แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1725 แค่หวังว่านายจะทำให้พวกเขารู้สึกคุ้มค่า

บทที่ 1725 แค่หวังว่านายจะทำให้พวกเขารู้สึกคุ้มค่า

“คุณชายบุริศร์”

ตอนที่บุริศร์เห็นชัยยศกับสมจิตก็ตะลึงเล็กน้อย

“พวกนายมาได้ยังไง? ยังกักตัวอยู่ไม่ใช่เหรอ?”

บุริศร์รู้ว่าสมจิตกำลังกักตัวอยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้กลับเห็นพวกเขาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้า ทั้งยังไม่ได้เข้ามาตามกระบวนการปกติ จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

ชัยยศมองสมจิต สมจิตค่อนข้างละอายใจอย่างชัดเจน เขาจึงดึงมือของสมจิตแล้วพูดขึ้น: “คุณชายบุริศร์ครับ เชื้อไวรัสปรากฏการณ์กลายพันธุ์แล้ว”

“พวกนายรู้ได้ยังไง?”

บุริศร์เพิ่งถามเสร็จก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง

“นี่พวกนายที่ด้านนั้นก็……”

“ไม่มีครับ แต่ผมตรวจสอบเจอบางเรื่อง”

หลายวันนี้สมจิตอารมณ์หม่นหมองมาก และเธอก็ชินแล้วที่ชัยยศจัดการทุกอย่างให้เธอ ตอนนี้อยู่ต่อหน้าของบุริศร์เธอถึงรู้สึกตัวว่าตนเองไม่ควรหงอยเหงาเศร้าซึมเช่นนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปก้าวหนึ่ง

“เรื่องอะไร?”

สำหรับสถานะของสมจิตบุริศร์รู้อยู่แล้ว ได้ยินว่าท้ายที่สุดสมจิตได้จัดการคนในครอบครัวตามกฎหมายเพื่อประเทศชาติการกระทำนี้เขาไม่รู้สึกสบายใจเลยสักนิด เพียงแต่รู้สึกปวดร้าวใจแทนเธอ

ทุกๆคนพากันสรรเสริญคนที่จัดการคนในครอบครัวตามกฎหมายเพื่อประเทศชาติ แต่ใจคนเราก็มีความรู้สึก จะมีสักกี่คนที่สามารถตัดขาดความสัมพันธ์ทางสายเลือดได้จริงๆ?

คนที่ไม่ได้ประสบกับความเจ็บปวดในเวลานั้นไม่มีทางเข้าใจหรอก

ดังนั้นตอนนี้เห็นสภาพของสมจิตที่ผอมลงไปเยอะเลย บุริศร์ยังคงรู้สึกสงสาร

สมจิตก็เห็นแววตาสงสารของบุริศร์ แต่เธอไม่อยากอ่อนแอจนเกินไป แค่พูดเบาๆ: “หลังจากพ่อของฉันจากไปฉันได้ไปค้นหาในห้องหนังสือของพ่อ พวกเขาสร้างไวร้สไว้สองประเภท ประเภทหนึ่งเป็นไวรัสกลายพันธุ์ อีกประเภทหนึ่งเป็นไวรัสทั่วไป พวกเขามาที่นี่พร้อมกับไวรัสทั่วไปเท่านั้น ตามแผนการเดิมของพวกเขาคือรอให้ผ่านไปสองสัปดาห์จึงจะปล่อยไวรัสกลายพันธุ์ น่าเสียดายที่ฉันไม่มอบโอกาสนั้นให้พวกเขา โจมตีจนพวกเขาตั้งรับไม่ทัน ดังนั้นนี่จึงเป็นส่วนประกอบทางเคมีของไวรัสกลายพันธุ์ ซึ่งตอนนี้ฉันยังไม่เจอใบสั่งยาที่จะกำจัดเชื้อไวรัสได้”

คัดลอกข้อมูลที่ตนเองค้นเจอออกมาแล้วส่งไปให้บุริศร์

บุริศร์ก็ไม่กล้าอืดอาด รีบเปิดคอมพิวเตอร์ดู สิ่งที่เรียกว่าไวรัสกลายพันธุ์ก็เป็นเพียงเชื้อพื้นฐานดั้งเดิมที่เพิ่มเติมยาจีนและยาเม็ดหลายชนิดเข้าไปด้วยเท่านั้น

ดังนั้นตอนที่นรมนทำบะหมี่โฮมเมดให้เขาคงมีใครถือโอกาสที่เธอไม่ได้ระวังตัวทำอะไรบางอย่าง

บุริศร์หรี่ตาขึ้นมาเล็กน้อย

“ตอนนี้พวกนายก็อยู่ที่นี่แหละ กักตัวกับพวกฉัน ตระกูลนนท์สัจทัศน์ที่ด้านนั้นก็ไม่ต้องยุ่งแล้ว ฉันจะส่งคนไปจัดการเอง”

พูดจบบุริศร์ก็ให้ชัยยศพาสมจิตไปหากิมจิเพื่อจัดการเรื่องที่พัก ส่วนตนเองกลับส่งข้อมูลที่คัดลอกแล้วไปให้กิจจา

ช่วงนี้กิจจาเหนื่อยมากจริงๆ เดิมทีเขาก็ไม่ได้โตมากมาย แต่กลับต้องติดตามหมอพยาบาลพวกนั้นทำวิจัยอย่างต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน ต่อให้ได้คุยหรือไม่ได้คุยโทรศัพท์กับจณัตว์ เขาก็รู้สึกว่าจณัตว์เหมือนสารานุกรมที่เดินได้เล่มหนึ่งจริงๆ โดยเฉพาะในด้านที่เกี่ยวกับการแพทย์ยิ่งทำให้กิจจานับถืออย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ยังไงเขาก็คิดไม่ถึงว่าจะได้รับข้อความจากบุริศร์ ทั้งยังเป็นข้อความที่ทำให้เขาไม่สบายใจมากๆด้วย

“กิจจา รบกวนหน่อยนะ ให้คนของพวกลูกดูนอกเวลางานทีว่าสามารถศึกษาส่วนประกอบของยาถอนพิษนี้ออกมาให้เร็วที่สุดได้ไหม”

“ครับ”

กิจจารีบตอบรับ

ลูกๆของตระกูลโตเล็กต่างก็โหมเต็มกำลังในทันทีที่ประเทศชาติต้องการเป็นอันดับแรกเสมอ พยายามทุ่มเทเท่าที่ตนเองจะทำได้

กิจจาส่งข้อมูลต่อไปให้หมอกับพยาบาลที่อยู่กับตนเอง และส่งไปให้จณัตว์อีกหนึ่งชุด ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าเชื้อไวรัสประเภทนี้จะแพร่ระบาดไปถึงประเทศอื่นได้ไหม แต่ต้องป้องกันไว้ก่อน ถึงยังไงสถานที่ที่จะระเบิดก็คือสนามรบต่างประเทศนี่แหละ

ภายในระยะเวลาสั้นๆทุกคนต่างก็อลหม่านขึ้นมา

ตอนที่ธเนศพลพากานต์มาถึง นรมนก็ตื่นแล้ว กำลังจะไปคิดบัญชีบุริศร์พอดี ตอนนี้ได้ยินว่าลูกชายมาแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย

บวกกับที่กานต์โดนธเนศพลพามา ทั้งยังมาตอนที่เชื้อไวรัสกลายพันธุ์ด้วย สีหน้าที่นรมนมีให้ธเนศพลจึงไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“คุณชายธเนศพล คุณเอาใจใส่ตระกูลโตเล็กของพวกฉันจริงๆเลยนะคะ”

คำพูดนี้ของนรมนทำให้ธเนศพลหน้าแดงระเรื่อ

ตอนที่เขามาก็ไม่รู้ว่าเชื้อไวรัสจะกลายพันธุ์ได้นี่นา แล้วยังรวดเร็วขนาดนี้อีก

บุริศร์กลับไม่ขวางนรมนที่กำลังระบายอารมณ์ แต่ทว่าสำหรับการมาถึงของกานต์ก็ไม่ค่อยดีใจสักเท่าไหร่

“นายพาลูกชายฉันมาทำไม? นายคิดว่าถ้าฉันจะต่อยนาย จะไม่กล้าลงมือต่อหน้าลูกชายของฉันงั้นเหรอ? เป็นไปได้ว่าเราสองคนพ่อลูกจะลงมือด้วยกันน่ะสิ สมองนายคิดอะไรอยู่?”

ท่าทีของบุริศร์ก็ไม่ดีมาก

ตั้งแต่แรกกานต์ก็ไม่พูดอะไรเพื่อธเนศพลเลยสักประโยค เขาแค่มองนรมน เดินเข้าไปจูงมือของนรมนพูดขึ้น: “หม่ามี้ ผมหิวแล้ว มีของกินไหมครับ?”

“มีจ๊ะ หม่ามี้จะทำให้กิน”

ได้ยินว่าลูกชายหิวแล้วนรมนก็ปวดใจสุดๆ สองสามปีนี้กานต์ใช้ชีวิตอยู่ในเขตทหาร ใบหน้ายิ้มแย้มนั้นตากแดดจนคล้ำดูไม่ได้เลย คนเป็นแม่เห็นแล้วก็ปวดใจ

เธอถลึงตาใส่ธเนศพลด้วยความขุ่นเคืองอีกครั้ง แล้วจูงลูกชายเดินไปทางห้องครัว

กานต์ในตอนนี้ยิ่งสุขุมมากขึ้นหลังจากที่ได้เจอกับอะไรมามากมาย

“ลูกชาย ลูกไม่ควรมาที่นี่นะ”

“ผมคิดถึงหม่ามี้กับแด๊ดดี้แล้ว ได้มาหาหน่อยก็ดีนี่ครับ”

กานต์กลับยิ้มบางๆ ใบหน้าเท่ๆที่เหมือนกับใบหน้าหล่อเหลาของบุริศร์ทำให้คนที่ได้เห็นเคลื่อนสายตาหนีไปไม่ได้เลยจริงๆ

ลูกชายพูดขนาดนี้แล้ว นรมนจะพูดอะไรได้อีกล่ะ?

เธอจูงมือของกานต์แล้วปล่อยคำถามออกมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้กลับอารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว

บุริศร์เห็นพวกเขาออกไปแล้ว ถึงได้จุดบุหรี่มวนหนึ่ง มองธเนศพลพูดขึ้น: “นายวางแผนยังไง?”

“ตอนนี้คนของตระกูลนนท์สัจทัศน์ไม่เหลือใครแล้ว มีบางเรื่องที่สืบหาไม่ได้ แต่ฉันก็รู้ว่าตระกูลนนท์สัจทัศน์คงไม่ใช่ตระกูลเดียวที่ก่อเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ อีกอย่างสนามรบต่างประเทศที่จู่ๆเริ่มกลับมาทำสงครามก็ไม่ใช่ตระกูลนนท์สัจทัศน์เพียงตระกูลเดียวที่จะสามารถควบคุมได้ ในหมู่ทหารยังมีคนคิดจะใช้โอกาสจากช่องโหว่ของสนามรบต่างประเทศกำจัดคนต่างพรรคต่างพวก ไม่อยากให้ฉันขึ้นไปอยู่ตำแหน่งนั้นได้สำเร็จ”

ทุกครั้งตอนที่พูดถึงแผนกลยุทธ์พวกนี้ ธเนศพลเบื่อหน่ายจริงๆ แล้วก็เหนื่อยมาก แต่เขากลับต้องเผชิญหน้า

บุริศร์สูดบุหรี่เข้าไปลึกๆพูดขึ้น: “ นายคนเดียวไหวไหม?”

ธเนศพลตะลึงเล็กน้อย แล้วฝืนยิ้มพูดขึ้นทันที: “ถ้าฉันบอกว่าไม่ได้นายจะอยู่ที่นี่เพื่อช่วยฉันไหม?”

“ไม่อยู่ ภรรยาของฉันผิดหวังในตัวพ่อนายแล้ว”

บุริศร์กลับพูดตรงๆ แต่ทำให้ในใจของธเนศพลค่อนข้างเป็นทุกข์

“เรื่องของอาณาจักรรัตติกาลพ่อของฉันทำเกินไป ฉันต้องขอโทษพวกนายแทนเขาด้วย”

“ไม่จำเป็นหรอกหลังจากสถานการณ์โรคระบาดครั้งนี้ฉันจะออกไปเที่ยวในทุกๆที่กับนรมน ส่วนคนอื่น ทุกคนต่างก็มีทางเลือกของแต่ละคนเอง ไม่ว่าพวกเขาจะเลือกอะไรก็หวังว่านายจะดีกับพวกเขา”

คำพูดของบุริศร์ทำให้ธเนศพลค่อนข้างเสียใจ

“จะไปจริงๆเหรอ?”

“ฉันคิดว่านายคงรู้ผลลัพธ์นี้ตั้งแต่แรก ถึงยังไงทรัพย์สินของฉันก็โยกย้ายไปแล้ว ทิ้งลูกชายสองคนของฉันไว้ข้างกายนายมันมากพอแล้ว ชีวิตนี้ของฉันทำเพื่อประเทศเพื่อประชาชนมามากมาย จริงๆฉันไม่อยากให้ลูกชายของฉันเดินตามทางของฉันด้วยซ้ำ แต่เส้นทางนี้เป็นทางเลือกของพวกเขา ฉันก็จนปัญญาที่จะก้าวก่าย แค่หวังว่านายจะทำให้พวกเขารู้สึกคุ้มค่า!”

บุริศร์สูดควันสุดท้ายเข้าไป มองธเนศพล สายตานั้นมาพร้อมกับความแวววาวและความเชื่อใจเล็กน้อย แต่กลับทำให้ธเนศพลค่อนข้างทุกข์ใจ

ท้ายที่สุดยังคงทำให้เขาผิดหวังสินะ?

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท