คือชมพู!
ไอราคบค้าสมาคมกับชมพูมาตั้งหลายปี เสียงเครื่องยนต์รถของเธอเป็นยังไงไม่มีใครรู้ดีไปกว่า ตอนนี้อยากจะออกไปจากที่นี่ก็ไม่ทันแล้ว แต่หากพบเข้ากับชมพู กานต์จะเป็นอย่างไร?
เธอเริ่มร้อนรนขึ้นมาในชั่วพริบตา ถึงขั้นคิดว่าไม่งั้นก็ลงมือเถอะ
อยู่ๆนิ้วมือที่เรียวยาวคู่หนึ่งก็กุมข้อมือของเธอเอาไว้เบาๆ
ไอราหันกลับไปมอง ก็ได้ยินกานต์เอ่ย “ไปอยู่ที่ห้องฉัน ฉันไม่สั่งก็ห้ามออกมา”
“แต่ว่า…”
“เชื่อฟังคำพูด!”
ประโยคเดียวเบาๆของกานต์ ทำให้คำพูดทั้งหมดของไอรากลืนกลับลงไปในชั่วขณะ
เธอมองดูกานต์เล็กน้อย จากนั้นขึ้นชั้นบนไปที่ห้องของกานต์ด้วยความรวดเร็วในทันที และกานต์ก็ลุกขึ้นเก็บกวาดของที่ไอรากินไปด้วยความรวดเร็ว
เพิ่งนั่งลง ชมพูก็เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ
ตอนที่เธอเห็นกานต์นั่งอยู่บนโซฟาดูข่าวการทหารนั้น ใบหน้าที่แดงเพราะวิ่งมาอย่างรีบร้อนก็ผ่อนคลายลงมาบ้าง
“พี่กานต์”
เธอเรียกกานต์ออกมา
กานต์ไม่ได้พูดอะไร และก็ไม่ได้หันหลังกลับ ยังคงจดจ่อดูทีวี
เวลานี้ชมพูถึงคิดขึ้นมาได้ว่าหูของกานต์ยังไม่หาย
ไอราแอบฟัง แอบดูอยู่ในห้องของกานต์ แม้จะรู้ว่าแบบนี้ไม่ถูก แต่เธอก็คือไม่วางใจ
ตอนนี้เห็นกานต์ยังคงแสร้งไม่ได้ยิน อยู่ๆเธอก็รู้สึกดีใจขึ้นมา
นี่ถึงกับเป็นความลับระหว่างเธอกับกานต์สองคน
ความรู้สึกแบบนี้ ดีจริงๆ
ชมพูไม่รู้ว่ามีคนอื่นอยู่ มายังด้านหน้าของกานต์ ปิดทีวีลง
กานต์ถึงได้มองไปหาเธอ
“มีธุระ?”
“พี่กานต์ ฉันได้ยินพ่อฉันบอกว่าตอนที่พี่ออกภารกิจปืนถูกคนวางกับดักใช่ไหม? ทำไมพี่ไม่พูด? ทำไมไม่บอกฉัน? กล้องเล็งเกิดความคาดเคลื่อน พี่ถึงได้พลั้งมือทำร้ายตัวประกันใช่หรือเปล่า? ทำไมไม่อธิบายล่ะ? อีกทั้งเรื่องที่ไอราปรากฏตัวในสถานที่เกิดเหตุทำไมต้องลบทิ้งร่องรอยให้กับเธอ? พี่รู้ไหมว่าเรื่องนี้ปิดบังไม่อยู่ ตอนนี้ถูกเปิดเผยออกมา เป็นไปได้อย่างมากที่พี่จะถูกลงโทษ ถึงขั้นถูกไล่ออกจากสถานภาพทหาร!เพื่อไอราคนเดียวพี่คุ้มหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังไม่ใช่คนของประเทศเรา เธอปรากฏตัวในสถานที่เกิดเหตุ…”
“คุ้ม!”
กานต์ไม่รอชมพูพูดจบก็ตอบกลับ เพียงแต่คำพูดนี้ราวกับคมมีดก็ไม่ปานแทงเข้าสู่ทรวงอกของชมพู
ดวงตาของเธอเปียกชื้นในทันที
“คุ้ม?ถอดชุดทหารทั้งชีวิตเพื่อเธอก็คุ้ม?”
“อืม”
กานต์พยักหน้า สายตาแน่วแน่เป็นพิเศษ
ชมพูเริ่มยืนไม่อยู่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เธอถอยหลังสองก้าว น้ำตาเอ่อล้นออกมา กลับถูกเธออดกลั้นเอาไว้
“ทำไม?ฉันมีตรงไหนสู้เธอไม่ได้กันแน่? พวกเราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ฉันเข้าใจความรักอันร้อนแรงที่พี่มีต่อกองทัพภาคดีกว่าใครทั้งนั้น ทำไมจะต้องเป็นเธอ? เพื่อเธอพี่ยอมสละความฝันตั้งแต่เด็กจนโตได้หรอ? พี่เคยคิดไหมว่าเธอปรากฏตัวในสถานที่เกิดเหตุเป็นไปได้อย่างมากที่จะส่งผลเสียต่อประเทศเรา!”
“ก็เพราะว่าสถานะของเธอหรอ?”
คำพูดที่กานต์ได้ยินมากที่สุดในหลายวันมานี้ก็คือไอราไม่ใช่คนของประเทศนี้ เธออาจจะส่งผลเสียต่อประเทศ คำพูดนี้ฟังครั้งเดียวต่างก็รู้สึกบาดหู คนอื่นดันจะต้องพูดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิ้วของกานต์อดไม่ได้ที่จะขมวดขึ้น
“สถานะไม่เพียงพอที่จะอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างหรอ? ไอราคือคนประเทศY!”
“นั่นแล้วจะยังไง? ฉันเชื่อเธอ!ฉันเชื่อว่าเธอไม่มีทางทำร้ายฉัน!ฉันเชื่อว่าเธอไม่มีทางทำร้ายประเทศนี้!และฉันก็เชื่อว่าหากมีวันใดที่ประเทศเดือดร้อนขึ้นมาจริงๆ เธอก็จะเหมือนกับเธอเหมือนกับฉันปกป้องประเทศและประชาชนของประเทศนี้!เพราะนี่คือบ้านเกิดหลังที่สองของเธอ!เพราะคุณสมบัติความเป็นมนุษย์ของคุณอาอรรณพกับคุณน้าคิมอยู่ที่นั่น!เพราะฉันเชื่อการอบรมสั่งสอนและศีลธรรมของตระกูลเชาวนภูติ!”
คำพูดของกานต์ทำเอาชมพูค้างอยู่กับที่ไปเลย และก็พูดจนเลือดในใจของไอราพลุ่งพล่านเช่นเดียวกัน
นับตั้งแต่วันที่รู้สถานะของตัวเอง ก็มีคนจำนวนมากที่ภายนอกดีกับเธอ แต่ในความเป็นจริงกลับกำลังป้องกันเธออยู่ เพราะเธอไม่ใช่คนประเทศZ เธอคือเจ้าหญิงของประเทศY
ไอราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานะของตนเองได้ ไม่สามารถพูดความรู้สึกของตนเองที่มีต่อประเทศนี้ ทว่ากานต์เข้าใจเธอ
แค่ช่วงเวลานี้ ไอราก็รู้แล้วว่าตนเองไม่ได้รักผิดคน ไม่ได้มองผิดคน
ชมพูกลับมองดูกานต์พร้อมกับเอ่ยถามอย่างค่อนข้างที่จะรับไม่ไหว “พี่เชื่อใจเธอขนาดนั้น?”
“แทนที่จะบอกว่าเชื่อเธอ สู้บอกว่าเชื่อตัวฉันเองจะดีกว่า ฉันเชื่อสายตาของตัวเอง ชมพู ฉันรู้ว่าเธอหวังดีต่อฉัน แต่เกี่ยวกับไอรา ฉันหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้ยินข่าวที่ไม่ดีของเธอออกมาจากปากของเธอ”
การปกป้องเช่นนี้ทำให้ชมพูใจแตกสลาย
“หากฉันดันจะพูดล่ะ?”
เธอก็ดื้อขึ้นมา
สายตาของกานต์เป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย เอ่ยขึ้นเบาๆว่า “หากเธอจะต้องพุ่งเป้ามาที่เธอ ดูเธอไม่ดีให้ได้ล่ะก็ งั้นมิตรภาพระหว่างพวกเราก็สิ้นสุดลงเพียงเท่านี้เถอะ”
คราวนี้ชมพูยืนไม่ไหวแล้วจริงๆ ล้มไปบนโซฟาที่อยู่ด้านข้างในทันที น้ำตาในที่สุดก็ไหลลงมาอย่างควบคุมไม่อยู่
“พี่กานต์ คนเขาต่างก็พูดกันว่าผู้ชายตระกูลโตเล็กรักเดียวใจเดียว พี่จะตัดขาดความสัมพันธ์ยี่สิบกว่าปีกับฉันเพื่อไอรา? พี่ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงกัน? ทั้งๆที่พี่รู้ว่าฉันรู้สึก…”
“ความรู้สึกที่เธอมีต่อฉันไม่มีจุดจบ ชมพู ฉันเคยพูดแล้วว่า ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเธอเป็นเพียงแค่พี่น้อง บางครั้งก็อย่ายึดมั่นถือมั่นมากเกินไป วางความยึดติดที่มีต่อฉันลง เธอจะพบว่าข้างกายของเธอยังมีคนอื่นที่คุ้มค่าให้เธอทะนุถนอมมากยิ่งกว่า”
“งั้นพี่กานต์? พี่กานต์สามารถวางความยึดติดที่มีต่อไอราหันมามองฉันได้หรือเปล่า? พี่ทำได้ไหม?”
ประโยคนี้ของชมพูพูดจนไอราเริ่มโมโห เธอถลกแขนเสื้ออยากจะตบตีกับไอราสักยกมากจริงๆ
กานต์มองดูชมพูที่ตกเข้าไปในห้วงแห่งความรู้สึก ในใจก็รู้สึกแย่เช่นเดียวกัน
เขาไม่หวังให้ความสัมพันธ์พี่น้องของสองคนเสื่อมลง แต่บางครั้งชมพูหัวแข็งขึ้นมาก็ทำให้คนดึงก็ดึงกลับมาไม่ได้เช่นเดียวกัน
กานต์ถอนหายใจออกมาพร้อมกับเอ่ย “ชมพู ฉันกับไอรามีความรู้สึก มีความชอบซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่าย ดังนั้นนี่ไม่ถือว่าเป็นความยึดติด แต่ฉันไม่ได้รักเธอ เธอเพียงแค่ตกเข้าไปฝ่ายเดียว นั่นก็คือความยึดติด อย่าเป็นเพราะฉันทำให้พลาดคนดีที่อยู่ข้างกายของเธอไป”
การปฏิเสธนี้ทำให้ชมพูยากที่จะยอมรับ
เธอรู้สึกอิจฉารู้สึกเกลียดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“พี่กานต์ ฉันไม่อยากเป็นเพราะความรู้สึกทำให้ตนเองเปลี่ยนไปดูเป้นคนนิสัยเสีย แต่ฉันเกลียดไอรา!เกลียดมาก!พี่อยากให้ฉันเอ่ยปากอวยพรให้กับพวกพี่ ฉันทำไม่ได้!ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังทำร้ายพี่จนต้องถูกกักตัวตรวจสอบ ถึงขั้นมีความเป็นไปได้อย่างมากที่ต้องถอดเครื่องแบบทหารนี้ ฉันจะอยู่ร่วมโลกกับเธอไม่ได้!ฉันไม่มีทางปล่อยเธอแน่!ฉันจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเธอไปที่นั่นต้องการทำอะไรกันแน่ หากให้ฉันรู้ว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับโจรลักพาตัวล่ะก็ ฉันจะไม่เป็นเพราะความสัมพันธ์ของพี่ให้ทางหนีทีไล่กับเธอโดยเด็ดขาด!”
ชมพูไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งจะต้องพูดจากับกานต์เช่นนี้
แต่ในใจของเธอนั้นไม่ยินดี ทุกข์ทรมาน ยิ่งกานต์ปกป้องไอราเธอก็ยิ่งทนไม่ไหว
เธอรู้ว่าตนเองทำเช่นนี้ไม่ถูก แต่เธอควบคุมตนเองไม่ได้ เธอก็ไม่อยากเช่นเดียวกัน
หากเป็นไปได้เธอยังคงอยากจะเป็นชมพูที่เริงร่าคนนั้น แต่ใครสามารถบอกกับเธอได้ว่า ความรู้สึกที่ทุ่มเทออกไปจะเรียกกลับคืนมาได้อย่างไร?