเทศW ยังจำได้ไหม ว่าผู้นำคนนี้คือคนที่เราช่วยดันจนได้ขึ้นตำแหน่ง แต่ว่าตอนนี้กลับมาหักหลังเราเพียงเพราะบุริศร์คนเดียว แกคิดว่าถ้าเราหนีไปประเทศอื่น เราจะมีเวลาเป็นยี่สิบปีมาวางแผนและปั้นผู้นำคนใหม่อีกคนได้เหรอ?”

พายุเอ่ยอย่างเย็นชา และเจือปนไปด้วยแววเสียดสี

ฟองน้ำหันหน้ามามองพายุอย่างไม่อยากจะเชื่อ “พี่ ทำไมถึงเฉื่อยแบบนี้ล่ะ? ต่อให้เราไม่มีเวลาแล้ว แต่ก็ยังมีรุ่นต่อไปอีกไม่ใช่เหรอ? ตระกูลนนท์สัจทัศน์ต้องทำทุกอย่างตามที่คุณปู่ฝากฝังเอาไว้ให้สำเร็จ”

“ฝากฝัง? อะไรคือการฝากฝัง? การที่ให้ลูกหลานรุ่นหลังจากบ้านไกลเมืองไปอยู่ต่างแคว้นแดนไกลเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง เรียกว่าฝากฝังเหรอ? ถ้าใช่ ก็ไม่น่าทำตามเลยสักนิด”

สำหรับพายุแล้ว เขาเหนื่อยมากจริงๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะคำฝากฝังบ้าบอคอแตกอะไรนั่น เขาก็คงไม่ต้องแยกจากลูกสาวแท้ๆเป็นสิบยี่สิบปี และคงไม่ต้องห่างเหินกับลูกตัวเองอย่างนี้หรอก

เมื่อจรัลเห็นสองคนเถียงกัน ก็อดที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ได้

แต่ไหนแต่ไรตระกูลนนท์สัจทัศน์ปรองดองกันมาตลอด ต่อให้ต้องถึงขั้นออกคำสั่งก็ยังประณีประนอมให้กันได้ ทว่าในตอนนี้พายุกลับแสดงท่าทีหัวแข็งออกมาชัดเจน

สายตาของจรัลและฟองน้ำล้วนแล้วแต่ทอแววเยือกเย็นเหมือนกัน

“พายุ แกหมายความว่ายังไง? นี่แกคิดจะต่อต้านงั้นเหรอ?”

“ต่อต้าน?”

จู่ๆพายุก็หัวเราะออกมา

เขามองมาที่พ่อและน้องสาว แล้วชี้ขาทั้งสองข้างของตัวเองพร้อมพูดว่า “ขาสองข้างของผมพิการได้ยังไงพ่อยังจำได้ไหม?”

ความโศกเศร้าและเสียใจพาดผ่านดวงตาของจรัลเพียงชั่ววูบ

“ฉันจะให้คนพวกนั้นได้ชดใช้”

“แต่รู้ไหมทำไมพวกเขาถึงทำอย่างนี้กับพวกเรา? นั่นก็เพราะว่าเราทำเรื่องร้ายแรงต่อประเทศและประชาชนยังไงล่ะ พ่อ หลายปีที่ผ่านมาการที่ไม่มีสมจิตอยู่ข้างกาย ผมคิดอยู่ตลอดเลยว่าเป็นเพราะพระเจ้ากำลังลงโทษผมหรือเปล่า เราทำเรื่องผิดบาปมากเกินไป มากถึงขนาดที่พระเจ้าทนมองต่อไปไม่ได้ ถึงได้ทำกับเราอย่างนี้ไง ตอนนี้เรากลับตัวกลับใจยังทันนะ ทรัพย์สินเราก็ไม่ได้มีน้อยๆ เราเปลี่ยนชื่อแล้วไปใช้ชีวิตในประเทศเล็กๆก็ได้ไม่ใช่เหรอ? ทำไมต้องถึงเล่นถึงความตาย? คำฝากฝังของปู่มันก็แค่ความต้องการส่วนตัวของเขาเท่านั้น…..”

“คุณปู่ทำเพื่อชื่อเสียงของตระกูลเรา!”

ฟองน้ำพูดตัดบทพายุ

“พี่ เมื่อก่อนพี่ไม่ได้เป็นอย่างนี้นี่ เพราะสมจิตมาพูดอะไรกับพี่ใช่ไหม? พี่ลืมคติอันยิ่งใหญ่ของคุณปู่ไปแล้วเหรอ? เขาหวังให้ตระกูลของเรากลายเป็นที่เคารพของผู้อื่น! แล้วเรา….”

“เรากำลังฝันลมๆแล้งๆยังไงล่ะ! เพื่อให้ตระกูลได้เหยียบขึ้นไปบนจุดสูงสุดของโลกเลยต้องแลกกับการที่คนอื่นสูญเสียเลือดเนื้องั้นเหรอ มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่ทำแบบนี้! ไม่ใช่คติอะไรทั้งนั้น!”

เป็นครั้งแรกที่พายุพูดจาไม่เข้าหูออกมาแบบนี้ จนทำให้จรัลโมโหขึ้นมาชั่วพริบตา

“ไอ้ลูกเวร! ฉันว่าตอนนี้สมองแกน่าจะกระทบกระเทือน! ใครก็ได้ มาจับพายุไปขังแล้วเฝ้าเอาไว้ ทุกอย่างที่เป็นของเขาให้ฟองน้ำดูแลแทนนับแต่นี้เป็นต้นไป”

หลังจากที่ประกาศกร้าว เสียงเรียบนิ่งก็ดังมาจากข้างนอก

“ไหนใครกล้าทำพ่อของฉัน?”

สมจิตเดินเข้ามาจากข้างนอก เธอมัดระเบิดไว้กับตัว สีหน้าไร้ความรู้สึกทำให้จรัลกับฟองน้ำต่างนิ่งอึ้ง

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท