แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1731 นายนี่มันกวนประสาทชะมัด

บทที่ 1731 นายนี่มันกวนประสาทชะมัด

“พูดเพ้อเจ้ออะไร? เกี่ยวอะไรกับเธอ? ฉันแค่กลัวว่าเธอจะก่อเรื่องที่นี่ถ้าได้ยินว่าฉันเป็นอะไรไป ดูจากทักษะการต่อสู้ของเธอแล้ว คิดว่าอย่างพวกนายใช่คู่ต่อสู้ที่สูสีเหรอ?”

เมื่อกานต์พูดออกมาแบบนี้ นะโมก็รู้สึกเสียวคอวาบๆ

แม้ว่าที่ผ่านมาไอราจะดูเป็นคนเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่ก็ต้องในกรณีที่มีกานต์อยู่ด้วย ถ้ากานต์ไม่อยู่ พวกเขาก็จะถูกทารุณอย่างน่าอนาถ

เมื่อนึกถึงความเจ็บแปล็บถึงกระดูก นะโมก็รู้สึกกลัวย้อนหลัง

“รู้แล้วครับเฮีย ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”

เมื่อวางสายโทรศัพท์ สิ่งแรกที่นะโมทำคือแจ้งให้ไอราทราบ

หลังจากที่ไอรารับรู้เรื่องราวก็นิ่งอึ้งไป แต่ก็เข้าใจความหมายของกานต์

เขาอยากให้เธอไปจากที่นี่!

ออกไปจากวังวนนี้!

ถึงแม้เธอจะไม่ได้บอกอะไรเขาก็ตาม แต่เขาก็เลือกที่จะปกป้องเธอ!

วินาทีนี้ไอราพลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

ยังมีอะไรที่สามารถทำให้เธอดีใจมากกว่านี้อีกไหม?

แม้ว่าทั้งสองคนยังไม่เคยเปิดอกคุยกัน แต่ว่าที่เขาทำอย่างนี้ก็สามารถอธิบายทุกอย่างแล้ว

ว่ากานต์ชอบเธอ!

นอกจากตื่นเต้นแล้วไอรายังรู้สึกกังวลอีกด้วย

เขาให้เธอไปเพราะคิดจะทำอะไรกันนะ?

หลายปีมานี้ไอราอยู่ข้างกายกานต์มาตลอด เธอจึงค่อนข้างคุ้นชินกับทุกการกระทำของเขา ถ้าเธอเป็นกานต์ แล้วอยากจะปกปกป้องดูแลใครสักคนจะทำยังไงน่ะเหรอ?

ใบหน้าของไอราพลันขาวซีด

ตาทึ่มนี่!

เขาคิดที่จะใช้อนาคตและเกียรติยศทั้งหมดแลกกับการดึงเธอออกมาเหรอ?

คิดได้ดังนั้นไอราจึงต่อสายหาโอลี่เป็นอันดับแรก

“ฉันใช่พี่สาวแกไหม?”

โอลี่งุนงงกับคำถามของไอรา

“พี่พูดอะไร? ถึงฉันจะไม่อยากเรียกพี่ว่าพี่ก็เถอะ แต่ก็ต้องให้พ่อแม่อนุญาตอยู่ดี”

“อย่างนั้นก็ดี โอลี่ ถ้าแกยังเห็นฉันเป็นพี่ล่ะก็ ไม่ว่ากานต์จะให้แกร่วมมือกับใครทำอะไรก็ตาม แกก็ห้ามตกลง ห้ามเข้าไปยุ่ง และห้ามช่วยเด็ดขาด!”

คำพูดของไอราทำให้โอลี่ตะลึงงัน

เมื่อกี้นะโมเพิ่งส่งข้อความมา พี่ก็มาพูดอย่างนี้อีก แล้วเธอควรทำอย่างไรดี

“พี่ ฉัน……”

“รับปากฉัน ไม่อย่างนั้นแกไม่ต้องมาเป็นน้องสาวฉันเลย!”

โอลี่เริ่มมีน้ำโห

คิดจะให้เป็นหรือไม่เป็นก็ได้เหรอ?

ตลอดเวลาที่ผ่านมาต่อหน้าคนอื่นไอราคือคนอ่อนหวานและใจกว้าง แต่กับเธอที่เป็นน้องสาวกลับเอาแต่ข่มขู่กันอยู่ได้

“ฉันรู้แล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นนับแต่นี้เป็นต้นไปห้ามสนใจคนที่นี่ไม่ว่าจะใครก็ตาม แล้วก็บอกพ่อกับแม่ด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ช่วงนี้ฉันอาจจะต้องขาดการติดต่อกับพวกเขาไปสักระยะ”

“หมายความว่าไง?นี่พี่คิดจะทำอะไร? พี่…”

โอลี่พูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกไอราวางสายใส่

ถ้ากานต์คิดจะแบกรับทุกอย่างคนเดียว ก็ต้องดูด้วยว่าเธอเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย

ความผิดของเธอเธอจะรับมันเอง!

จะไม่ยอมให้กานต์ต้องถอดชุดทหารนั่นออกเด็ดขาด

เธอรู้ว่ากานต์มีคติยิ่งใหญ่ในค่ายทหารมาตั้งแต่เด็กๆ เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสิ่งนี้ แล้วเธอจะปล่อยให้เขาถูกถอดยศได้ยังไง?

ไอราคิดได้แล้วว่าตัวเองต้องทำอะไร

เธอเก็บของแล้วเดินออกไปจากห้อง ถือกุญแจขึ้นรถ แล้วขับออกไปจากค่ายทหาร

ทันใดนั้นก็มีรถจี๊ปคันสีเขียวมาจอดขวางทางไอราเอาไว้

ร่างสูงเพรียวของชมพูกระโดดลงมาจากรถ

“คุยกันหน่อยไหม?”

ไอราขมวดคิ้วเล็กน้อย

เธอรู้ว่าชมพูเองก็ชอบกานต์เหมือนกัน ที่ผ่านมาทั้งสองสู้กันทั้งต่อหน้าและลับหลังไม่น้อยกว่าร้อยครั้ง แต่ก็ยังพอฟัดพอเหวี่ยงกัน

อีกอย่างกานต์ก็ยังดูแลชมพูเป็นพิเศษ โดยเฉพาะตอนที่พวกเขาต้องเป็นคู่หูออกปฏิบัติภารกิจร่วมกันในทุกๆครั้ง ก็ยิ่งทำให้ไอราอิจฉา

เมื่อเห็นหน้าชมพู ไอราจึงพูดออกมาอย่างเย็นชา “ไสหัวไป!ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอ”

“ไม่คุยก็ไม่คุย มาสู้กันหน่อยเป็นไง ถ้าเอาชนะฉันได้ฉันจะปล่อยเธอไป แต่ถ้าแพ้เธอต้องไสหัวกลับประเทศYแต่โดยดี ภายในหนึ่งเดือนนี้ห้ามกลับมาที่ประเทศZ ตกลงไหม?”

ไอราขมวดคิ้วมุ่นกับคำพูดของชมพู

“กานต์ส่งเธอมา?”

“ถ้ารู้แล้วก็กลับไป อย่าทำให้ความหวังดีของเขาสูญเปล่า”

ชมพูไม่ได้ปิดบังไอรา

เธอรู้มาตั้งแต่เด็กๆว่าพ่อแม่หวังให้เธอกับกานต์คู่กัน และเธอเองก็ชอบกานต์จริงๆ ทว่าความรู้สึกที่กานต์มีต่อเธอมันไม่ใช่ในเชิงชู้สาว เธอดูออก แต่กระนั้นก็ยังรู้สึกขัดใจ

พอเห็นว่ากานต์เลือกที่จะทำอย่างนี้เพื่อไอรา ชมพูก็ยิ่งรู้สึกอิจฉาแทบบ้า แต่ว่าเธอก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของกานต์ เพราะกานต์บอกว่าถ้าเธอขวางไอราเอาไว้ไม่ได้ จากนี้ไปจะไม่มาให้เธอเห็นหน้าอีก

ไม่ได้เจอกานต์อีกงั้นเหรอ?

จะทำอย่างนั้นได้ยังไง?

เราฝึกมาด้วยกันตั้งแต่ห้าขวบ ออกปฏิบัติภารกิจด้วยกัน เติบโตมาด้วยกัน กานต์คือแสงสว่างของชมพู ถ้าไม่มีเขา ชมพูก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถเดินต่อไปได้หรือเปล่า

ดังนั้นต่อให้จะไม่ชอบไอรามากแค่ไหน ยังไงวันนี้ก็ต้องขวางเธอเอาไว้

ไอราคิดไม่ถึงเลยว่าชมพูจะทำตามคำสั่งของกานต์ขนาดนี้ กระนั้นในใจก็ยังรู้สึกไม่สบอารมณ์

การที่ผู้ชายของตัวเองถูกผู้หญิงคนอื่นจ้องจะจับทั้งวัน ความรู้สึกนี้มันเป็นอะไรที่แย่สุดๆแล้ว

“จะสู้ใช่ไหม? ชมพู อย่าหาว่าฉันไม่เตือน ถ้าฉันล้มเธอได้ ก็อย่ามาร้องไห้แล้วกัน!”

“เลิกพูดมากได้แล้ว!ใครกันแน่ที่จะร้องไห้!ไอรา ฉันอิจฉาที่พี่กานต์แบกรับทุกอย่างแทนเธอก็จริง แต่ฉันก็โกรธที่เธอทำให้ขาสูญเสียทุกอย่างไปเหมือนกัน!วันนี้ต่อให้มีหรือไม่มีคำสั่งของพี่กานต์ ฉันก็จะอัดหน้าเธอ!”

พูดจบชมพูก็พุ่งเข้าจู่โจมทันที

ดวงตาของไอราทอแววเยือกเย็น จากนั้นก็สวนกลับเพื่อป้องกันตัว ไม่นานผู้หญิงความสูงราวๆร้อยเจ็ดสิบทั้งสองคนก็เริ่มสู้กันอยู่บนถนน จนกลายเป็นที่ดึงดูดความสนใจของใครหลายคน

หมัดของพวกเธอลอยหวือไปตามลม อานุภาพร้ายแรงเยี่ยงเสือ ถ้าไม่ใช่เพราะรูปลักษณ์ภายนอกเป็นผู้หญิง ก็ไม่มีใครอยากจะเชื่อว่าคนที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดในตอนนี้จะเป็นผู้หญิงสวยๆตั้งสองคน

ชมพูอาศัยจังหวะที่ไอราเผลอเหม่อ อัดเข้าที่บริเวณหางตาของเธอ

ไอราเจ็บแปล็บ แต่กลับพุ่งเข้าใส่อย่างไม่สนสิ่งใด จับชายเสื้อตรงแขนของชมพูแล้วดึงเข้ามาใกล้ จากนั้นก็ใช้หัวโขกหน้าผากชมพู

ชมพูรู้สึกหัวหมุนตาลาย มึนเบลออยู่พักใหญ่

ไอราอาศัยจังหวะช่องว่างนี้ออกแรงกดแขนของชมพูดเอาไว้ ชมพูรู้สึกแขนชา ไม่สามารถออกแรงสู้ได้เลย ทันใดนั้นก็ถูกไอรายกขึ้น แล้วโยนไปที่ไกลๆ

“กลับไปฝึกอีกสักสองปีแล้วค่อยมาแย่งผู้ชายกับฉันนะ”

ไอราโดดเข้าไปในรถอย่างปราดเปรียว จากนั้นก็เหยียบคันเร่งออกตัวไปทันที

ชมพูถูกโยนกลิ้งหลุนๆจนร่างกายแทบกระจุยกระจาย

ยัยบ้านี้ รุนแรงชะมัด!

เธอลูบหัว คาดว่าหน้าผากน่าจะเขียวช้ำหมดแล้ว

ผู้หญิงคนนั้นเวลาสู้อย่างกับคนบ้า

หัวของเธอทำมาจากก้อนหินหรือไงกัน?

ชมพูรายงานสถานการณ์กับกานต์ทันที ขณะเดียวกันนั้นไอราก็ส่งข้อความไปหากานต์เช่นเดียวกัน

“กานต์ นายกล้าให้ยัยชมพูนั่นมาทำร้ายฉันเหรอ? การที่ฉันถือศีลกินเจอยู่ข้างนายมาตลอดหลายปี มันทำให้นายมองว่าฉันเป็นแค่แมวป่วยๆใช่ไหม? นายนี่มันกวนประสาทชะมัด!คอยดูนะ!ถ้าฉันไม่ได้กระชากกางเกงตีตูดนายให้แดงเป็นปื้น อย่ามาเรียกฉันว่าไอรา!”

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท