แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1730 ผมทำไม่ได้หรอก

บทที่ 1730 ผมทำไม่ได้หรอก

“มองอะไร? เขียนตามความจริงสิ!”

กานต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาเย็นชามองทุกคนที่อยู่รอบๆทันที มอบความรู้สึกกดดันที่แข็งแกร่งให้แก่พวกเขา

ปวีรารีบท้วงขึ้นมา: “ไม่ได้! กานต์ นายคิดถึงผลลัพธ์ที่นายทำอย่างนี้ให้ชัดเจนจะดีที่สุด! ตอนนี้นายเป็นพันตรี สัญลักษณ์คุณงามความดีบนร่างของนายสามารถวางอยู่ทั่วทั้งห้องทำงานได้ แต่คุณงามความดีพวกนี้เทียบไม่ได้กับความจงใจผิดพลาดครั้งนี้ของนายนายเข้าใจไหม? ถ้านายยอมรับอย่างนี้จริงๆ ให้พวกเขากลับไปตอบอย่างนี้จริงๆ อาชีพทหารของนายก็จะสิ้นสุดลงแล้วนายรู้ไหม? นายชอบเขตทหารมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ? นายสาบานว่าจะอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ใช่เหรอ? ความรู้สึกร้อนรน คำนวณทิศทางลมกับความเร็วของกระสุนผิดงั้นเหรอ? กานต์ นายพูดอย่างนี้ไม่มีใครเชื่อนายหรอกนายรู้ไหม? ตอนห้าขวบนายเข้ามาในเขตทหาร ตอนนี้เกือบจะยี่สิบปีแล้ว ใครๆก็อาจจะทำผิดพลาดขั้นต่ำได้ ยกเว้นนายคนเดียวที่ไม่ได้! เวลานั้นต้องมีอะไรที่ส่งผลกระทบต่อนายใช่ไหม? นายพูดออกมาสิ แค่นายพูดออกมา คนข้างบนก็จะสืบหาอย่างชัดเจน ถึงตอนนั้นแม้นายจะได้รับการลงโทษ แต่นายจะไม่โดนบีบให้ออกจากการเป็นทหารแน่นอน!”

โดนบีบให้ออกสี่คำนี้แทงเข้าไปที่ปวีราลึกๆ

กานต์เป็นความภูมิใจของเขตทหารมาโดยตลอด หลายปีนี้ยิ่งทำให้ทุกคนเทียบเขาไม่ติด

คนที่มีแสงสว่างไสวสาดอยู่ข้างบนอย่างนี้ต่อให้ต้องออกไปจากเขตทหาร ก็ไม่ควรออกไปอย่างนี้!

เขาควรจะได้รับการอำลา ได้รับคำโน้มน้าวให้อยู่ต่อจากทหารทุกคน แต่ไม่ใช่การโดนบังคับปลดยศทหารออก

สำหรับความรักที่กานต์มีต่อเขตทหารปวีราเข้าใจดีที่สุด ให้เขาออกไปจากเขตทหารสู้ฆ่าเขาไปเลยดีกว่า

แต่เขากำลังพูดอะไรอยู่?

เขาบอกว่าเป็นเพราะร้อนรนจึงคำนวณทิศทางลมผิด ประเมินการเคลื่อนไหวของโจรลักพาตัวผิดพลาด นี่ต่อให้เป็นทหารใหม่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำพลาด แต่เขาที่เป็นทหารมานานแล้วเป็นไปได้ยังไงที่จะทำพลาด?

คนอื่นๆก็คิดอย่างนี้

“พันตรีกานต์ วันนี้อารมณ์ของคุณอาจจะไม่ค่อยดี วันหลังพวกผมค่อยมาใหม่ดีกว่า”

“เขียนตามที่ฉันบอก”

จู่ๆเสียงกานต์ก็เย็นชามากขึ้น

เขามองคนที่อยู่ตรงหน้า คนพวกนี้ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมสนามรบของเขา เขารู้ความรู้สึกที่พวกเขามีต่อเขาดี แต่เขาอยากปกป้องไอราจึงจำเป็นต้องแบกรับทุกอย่างด้วยตนเองเท่าที่จะทำได้

ในเมื่อเลือกแล้ว จะเกิดผลลัพธ์อะไรเขาจะไม่รู้ได้ยังไง?

ออกจากค่ายทหาร อีกทั้งยังออกโดยการถูกลงโทษ โดนปลดยศทหารอีกด้วย ต้องพกจุดด่างพร้อยนี้ติดตัวไปตลอดชีวิต ถึงขั้นที่ไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะเป็นทหารกองหนุนที่เป็นกำลังเสริมด้วยซ้ำ ตั้งแต่นี้ต่อไปคงไม่มีวาสนากับค่ายทหารอีกแล้ว เรื่องเหล่านี้เขารู้ เขาเข้าใจดี

แต่ถ้าจะให้สารภาพเรื่องของไอราเพื่อปกป้องสิ่งเหล่านี้ กานต์ก็ไม่ยินยอม

ใช่!

เขาไม่ยินยอม!

หลังจากที่เคยถามไอรา และไม่ได้รับคำตอบของเธอ เขาคิดอยู่นาน แต่กลับยังคงตัดสินใจอย่างนี้ออกมา

บางทีวินาทีนั้นที่ลบวิดีโอกล้องวงจรปิด เขาก็รู้ว่าตนเองไม่คู่ควรที่จะเป็นทหารอีกแล้ว

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่รู้สึกเสียใจ! ถึงจะเสียดายอยู่บ้าง แต่ทว่าชีวิตคนเราต่างก็เลือกสิ่งดีๆแล้วตัดสิ่งแย่ๆทิ้งไปกันทั้งนั้น ตอนนี้เขาแค่เลือกผู้หญิงเลวๆคนนั้นเท่านั้นเอง

แววตาของกานต์ขรึมลงเล็กน้อย พูดขึ้น: “พวกนายต่างกำลังคิดว่าฉันมีคุณงามความดีอะไรบ้าง กำลังคิดว่าทำไมฉันถึงยอมให้ตัวเองหลบหนีภาระหน้าที่ แต่พวกนายเคยนึกถึงตัวประกันที่บริสุทธิ์คนนั้นบ้างไหม? ฉันได้ยินว่าเธอยังอยู่ในไอซียู ยังไม่พ้นขีดอันตราย ฉันได้ยินว่าเธอเพิ่งจะ23ปีแต่ชีวิตนี้ก็ไม่มีวาสนาได้เป็นแม่คนอีกแล้วเพราะความผิดพลาดของฉัน ฉันสามารถพูดเหตุผลอื่นๆได้ แต่ปืนฉันเป็นคนยิง คนฉันก็ทำให้บาดเจ็บ นี่เป็นความจริงที่เถียงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุใด แค่อาศัยประเด็นนี้ ฉันก็ไม่คู่ควรกับตำแหน่งในตอนนี้แล้ว”

“แต่ว่าคุณชายกานต์ ต่อให้โดนลงโทษ ถ้าคุณมีเหตุผลที่เหมาะสม ก็จะไม่ต้องออกจากเขตทหารนะครับ อย่างมากที่สุดก็ไปทำงานธุรการเบื้องหลัง ยศทหารอะไรต่างๆของคุณยังคงอยู่”

ทหารนายหนึ่งในนั้นพูดขึ้นด้วยความทนไม่ไหว

ยศทหารของพวกเขาใช้เลือดและชีวิตแลกมา กานต์โดดเด่นเป็นพิเศษ คุณงามความดีมากมายขนาดนั้น ภารกิจที่สมบูรณ์แบบหลายครั้งขนาดนั้นมันไม่สามารถหักล้างกับความผิดพลาดครั้งนี้ได้จริงๆงั้นเหรอ?

ยิ่งกว่านั้นไม่มีใครเชื่อว่ากานต์จะทำผิดพลาดในระดับต่ำขนาดนี้

แน่นอนว่าต้องมีเรื่องอะไรที่ส่งผลกระทบถึงกานต์

กานต์ก็รู้สถานการณ์นี้อยู่แล้ว ถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่ไอรา เขาคงพูดออกมาโดยไม่ลังเลสักนิด แต่น่าเสียดายที่คนๆนั้นคือไอรา

และไอราไม่ใช่พลเมืองในประเทศ

ก็อาศัยประเด็นนี้ แค่เธอปรากฏตัวอยู่ในสถานที่ลักพาตัวก็ต้องโดนกำหนดให้เป็นเหตุการณ์ร้ายแรงอยู่แล้ว ถึงขั้นที่จะขึ้นไปสู่การคาดเดาของระหว่างสองประเทศด้วย

นี่เป็นเรื่องที่กานต์ไม่อยากเห็นที่สุดเลย

ผู้หญิงของเขาทำเรื่องผิด ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด การทำให้ตัวประกันได้รับบาดเจ็บก็เป็นความรับผิดชอบของเขา

เขาจะแบกรับไว้เอง!

กานต์สูดหายใจลึกๆพูดขึ้น: “ฉันรู้ว่าพวกนายไม่เชื่อ แต่นี่เป็นความจริง ไม่มีเหตุผลอื่น ตอนนั้นฉันอาจจะค่อนข้างง่วงก็ได้”

ตอนที่ทำภารกิจกานต์เพิ่งจะกลับมาจากแนวหน้าได้ไม่นาน เหตุผลนี้มีน้ำหนักพอที่จะทำให้เชื่อจริงๆ

หลายคนนั้นมองกันไป มองกันมา พากันลังเล

ปวีราจึงรีบพูดขึ้น: “นายไปคิดให้ดีอีกครั้งเถอะ พรุ่งนี้พี่จะให้พวกเขามาใหม่”

พูดจบเธอก็ไม่สนใจการต่อต้านของกานต์ ไล่คนพวกนั้นออกไปทันที

กานต์รู้ว่าพวกเขากำลังปกป้องตนเอง แต่เขาตัดสินใจดีแล้ว

ในห้องคนไข้ไม่มีใครแล้ว กานต์จึงหยิบมือถือออกมาส่งวีแชทไปหานะโม

“ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน รีบส่งไอราออกนอกประเทศไปเดี๋ยวนี้! ช่วงนี้ห้ามให้เธอปรากฏตัวอยู่ภายในประเทศเด็ดขาด”

นะโมตะลึงเล็กน้อย

ส่งไอราออกนอกประเทศ?

นี่เฮียยังไม่นอนเหรอ?

ปีศาจสาวนั่นนอกจากเฮียแล้ว ใครจะปราบเธอได้อยู่หมัดอีกล่ะ?

“เฮีย นี่ล้อเล่นเกินไปไหมเนี่ย? ผมทำไม่ได้หรอก!”

กานต์รีบตอบกลับ: “บอกกับเธอว่า ฉันให้เธอกลับประเทศไปขอความช่วยเหลือจากคุณอาอรรณพ เธอก็จะไป แค่เธอออกไป นายก็ร่วมมือกับพริมาขังเธอไว้ในบ้าน ห้ามไปไหน อย่างน้อยภายในสิบวันห้ามเธอออกมาเด็ดขาด!”

แม้แต่พริมาก็ใช้ได้เหรอเนี่ย?

จู่ๆนะโมก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ

“เฮีย เฮียเกิดเรื่องอะไรใช่ไหม? หูไม่ได้ยินจริงๆเหรอ?”

“ไม่มีอะไร ทำตามที่ฉันบอก ถือว่าเป็นภารกิจสุดท้ายที่ฉันให้นายแล้วกัน”

คำพูดของกานต์ยิ่งทำให้นะโมไม่สบายใจ

“เกิดเรื่องอะไรกันแน่? ก็แค่พลาดทำร้ายตัวประกันไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นใช่ไหม? เฮีย แค่เฮียพูดความจริง มีคุณชายธเนศพลอยู่ต้องไม่มีปัญหาอยู่แล้ว อย่างมากที่สุดก็ชดเชยให้ตัวประกันจำนวนหนึ่ง……”

“ชดเชยยังไงถึงจะทำให้หญิงสาวคนหนึ่งได้กลับมาเป็นแม่คนจริงๆอีกครั้งล่ะ?”

คำพูดนี้ของกานต์ทำให้นะโมพูดไม่ออกทันที

บรรยากาศในตอนนี้ค่อนข้างอึมครึม

การช่วยเหลือตัวประกันต้องมั่นใจว่าจะปลอดภัยแน่นอน ด้วยสถานการณ์ทั่วไปมักจะหาพลซุ่มยิงที่ดีที่สุดมาทำเรื่องนี้ ไม่ยอมให้เกิดอุบัติเหตุใดๆเด็ดขาด กานต์ก็เป็นคนหนึ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ไม่เคยทำพลาดก่อน ใครจะคิดว่าครั้งนี้จะเป็นอย่างนี้

ถ้ารู้ก่อนว่าจะเป็นอย่างนี้ สู้ให้เขาเป็นคนจัดการดีกว่า อย่างมากที่สุดผลลัพธ์ในตอนนี้ ถึงยังไงเฮียก็ไม่ต้องรู้สึกผิดขนาดนี้

นะโมรู้ เรื่องนี้ได้กลายเป็นความรู้สึกผิดกับภาระของกานต์ไปตลอดชีวิตแล้ว

“เฮีย เรื่องนี้เกี่ยวกับไอราใช่ไหม?”

แค่นะโมพูดออกไป กานต์ก็ลนลานขึ้นมาทันที

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท