แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1714 ผมจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี

บทที่ 1714 ผมจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี

คนบริเวณรอบๆนั้นเป็นเพราะทหารคนนั้นถูกจับไปแล้ว ตอนนี้ต่างก็มองดูนรมนแต่ไม่พูดอะไรเลย แต่ว่านรมนก็พอเข้าใจสายตาของพวกเขาแล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะว่ากังวลในฐานะคุณนายบุริศร์ของเธอละก็ ไม่รู้ว่าคนพวกนี้จะทำอะไรไปบ้าง?

“เตรียมเซรุ่มแก้พิษให้พวกเขา”

“ได้”

ถึงแม้ว่าหลายคนก็ตอบตกลง แต่ว่านรมนรู้ดีว่าทุกอย่างเป็นเพราะเกี่ยวข้องกับบุริศร์ทั้งนั้น

บุริศร์ถือว่าเป็นตำนานของที่นี่มาโดยตลอด เป็นเหมือนเทพนิยาย เรื่องที่เขายกสมบัติของตัวเองทั้งหมดให้กับนรมนนั้นได้แพร่สะพัดออกไปทั่วแล้ว ทุกคนต่างก็รู้แล้วว่านรมนมีความสำคัญต่อบุริศร์มากเพียงใด

นี่มีหลักฐานก็ยังดี แต่ถ้าทำอะไรนรมนลงไปในภาวะที่ไม่มีหลักฐานอะไรละก็ เมื่อบุริศร์ตื่นขึ้นมา ผลที่เกิดขึ้นตามมานั้นพวกเขาย่อมไม่อาจจะรับไหวได้แน่

หลังจากที่นรมนเข้าใจประเด็นนี้แล้วจึงหันหลังกลับเข้าไปในห้อง

ในเวลานี้ถ้าเธอพูดมากไปก็จะมีโอกาสผิดมากขึ้น สู้ไม่พูดอะไรจะดีกว่า

หลังจากที่โสธรได้ยินข่าวแล้ว วินเซนต์พวกเขาก็ได้ฉีดยาแก้พิษไปแล้ว แต่ว่ายังไม่ฟื้นขึ้นมาเลย ส่วนนรมนก็นั่งเฝ้าบุริศร์อยู่ข้างๆ

เขามองดูนิวราที่ยังนอนอยู่ในสภาพสลบไสล ก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย

ตอนนี้สถานการณ์ของนิวราไม่สู้ดีนัก นรมนทางนั้นก็เกิดเรื่องขัดแย้งกันขึ้น เขาเป็นหัวหน้าหน่อยอาณาจักรรัตติกาล ในเวลานี้ควรจะอยู่ข้างกายนรมนมากกว่า

แต่ว่า……..

เป็นครั้งแรกที่โสธรรู้สึกลังเล

เมื่อก่อนเพื่อนรมนแล้ว สามารถทำอะไรได้ทุกอย่างโดยไม่สนใจอะไรเลยไม่ว่าจะบุกน้ำลุยไฟที่ไหนก็ตาม แต่ตอนนี้เมื่อเห็นนิวราที่นอนป่วยอยู่บนเตียงในสภาวะที่สลบไสล ตัวร้อนไข้ไม่ลดเลย เขากลับรู้สึกลังเลขึ้นมา

ที่แท้ความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อนรมนก็เป็นเพียงแค่นี้เอง

เมื่อนึกถึงบุริศร์เพื่อนรมนแล้วไม่เคยเกิดความลังเลแม้แต่นิดเดียว ในที่สุดโสธรก็ยอมรับว่าตัวเองสู้บุริศร์ไม่ได้จริงๆ

ส่วนคนอย่างนรมนนั้น ก็มีเพียงแต่บุริศร์เท่านั้นที่มีสิทธิ์ยืนเคียงข้างเธอ

โสธรไม่รู้ว่าความรู้สึกในใจเป็นอย่างไร รู้สึกขมขื่นมาก แต่ก็เหมือนกับค่อนข้างสบายใจขึ้น

ความรู้สึกที่สับสนเช่นนี้ทำให้เขาไม่อยากจะไปเผชิญหน้าเลย แต่ตอนนี้จะไม่ไปเผชิญหน้าก็ไม่ได้แล้ว

ดูเหมือนว่านิวรากำลังฝันร้ายอยู่ สภาพที่สลบไสลอยู่แต่ยังคงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เธอกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น จนเลือดออกก็ยังไม่ยอมคายออก

โสธรนึกถึงสิ่งที่เธอต้องแบกรับทุกอย่างไว้นั้น จึงตัดสินใจเอานิ้วมือของตัวเอง ใส่เข้าไปในปากเธอ

หลังจากความเจ็บปวดที่รุนแรงถึงที่สุดผ่านไปในชั่วพริบตาเดียวแล้ว เขากลับไม่มีความรู้สึกอะไรเลย หวังเพียงแต่ให้นิวราสามารถผ่านพ้นจากภัยพิบัติได้อย่างปลอดภัยก็พอแล้ว

เมื่อนึกถึงสถานการณ์ของนรมนตอนนี้แล้ว โสธรก็รีบโทรศัพท์ไปหากิมจิ

ยังไงกิมจิก็คิดไม่ถึงว่าพวกเขาออกมาคราวนี้ถึงกับพบกับเรื่องร้ายๆเช่นนี้ เขาไม่สนใจคำคัดค้านจากคนรอบข้าง นั่งเครื่องบินไปหาถึงโรงพยาบาลสนามทันที

เมื่อเห็นกิมจิปรากฏตัวอยู่ที่นี่ คนของอาณาจักรรัตติกาลต่างก็รู้สึกประหลาดใจ อย่างน้อยในเวลาเช่นนี้มาถึงที่นี่ก็ต้องกักตัวทั้งนั้น ไม่ว่าคุณจะติดเชื้อหรือไม่ก็ตาม

ไม่มีใครชอบที่จะถูกกักบริเวณยาวนานถึงสิบสี่วันทั้งนั้น แต่ว่าการมาถึงของกิมจินั้นดูเหมือนจะทำให้คนของอาณาจักรรัตติกาลรู้สึกว่ามีคนที่พึ่งพิงได้แล้ว

“ผู้จัดการกิมจิ คุณมาแล้วเหรอ?”

“คุณนายอยู่ไหน?”

กิมจิเพิ่งจะเดินทางมาถึง นั่งอยู่บนรถเข็นรู้สึกเหนื่อยพอสมควร แต่ว่าออร่าที่เปล่งประกายในตัวของเขาก็ยังไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปเลย

รองหัวหน้าหน่วยพากิมจิมาถึงห้องพักของบุริศร์และนรมน แล้วเคาะประตูอย่างมีมารยาท

นรมนเพิ่งจะพักผ่อนไปสักครู่หนึ่ง เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็ตกใจเล็กน้อย แต่ก็พูดอย่างไม่ลังเลว่า “เชิญ”

กิมจิผลักประตูแล้วเข้าไปข้างใน รองหัวหน้าหน่วยก็ถอยออกไปอย่างรู้กาลเทศะ

“คุณมาได้ยังไงคะ?”

นรมนมองไปยังกิมจิแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย

ร่างกายของเขาไม่ค่อยแข็งแรงนัก มาที่นี่ค่อนข้างเสี่ยงอันตราย

กิมจิกลับมองไปยังบุริศร์ที่ยังคงสลบไสลอยู่บนเตียง แล้วพูดด้วยเสียงเบาๆว่า “ผมมาเยี่ยมพวกคุณ ในเวลานี้ผมจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ โสธรอยู่กับนิวราทางนั้น ตอนนี้ยังปลีกตัวออกมาไม่ได้”

นรมนพยักหน้า

เธอพูดด้วยเสียงเบาว่า “คราวนี้เรื่องราวไม่ธรรมดาเลย คุณลองส่งคนไปสืบดูหน่อย ทหารคนนั้นตอนนี้ยังไม่ปริปากพูดอะไรเลย ข่าวคราวที่มีประโยชน์ก็ไม่มีเลย ฉันอยากรู้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้!”

“ได้ ผมจะรีบไป แต่ว่าได้ข่าวว่าคุณไม่ได้กินอะไรทั้งวันเลย อย่างนี้ไม่ดีแน่”

สายตาของกิมจิแฝงด้วยความห่วงใย

“ฉันรู้แล้ว อีกเดี๋ยวค่อยกิน”

นรมนไม่ได้พูดปฏิเสธ ทำให้กิมจิรู้สึกโล่งอก

ตั้งแต่ต้นจนจบ ตอนที่เขาเพิ่งเข้ามาถึงนั้นนรมนก็มองเขาแค่แวบเดียว หลังจากนั้นสายตาเธอก็อยู่ที่ตัวของบุริศร์ตลอดเวลา

ความรักระหว่างพวกเขายิ่งมายิ่งลึกซึ้งมากขึ้น

กิมจิเคยเห็นสามีภรรยาหลายคู่ ตอนแต่งงานใหม่ๆก็หวานแหววชื่นมื่นกันมาก หลังจากเวลาผ่านไปก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นห่างเหินมากขึ้น จากนั้นก็เริ่มเกิดความขัดแย้งกัน จนสุดท้ายก็ต้องแยกทางกันไป อย่างมากก็ใช้เวลาไม่เกินเจ็ดปีเท่านั้น แต่ว่าเรื่องแบบนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เกิดขึ้นกับบุริศร์และนรมนอย่างแน่นอน

พวกเขาแต่งงานเกินกว่าเจ็ดปีแล้ว นอกจากก่อนหน้านั้นเกิดความเข้าใจผิดแล้วแยกกันอยู่ห้าปี ช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาความรักระหว่างพวกเขาทั้งสองก็นับวันยิ่งแนบแน่นยิ่งขึ้น ความรักเช่นนี้ทำให้คนรู้สึกอิจฉา แต่ก็ต้องเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้ก็ต้องแล้วแต่บุญวาสนาไม่อาจจะแข็งขืนกันได้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะโชคดีสามารถพบกับความสุขอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือเช่นนี้ได้

ตั้งแต่ที่กิมจิเคยหลงรักนรมนเป็นครั้งแรก จนกระทั่งถึงตอนนี้ที่เปลี่ยนเป็นมีแต่คำอวยพรให้กับนรมนแล้วนั้น ในใจก็รู้สึกสงบนิ่งลงมาก ตอนนี้เขาได้แต่หวังให้ทั้งบุริศร์และนรมนสามารถมีความสุขเช่นนี้ตลอดไป และไม่พบกับอุปสรรคใดๆอีกเลยจะเป็นการดีที่สุด

“ผมรู้สึกว่าข้างนอกน่าจะมีเรื่องราวเกิดขึ้นอีกมากมาย ช่วงนี้ถ้าหากไม่มีอะไรคุณก็อยู่แต่ในห้องกับประธานบุริศร์ เรื่องของข้างนอกปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมก็แล้วกัน”

สายตาของหกิมจิดูหนักแน่นมาก

ในใจของนรมนก็รู้สึกมั่นคงปลอดภัยมากขึ้น

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความสามารถของกิมจิทำให้เธอสบายใจขึ้นมาก

“ได้! แต่ว่าคุณก็ต้องระวังร่างกายตัวเองด้วยนะ อย่างน้อยที่นี่ก็เป็นเขตโรคระบาด ร่างกายของคุณไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก ฉันยังไม่อยากจะแบ่งเวลามาดูแลคุณหลังจากนี้ไป”

“วางใจเถอะ ผมจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี”

กิมจิพูดจบก็เข็นรถเข็นออกไปข้างนอก

นรมนมองดูเงาร่างของเขาแล้ว สายตาเต็มไปด้วยความห่วงใย

ที่กิมจิพูดมาทำไมเธอถึงไม่รู้ล่ะ?”

ตอนแรกเธอยังคิดว่าถ้าหากเกิดเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้ละก็ ต่อให้ต้องทิ้งพวกคนข้างนอกทั้งหมดนั้นก็ตาม เธอก็จะต้องปกป้องบุริศร์และวินเซนต์พวกเขาให้ได้ ตอนนี้กิมจิมาถึงแล้ว ทำให้บุริศร์บรรลุเป้าหมายรักชาติของเขาได้สำเร็จ

วิธีการจัดการของกิมจิเด็ดขาดมาก คนของอาณาจักรรัตติกาลก็สามารถควบคุมสถานการณ์ภายในโรงพยาบาลสนามได้แล้ว อีกทั้งก็เริ่มทำการตรวจสอบอีกด้วย

ตอนแรกก็มีคนไม่พอใจ รู้สึกว่าคนของอาณาจักรรัตติกาลกล้าหาญชาญชัยเกินไป มิหนำซ้ำยังมีคนกล่าวหาว่านรมนต้องการฉวยโอกาสนี้มาบริหารด้วยตัวเอง แต่ว่าคนพวกนั้นต่างก็ถูกกิมจิใช้ไม้แข็งในการจัดการจนราบคาบแล้ว

เขาพูดว่า “ทุกอย่างที่นี่ต้องฟังคำสั่งของอาณาจักรรัตติกาลเท่านั้น ใครไม่พอใจก็อดกลั้นเอาไว้ ถ้าอดกลั้นไม่ไหวก็ไปตายซะ ยังไงถ้าคิดอยากมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ก็ต้องฟังคำสั่งฉันแต่โดยดี ไม่อย่างนั้นแล้วไม่มีใครกล้ารับประกันได้ว่าต่อไปยังจะมีชีวิตอยู่อีกได้หรือไม่!”

คำพูดของเขาไม่ปรานีปราศรัยเลย ขณะเดียวกันก็เป็นแรงกดดันที่เด็ดเดี่ยว ปืนกลวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว ต่อให้พวกเขาไม่ยอมก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ต่างก็ให้ความร่วมมืออย่างสงบเรียบร้อย

กิมจิได้มอบหมายเรื่องทุกอย่างที่นี่ให้กับรองหัวหน้าทีม ตัวเขาเองก็ไปที่ที่กักขังทหารที่ใส่ร้ายป้ายสีนรมนคนนั้น

แต่ว่าเมื่อได้เห็นหน้าทหารคนนั้นแล้ว กิมจิก็ทำตาหยีทันที

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท