ไอรากระโดดขึ้นมาตรงหัวมุมกำแพงได้ไม่ทันไรเสียงเตือนภัยก็ดังขึ้น เสียงแสบแก้วหูดังขึ้นมาในยามกลางคืนอย่างชัดเจน
“แย่แล้ว!”
ไอรากระโดดลงไป แล้วหาที่หลบซ่อน
ชมพูวิ่งออกมาพร้อมปืนในมือ เมื่อตรวจดูสอบอุปกรณ์ ก็ไม่พบสิ่งใดน่าสงสัย แต่ทว่าเสียงเตือนภัยยังคงส่งเสียงดังเหมือนเดิม เธอไม่คิดว่ามันเป็นแค่ลมพัดเฉยๆแน่
เธอหรี่ตาลง แอบหงุดหงิดที่ที่นี่ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต จึงไม่สามารถดูกล้องวงจรปิดได้
ในตอนที่ไอราเห็นชมพูก็รู้สึกฮึดฮัด
ผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว!
นี่เธอมีดวงสมพงษ์กับยัยนี่มาตั้งแต่เกิดเลยหรือไง?
ทำไมถึงเอาแต่มาป๊ะกันอยู่ได้
ไอราครุ่นคิดอย่างฮึดฮัดในใจ ด้านชมพูกลับหันหลังเดินกลับไปแล้ว แถมยังกำชับอะไรบางอย่างกับคนที่เฝ้าอยู่ข้างนอก ตอนนี้เองไอราถึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าที่นี่ล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดทั้งนั้น
ให้ตาย นี่มันกักบริเวณชัดๆ!
จู่ๆไอราก็รู้สึกไม่สบายใจ
พวกเขาถึงกับกักบริเวณกานต์เลยเหรอ?
หัวของเธอเริ่มเดือดปุดๆ แต่ไอราก็ไม่ใช่คนไม่มีสมอง ถ้าเข้าไปตอนนี้ก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้กานต์
ดูเหมือนว่าที่เธอเดาไว้ก่อนหน้านี้จะถูก โทรศัพท์ของกานต์ไม่ได้อยู่ที่เขา
แล้วเธอจะติดกับการได้ยังไงล่ะทีนี้?
ไอรากลัดกลุ้ม
ตอนนี้แฟนอยู่แค่ตรงหน้า แต่เธอกลับไปเจอไม่ได้ ความรู้สึกนี้มันช่างทรมานเหลือเกิน
จู่ๆเธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ มุมปากจึงยกขึ้นเล็กน้อย
ไอราแหงนหน้ามองหน้าต่างชั้นสอง ให้เธอเดาเธอว่ากานต์ต้องอยู่ห้องนั้นแน่ๆ เธอจึงรีบไปหากระดาษA4มา พร้อมวาดรูปเด็กผู้หญิงกำลังตามวอแวเด็กผู้ชายที่ทำหน้าเย็นชาลงไปบนนั้น จากนั้นก็พับเป็นรูปเครื่องบิน ออกตัววิ่ง แล้วเขวี้ยงไปทางหน้าต่างบานที่เธอเดาเอาไว้จนเกิดเสียงดัง “แป๊ะ”
เครื่องบินกระดาษยังไม่ทันได้เข้าไปข้างในหน้าต่างก็หล่นลง
สีหน้าคาดหวังของไอราพลันแตกสลายในทันที
ทำไมแค่จะส่งข้อความมันถึงได้ยากขนาดนี้?
ทันใดนั้นเธอก็คิดอะไรออก ลงมือวาดรูปอีกครั้ง จากนั้นก็นำอะไรบางอย่างมาวางบนกระดาษ พับเป็นรูปเครื่องบินเหมือนเดิม เสร็จแล้วก็เขวี้ยงออกไป
และเครื่องบินกระดาษลำนี้ก็ลอยเข้าไปในหน้าต่างได้สำเร็จ
ดวงตาของกานต์หรี่ลงเล็กน้อย เขารีบลุกขึ้น เมื่อเห็นเครื่องบินกระดาษก็นิ่งอึ้ง จากนั้นก็มองลงไปข้างล่าง จึงเห็นไอรายืนแลบลิ้นปลิ้นตาให้เขาอยู่ตรงนั้น
ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมา
เขาหยิบเครื่องบินกระดาษขึ้นมาเปิดออกดู ข้างในนั้นเป็นรูปเด็กผู้หญิงทำปากจู๋ ท่าทางอารมณ์ไม่ดี แต่เด็กผู้ชายที่อยู่ข้างๆกลับเย็นชาไม่สนใจเธอเลยสักนิด แถมยังทำหน้ารำคาญใส่ด้วย
รูปนี้คือเขากับไอราเหรอ?
กานต์หยิบกระดาษA4แผ่นใหม่ออกมาวาดอะไรบางอย่าง หลังจากวาดเสร็จก็เขวี้ยงกลับคืนไปด้วยวิธีเดียวกันกับไอรา
เมื่อไอราได้รับเครื่องบินกระดาษก็เปิดออกดู ข้างในนั้นเด็กผู้ชายกำลังโอบกอดเด็กผู้หญิงอย่างรักใคร่ ข้างๆมีตัวอักษรเขียนเอาไว้ว่า
ฉันคิดถึงเธอ!
ไอราเลิกคิ้วขึ้น
“ฉันก็คิดถึงนาย!”
เธอพูดกับกานต์โดยไม่ออกเสียง
และกานต์ก็มองเห็นอย่างชัดเจน
ภายใต้แสงดวงจันทร์ ดวงตาของไอราเป็นประกายพร่างพราวระยิบระยับเหมือนดวงดาวบนฟากฟ้า หัวใจของกานต์เดี๋ยวอัดแน่นเดี๋ยววูบโหวง มุมปากของเขายกอย่างไม่รู้ตัว
“ทำไมไม่ไป?”
“นายอยู่นี่ ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ”
ไอรากับกานต์สื่อสารกันอย่างไร้เสียง
ร่างของกานต์ภายใต้แสงไฟดูสูงยาวชะลูด ยิ่งดวงตาเฉี่ยวคมคู่นั้นยิ่งมีเสน่ห์น่ามอง
จู่ๆไอราก็เกิดอารมณ์ชั่ววูบ อยากบุกขึ้นไปหาแล้วกอดเขาแน่นๆโดยไม่สนสิ่งใด
วินาทีนี่เธอรู้สึกได้ว่ากานต์ต้องโดดเดี่ยวมากแน่ๆ
เดิมทีกานต์ว่าจะพูดออกมาอีกหลายคำ แต่เมื่อเห็นไอราพูดออกมาอย่างนี้เขาก็ล้มเลิกไป
เขารู้สึกว่าตัวเองไม่เคยมีความสามารถในการโน้มน้าวไอราได้เลย ไม่อย่างนั้นยัยนี่คงไม่เดินตามตตูดเขาต้อยๆตั้งแต่เด็กจนโตแบบนี้หรอก
ช่างเถอะ
เธออยากอยู่ที่นี่ก็ให้เธออยู่เถอะ อย่างมากเขาก็แค่คอยปกป้องเธอเท่านั้น
จู่ๆกานต์ก็ส่งจูบให้ไอรา จนไอราอึ้งตะลึงค้าง
แย่แล้ว!
เธอกำลังฝันอยู่ใช่ไหม?
ผู้ชายเย็นชาที่แผ่รังสีห้ามคนเข้าใกล้เกินหนึ่งเมตรส่งจูบให้เธองั้นเหรอ?
เมื่อเห็นท่าทางตะลึงของไอรา กานต์ก็ยิ้มออกมาในที่สุด ฟันขาวสะอาดสว่างไสวสะดุดตาเป็นไหนๆ
“กลับไปนอนได้แล้ว เป็นผู้หญิงไม่ควรอดหลับอดนอน ในฝันฉันจะคิดถึงเธอ”
กานต์พูดจบก็ปิดหน้าต่าง พร้อมปิดผ้าม่าน ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
เขาทำอะไรเด็กๆแบบนั้นไปได้ยังไงเนี่ย?
แต่กานต์กลับรู้สึกชอบความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยนี้ เขาทิ้งตัวลงบนเตียง ในหัวมีแต่ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับและรอยยิ้มสดใสของไอราเต็มไปหมด
เสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก กานต์จึงรีบหุบยิ้ม เขาเพิ่งสังเกตว่าตัวเองเริ่มได้ยินเสียงชัดแล้ว
แม้ว่าจะยังมีเสียงอื้อๆอยู่บ้าง แต่ว่าก็ได้เสียงจริงๆ
เขาไม่ได้พูดอะไร ชมพูจะถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามา
เธอรู้ว่าหูของกานต์สูญการประสาทสัมผัสการได้ยิน ที่เคาะประตูก็แค่เคาะตามมารยาทที่พรึงกระทำ เมื่อเห็นกานต์นอนอยู่บนเตียง เธอก็อดที่จะหน้าร้อนขึ้นมาไม่ได้
“พี่กานต์”
กานต์รีบผุดตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรง แอบรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
ต่อให้หูเขาจะไม่ได้ยิน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะอนุญาตให้ใครเข้ามาในห้องตามอำเภอใจได้แบบนี้เขาไม่ชอบมากๆ
ชมพูรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของกานต์ จึงรู้ว่าตัวเองเสียมารยาท เลยเอ่ยขึ้นมาว่า “ขอโทษ พี่กานต์ ฉันแค่คิดว่ายังไงพี่ก็ไม่ได้ยิน ฉัน…ฉันขอโทษ”
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
กานต์ไม่ได้ตำหนิ แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ ในใจของชมพูก็ยิ่งอึดอัด
ถ้าเป็นไอราเขาจะมีท่าทีแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า?
เมื่อรู้ว่าตัวกำลังคิดอะไร ชมพูก็เริ่มดูถูกตัวเอง ทำไมเธอเป็นแบบนี้นะ?
ตอนนี้แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังรู้สึกไม่ชอบตัวเองเลย
ชมพูสูดหายใจเข้าลึกๆ “เมื่อกี้สัญญาณเตือนภัยดัง บางทีอาจมีคนบุกเข้ามา ฉันก็เลยมาเตือนพี่ตอนหลับพักผ่อนคอยระวังตัวหน่อยนะ”
“อืม ขอบใจเธอมาก”
กานต์พยักหน้าอย่างเนิบนาบ
ชมพูยังอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่กลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เธอจึงทำได้เพียงถอยออกไปจากห้องของกานต์
เธอยกยิ้มเยาะตัวเอง
นี่เธอกลายเป็นคนที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้จักได้ยังไงกันนะ?
ชมพูที่เคยร่าเริงสดใสในอดีตไปไหนซะแล้วล่ะ?
หรือว่าความรักมันสามารถทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้จริงๆ?
ชมพูสูดลมหายใจเข้า แล้วก้าวเท้าเดินกลับห้อง
กานต์ไม่ได้มีอาการอะไรมากนัก เมื่อหัวถึงหมอนก็หลับไปทันที แต่ว่าที่บอกว่าจะฝันถึงไอราน่ะเขาฝันถึงจริงๆนะ
แสงสว่างในวันรุ่งขึ้นสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง กานต์ลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย จึงเห็นเครื่องบินกระดาษจอดอยู่ตรงขอยหน้าต่าง
มุมปากของเขาพลันกระตุกเป็นรอยยิ้ม
เขาเลิกผ้าห่มออกแล้วลุกขึ้นจากเตียง เดินเท้าเปล่ามายังขอบหน้าต่าง ชุดนอนเรียบๆไม่สามารถปกปิดไหปลาร้าที่แสนจะดูดีและแผ่นอกล่ำสันของเขาได้เลย ภาพนี้ทำให้ไอราที่ยืนอยู่ข้างล่างอดที่จะกลืนน้ำลายขึ้นมาไม่ได้
พระเจ้า
ผู้ชายที่เพิ่งตื่นมีเสน่ห์ยั่วยวนขนาดนี้เลยเหรอ?
เธอกำลังจะเอ่ยแซวกานต์ แต่ทันใดนั้นเสียงกระหึ่มของรถยนต์ก็ดังมาแต่ไกล ทำให้ไอราหน้าเปลี่ยนสีในทันที
ใครมาอีก?